บทที่ 216: รอคอยที่จะได้รับ ‘รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ’
“ท่านพ่อต้องซ่อนอาหารเก็บไว้กินคนเดียวแน่ ๆ…” หลงเหยาพูดด้วยสีหน้าจริงจังพลางซ่อนตัวอยู่ข้างหลังแม่จิ้งจอก
หูเจียวเจียวอดไม่ได้ที่จะกุมหน้าผากตัวเอง
เธอคิดได้อย่างไรว่านอกจากการกินแล้ว เจ้าตัวแสบยังมีเรื่องอื่นอยู่ในใจ…
พอหลงโม่ออกมาจากห้องครัว เขาก็เห็นเด็กน้อยทั้งหลายกำลังห้อมล้อมหูเจียวเจียวอยู่
แต่ทันทีที่พวกหลงเหยาเห็นพ่อมังกร ทุกคนก็สะดุ้งโหยงแล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วเพราะกลัวถูกจับได้ว่าพวกตนกำลังแอบมาฟ้องท่านแม่เกี่ยวกับเรื่องของเขา
คนเป็นพ่อเหลือบมองด้านหลังของลูก ๆ แบบนิ่งเฉย จากนั้นสายตาของเขาก็เลื่อนกลับมาที่จิ้งจอกสาว ซึ่งดวงตาสีทองคู่สวยถูกแต่งแต้มไปด้วยความอ่อนโยน “ข้าจัดการเหยื่อเสร็จแล้ว”
“ข้ากลับมาเพื่อเอากระต่าย ข้ายังต้องกลับออกไปอีกครั้ง รั้วกระต่ายที่หัวหน้าเผ่าสร้างขึ้นเสร็จแล้ว ตอนนี้เราสามารถเอากระต่ายไปเลี้ยงในนั้นได้แล้ว”
หญิงสาวอธิบายพร้อมกับมีรอยยิ้มแสนสดใสประดับอยู่บนใบหน้านวลผ่อง
ในใจของหลงโม่คิดว่าหูเจียวเจียวเป็นผู้หญิงที่ยิ้มเก่งมาก ทุกครั้งที่นางยิ้ม มันทำให้โลกทั้งใบสดใสเหมือนกับแสงอาทิตย์ที่อบอุ่นท่ามกลางฤดูหนาว ซึ่งมันสามารถบรรเทาความเหงาที่เกาะกินใจของเขาได้
ชายหนุ่มรู้สึกหวงแหนรอยยิ้มนั้นมาก
บัดนี้เสน่ห์อันเย้ายวนใจของภรรยาสาวทำให้มังกรหนุ่มนิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง
ทันทีที่เขาดึงสติตัวเองกลับมา เจ้าของใบหน้ายิ้มแย้มก็ขยับเข้ามาใกล้เขามากขึ้นพลางส่งสายตามองมาที่เขาอย่างมีเลศนัย “จริงสิ... หลงโม่ เจ้าซ่อนอะไรไว้หรือ?”
เธอรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้ชายคนนี้จะซ่อนของไว้กินเอง
เมื่อหูเจียวเจียวเดินเข้าไปหาร่างสูงใกล้ ๆ กลิ่นหอมเจือจางของน้ำนมยังคงอบอวลอยู่ที่ปลายจมูกของหลงโม่ มันทำให้เขารู้สึกอยากกัดผิวขาวนวลนั้นเหลือเกิน
“หิน” เขาตอบหลังจากที่กลืนก้อนเหนียว ๆ ลงคอไป
“หิน?” จิ้งจอกสาวคิดอะไรไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเห็นคนตรงหน้าล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าของเขา
แล้วสายตาของเธอก็มองตามมือใหญ่อย่างอยากรู้อยากเห็น
ไม่นานเธอก็พบว่ามังกรหนุ่มหยิบบางอย่างที่เป็นสีเขียวอ่อนออกมา
ว้าว!
