ตอนที่ 221 ฮาร์ชธันเดอร์
ตอนที่ 221 ฮาร์ชธันเดอร์
ชุดต่อสู้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เสื้อผ้าที่นำมาสวมใส่เพื่อปกป้องร่างกายเท่านั้น เพราะมันยังมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการปฎิบัติการถูกใส่ลงไปในชุดต่อสู้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ระบบมองกลางคืนและระบบกรองอากาศที่ถูกติดตั้งบนหน้ากาก รวมถึงถังอัดอากาศขนาดเล็กที่ถูกติดตั้งอยู่รอบเอว
คนบนโลกมักจะคิดว่าถังโลหะด้านหลังนักประดาน้ำได้บรรจุก๊าซออกซิเจนเอาไว้ แต่ความจริงมันเป็นถังที่อัดอากาศทั่ว ๆ ไปเข้าไปเท่านั้นเอง เพราะถ้าหากว่ามนุษย์สูดออกซิเจนมากเกินไปมันอาจจะทำให้ร่างกายเกิดอาการออกซิเจนเป็นพิษ ดังนั้นภายในถังโลหะของนักประดาน้ำจึงใส่ไว้เพียงแค่อากาศธรรมดาเพื่อเพียงพอให้นักประดาน้ำสามารถหายใจใต้น้ำได้เท่านั้นเอง
ถังอากาศที่อยู่ในชุดต่อสู้มีขนาดไม่ถึงครึ่งของกำปั้นทำให้เซี่ยเฟยสามารถซ่อนตัวใต้น้ำได้เพียงแค่ช่วงสั้น ๆ ประมาณ 20 นาที
จ๋อม!
ชายหนุ่มดำดิ่งลงไปในน้ำอย่างคล่องแคล่วและด้วยท่ากระโดดพุ่งแหลม มันจึงไม่ทำให้น้ำแตกกระจายออกไป
ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ในภูเขาที่กว้างมากทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นฝั่งของทะเลสาบได้เลย ด้วยเหตุนี้เซี่ยเฟยจึงว่ายน้ำตรงไปเรื่อย ๆ โดยรักษาระดับความลึกเอาไว้ที่ประมาณ 50 เมตรตลอดเวลา
น้ำในทะเลสาบเย็นมากจนแทบจะจับตัวเป็นน้ำแข็ง แต่ด้วยการป้องกันจากชุดต่อสู้มันจึงทำให้อุณหภูมิของน้ำไม่สามารถทำร้ายร่างกายของเซี่ยเฟยได้ แม้แต่แรงดันภายในน้ำก็แทบที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายของชายหนุ่มเลย
ในระหว่างการว่ายน้ำเซี่ยเฟยได้เปิดระบบมองกลางคืนของชุดต่อสู้ไปด้วย เพราะท้ายที่สุดถึงแม้ในดาวดวงนี้จะพอมีแสงจากเนบิวลาอยู่บ้าง แต่มันก็ยังไม่เพียงพอจะทำให้เขาสามารถมองเห็นภาพในทะเลสาบได้อย่างชัดเจน
ในทะเลสาบมีฝูงปลาอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากสภาพแวดล้อมภายในถ้ำขาดแสงสว่างดวงตาของพวกมันจึงเป็นจุดสีดำเล็ก ๆ 2 จุดขนาดประมาณเมล็ดงา 2 เมล็ด
สิ่งที่น่าแปลกคือเมื่อเซี่ยเฟยเข้าใกล้ใจกลางทะเลสาบมากเท่าไหร่ จำนวนของปลาที่เขาได้พบเห็นกลับน้อยลงมากขึ้นเท่านั้นราวกับพวกมันจงใจที่จะหลีกเลี่ยงพื้นที่กลางทะเลสาบ
