บทที่ 239 : ชายชราเสินหนง
บทที่ 239 : ชายชราเสินหนง
หลังจากที่หลินเป่ยสังหารธอร์เเละนำค้อนสายฟ้ามารวมกับพื้นที่กระเป๋าอวกาศเเล้ว…… หลินเป่ยก็ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่ง, จากนั้นเขาก็เริ่มปรับแต่งเทพสายฟ้าธอร์ให้เป็นหุ่นเชิดต่อสู้ จากนั้นจึงกักขังพลังวิญญาณที่ไม่มีวันสลายของฝ่ายตรงข้ามและผนึกมันไว้ในหุ่นเชิดการต่อสู้ในที่สุด
"อืม... ฉันไม่สามารถตรวจสอบที่นี่ได้ทุกที่ทุกเวลา ฉันจะพึ่งพาคุณในการรวบรวมข้อมูลที่นี่และรายงานให้ฉันทราบในอนาคต"
"ตกลง" ธอร์พยักหน้า
“หืมมมม…… มันยังงี่เง่าอยู่นิดหน่อย ด้วยวิธีนี้, เขาจะต้องถูกเปิดเผยอย่างเเน่นอน” (หุ่นเชิดเเบบไม่มีวิญญาน)
หลินเป่ยแตะคางของเขา คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และในที่สุดก็จัดการกับวิญญาณที่ถูกคุมขังเพื่อฟื้นฟูสติของเขา
อย่างไรก็ตาม ถึงเขาจะยังคงทำหน้าที่ในจิตวิญญาณดั้งเดิมของธอร์อยู่, เเต่ตราบใดที่อีกฝ่ายมีเจตนาที่จะทรยศ เเม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ความคิดมันก็จะถูกกำจัดออกไปในทันที
“อย่าเพิ่งพูดตอนนี้ คุณไม่มีทางเลือกอะไรมากนัก” เมื่อมองไปที่ธอร์ที่มีดวงตาที่กลับมาเป็นปกติ หลินเป่ยก็พูดตรงๆว่า
"สิ่งที่ฉันต้องการให้คุณทำนั้นง่ายมาก ช่วยฉันทำสิ่งต่างๆ ที่นี่ รวบรวมข้อมูลและรายงานให้ฉันเป็นประจำ………รางวัลคือการช่วยชีวิตคุณ, คุณทำได้หรือเปล่า”
ธอร์ที่ได้ยินคำพูดนั้น มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อย
คนดี……. คุณฆ่าฉันก่อนแล้วค่อยช่วยฉัน มันช่างเป็นวิธีที่ง่ายและหยาบกระด้างมาก, เเต่ในเวลาเดียวกันธอร์ก็รู้สึกได้ถึงพลังของการกักขังต้นกำเนิดวิญญาณของเขาและทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย
แม้ว่าอีกฝ่ายจะขอความคิดเห็น แต่ก็เห็นได้ชัดว่าความคิดเห็นของเขาไม่สำคัญเลย…….. เขาต้องทำตามคำสั่งเท่านั้น
"ฉันตก"
“อืม...ดีมาก……การติดตามฉัน, ตราบใดที่คุณทำได้ดีคุณจะได้รับผลประโยชน์มากมายในอนาคต” ขณะที่หลินเป่ยพูดจบเขาก็ยกมือขึ้นและลำแสงก็ส่องลงมาที่ธอร์เทพสายฟ้า
นี่คือทักษะการฟื้นฟูเเสงศักดิ์สิทธ์
มันเป็นหนึ่งในทักษะพิเศษของอาชีพเทพเจ้าสงคราม……. แม้ว่ามันจะยังไม่ใช่ทักษะไร้ขีดจำกัด, แต่มันก็ได้ทำลายขีดจำกัดแล้ว ทักษะการฟื้นฟูแสงศักดิ์สิทธิ์ lv.6 สามารถฟื้นฟูสุขภาพเป้าหมายได้ 10% ต่อวินาที…… เเละด้วยพรสวรรค์บัฟที่ไม่มีที่สิ้นสุด ระยะเวลาของทักษะนี้จึงกลายเป็นถาวร!