มันคือหยกจริง ๆ ด้วย!
ยามนี้ดวงตาของหูเจียวเจียวเป็นประกายเหมือนเด็กที่รอคอยของขวัญ เธอรีบถามว่า “เจ้าบอกว่าเจ้าขุดจนมันแตกกระจายไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ เจ้าไปหามันอีกรอบหรือไง?”
“มีหินก้อนใหญ่เหลืออยู่ ข้าเลยไปเอามา” หลงโม่พยักหน้าและนำของที่ตนเก็บไว้ในกระเป๋ายื่นให้คนรัก
ที่ผ่านมาของที่เขาตั้งใจมอบให้อีกฝ่าย นางจะชื่นชอบมันตลอด
ถึงแม้ว่าสิ่งที่นางอยากได้จะหายากสักแค่ไหน เขาก็จะพลิกแผ่นดินไปตามหามันมาให้ได้
ทางด้านจิ้งจอกสาวหยิบหยกขึ้นมาอย่างมีความสุข และพบว่ามันมีรูปร่างเหมือนปิ่นปักผม ซึ่งมันมีความยาวเท่ากับปิ่นไม้ที่เธอมักจะใช้เป็นประจำ
อีกทั้งปลายด้านหนึ่งของปิ่นหยกยังสลักเป็นรูปสุนัขจิ้งจอกตัวน้อยที่เหมือนจริงและสวยมาก มันทำให้ปิ่นชิ้นนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นลายจิ้งจอกก็รู้สึกประหลาดใจ
“เจ้าแกะสลักเองหรือ? สวยจังเลย” จิ้งจอกน้อยถูกแกะสลักอย่างละเอียดละออ เธอไม่คิดว่าหลงโม่จะมีฝีมือทางด้านนี้เหมือนกัน
การแกะสลักหยกแบบนี้ต้องไม่ใช่งานง่าย ๆ แน่!
“อืม” เจ้าของชิ้นงานพยักหน้า
เมื่อมังกรหนุ่มเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของจิ้งจอกสาว เขาก็ยกมุมริมฝีปากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ในขณะที่หูเจียวเจียวถือปิ่นหยกชูขึ้นเหนือหัวพลางมองดูมันอีกครั้ง เธอพบว่าเจ้าจิ้งจอกน้อยภายใต้แสงแดดดูเหมือนจะเปล่งแสงจาง ๆ ออกมาด้วย
งานฝีมือนี้ไม่ได้ต่างไปจากงานฝีมือสมัยใหม่เลย!
เพียงแค่ว่ามันสิ้นเปลืองไปหน่อย เพราะหินหยาบก้อนใหญ่ทำได้แค่อ่างอาบน้ำกับปิ่นปักผม ถ้าคนในยุคปัจจุบันรู้เข้าคงกระอักเลือดเป็นแน่
ระหว่างที่เธอกำลังชื่นชมความงามของปิ่นหยก หลงโม่ก็ลดศีรษะลงแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ภรรยาคนสวยอย่างมีความหวัง โดยคิดว่าเขาจะได้รับ ‘รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ’ เหมือนตอนที่เขาให้อ่างอาบน้ำกับนาง ดังนั้นครั้งนี้เขาควรจะได้รับเช่นกัน!