“อย่าหนี! กลับมาเคลียร์กันก่อนว่าใครขโมยวิชาใครไปกันแน่” เงารัตติกาลยังคงยืนอยู่ภายในถ้ำและส่งเสียงตะโกนไปทางทะเลสาบ
เห็นได้ชัดเลยว่ากลอุบายของเซี่ยเฟยทำให้ชายชราคนนี้รู้สึกคับข้องใจมากแค่ไหน เนื่องจากในปัจจุบันใครเป็นคนฆ่าน้องหกไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะเขามุ่งมั่นที่จะไขข้อข้องใจเรื่องวิชาให้กระจ่างแจ้งเพียงอย่างเดียว
เสียงของชายชราจะต้องถูกปล่อยออกมาด้วยวิชาบางอย่าง เพราะถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะดำอยู่ใต้น้ำแต่เขากลับได้ยินเสียงนั้นได้อย่างชัดเจน
แน่นอนว่าชายหนุ่มไม่มีอะไรจะพูดกับเงารัตติกาลอีกแล้วและเขาก็ไม่ได้สนใจว่าชายชราจะรู้สึกคับข้องใจมากแค่ไหน เขาจึงรีบเร่งความเร็วเพื่อว่ายน้ำไปยังอีกฝั่งของทะเลสาบ
แต่ในทันใดนั้นเองเมื่อเซี่ยเฟยได้เคลื่อนที่ไปจนถึงใจกลางทะเลสาบ จู่ ๆ มันก็มีกระแสน้ำวนก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว!
กระแสน้ำในทะเลสาบพัดร่างของเขาลงไปยังด้านล่างอย่างต่อเนื่อง และถึงแม้ว่าบนพื้นผิวทะเลสาบจะดูเงียบสงบแต่ใต้น้ำกลับมีกระแสน้ำที่กำลังพัดพาอย่างรุนแรง
ชายหนุ่มขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะเขากำลังสันนิษฐานว่ากระแสน้ำนี้อาจจะไม่ใช่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แต่เป็นฝีมือของสิ่งมีชีวิต!
เพื่อไม่ให้กระแสน้ำลากร่างเขาลงไปเซี่ยเฟยจึงจงใจลดความเร็วของเขาลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ทำให้ชายหนุ่มกลับมาทรงตัวใต้น้ำได้อีกครั้ง ก่อนที่เขาจะออกแรงทั้งมือทั้งเท้าอย่างพร้อมกันเพื่อว่ายน้ำขึ้นสู่ผิวน้ำอย่างรวดเร็ว
ท้ายที่สุดชายหนุ่มก็เป็นผู้ใช้พลังสายความเร็วที่สามารถระเบิดพลังออกมาได้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ดังนั้นแรงดูดของน้ำเพียงแค่นี้จึงไม่พอที่จะลากเขาลงไปยังก้นทะเลสาบได้
ซ่า!
ในที่สุดศีรษะของเซี่ยเฟยก็โผล่พ้นผิวน้ำเขาจึงรีบว่ายเข้าหาฝั่งที่ใกล้ที่สุดด้วยแรงทั้งหมดที่เขามี เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันที่ใต้ทะเลสาบทำให้ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะไม่แน่มันอาจจะมีสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักซ่อนตัวอยู่ที่ใต้ก้นทะเลสาบก็ได้
“อย่าหนี! มาคุยกันก่อน!!” เงารัตติกาลยังคงส่งเสียงตะโกนจากระยะไกลเมื่อได้เห็นร่างของเซี่ยเฟยโผล่ขึ้นมาพ้นผิวน้ำ
ตูม!
