ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 239 จักรพรรดิมารน้อยลงมือ
ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 239 จักรพรรดิมารน้อยลงมือ
สีหน้าของโม่หงหลิวมืดลง คู่ต่อสู้ที่น่ากลัวอีกคน!
ความแข็งแกร่งของเฟิงเส้าฉิงไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเขา
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ถอนหายใจ เผ่ามนุษย์นั้นคู่ควรกับการเป็นเผ่าเหนือหัวแห่งเก้าดินแดนอย่างแท้จริง
ลูกหลานของจักรพรรดิแห่งมวลมนุษย์นี้มีความสามารถมาก ในบรรดาเผ่ามารสวรรค์ อาจมีเพียงไม่กี่คนที่ทัดเทียมกับเขา
นอกจากนี้ ไม่ได้มีตระกูลจักรพรรดิแห่งมวลมนุษย์เพียงตระกูลเดียว และไม่ใช่ลูกหลานเพียงตระกูลเดียว
"แข็งแกร่งมาก"
หวังลู่มองไปที่เฟิงเส้าฉิงและพูดว่า "เปลวไฟของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเพลิงว่างอมตะสวรรค์ของข้า"
เซียงซิงพยักหน้าและพูดว่า “เขาแข็งแกร่งมากจริง ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องเล่นกับไฟ ข้าก็มีความสามารถพอ ๆ กัน”
ถ้าพวกเขาต้องต่อสู้จริง ๆ ทั้งเซียงซิงหรือหวังลู่จะทัดเทียมกับเฟิงเส้าฉิง
แม้ว่าพวกเขาสองคนจะไม่ได้แข็งแกร่งในการต่อสู้โดยตรง แต่พวกเขาก็มีเล่ห์เหลี่ยมมากมาย
หลังจากแสดงฝีมือ เฟิงเส้าฉิงทักทายฉินหยิงด้วยรอยยิ้ม จากนั้น เขานำคนของเขาไปยึดครองเนินเขาเล็ก ๆ เพื่อรอให้สนามรบมารโบราณเปิด
ฉินหยิงเดินออกไปพร้อมถือง้าวในมือ และชี้ไปที่เฉาเทียนอี้และพูดว่า “เจ้าสารเลวเฉา เจ้ากล้าที่จะต่อสู้กับข้าหรือไท่? เจ้าจะไม่แก้แค้นที่ข้าทำให้แผนของเจ้าล้มเหลวหรอกหรือ? เข้ามา ข้ากำลังรอเจ้าอยู่!”
"ดี ดีมาก ข้าอยากสัมผัสพลังของจักรพรรดิต้าฉินเช่นกัน!”
เฉาเทียนอี้เดินออกมาด้วยสีหน้ามืดมน
แสงสีทองส่องประกายรอบตัวเขา กลิ่นอายดาบสังหารเทพและหมัดทองคำสังหารเทพของเขาถูกโคจรไปมา
มีค้อนทองคำลอยอยู่เหนือหัวของเขา ค้อนทองคำสังหารเทพ!
เมื่อเขาต่อสู้กับปางซิงไห่และซินหยวนเฟิง เขาไม่ได้ใช้อาวุธนี้ แต่เขาไม่มีทางเลือกนอกจากใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อเผชิญหน้ากับฉินหยิง
ฉินหยิงควงง้าวของนางเปล่งกลิ่นอายที่องกาจออกมา ร่างกายที่สง่างามของนางเต็มไปด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัว
ทันใดนั้นเกล็ดก็ปรากฏขึ้นปกคลุมทั่วร่างกายของนาง จากนั้นกลิ่นอายที่องอาจของนางก็ยิ่งเย็นชามากขึ้น
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปเมื่อเห็นสิ่งนี้
ช่างเป็นกลิ่นอายที่องอาจเกินไป!