แต่ทันใดนั้น จู่ ๆ หญิงสาวก็หันหน้ามามองสามีหนุ่มก่อนจะเอ่ยถามอย่างสงสัยว่า “เจ้าเอาปิ่นไม้ของข้าไปหรือ? เมื่อเช้าข้าหาไม่เจอ”
หูเจียวเจียวมีผมยาวถึงเอว ซึ่งมันทำให้เธอไม่สะดวกเวลาทำอะไรก็ตาม เธอจึงทำปิ่นจากไม้มารวบผมขึ้นเพื่อไม่ให้ดูเกะกะระหว่างทำงาน
เนื่องจากจิ้งจอกสาวหาปิ่นไม้ที่ตนใช้มาตลอดไม่เจอ
กลายเป็นว่าผู้ชายคนนี้เอาปิ่นของเธอไปเป็นต้นแบบทำปิ่นหยกนั่นเอง
คำถามของคนรักส่งผลให้ความคาดหวังในดวงตาของหลงโม่แข็งทื่อทันที ก่อนที่เขาจะเฉไฉไปพูดเรื่องอื่น “มา ข้าจะใส่มันให้เจ้า”
หูเจียวเจียวมองคนตัวสูงอย่างขบขัน แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร
ความสามารถในการเรียนรู้ของผู้ชายคนนี้สูงมาก เขาจดจำวิธีที่หญิงสาวม้วนผมตัวเองทุกวันได้
ถัดมา มังกรหนุ่มหยิบปิ่นจากมือของภรรยาสาวแล้วเดินไปข้างหลังเธอ ไม่นานผมยาวสลวยก็ถูกบิดม้วนไปมา 2-3 รอบจนมันกลายเป็นดอกตูมสวยงามในพริบตา จากนั้นเขาใช้ปิ่นหยกปักมันไว้ด้านหลังศีรษะของอีกคน
พอหลงโม่มวยผมให้หูเจียวเจียวเสร็จแล้ว เธอก็ลูบผมของตัวเองพลางหันไปมองเขาด้วยดวงตาเป็นประกายและถามว่า “สวยไหม?”
ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่รักสวยรักงาม
ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นเครื่องประดับที่สามีของเธอทำขึ้นมาเองกับมือ แค่ได้สวมใส่มันเธอก็รู้สึกมีความสุขแล้ว
“สวยมาก” หลงโม่ตอบจริงจังเหมือนคนต้องมนตร์สะกด
เจียวเจียวของเขาเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก
จิ้งจอกสาวยิ้มอย่างพึงพอใจพลางแตะปิ่นบนหัวตัวเองอีกครั้ง เธอจำได้ว่ายังมีเรื่องกระต่ายรอให้จัดการอยู่ เธอจึงสลัดความคิดที่อยากจะไปส่องกระจกออกก่อน
“งั้นข้าออกไปข้างนอกก่อนนะ”
แต่พอเธอเดินไปได้ 2 ก้าว เธอก็นึกถึงเหยื่อที่อยู่ในครัว ซึ่งมันอันตรายเกินไปที่จะปล่อยให้มังกรหนุ่มอยู่ที่บ้าน เธอจึงดึงเขาออกไปด้วยกัน “เจ้าไปกับข้าด้วยดีกว่า”
ในกรณีที่ชายหนุ่มนึกครึ้มอยากจะทำอาหารมันคงจะทำให้เสียเสบียงไปเปล่า ๆ อีก
“อืม”
จากนั้นทั้งคู่ก็ไปช่วยกันจับกระต่ายทั้งหมดในลานบ้านเก่าแล้วเอาไปใส่ไว้ในกรงไม้ เสร็จแล้วก็พาพวกมันไปที่ทุ่งหญ้าแห้งแล้งด้วยกัน
ก่อนที่พ่อมังกรกับแม่จิ้งจอกจะจากไป หลงเหยาแอบมองดูกระต่ายตาละห้อย
ไม่นานหลงโม่ก็แปลงร่างเป็นมังกรแล้วพาหูเจียวเจียวบินขึ้นไปบนท้องฟ้า ซึ่งเวลาเดียวกันนั้น เด็กน้อยก็วิ่งตามหลังพ่อแม่ของตนไปเป็นเวลานานด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง
ในไม่ช้าทั้ง 2 คนก็มาถึงทุ่งหญ้าที่แห้งแล้ง
ปัจจุบันกระต่ายมากกว่า 1 โหลถูกลูก ๆ เลี้ยงดูจนอ้วน แถมมันยังไม่กลัวคนอีกด้วย ทันทีที่พวกมันถูกปล่อยเข้าไปในทุ่งหญ้า พวกมันก็เริ่มกินหญ้าแก้มตุ้ย
นอกจากนี้ภูตในเผ่าก็ส่งกระต่ายของตัวเองมาทีละตัว แต่กระต่ายของพวกเขาไม่อ้วนเหมือนของครอบครัวของหูเจียวเจียว และพวกมันก็วิ่งหนีหายไปทันทีที่ถูกปล่อยตัว
เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้นกระบวนการการเตรียมเลี้ยงกระต่าย
ระหว่างทางกลับ หูเจียวเจียวได้พบกับลู่เมี่ยนเอ๋อและหู่จิงที่มาส่งกระต่ายด้วย
“เจียวเจียว!” เสือสาวเดินเข้ามาทักทายน้องสาวของสามีอย่างกระตือรือร้น
“ทำไมมีหญ้าอยู่บนหัวเจ้าล่ะ?”