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่มีท่าทีที่จะหยุดเพื่อพูดคุยกับเขาสักนิด ชายชราจึงตัดสินใจกระโดดลงไปในทะเลสาบและว่ายน้ำตามเซี่ยเฟยไปอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นกระแสน้ำวนอันรุนแรงใต้ทะเลสาบก็หายไปถูกแทนที่ด้วยออร่าอันทรงพลังที่เปล่งออกมาจากใต้น้ำ
ทั้งเซี่ยเฟยและเงารัตติกาลต่างก็รู้สึกตกตะลึงกับออร่าที่เพิ่งปล่อยออกมา ชายหนุ่มจึงก้มศีรษะลงไปใต้น้ำอย่างระมัดระวังและปรับระบบมองเห็นตอนกลางคืนให้มีกำลังระดับสูงสุด
ภาพที่เขาเห็นคือร่างคล้ายงูเหลือมยักษ์ที่มีความยาวกว่า 200 เมตรกำลังพุ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว และด้วยขนาดปากที่ใหญ่โตของมันก็กว้างมากพอที่จะกลืนช้าง 7 ตัวเข้าไปได้ในคราวเดียว
“โอแม่จ้าว! งูตัวเบ้อเริ่มเลย!!” เซี่ยเฟยอุทานออกมาด้วยความตกใจ
จากนั้นเขาก็ใช้แขนทั้งสองข้างจ้วงน้ำไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงสุด อย่าลืมว่าสภาพแวดล้อมบริเวณนี้เต็มไปด้วยน้ำ ดังนั้นถ้าหากเขาต้องสู้อยู่ที่นี่จริง ๆ เขาก็แทบที่จะไม่สามารถใช้ความเร็วกับพลังจิตของเขาในการต่อสู้ได้เลย
สิ่งเดียวที่เขาจะสามารถใช้ได้หากต้องต่อสู้ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ก็คือวิชามนตราอสูร แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายขนาดใหญ่เซี่ยเฟยก็ไม่แน่ใจว่าวิชามนตราอสูรจะมีประสิทธิภาพมากแค่ไหนกันแน่
ไม่ว่าจะมองยังไงหากต้องต่อสู้ในน้ำเขาก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบทุกทาง ด้วยเหตุนี้ทางเลือกเดียวของเขาจึงต้องพยายามว่ายขึ้นฝั่งให้ได้โดยเร็วที่สุด!
ทางด้านของเงารัตติกาลก็ขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความประหลาดใจเช่นเดียวกัน เพราะเขาไม่เคยคิดว่าภายใต้ทะเลสาบจะมีงูยักษ์ตัวใหญ่ขนาดนี้ได้ซ่อนตัวอยู่ เขาจึงกดปุ่มเครื่องส่งสัญญาณที่แขนขวาก่อนจะรีบมุ่งหน้าไปหาเซี่ยเฟย
ความคับข้องใจของเงารัตติกาลเกินกว่าความคาดหมายของชายหนุ่มไปไกล เพราะถึงแม้มันจะมีงูขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาแต่มันก็ไม่สามารถจะหยุดชายชราคนนี้ได้เลย ตอนนี้ความคิดเดียวในหัวของเงารัตติกาลคือเซี่ยเฟยต้องห้ามตายอย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นสำนักเงาสังหารจะถูกตั้งข้อหาว่าเป็นหัวขโมยโดยไม่ได้รับการแก้ไข
งูยักษ์อาศัยอยู่ใต้น้ำมาโดยตลอดและทะเลสาบแห่งนี้ก็เป็นบ้านที่มันเติบโตขึ้นมา ดังนั้นถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วแต่งูยักษ์ก็ได้ใช้กระแสน้ำจนทำให้มันเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าชายหนุ่มด้วยซ้ำ
เซี่ยเฟยรู้ถึงความจริงข้อนี้เป็นอย่างดีว่าถ้าหากผู้ใช้พลังสายความเร็วเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่มีความเร็วมากยิ่งกว่า การเปิดเผยช่องว่างแม้แต่เพียงเล็กน้อยก็เพียงพอที่จะทำให้เขาถูกสังหารได้
เขาจะต้องขึ้นฝั่งให้ได้โดยเร็วที่สุด!
หวือ! หวือ!
