(ฟรี)ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 65 ได้เวลาชำระแค้น
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและในไม่ช้าเซวียนห่าวก็สามารถตกลงกับจ้าวนิกายได้ว่าต้องทำเช่นใดกับเรือนอสูร
เซวียนห่าวคลี่ยิ้มขณะที่เขาเดินไปยังเรือนอสูรอย่างใจเย็น
หลินซ่งยืนอยู่เงียบ ๆ เขามองดูเซวียนห่าวเดินออกจากตำหนักจ้าวนิกาย
หลังจากที่ประตูตำหนักจ้าวนิกายปิดลง หลินซ่งก็รีบกลับไปบ่มเพาะต่อในทันทีมี
‘เหตุใดข้าจึงต้องอยู่ที่นี่ต่อ?’
เซวียนห่าวได้เล่าสิ่งต่าง ๆ ให้กับจ้าวนิกาย เฟิงเฉินก็เห็นด้วยกับเรื่องที่จะลดทรัพยากรของเรือนอสูรลง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาได้ตระหนักว่าเรือนอสูรนั้นฟุ่มเฟือยมากเพียงใด
ทั้งคู่หารือเรื่องวิธีจัดการกับสิ่งเหล่านี้
วิธีที่ง่ายที่สุดคือการลดทรัพยากรของพวกเขาลงและคอยดูว่าพวกเขาจะทำสิ่งใดต่อ
หน้าที่ของเซวียนห่าวคือการถ่ายทอดคำสั่งของจ้าวนิกายและคอยตรวจสอบคนจากเรือนอสูร
เซวียนห่าวหวังอย่างยิ่งว่าหลังจากที่เขาลดทรัพยากรของเรือนอสูรลงแล้ว พวกเขาจะสามารถฝึกพวกอสูรได้อย่างดี ไม่ใช่ดูแลพวกมันราวกับเป็นเจ้านายเช่นนั้น
เซวียนห่าวได้พูดคุยเกี่ยวกับอสูรที่คนจากเรือนอสูรเรียกว่าปลดเกษียณ
เขารู้สึกตลกเล็กน้อย อสูรที่อยู่ตามธรรมชาติ พวกมันเมื่ออายุมากขึ้นก็ล้วนแข็งแกร่งขึ้น แต่อสูรของพวกเขากลับยิ่งโตยิ่งอ่อนแอ
นี่เป็นครั้งแรกที่เซวียนห่าวได้เห็นผู้ที่เลี้ยงอสูรราวกับเป็นราชวงศ์เช่นนี้
พวกเขาไม่เพียงแต่จะดูแลอสูรพวกนั้นอย่างดีเท่านั้น พวกเขายังมอบทรัพยากรอันล้ำค่าของนิกายกระบี่ล่องนภาทั้งศิลาวิญญาณและสมุนไพรชั้นยอดกับอสูรที่เอาแต่เกียจครานไปวัน ๆ
“ผู้อาวุโสเซวียน! เหตุใดท่านจึงมาที่นี่อีก ท่านส่งท่านเงากลับมาแล้วมิใช่รึ ท่านจะมาขอบคุณเขาหรือ?” ชายชราตัวเตี้ยที่เคยนำเขาไปหาอสูรก่อนหน้านี้ออกมาและเอ่ยถามเขาด้วยสีหน้าสงสัย
“…”
เซวียนห่าวส่ายหัวเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าจะพูดอย่างใดจริง ๆ
‘ข้าส่งเจ้านกโง่นั่นกลับมาหรือ?’
‘หากยังปล่อยให้พวกเขายังคงเป็นเช่นนี้ สมบัติของนิกายกระบี่ล่องนภาคงต้องสูญสิ้นเป็นแน่’
“ข้ามาเพื่อถ่ายทอดคำสั่งของจ้าวนิกายเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรของเรือนอสูร” เซวียนห่าวหันกลับมามองท่าทางชายชราตัวเตี้ย เขาหวังว่าชายชราผู้นี้จะเข้าใจว่าเขาหมายถึงสิ่งใด
“ในที่สุด... การเพิ่มทรัพยาการที่ข้าเคยส่งเรื่องไปเมื่อสองเดือนที่แล้วก็อนุมัติเสียที!”