แม้ว่าเขาจะกลับชาติมาเกิดเป็นผู้หญิง แต่เขาก็ยังคงรักษากลิ่นอายที่องอาจและแข็งกร้าวของเขาไว้
สมกับที่เป็นจักรพรรดิฉิน ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยรวมหนานโจวเป็นปึกแผ่นและเขย่าดินแดนเป๋ย!
สีหน้าของเฉาเทียนอี้ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน ร่างกายของฉินหยิงนั้นน่ากลัวจริง ๆ และไม่ด้อยไปกว่ากายาทองคำสังหารเทพเขาเอง
ในความเป็นจริงมันมีอำนาจเหนือกว่าด้วยซ้ำ!
เฟิงเส้าฉิงหรี่ตาขณะที่เขามองไปที่ฉินหยิงด้วยความตกใจ
“นี่ดูเหมือนจะไม่ใช่หนึ่งในวิชาลับของตระกูลหลัว? เขาฝึกฝนวิชานี้ในชาติที่แล้วหรือ?”
“นั่นไม่ถูกต้อง ในชีวิตที่แล้ว ร่างกายของเขามีความพิเศษและเขามีร่างทรราช ในชีวิตนี้ หลังจากกลับชาติมาเกิดเป็นผู้หญิง เขาไม่ควรเปล่งกลิ่นอายที่แข็งกร้าวเช่นนั้นได้อีกต่อไป”
เฟิงเส้าฉิงไตร่ตรองทั้งหมดนี้ในใจของเขา ฉินหยิงแข็งแกร่งมากและไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเขาเลย
มีโอกาสมากที่ฉินหยิงจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในขอบเขตเดียวกันในหมู่รุ่นเยาว์ของตระกูลหลัว
ฉินหยิงได้ฝึกฝนวิชาร่างมังกรทรราชจนถึงจุดที่ตอนนี้เขาสามารถใช้กลิ่นอายที่องอาจจากชาติที่แล้วได้ นอกจากนี้ ร่างมังกรทรราชยังมีพลังที่ไม่มีใครเทียบได้
ด้วยการเพิ่มวิชาที่ฉู่เซวียนสืบทอดมา ในแง่ของความแข็งแกร่ง เขาแข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นในชีวิตที่แล้วเสียอีก
“ช่างเป็นกลิ่นอายที่องอาจยิ่งนัก ศิษย์น้องฉินฝึกฝนวิชาอันใดกัน?”
ติงเยว่พึมพำด้วยความประหลาดใจ
“วิชาหลอมร่างเช่นนี้เหมาะสมกับศิษย์น้องฉินเป็นอย่างดี”
หวังลู่ถอนหายใจด้วยอารมณ์ล้มหลาม
“ควรจะเป็นศิษย์น้องหญิงฉิน!”
ติงเยว่ทักท้วงเขา
“ศิษบ์พี่ ตอนนี้เขาเป็นผู้หญิง แน่นอนว่าเขาเป็นศิษย์น้องหญิงของเรา”
“ศิษย์น้อง เจ้าคิดผิดแล้ว พวกเราผู้ฝึกยุทธ์วิถีสูงสุดไร้สตรีในดวงใจ ในเมื่อชาติที่แล้วศิษย์น้องฉินเป็นผู้ชาย แม้ว่าเขาจะกลายเป็นผู้หญิงไปแล้ว เขาก็ยังควรได้รับการปฏิบัติเหมือนผู้ชาย”
ติงเยว่ทักท้วงอีกคราด้วยสีหน้าจริงจัง “หากเจ้าปฏิบัติต่อเขาในฐานะผู้หญิง แสดงว่าเจ้ายังมีความปรารถนาในตัวผู้หญิงอยู่ในใจ!”
หวังลู่ตอบด้วยความละอายใจ “ศิษย์พี่พูดถูก ความเข้าใจในวิถีสูงสุดของข้ายังไม่มั่นคงเพียงพอ!”