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ, ธอร์คนปัจจุบันตราบใดที่เขาไม่ได้รับความเสียหายร้ายแรงในช่วงเวลาสั้นๆ เขาก็จะไม่มีทางตายได้เลย
"มันเป็นผลประโยชน์สำหรับคุณ" หลินเป่ยพูดพร้อมกับเหยียดนิ้วออก และปราณดาบก็พุ่งออกมาฟันแขนของธอร ขาดในทันที
"คุณ…!" ธอร์ตกตะลึง นี่คือผลประโยชน์ที่คุณพูดถึงหรือ?
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้พูดออกไป ลมหายใจแห่งชีวิตก็พุ่งออกมาจากร่างกายของเขาและแขนที่ถูกตัดก็กลับงอกอย่างรวดเร็วจนสามารถมามองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!
"นี่มัน…" ธอร์ตกตะลึงมากเมื่อเห็นสิ่งนี้
นั่นคือสิ่งที่เขากำลังพูดถึง?...... นี่มันเหลือเชื่อเกินไปเเล้ว
สิ่งนี้, แม้แต่บิชอปของวิหารเเห่งเเสงก็ยังทำไม่ได้!
ท้ายที่สุดแล้ว ด้วยโครงสร้างร่างกายที่เเข็งเเกร่งในปัจจุบันของเขา ถ้าเขาต้องการจะฟื้นฟูแขนหนึ่งข้างเเบบนี้, เขาต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก!
แต่อีกฝ่ายทำเพียงแค่โบกมือและเขาก็มีความสามารถในการรักษาตัวเองที่น่ากลัวเเล้ว!
"ฉันอยากจะฆ่าคนเเบบนี้และเอาสมบัติมางั้นหรอ……. ให้ตายสิ" ธอร์คนปัจจุบันแทบรอไม่ไหวที่จะตบปากตัวเองสองสามที
ด้วยการดำรงอยู่ที่ทรงพลังเช่นนี้ เขากล้าที่จะคิดปล้นได้อย่างไร?...... เป็นโชคดีของฉันที่ยังรักษาชีวิตไว้ได้
"ความสามารถด้านการรักษาตัวเองที่ฉันให้คุณนั้นมีระยะเวลาถาวร…….. แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันหวังว่าคุณจะให้ความสนใจ แม้ว่าความสามารถในการรักษาตัวเองนี้จะคงอยู่อย่างถาวร แต่มันก็ยังล้มเหลวได้เมื่อเผชิญกับวิธีการที่ทรงพลังในการจำกัดการฟื้นตัว ดังนั้นหากคุณพบกับการต่อสู้ใดๆก็ตาม มันดีกว่าที่จะไม่มั่นใจเเบบสุ่มสี่สุ่มห้ามากเกินไป”
“......ว่ายังไงดี, เอางี้โดยทั่วไปแล้วคุณไม่ต้องสนใจพลังรบต่ำกว่า 5 ล้านมากนัก แต่ถ้าเกิน 5 ล้านคุณก็ต้องระวังไว้บ้าง”
หลินเป่ยประเมินในใจของเขาว่าพลังปราบปรามระดับ 3 นั้นเทียบเท่ากับระดับของระดับสูงขั้นพิเศษถึงสูงสุดซึ่งมีกำลังรบประมาณ 5 ล้านถึง 9.99 ล้าน ดังนั้นศัตรูที่มีพลังต่อสู้มากกว่า 5 ล้านจึงน่าจะเชี่ยวชาญทักษะอย่างใดอย่างหนึ่งที่สามารถจำกัดความสามารถในการฟื้นฟู
แน่นอนถ้าธอร์ไม่โง่ เขาก็ควรจะสามารถขัดจังหวะการสะกดของคู่ต่อสู้ได้, หรืออย่างน้อยก็ควรหลีกเลี่ยงทักษะนั้นๆ
“ขอบคุณมาสเตอร์ที่เตือนข้า” ธอร์กล่าวอย่างตื่นเต้น
แม้ว่าความสามารถในการรักษาตัวเองนี้จะค่อนข้างจำกัด….. แต่มันจะมีสักกี่คนในโลกนี้ที่มีความสามารถในการจำกัดการฟื้นฟูเช่นนี้?