จู่ ๆ ใบมีดของเซเลสเชียลมูนก็แตกออกกลายเป็นใบมีดทั้ง 18 เล่ม ก่อนที่เซี่ยเฟยจะถีบตัวขึ้นจากทะเลสาบเพื่อใช้ใบมีดพวกนี้เป็นบันไดวิ่งในอากาศ
ในเมื่อเขาไม่สามารถใช้ความเร็วภายในน้ำได้ เขาก็แค่ต้องย้ายสนามรบขึ้นไปบนอากาศเท่านั้นเอง!
งูยักษ์สามารถอ่านแผนการของเขาได้อย่างรวดเร็ว มันจึงได้ทำการอ้าปากก่อนที่จะพ่นน้ำสีขาวออกมาจากปากของมัน!
ฟู่!
กระแสน้ำอันรุนแรงพุ่งขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็วพัดใบมีดของเซเลสเชียลมูนให้กระเด็นออกไปไกลหลายร้อยเมตร จนทำให้เซี่ยเฟยไม่สามารถเคลื่อนไหวในอากาศต่อไปได้
เมื่อไม่มีพื้นที่ให้เหยียบร่างของเขาก็ค่อย ๆ ร่วงหล่นลง ท้ายที่สุดชายฝั่งก็อยู่ห่างออกไปมากกว่า 1 กิโลเมตรเขาจึงไม่สามารถถีบตัวไปจนถึงชายฝั่งได้ด้วยการกระโดดเพียงแค่ครั้งเดียว
“สู้ก็สู้วะ!” เซี่ยเฟยส่งเสียงร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธและในที่สุดเขาก็ตัดสินใจจะสู้กับงูตัวนี้ด้วยพลังทั้งหมดที่เขามี
ถึงแม้อัตราการชนะการสู้กับงูภายในน้ำจะยังไม่แน่นอน แต่เงารัตติกาลกำลังว่ายน้ำตามเขามาแล้วและเขาก็ไม่ต้องการจะเผชิญหน้ากับศัตรูสองทางในเวลาเดียวกัน
เซี่ยเฟยหลับตาลงเพื่อตั้งสมาธิและเมื่อเขาได้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งภายในแววตาของเขาก็มีลำแสงเปล่งประกายออกมา แน่นอนว่าลำแสงพวกนี้คือลำแสงที่เกิดขึ้นมาจากวิชามนตราอสูรที่เป็นการปล่อยพลังออกจากดวงตาของผู้ใช้
ในขณะเดียวกันเซี่ยเฟยก็ตัดสินใจใช้เทคนิคลับดีม่อนแอค ทำให้ใบมีดของเซเลสเชียลมูนพุ่งตัวลงไปในน้ำจนเกิดฟองอากาศลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำตลอดเวลา
การใช้งานวิชามนตราอสูรพร้อมกับเทคนิคดีม่อนแอคได้สร้างภาระต่อสภาพจิตใจของเซี่ยเฟยเป็นอย่างมาก แต่ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้เขาก็ไม่มีเวลาที่จะต้องมาลังเล เพราะเขาจะต้องจัดการกับเรื่องตรงหน้าให้ดีที่สุด!
ความลังเลอาจจะนำมาซึ่งหายนะ!
เมื่องูยักษ์ถูกจู่โจมด้วยวิชามนตราอสูรมันก็ทำให้ทั่วทั้งร่างของมันบิดงออย่างเจ็บปวดราวกับว่ามันกำลังถูกไฟฟ้าช็อต
ฉัวะ!
เซเลสเชียลมูนย่อมไม่ปล่อยโอกาสอันยอดเยี่ยมเช่นนี้ไป ใบมีดทั้ง 18 เล่มจึงมุ่งจู่โจมไปที่หัวของงูยักษ์เป็นจุดเดียว!