ปากของเฮยเยว่กระตุกขณะที่นางฟังการสนทนาของพวกเขาจากด้านข้าง
ก่อนที่ฉินหยิงและเฉาเทียนอี้จะเริ่มการต่อสู้ โอรสมารก็เดินออกมา
“ข้าจะร่วมมือกับพี่เฉา”
เขามองไปที่ซินหยวนเฟิงและคนอื่น ๆ ด้วยความดูถูก
"ฮึ!"
ซินหยวนเฟิงเดินออกไปพร้อมกับกระบี่ในมือ
โอรสมารสะบัดนิ้วของเขาและพูดด้วยความดูถูกว่า “เจ้าไม่มีความสามารถเพียงพอ หากเศษขยะเช่นพวกเจ้าไม่ร่วมมือกัน พวกเจ้าก็แค่พวกไร้ค่า! ฮ่าฮ่า!”
ใบหน้าของซินหยวนเฟิงมืดมนราวกับเถ้าถ่าน
ปางซิงไห่และคนอื่น ๆ ก็เช่นกัน โอรสมารหยิ่งผยองเกินไป
แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่ง แต่โอรสมารก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน
แม้ว่าทุกคนที่นี่จะกลับชาติมาเกิด แต่ช่องว่างระหว่างพวกเขานั้นใหญ่เกินไป
ซินหยวนเฟิงและคนอื่น ๆ รู้สึกละอายใจ พวกเขาอ่อนแอเกินไปและไม่สามารถแบ่งเบาภาระของพี่ใหญ่ได้
ปางซิงไห่เดินออกมา
ถ้าพวกเขาไม่ร่วมมือกับซินหยวนเฟิง พวกเขาก็จะไม่สามารถต่อกรโอรสมารได้
ในขณะนี้ ร่างหนึ่งลงมาจากท้องฟ้า
เสียงหนึ่งดังมาจากระยะไกล มันอัดแน่นไปด้วยความเกลียดชังขณะที่คนผู้นั้นกรีดร้อง “โอรสมาร เจ้าสมควรตาย!”
ซินหยวนเฟิงและปางซิงไห่หยุดอยู่กับที่ โอรสมารก็หยุดและมองไปที่แหล่งที่มาของเสียง
ชายคนหนึ่งสวมชุดคลุมสีเขียวลายดอกไม้ ใบหน้าแจ่มใสไร้หนวดเคราปรากฏให้เห็น เขาบีบนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้เข้าด้วยกัน หลังจากนั้นก็มีเส้นด้ายปรากฏล้อมรอบร่างกายของเขา
เขาถือเข็มปักผ้าบาง ๆ ไว้ในมือ ใบหน้าของเขาซีดเซียวจนผิดปกติ เสียงของเขาไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นชายหรือหญิง
เขาให้ความรู้สึกประหลาดที่ยากจะอธิบาย
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ และดวงตาของเขาก็ฉายแววแห่งความเกลียดชังออกมา
เขาจ้องมองที่โอรสมารและกัดฟันพร้อมพูดว่า “โอรสมาร เจ้าคาดไม่ถึงใช่หรือไม่? ข้ายังไม่ตาย ข้ากลับมาเพื่อแก้แค้นเจ้าแล้ว!”
คนที่เพิ่งมาถึงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจักรพรรดิมารน้อย!
โอรสมารเป็นศัตรูชั่วชีวิตของเขา โอรสมารไม่เพียงสังหารบิดาของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะโอรสมารที่ทำให้เขาต้องตัดขาที่สามทิ้ง
ทุกครั้งที่เขานึกถึงสิ่งนี้ จักรพรรดิมารน้อยล้วนปรารถนาที่จะกลืนโอรสมารทั้งเป็น
"เป็นเจ้าเองรึ?"
โอรสมารรู้สึกประหลาดใจจริง ๆ
“ข้าเอง โอรสมาร ข้าจะเอาชีวิตเจ้า!”
จักรพรรดิมารน้อยเริ่มเคลื่อนไหว
หวือ!