ถึงจะเจอก็ไม่เป็นไร, ตราบใดที่คุณจัดการกับมันอย่างระมัดระวังและใช้ความสามารถในการรักษาตัวเองเพื่อฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บโดยไม่คาดคิดคุณก็สามารถตัดสินผู้ชนะได้โดยตรง
……… สำหรับเขานี่คือไพ่ตาย!
“เอาล่ะ ฉันจะหาอุปกรณ์บางอย่างให้คุณ” หลังจากที่หลินเป่ยพูดจบ, เขาก็หยิบอุปกรณ์ระดับตำนานออกมาสองสามชิ้นแล้วโยนให้ธอร์
“ฉันจะเอาค้อนสายฟ้าของคุณไป มันมีประโยชน์กับฉันมาก, แม้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะไม่ดีเท่าค้อนสายฟ้าแต่ก็ยังเป็นชุดอุปกรณ์ที่สมบูรณ์”
หลินเป่ยชี้ไปที่ชุดอุปกรณ์ในตำนานที่มีคุณสมบัติเสริมพลังสายฟ้าและอธิบายว่า"ด้วยความแข็งแกร่งของคุณ คุณไม่สามารถเปิดใช้งานพลังของค้อนสายฟ้าได้อย่างเต็มที่และมันคงเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์ที่จะถือไว้……. แต่อุปกรณ์ระดับตำนานที่มีคุณสมบัติของสายฟ้านี้เหมาะสมกับคุณมาก……….เเละหากคุณเชี่ยวชาญความสามารถของอุปกรณ์อย่างเต็มที่ ความแข็งแกร่งของคุณจะแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมาก"
“ด้วยอุปกรณ์นี้, การทะลวงผ่านพลังต่อสู้ถึงระดีบ 30 ล้านแต้มนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย”
“เเละถ้ามันระเบิดออกมาเต็มกำลัง มันอาจจะแข็งแกร่งกว่านี้ก็ได้”
ธอร์ตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดนี้…….. ตอนเขามีค้อนสายฟ้า, เขายังไม่สามารถมีพลังการต่อสู้ถึง 30 ล้านได้ภายใต้การระเบิดพลังเต็มที่!
"ขอบคุณมาสเตอร์!"
"ไม่เป็นไร…… เเละนี่คือคุณสมบัติและความสามารถของอุปกรณ์เหล่านี้ คุณสามารถนำไปใช้อ้างอิงและเรียนรู้ได้" หลินเป่ยไม่ได้พูดอะไรมาก ทำการจับภาพหน้าจอของคุณสมบัติอุปกรณ์โดยตรง จากนั้นใช้การแปลงร่างเพื่อสร้างกระดาษหนึ่งปึกแล้วโยนให้ธอร์
ธอร์รีบคว้ากระดาษนั้นอย่างตื่นเต้นราวกับขุมทรัพย์
เเละในท้ายที่สุดหลินเป่ยก็กระโดดลงไปในหลุมลึก อุ้มซีเลียที่อ่อนแอขึ้นและทำเช่นเดียวกัน……. เขาปรับแต่งเธอให้เป็นหุ่นเชิดต่อสู้จากนั้นจึงปล่อยทักษะการฟื้นฟูแสงศักดิ์สิทธิ์รวมทั้งให้อุปกรณ์ระดับตำนานเช่นเดียวกันกับธอร์
เเละหลังจากพูดสั่งการไม่กี่คำ เขาก็จากไปอย่างรวดเร็ว
……..
เมื่อเห็นหลินเป่ยหายตัวไปต่อหน้า……ธอร์ และซีเรียก็มองหน้ากันและทั้งคู่ก็สังเกตเห็นความกลัวในดวงตาของกันและกัน
ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น เเค่ความสามารถในการย้ายอวกาศด้วยมือข้างเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาบูชามาสเตอร์เเล้ว!
“เขาแข็งแกร่งเกินไป!”
