ตอนที่แล้วบทที่ 128 - ทำให้ไหสุ่ยสะเทือนใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 130 – ยากที่จะปฏิเสธ

บทที่ 129 – มันเป็นความรักที่จริงใจ


ตอนที่ผมกลับเข้านั่งประจำที่ มู่จือเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่อย่างจริงจัง ผมแอบยื่นมือของผมไปจับมือเล็ก ๆ ที่นุ่มนวลของเธอไว้ ผมเหมือนจะติดใจความรู้สึกที่ได้จับมือที่ทั้งนุ่มเหมือนไร้กระดูกและเรียบเนียนของเธอแล้ว มันให้ความรู้สึกที่***ดีเลย”

มู่จือเงยหน้าขึ้นแล้วหันมามองผม เธอถอนหายใจออกมาแล้วดึงมือของเธอกลับ ผมเริ่มสงสัย! เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่? ดูเธอไม่มีความสุขเลย ไม่ใช่ว่าผมพูดให้เธอฟังหมดแล้วเหรอ? ทำไมเธอยังเป็นแบบนี้อีก? ยังคิดมากเรื่องไหสุ่ยอีกหรือไง?

ผมทนสงสัยไม่ไหว เลยกระซิบถามเธอ “มู่จือ! เป็นอะไรไป?”

เธอส่ายหัวน้อย ๆ “ไม่มีอะไร! แค่นายยังไม่ได้เขียนจดหมายให้ฉันเลย! อันที่จริง ฉันไม่ได้อ่านจดหมายรักของนายมาหลายวันแล้วนะ!”

ผมได้แต่ตอบเธอกลับไปอย่างอึ้ง ๆ “โอ้! อย่างนั้นเหรอ? เดี๋ยวฉันเขียนให้อ่านเดี๋ยวนี้เลย” แล้วผมก็รีบทำอย่างที่บอก เตรียมกระดาษปากกาอย่างว่องไว

...มู่จือ! ถึงพวกเราจะไม่ได้เจอหน้ากันอยู่หลายวัน แต่ผมนั้นยังคงคิดถึงคุณอยู่ตลอดเวลาเลยนะ ผมไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร แต่ผมรู้สึกว่าตัวเองว่างเปล่ามากเมื่อไม่ได้เห็นหน้าคุณในช่วงหลายวันนี้ คุณมักจะถามผมว่าผมไปทำอะไรในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ ผมคิดว่าผมควรจะบอกคุณได้แล้ว เพราะพวกเราไม่ควรที่จะมีความลับต่อกันอีก ผมขอลาหยุดจากสถาบันไปเพื่อเข้าร่วมการประลองลับระหว่างเจ้าชายเคอจากับมหาเสนาบดีเต๋ออี แล้วคุณก็น่าจะรู้ผลที่ออกมาเรียบร้อยแล้ว เจ้าชายเคอจาเป็นผู้ได้รับชัยชนะในการประลองครั้งนี้

มันไม่สำคัญว่าคุณจะเชื่อสิ่งที่ผมพูดต่อไปนี้หรือไม่ แต่ผมไม่ได้เข้าร่วมในการประลองนี้เพื่อทรัพย์สิน หรือเกียรติยศส่วนตัว แต่ผมเข้าร่วมการประลองเพื่ออนาคตข้างหน้าของอาณาจักรอ้าวเซี่ย รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนทั่วไปจำนวนมหาศาลที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรนี้ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้นได้ก็คือสงครามกลางเมือง สงครามที่จะให้ประโยชน์ต่อผู้ที่มีอำนาจเท่านั้น ส่วนคนธรรมดาทั่วไปจะได้รับแต่ความเจ็บปวด และสูญเสีย ผมไม่ต้องการให้มีสงครามเกิดขึ้น

การประลองถูกจัดขึ้นมาโดยหาผู้ชนะจากการประลองทั้งหมด 5 รอบ ผมได้เข้าร่วมประลองในรอบที่สี่

คุณอาจจะสงสัยว่าทำไมผมถึงสามารถเข้าร่วมการประลอง เป็นตัวแทนของเจ้าชายได้ ผมจะบอกความลับอีกอย่างให้คุณรู้นะ ผมเป็นเมธีเวทย์คนที่สิบเอ็ดของโลกใบนี้! เป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้คิดว่าผมนั้นเหมาะสมกันกับคุณแล้วหรือไม่?