ริ้วแสงเย็นเยียบปรากฏขึ้นในขณะที่ด้ายรอบตัวเขาถักทอเข้าด้วยกัน และมีกริชเล่มเล็กซ่อนอยู่ในมือของเขา
ร่างกายของเขาพุ่งไปข้างหน้า ทิ้งภาพติดตาไว้สองสามภาพ เป็นไปไม่ได้ที่จะแยกร่างที่แท้จริงออกจากภาพมายา และในชั่วพริบตา เขาก็ได้ล้อมโอรสมารไว้
ด้ายเส้นเล็กไขว้พันกันขณะที่เข็มก็โจมตีโอรสมารจากทุกทิศทางอย่างไร้เสียง
โอรสมารตื่นตระหนกอย่างมาก นี่เป็นวิชาอันใด?
ตู้ม!
แสงสีแดงเลือดล้อมรอบโอรสมาร และครอบคลุมทั้งร่างกายของเขา เขาไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย
ความแข็งแกร่งของจักรพรรดิมารน้อยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
นอกจากนี้ วิชาที่เขาใช้นั้นแปลกมาก การเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาดของเขาทำให้โอรสมารไม่สามารถแยกแยะระหว่างร่างจริงกับร่างปลอมได้
เข็มบาง ๆ เหล่านั้นเงียบกริบและไม่สามารถติดตามได้ ทำให้ไม่สามารถป้องกันได้
การต่อสู้ครั้งใหญ่ระหว่างจักรพรรดิมารน้อยและโอรสมารก็ปะทุขึ้น หลังจากนั้นไม่นาน โอรสมารก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงผ่านแขนของเขา เข็มได้ทะลุการป้องกันของเขาและเจาะแขนของเขา
คลื่นกลิ่นอายเย็นยะเยือกแผ่ซ่านไปทั่วแขน ทำให้รู้สึกราวกับว่ากลิ่นอายนั้นสามารถยับยั้งพลังวิญญาณของเขา
ทันทีที่พวกเขาเริ่มสู้กัน โอรสมารก็ตกอยู่ในสถานะเสียเปรียบ ดูเหมือนว่าเขาจะพ่ายแพ้
วิชาและการโจมตีของจักรพรรดิมารน้อยนั้นแปลกเกินไป โดยเฉพาะเข็มและด้ายเส้นเล็ก ๆ เมื่อเขาเข้าไปพัวพันกับพวกมันแล้วก็ยากที่จะหลุดพ้น
เข็มนั้นเร็ว เงียบ และมีจำนวนมหาศาล ขณะที่โอรสมารเผชิญหน้ากับกลเม็ดนี้เป็นครั้งแรก เขาจึงไม่สามารถหาวิธีรับมือได้
อย่างไรก็ตาม เขาเป็นยอดฝีมือขอบเขตศักดิ์สิทธิ์กลับชาติมาเกิดและมีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย ดังนั้น แม้ว่าเขาจะเสียเปรียบ แต่เขาก็สามารถรักษาเสถียรภาพของสถานการณ์และลดความสูญเสียให้เหลือน้อยที่สุด
เมื่อเขาชินกับวิชาประหลาดของจักรพรรดิมารน้อยแล้ว เขาจะไม่นิ่งเฉยอีกต่อไป
ทุกคนตกใจมาก อัจฉริยะเหล่านี้มาจากไหน? ผู้ที่มาใหม่นี้ได้กำราบโอรสมารจนอยู่หมัด!
เหล่าอัจฉริยะรู้สึกเหมือนกับว่าฟ้าถล่มลงมาทับพวกเขา
ก่อนที่สัตว์ประหลาดเหล่านี้จะปรากฏตัว พวกเขายังรู้สึกว่าตนเองพอมีหวัง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาตระหนักว่าพวกเขายังตามหลังอัจฉริยะที่แท้จริงอยู่มาก!
เหตุใดช่องว่างระหว่างผู้คนถึงกว้างเพียงนี้?
สวรรค์ไม่ยุติธรรม!