"ใช่ เเละตอนนี้เขาเป็นเจ้านายของเรา"
“ถูกต้อง, เขาเป็นเจ้านายของพวกเรา”
ทั้งสองสนทนากันสั้นๆ ไม่กี่คำ และสุดท้ายก็แยกย้ายกันไปคนละทาง
……
ในเมืองก็อธแธม ชายผมบลอนด์ที่มีใบหน้าเหมือนผู้หญิงหันไปทางเครื่องสื่อสารและถามว่า "ธอร์….. มันเกิดอะไรขึ้นในฮัวตู ดาวเทียมจับภาพได้เพียงเมฆดำๆ ตรงนั้น, คุณเป็นคนทำหรือเปล่า"
"ใช่ฉันเป็นคนทำเอง, ตอนนี้สภามืดเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ดังนั้นฉันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจัดการกับพวกเขา!"
“สภามืด……ใคร?”
“ผู้คุสูงสุด”
"เป็นเธอ?"
ชายผมบลอนด์ที่ดูเป็นผู้หญิงเลิกคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า "น่าสนใจ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะอดใจไม่ไหวอีกต่อไปเเล้ว"
"ใช่ พวกเขาฆ่าปีร้อซซี่และยังฆ่าผู้พิทักษ์ระดับพิเศษทั้งห้าที่ดูแลผู้ส่งสารด้วย, เเละฉันมาสาย ไม่อย่างนั้น..."
“โอเค มันไม่ใช่ความผิดของคุณ……..ตอนนี้เราควรเตรียมการและกวาดล้างพวกสภามืดให้หมด” ชายผมบลอนด์ที่ดูเป็นผู้หญิงกล่าว
"ถ้าฉันเดาถูก…… เพื่อให้สามารถส่งกำลังรบชั้นยอดมากมายในช่วงเวลาสั้นๆ สำนักงานใหญ่ของสภามืดควรอยู่ในพื้นที่เมืองฮัวตู" บุรุษผมบลอนด์ผู้ดูเป็นผู้หญิงยิ้มและพูดต่อ
"รวบรวมกำลังของเรา….. ตอนนี้เทพแห่งแสงกำลังจะมาถึงโลกเเล้ว, ดังนั้นก่อนหน้านั้นเราต้องกำจัดแมลงสาบที่อาศัยอยู่ในมุมมืดให้หมดก่อน"
“เทพแห่งแสง……. คุณหมายความว่าอย่างไร?” ธอร์ขมวดคิ้วและถาม
“หึหึ บางเรื่องการไม่รู้จะถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเรามากกว่านะ” ชายผมบลอนด์และเป็นผู้หญิงพูดคำหนึ่งแล้ววางสายไป
จากนั้นเขามองไปที่รูปปั้นทองคำที่อยู่ข้างหลังเขาด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม, หมอบลงกับพื้นและพึมพำคาถาในปากของเขา
ขณะที่เขาร่ายคาถาในปากของเขา แสงศักดิ์สิทธิ์สีขาวก็ลอยขึ้นจากรูปปั้นทองคำ และค่อยๆส่องลงมาผสมผสานกับผู้ชายผมบลอนด์
ในเวลาเดียวกัน ลมหายใจของเขาก็ยิ่งเเข็งเเกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ
………….
อีกด้านหนึ่ง, หลินเป่ยใช้เวลาไม่นานในการกลับไปยังน่านฟ้าของประเทศมังกร
จากนั้น, หลินเป่ยก็ยกมือขึ้น…..เปิดพื้นที่กระเป๋าอวกาศออกและอะพอลโลก็ถูกเขาลากออกไปในโลกทะเลดอกไม้
"กัปตัน, พื้นที่นั้นน่ากลัวมาก! รัศมีของทหารนับล้านเหล่านั้นดูเหมือนจะถึงระดับพิเศษทั้งหมดแล้ว" อะพอลโลกล่าวอย่างตกตะลึงมาก
"ฮิฮิ ถูกต้อง ความแข็งแกร่งของทหารนับล้านที่นี่ได้มาถึงระดับพิเศษเเล้ว…….. เเละยังมีทหารระดับตำนานอีกมากกว่าหนึ่งโหล" หลินเป่ยยิ้มและพูดด้วยท่าทางผ่อนคลาย
"......…" เมื่อได้ยินดังนั้นอะพอลโลก็เงียบไป
ประเทศมังกรแข็งแกร่งมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ไม่สิ ไม่ควรเป็นประเทศมังกร…… แต่เป็นมาสเตอร์!