เลือดสีแดงสดพุ่งทะลักออกมาย้อมทะเลสาบบริเวณนั้นให้กลายเป็นสีแดงในทันที และเนื่องจากร่างของงูยักษ์ได้จมอยู่ภายใต้กองเลือดในน้ำ มันจึงทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นอาการบาดเจ็บของมันได้
ตูม!
ร่างของเซี่ยเฟยตกลงไปใต้น้ำก่อนที่เขาจะจ้องมองไปทางงูยักษ์อย่างระมัดระวัง
แต่ในทันใดนั้นเองร่างของเงารัตติกาลก็ได้พุ่งเข้าหาเซี่ยเฟยอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มจึงกัดฟันเรียกใบมีดของเซเลสเชียลมูนกลับมาเพื่อเตรียมพร้อมจะเผชิญหน้ากับนักฆ่าชราจากสำนักเงาสังหาร
อย่างไรก็ตามสถานการณ์กลับกลายเป็นบีบบังคับให้เซี่ยเฟยสิ้นหวังลงกว่าเดิม เพราะงูยักษ์ที่ถูกจู่โจมกำลังพุ่งเข้ามาหาเขาจากใต้น้ำอีกครั้ง
มันยังไม่ตาย!
บนหัวของมันยังคงมีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่มันกลับทำให้งูยักษ์ตัวนี้มีความดุร้ายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
‘ชิบหายละ!’ เซี่ยเฟยอุทานภายในใจ
เนื่องจากการโจมตีเกิดขึ้นภายในน้ำทำให้เซเลสเชียลมูนไม่สามารถแสดงพลังสูงสุดของมันออกมาได้ และถึงแม้ว่าเขาจะใช้เทคนิคดีม่อนแอคเพื่อเร่งความเร็วของใบมีดทั้ง 18 เล่มแล้ว แต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะเจาะทะลุผ่านกะโหลกศีรษะของงูยักษ์อยู่ดี
สัตว์ต่าง ๆ สามารถระเบิดพลังต่อสู้ออกมาได้อย่างสูงสุดเมื่อพวกมันอยู่ในสภาวะที่โกรธจัด เพราะความเจ็บปวดได้ดึงความสนใจของพวกมันออกไปทั้งหมด ดังนั้นถึงแม้ว่าในตอนนี้เซี่ยเฟยจะพยายามใช้วิชามนตราอสูรเพื่อเข้าควบคุมสัตว์ร้ายตรงหน้า แต่มันก็มีโอกาสสูงมากที่เขาจะไม่สามารถเข้าควบคุมมันได้
เงารัตติกาลอยู่ห่างจากเซี่ยเฟยเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเมตร ส่วนงูยักษ์ก็พร้อมจะจู่โจมชายหนุ่มในเวลาไม่ถึงสองวิ!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตี 2 ทาง เขาควรจะต้องทำยังไงดี?!
คนส่วนใหญ่คงจะรู้สึกสิ้นหวังเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้ แต่สิ่งที่เซี่ยเฟยเป็นกลับตรงกันข้ามกับคำว่าความสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิง
จู่ ๆ ดวงตาของชายหนุ่มก็เปลี่ยนกลายเป็นสีแดงเลือด เนื่องมาจากเลือดภายในกายของเขากำลังเริ่มสูบฉีดอย่างบ้าคลั่ง!
“ตายไปให้หมด!!” เซี่ยเฟยส่งเสียงร้องคำรามสะท้อนกึกก้องไปทั่วทั้งพื้นที่
สิ่งที่ออกมาจากปากของเขาไม่ได้มีเพียงแต่คำพูด แต่มันคือปณิธานอันบ้าคลั่งที่พร้อมจะทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า!
ทันใดนั้นออร่าของเซี่ยเฟยก็เหมือนจะเปลี่ยนจากมนุษย์กลายเป็นปีศาจร้าย จนทำให้ทั้งเงารัตติกาลและงูยักษ์ต่างก็รู้สึกตกตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงอย่างคาดไม่ถึง
ฮาร์ชธันเดอร์!!!
***************