พอหู่จิงเข้ามาใกล้ นางก็เห็นบางอย่างที่มีสีเขียวตรงด้านหลังศีรษะของจิ้งจอกสาว นางจึงทำหน้าแปลก ๆ ในขณะที่เอื้อมมือออกไปตั้งท่าจะหยิบ ‘หญ้า’ ออกให้อีกฝ่าย
ทว่าโชคดีที่ลู่เมี่ยนเอ๋อที่อยู่ข้าง ๆ รีบหยุดเพื่อนสาวไว้ได้ทันท่วงที “นั่นไม่ใช่หญ้า ดูสิ มีสีขาวอยู่บนนั้นด้วย”
ท่าทางของเสือสาวทำให้มุมปากของหูเจียวเจียวกระตุก เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าอีกคนตาไม่ดีหรืออย่างไร
จากนั้นหู่จิงก็มองเห็นของที่อยู่บนหัวเธอชัดขึ้น “โอ้ แล้วเจ้าสิ่งนี้คืออะไร ทำไมมันมีลายเหมือนสุนัขจิ้งจอกด้วย?”
“นี่คือหินที่หลงโม่พบในป่า” หูเจียวเจียวอธิบาย
“มีหินสีนี้ด้วยหรือ? ตอนแรกข้านึกว่ามันเป็นหญ้า แต่มันก็คล้ายหญ้าจริง ๆ นั่นแหละ เจียวเจียว มันดูเหมาะกับเจ้าดีนะ”
เสือสาวยิ้มโง่ ๆ ในขณะที่ดวงตาของนางยังคงเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
กวางสาวเองก็มองจิ้งจอกสาวอย่างอิจฉา “เจียวเจียว หินก้อนนี้สวยมาก พอมันอยู่บนหัวของเจ้า ดูเหมือนว่ามันจะเรืองแสงได้เลย ทำให้ใบหน้าของเจ้าขาวยิ่งกว่าหิมะเสียอีก”
ลู่เมี่ยนเอ๋อมีผิวสีขาวเหลือง ส่วนหู่จิงมีผิวสีข้าวสาลี ซึ่งทั้งคู่ต่างก็อิจฉาผิวที่ขาวดั่งหิมะของหูเจียวเจียว
หญิงสาวที่ถูกชมยิ้มรับพลางยกมือแตะปิ่นหยกบนหัวของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
ทางด้านหู่จิงชำเลืองมองไปที่หลงโม่ และทันใดนั้นนางก็ขยับเข้ามาใกล้หูเจียวเจียวพร้อมกระซิบถามว่า
“เจียวเจียว เจ้าถามหลงโม่ให้ข้าหน่อยได้ไหมว่าเขาพบหินก้อนนี้ที่ไหน? ข้ายังอยากจะทำเสือน้อยไว้บนหัวของข้าบ้าง มันคงจะสวยมาก”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: พบคนคลั่งรักภรรยา 1 อัตราค่าาา