คู่ต่อสู้ของผมในการประลองคือรื่อซือฟง ผู้นำของตระกูลรื่อ เขาเป็นปู่ของฟงเหลียงนั่นแหละ แล้วมันก็เป็นการประลองที่ยากและอันตรายที่สุดที่ผมเคยประสบมาเลย พลังของเขานั้นแข็งแกร่งจนไม่สามารถใช้ระดับของนักเวทย์ปกติไปวัดได้ ตอนที่ผมเผชิญหน้ากับความเป็นความตายเพราะเขาอยู่นั้น สิ่งเดียวที่ปรากฏขึ้นมาในความคิดของผมคือคุณเท่านั้น ตอนนั้นผมคิดเพียงแต่ว่า ถ้าผมได้มีโอกาสรอดชีวิตกลับมาเจอกับคุณอีก ผมจะต้องดูแลคุณให้ดี และไม่ยอมปล่อยให้คุณจากผมไปไหนแน่  ผมอยากจะบอกคุณว่าในใจของผมรู้สึกอย่างไรกับคุณ ความรู้สึกจากเบื้องลึกของหัวใจจริง ๆ ผมรักคุณ! ผมรักคุณจริง ๆ ในหัวใจของผมมีแต่คุณเท่านั้น...(เขียนมาจนถึงตอนนี้ ผมรู้สึกได้ถึงความรักที่มี มันเหมือนกับว่าผมอยากตะโกนบอกออกไปให้ก้องโลกเลย)

ผมหยุดเขียนเพื่อควบคุมอารมณ์ของตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มลงมือต่อ

...ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่มันเหมือนกับว่ายังมีกำแพงอะไรบางอย่างขวางกั้นระหว่างเราอยู่  ผมไม่สามารถข้ามผ่านกำแพงนั้นเข้าไปได้ มันทำให้ผมไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของคุณได้เลย ว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับผม ผมของให้คุณแค่บอกผมมาได้หรือไม่? ผมอยากได้ยินมันจากปากของคุณ แต่เอาเถอะ ผมจะไม่บังคับให้คุณบอกผมหรอก ทุกคนต้องมีความลับเป็นของตัวเอง คุณก็ควรจะมีพื้นที่เป็นของตัวเองบ้าง มันเป็นเพราะว่าผมรักคุณมาก ดังนั้นผมจึงไม่ต้องการบังคับให้คุณเปิดเผยความรู้สึกของคุณที่มีต่อผมออกมา

ตอนที่คุณตกลงจะคบกับผม แม้มันจะเป็นเพียงการคบกันชั่วคราว ผมนั้นดีใจเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ แต่หลังจากนั้น ผมก็ได้มารู้ว่า นั่นไม่ได้มาจากการที่คุณรักผม แต่เป็นเพียงแค่คุณเพิ่งเริ่มสนใจในตัวของผมเท่านั้น ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้หัวใจของผมมันรู้สึกไม่ดีตอนที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นขึ้นมา

ถ้าคุณยังกังวลเรื่องของไหสุ่ย คุณสามารถวางใจได้เลย ผมคิดกับเธอเหมือนเป็นน้องสาวของตัวเองตลอดมา ไม่มีใครคนอื่นจะเข้ามาอยู่ในใจของผมได้ มีแต่คุณคนเดียวเท่านั้น ผมไม่รู้ว่าคุณจะเปิดใจของคุณยอมรับผมได้เมื่อใด ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณชอบผมหรือเปล่า แต่หัวใจของผมเป็นของคุณ นี่มันเป็นความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว

มู่จือ! คุณจะเป็นคนรักของผมได้ไหม?

เขียนขึ้นมาด้วยความรักที่มีต่อคุณตลอดไป จางกง....

ความรู้สึกของผมนั้นตรงไปตรงมาเหมือนที่เขียนอยู่ในจดหมายนั่นแหละ ผมถือจดหมายไว้ในมืออย่างลังเล ไม่รู้ว่ามู่จือจะยอมรับหรือไม่?

ตอนที่ผมมองไปที่เธอ เป็นเวลาเดียวกันที่เธอกำลังมองผมอยู่พอดี ผมไม่ได้รู้ว่าสีหน้าที่แสดงอารมณ์ออกมาตอนกำลังเขียนจดหมาย ทำให้ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ตรงนี้ประทับใจ

เธอดึงจดหมายออกไปจากมือของผม แล้วก็เปิดมันขึ้นอ่าน!