คนๆ เดียวกลับมีพลังมากพอที่จะกวาดโลก……… มันน่ากลัวเกินไปเเล้ว!
อะพอลโลพึมพำในใจ และในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกโชคดีมาก, โชคดีที่เขารับรู้ความจริงแล้วและเลือกที่จะติดตามหลินเป่ยอย่างชาญฉลาด
"ไปกันเถอะ ฉันจะพาคุณไปที่ฐานของทีมหยานหวง" หลังจากที่หลินเป่ยกล่าวจบ, เขาก็จับไหล่ของอะพอลโลโดยตรง, จากนั้นด้วยทักษะก้าวพริบตา…… เขาก็มาถึงฐานของทีมหยานหวงในเวลาไม่กี่วินาที
แต่ในเวลานี้ได้มีเสียงหัวเราะมากมายในฐานหยานหวง
หลินเป่ยจึงมองอย่างสงสัยและเห็นกลุ่มคนทั้งหมดกำลังล้อมรอบชายชราคนหนึ่ง
[พลังการต่อสู้พื้นฐาน: 130 ล้าน]
เมื่อเห็นพลังการต่อสู้ของชายชรา, หลินเป่ยก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ชายชราคนนี้เป็นคนแรกที่เขาได้เห็นในโลกแห่งความเป็นจริงว่ามีพลังการต่อสู้มากกว่า 100 ล้านเเต้ม
“พลังการต่อสู้มีมากกว่า 100 ล้าน…….ถ้าเป็นในเกมส์โลกที่สอง เขาควรจะถูกมองว่าเป็นขุมพลังระดับเทพที่แท้จริง!”
ชายชราดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของหลินเป่ย, เขาจึงหันศีรษะและมองไปที่หลินเป่ยจากนั้นก็ปรากฏรอยยิ้มที่มุมปากของเขา
"เพื่อนตัวน้อยคนนี้คือผู้มาใหม่ที่คุณพูดถึงเเละเป็นผู้ที่ได้รับดาบซวนหยวนใช่ไหม"
“ใช่แล้ว, เป็นเขา…..เเละชื่อของเขาคือหลินเป่ย, ก่อนหน้าานี้เขาเพิ่งทำการทดสอบความแข็งแกร่งในการต่อสู้มาก่อน และพลังการต่อสู้ขั้นพื้นฐานของเขาก็อยู่ที่ 60 ล้านเเต้มแล้วครับ” เป่ยซวนกล่าวด้วยความเคารพ
"พลังการต่อสู้พื้นฐาน 60 ล้าน?........เขาช่างเป็นต้นกล้าที่ดีจริงๆ"
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น, ชายชราก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจและพูดด้วยรอยยิ้ม
"เพื่อนตัวน้อย……. คุณมาได้ถูกเวลาแล้ว, ฉันได้ท่องอวกาศมาก่อนหน้านี้และไดเกลั่นเม็ดยาเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกคุณได้มี………..มันสามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ขั้นพื้นฐานได้โดยตรง 10% และ ขีดจำกัด ของประสิทธิภาพยาคือ 60 ล้านพลังการต่อสู้"
ขณะที่เขาพูด, ชายชราก็โบกมือและน้ำอมฤตสีทองก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าหลินเป่ย
แค่สูดกลิ่นยาเข้าไป, หลินเป่ยก็รู้สึกถึงความชัดเจนทางพลังจิตวิญญาณ……… เเต่น่าเสียดายที่ขีดจำกัดของฤทธิ์ยาคือพลังการต่อสู้เพียง 60 ล้านเเต้มเท่านั้น……. เเละเขาใช้มันไม่ได้
ร่างกายที่เเท้จริงของเขามีพลังการต่อสู้มากกว่า 300 ล้านเเต้มไปเเล้ว
ดังนั้น, ยาเม็ดนี้อาจเป็นยาวิเศษสำหรับคนอื่น………. แต่สำหรับเขาแล้ว มันไม่มีค่าเลย
“ขอบคุณผู้อาวุโส” หลินเป่ยแสร้งทำเป็นตื่นเต้น, เก็บเม็ดยาและคำนับชายชรา
“ผู้อาวุโสอะไรกัน, ห่างเหินเกินไปเเล้ว” เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชายชราก็โบกมือและพูดด้วยรอยยิ้มว่า
"ฐานยานหวงนี้ตั้งขึ้นโดยฉันและเด็กที่ชื่อจี้ซวนหยวน เเละคุณสามารถเรียกฉันว่าเสินหนงก็ได้"
หลังจากที่ชายชราพูด, จู่ๆคิ้วของเขาก็ย่นเล็กน้อย…… มองหลินเป่ยขึ้นลงและถามด้วยความสงสัยว่า "แปลกจัง เราเคยพบกันมากก่อนไหม"
"ไม่เคยนะครับ" หลินเป่ยกางมือของเขาออก…….นี่เป็นครั้งแรกที่เขาและอีกฝ่ายได้พบกัน
“แปลกจัง ทำไมฉันได้กลิ่นที่คุณคุ้นเคยจากตัวเขา” เสินหนงขมวดคิ้วสงสัยตัวเอง
มันแปลกมากจริงๆ
………
อีกด้านหนึ่งในระบบสุริยะ, หลินเป่ยร่างจริงได้เดินทางไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
เเละในที่สุดภาพของดาวอังคารก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา, และดาวอังคารดวงนี้ล้อมรอบด้วยดวงจันทร์สามดวง
หลินเป่ยยืนอยู่ในความว่างเปล่า หลับตา และพลังทางจิตวิญญาณก็แผ่ออกมาโดยตรง
ชั่วพริบตานั้น, พลังทางจิตวิญญาณที่เขาปล่อยออกมาก็ได้ห่อหุ้มดาวอังคารและบริวารทั้งสามดวง
ดาวอังคารดวงนี้มีขนาดใหญ่มาก, เขาจึงไม่สามารถพุ่งเข้าไปเเละค้นหาไปเรื่อยๆได้……….เขาจำเป็นต้องค้นหาตำแหน่งเฉพาะของซากปรักหักพังก่อนแล้วค่อยลงมือ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนี่เป็นการตรวจจับอย่างรวดเร็ว….. มันจึงไม่แม่นยำมากนัก และเขาสามารถจับภาพสถานที่ที่มีความผันผวนของพลังงานเเปลกๆได้เท่านั้น
สามนาทีผ่านไปในพริบตา
"มีสถานที่ห้าแห่งที่มีความผันผวนของพลังงานเป็นพิเศษ" หลินเป่ยลืมตาขึ้นช้าๆ
"มีสามที่บนดวงจันทร์เเต่ละดวง, แต่ฉันได้ยินมาว่าซากปรักหักพังของดาวอังคารดูเหมือนจะไม่ได้อยู่บนดวงจันทร์…….. ดังนั้นเราต้องมองหาอีกสองแห่งที่เหลือก่อน"
หลินเป่ยถอนสายตาของเขาออกและปรากฏตัวบนพื้นผิวของดาวอังคาร
ส่วนความผันผวนของพลังงานที่แปลกประหลาดบนดวงจันทร์ไว้ค่อยตรวจสอบเมื่อมีเวลา……… ภารกิจเร่งด่วนที่สุดคือค้นหาซากปรักหักพังบนดาวอังคารและค้นหาความจริงที่เขาควรจะต้องรู้
"เขามาแล้ว"
ภายในซากปรักหักพังบนดาวอังคาร บนเกาะลอยน้ำ ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังพึมพำเบาๆ
จากนั้นเธอก็ค่อยๆ ลุกขึ้น, สวมชุดยาวสีขาวเเละบินออกมาที่ทางเข้าซากปรักหักพัง เพื่อรออย่างเงียบ ๆ
………………………