“...”
เซวียนห่าวมองไปยังท่าทางตื่นเต้นของชายชราตัวเตี้ย เขาไม่รู้ว่าต้องพูดเช่นไรว่าจ้าวนิกายต้องการลดทรัพยากรของพวกเขา...
‘ข้าต้องหาคนอื่นมาดูแลที่นี่หรือไม่?’
“นี่คือคำสั่งจากจ้าวนิกาย!” เซวียนห่าวยื่นกระดาษออกไปให้ชายชราตัวเตี้ยได้ดู
“เป็นไปได้อย่างไร!” เมื่อชายชราตัวเตี้ยอ่านที่กระดาษนั้น ท่าทางจากความสุขของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นความโศกเศร้า
เซวียนห่าวอดคิดไม่ได้ว่าเนื้อหาของกระดาษที่เฟิงเฉินเขียนนั้น เป็นเนื้อหาที่บอกว่าครอบครัวของชายชราผู้นี้ตายไปหรือไม่...
“ข้าจะเข้าไปข้างในเพื่อเก็บทรัพยากรบางส่วนกลับคืน” เซวียนห่าวเดินผ่านชายชราตัวเตี้ยและเข้าไปในเรือนอสูรอย่างช้า ๆ
จากสิ่งที่เซวียนห่าวได้รู้มา ทรัพยากรส่วนใหญ่ของเรือนอสูรนั้นจะถูกส่งมอบให้กับอสูรที่เกษียณไปแล้วมากกว่าอสูรที่ยังคงถูกใช้งานอยู่
ทรัพยากรกว่าเจ็ดสิบส่วนนั้น ล้วนถูกมอบให้กับอสูรที่ปลดเกษียณทั้งหมด ตอนนี้เซวียนห่าวจึงต้องการที่จะลดทรัพยากรทั้งเจ็ดสิบส่วนนี้ลงในทันที
ทรัพยากรเหล่านี้จะถูกส่งมอบให้กับศิษย์และผู้อาวุโสเพื่อบ่มเพาะต่อไป
เซวียนห่าวคิดว่าเรื่องนี้มันช่างน่าขันยิ่งนักที่พวกเขายังไม่มีอสูรขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดสักตัว แม้ว่าพวกเขาจะใช้ทรัพยากรไปมาเสียเพียงนี้
เมื่อเข้าสู่เซวียนห่าวเข้าสู่คลังของเรือนอสูร เขาก็ต้องประหลาดใจกับสมุนไพรและศิลาวิญญาณที่มีมากเช่นนี้
เซวียนห่าวไม่ได้มัวแต่ยืนนิ่ง เขาสั่งให้ผู้ฝึกอสูรส่งทรัพยากรเหล่านี้ไปยังส่วนต่าง ๆ ของนิกาย
“ส่งสมุนไพรเหล่านี้ไปที่หอการแพทย์และหอโอสถ!” เซวียนห่าวออกคำสั่งกับเหล่าผู้ฝึกอสูรที่มีท่าทีลังเล เขาเฝ้าดูทรัพยากรที่มหาศาลเหล่านี้ค่อย ๆ ว่างหายไป พวกมันทั้งหมดจะกลายเป็นประโยชน์ต่อนิกายหากส่วนต่าง ๆ ได้ใช้พวกมัน
เมื่อเซวียนห่าวพอใจกับการที่คลังของเรือนอสูรค่อย ๆ ลดลง ใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขก็ปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของเขาภายใต้การจ้องมองขะมักเขม้นของเหล่าผู้ฝึกอสูร เขาเดินลึกเข้าไปในจุดที่เหล่าอสูรปลดเกษียณอาศัยอยู่
‘วันนี้ข้าต้องได้ทานนกย่าง!’