ผมไม่กล้ามองไปที่เธออีก ผมกลัวว่าเธอจะปฏิเสธิผมกลับมา มันไม่เหมือนกับจดหมายฉบับก่อนหน้าที่ผมเคยเขียนให้เธอ ครั้งนี้! มันเป็นจดหมายที่เขียนออกมาจากใจจริง ๆ ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าถ้าเธอปฏิเสธกลับมา แล้วผมจะยอมรับมันได้มั้ย? ผมได้แต่ก้มหน้าลงต่ำ และเฝ้ารอให้เธออ่านจดหมายจบเท่านั้น ตอนนี้ผมเหมือนกับนักโทษ ที่รอคำตัดสินว่าจะรอดหรือจะโดนโทษประหาร ระหว่างที่รอผมรู้สึกตื่นเต้นจนประหม่าไปหมดแล้ว!

หลังจากผ่านเวลาการเฝ้ารออย่างเนิ่นนาน มือที่นุ่มนิ่มแต่เย็นเยียบของเธอก็ยื่นมาจับมือที่เต็มไปด้วยเหงื่อเพราะความตื่นเต้นของผม ผมเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่ามู่จือกำลังมองผมอยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นว่าดวงตาของเธอนั้นแสดงความรู้สึกออกมามากขนาดนี้

ผมกระซิบถามเธออย่างประหม่า “เธอจะคบกับฉันจริง ๆ มั้ย?”

มู่จือเม้มปากแน่น ก่อนจะพยักหน้าอย่างยินดี “คนโง่!!”

ผมรู้สึกว่าทั้งโลกทั้งใบกำลังเปลี่ยนไปในทันที มันกลายโลกที่เต็มไปด้วยสีสันสวยงาม ผมรีบกุมมือเธอแน่น ก่อนจะพึมพำไม่เป็นประโยค “จริงนะ! จริงๆ นะ? ใช่มั้ย?”

มู่จือที่หน้าแดงกล่ำ รีบกระซิบ “พวกเรายังอยู่ในห้องเรียนนะ ควบคุมตัวเองหน่อยสิ!”

ผมรับพยักหน้ารับจนคอแทบหัก แล้วก็ก้มลงไปจุมพิตมือของเธอที่ผมยังกุมไว้อยู่ ตอนนี้หน้าของมู่จือแดงจนเหมือนลูกแอปเปิลแล้ว เธอรีบประท้วงออกมา “นายทำอะไร? ฉันบอกให้นายควบคุมตัวเอง แต่นายกลับ...”

ผมรับขอโทษ “ฉันขอโทษ แต่ฉัน...ฉันแค่ตื่นเต้นเกินไปน่ะ!”

ตอนนี้อารมณ์ของมู่จือเริ่มคงที่มาบ้างแล้ว “ฉันไม่รู้ว่าฉันเลือกถูกหรือเปล่าเนี่ย? พวกเราจะอยู่ด้วยกันได้ตลอดไปจริง ๆ เหรอ?”

ผมพยักหน้ายืนยัน พร้อมกับกุมมือของเธอแน่นขึ้นอีก “ได้! ได้อย่างแน่นอน ฉันก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง บางทีฉันอาจจะต้องเจอกับปัญหาที่ยากเกินรับมืออยู่บ้าง แต่ฉันจะจับมือของเธอเอาไว้ไม่ปล่อย และจะคอยปกป้องเธอตลอดไปเลย”

มู่จือยิ้มออกมาอีก คราวนี้มันเป็นยิ้มที่สวยจนทำให้โลกสดใสขี้นมาเลย ก่อนที่จะเอ่ย “นายต้องจำสิ่งที่นายพูดเอาไว้วันนี้ให้ดีนะ!”

ผมกำลังตะลึงอยู่ “มู่จือ! เธอยิ้มเมื่อกี้ เธอสวยมากเลยนะ!”

มู่จือถาม “มันจะสวยได้ยังไง? นายนี่มันจริง ๆ เลย ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่านายชอบฉันตรงไหนกันแน่”

ผมตอบโดยไม่ต้องคิด “ทุกตรงเลย!”

มู่จือจ้องผมแบบไม่เชื่อถือ แต่เธอก็ดูมีความสุขมาก “ฉันมีสิ่งต่าง ๆ มากมายที่ยังบอกนายไม่ได้ ถ้านายได้รับรู้มันในอนาคต ฉันหวังว่าพวกเราคงจะรับมือกับปัญหาที่จะตามมาได้” เธอถอนหายใจแล้วกล่าวต่อ “อันที่จริง ไหสุ่ยเหมาะสมกับนายมากกว่าฉัน เธอเป็นคนที่สวยมาก เกิดมาในตระกูลใหญ่ แล้วฉันก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเธอชอบนายมากจริง ๆ ทำไมนายไม่เลือกเธอล่ะ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด