ตอนที่ 219 เงารัตติกาล
ตอนที่ 219 เงารัตติกาล
การพยายามแยกเสียงฝีเท้าออกจากเสียงฝนตกที่ดังขึ้นตลอดเวลาเป็นเทคนิคที่จะต้องใช้ความละเอียดสูงมาก แต่เซี่ยเฟยก็ยังสามารถบอกได้อีกว่าคนที่กำลังเข้ามาภายในถ้ำมีจำนวนไม่น้อยกว่าห้าคน
“กำลังมีคนอย่างน้อย 5 คนเข้ามาภายในถ้ำ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
อันธขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความปวดหัว เพราะถ้าหากคนที่เพิ่งมาได้เห็นศพทั้งสามคนนี้เข้า พวกเขาจะต้องเข้าใจผิดว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของเซี่ยเฟยอย่างแน่นอน
“พวกเราซ่อนตัวก่อนดีกว่า อย่าพยายามมีปัญหากับคนในสำนักเลย” อันธกล่าว
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่จะกระโดดขึ้นไปเกาะอยู่ในร่องหินบนเพดานถ้ำ พร้อมกับใช้สายตาจับจ้องมองไปยังทางเข้า
ในไม่ช้าร่างทั้งห้าก็ค่อย ๆ เคลื่อนที่เข้ามาภายในถ้ำ โดยพวกเขาเป็นผู้ชาย 4 คนและผู้หญิง 1 คนที่ใช้วิชาพรางจิตเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างแผ่วเบา
“น้องหกมาที่นี่จริง ๆ รีบเข้าไปด้านในกันเถอะ” ชายสูงอายุคนหนึ่งพูดขึ้นมาหลังจากที่เขาตรวจสอบร่องรอยบนพื้น
“แย่แล้ว! นั่นมันศิษย์พี่!! เขามีระดับความสามารถที่สูงมากและยังเก่งในเรื่องการติดตาม ดูเหมือนพวกเราจะโชคร้ายแล้วจริง ๆ” อันธอุทานออกมาด้วยความตกตะลึงเมื่อเขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
“นายจะตกใจอะไรนักหนา อย่างมากถ้าเราโดนจับได้เราก็แค่สารภาพเรื่องของนายออกไปเท่านั้นเอง” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ได้! สาเหตุที่ฉันตายแต่วิญญาณยังอยู่นั่นก็เพราะฉันแอบฝึกวิชาลับของสำนัก ถ้าหากว่านายเล่าเรื่องทั้งหมดออกไปไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่ปล่อยนายไปเท่านั้น แต่พวกเขายังจะฆ่านายเพื่อปิดปากด้วย” อันธกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
คำตอบนี้ถึงกับทำให้เซี่ยเฟยพูดไม่ออก เพราะแท้ที่จริงอันธกลับแอบฝึกวิชาลับของสำนัก!
‘เอาว่ะฉันพึ่งพาตัวเองเอาก็ได้’ เซี่ยเฟยพยายามปลอบใจตัวเองเมื่อไม่สามารถพึ่งพาอันธได้แล้วจริง ๆ
พริบตาต่อมาคนทั้งห้าก็ได้พบกับศพทั้งสามที่เซี่ยเฟยได้ลากไปซ่อนไว้ และเนื่องจากพวกเขาถูกฝึกฝนเรื่องการฆ่าคนมาตั้งแต่เด็กศพทั้งสามจึงไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกตกใจเท่าไหร่เลย ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังแบ่งหน้าที่กันเพื่อตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอีกด้วย
ชายชราภายในกลุ่มขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ เพราะศพทั้งสามดูแปลกประหลาดมาก โดยหนึ่งศพถูกแทงเข้าที่หัวใจ ส่วนอีกสองศพเป็นเพียงศพที่เปลือยเปล่าและเมื่อพิจารณาจากสภาพของบาดแผลบนร่างของน้องหกแล้ว ศพ ๆ นี้ก็น่าจะถูกสังหารจากการจู่โจมด้วยเดือยกระดูก
ยิ่งไปกว่านั้นศพยังถูกเคลื่อนย้ายเพื่อนำมาซ่อน มันจึงทำให้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในการสืบหาร่องรอยก็ยากที่จะอนุมานได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่พวกเขาสามารถยืนยันได้คือมันจะต้องมีบุคคลที่ 4 แอบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำเพราะเลือดของศพยังคงอุ่นอยู่ ซึ่งมันก็หมายความว่าโศกนาฏกรรมเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่ถึง 10 นาทีเท่านั้น
เมื่อทั้งห้าได้ข้อสรุปว่ามันมีบุคคลที่สี่พวกเขาก็แยกย้ายไปซ่อนตัวตามมุมมืดและใช้สัญญาณมือในการสื่อสาร
“ศิษย์พี่อนุมานว่านายฆ่าสองคนนั้น ส่วนน้องหกเสียชีวิตเพราะถูก 1 ใน 2 คนนั้นฆ่า” อันธอธิบายสัญญาณมือให้ชายหนุ่มฟัง
“ฉันทำลายหลักฐานไปตั้งเยอะแล้ว แต่ศิษย์พี่ของนายยังสามารถอนุมานได้ขนาดนี้เลยเหรอ? เขาช่างเป็นนักสะกดรอยที่น่าทึ่งจริง ๆ” เซี่ยเฟยอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง
“ศิษย์พี่ของฉันเก่งอยู่แล้ว! เพียงแต่การคาดเดาของเขายังไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะเขาคิดว่าลูกชายของอาจารย์ลุงสองเป็นคนฆ่าศิษย์น้องหก แต่นายฉวยโอกาสฆ่าข่มขืนสองคนนั้น” อันธกล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าอันจริงจัง
เซี่ยเฟยเกือบจะหลุดหัวเราะออกมากับการอนุมานของศิษย์พี่คนนั้น
เขาจะต้องเป็นคนแบบไหนถึงฆ่าข่มขืนคนทั้งสองเพศในเวลาเดียวกัน?
เซี่ยเฟยแอบก่นด่าอยู่ภายในใจ แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องซ่อนตัวเอาไว้ เพราะนักฆ่าทั้งห้าเริ่มเคลื่อนที่เข้าไปในส่วนลึกของถ้ำ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังออกตามหาร่องรอยของฆาตกร
วิชาพรางจิตคอยอำพรางร่างของเซี่ยเฟยเอาไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เขายังซ่อนตัวในมุมอับที่ไม่มีแสงส่องถึงทำให้ถึงแม้นักฆ่าทั้งห้าจะออกค้นหาทั่วทั้งถ้ำมาแล้วหลายครั้ง แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถค้นหาตำแหน่งของชายหนุ่มได้
ในที่สุดคนทั้งห้าก็ตัดสินใจเคลื่อนที่ไปยังปากถ้ำ ก่อนที่พวกเขาจะใช้สัญญาณมือเพื่อสื่อสารกันแล้วนำศพออกไปจากถ้ำแห่งนี้อย่างเงียบ ๆ
เซี่ยเฟยถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพราะเมื่อพิจารณาจากฝีเท้าและวิธีการใช้วิชาพรางจิตของศิษย์พี่อันธแล้ว มันก็เห็นได้ชัดเลยว่าชายชราคนนั้นไม่ใช่คนอ่อนแออย่างแน่นอน และถ้าหากว่ามันจะต้องเกิดการต่อสู้จริง ๆ มันก็คงจะเป็นการต่อสู้ที่ลำบากอย่างยิ่ง เพราะเขาไม่สามารถมุ่งเอาชีวิตของอีกฝ่ายได้
ถึงแม้นักฆ่าทั้งห้าจะออกไปแล้วแต่เซี่ยเฟยก็ยังไม่รีบร้อนที่จะออกมาจากจุดซ่อนตัว เขายังคงรอคอยอยู่ที่เดิมอย่างอดทนก่อนที่จะเดินออกมาจากที่ซ่อนหลังจากซ่อนตัวไว้เป็นเวลาหลายชั่วโมง
“พวกเราไปหาจงกล 6 กลีบต่อกันเถอะ” เซี่ยเฟยกล่าว
“นายยังจะไปอีกเหรอ? สถานการณ์ตอนนี้อันตรายมากเกินไป ศิษย์ในสำนักของฉันจะต้องออกค้นหาทั่วทั้งดาวเคราะห์เพื่อหาร่องรอยของนายอย่างแน่นอน” อันธกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“พวกเราจะกลับให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่เราต้องเอาจงกล 6 กลีบกลับไปด้วย นายอย่าลืมว่าหลังจากมันได้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาแล้วพวกเราก็อาจจะไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้อีกเลย” เซี่ยเฟยกล่าว
อันธพยายามครุ่นคิดถึงสถานการณ์ว่าถ้าหากมันได้เกิดเรื่องใหญ่แบบนี้ขึ้น ทางสำนักจะต้องรู้สึกโกรธมากอย่างแน่นอนและในเวลานั้นพวกเขาก็จะไม่ใช้ดาวดวงนี้เป็นสถานที่ทดสอบอีกต่อไป และตามหลักปฏิบัติของสำนักแล้วพวกเขาก็จะทำลายดาวดวงนี้ทิ้งเพื่อปกปิดหลักฐาน
“รีบไปหาต้นจงกลกันเถอะ! พวกเราจะได้รีบกลับ” อันธกล่าวอย่างจริงจัง
เซี่ยเฟยมุ่งหน้าตรงไปยังทางออกจากถ้ำ แต่หลังจากที่เขาออกเดินไปเพียงแค่ไม่กี่ก้าวเขาก็หันไปพูดกับกำแพงหินที่ว่างเปล่า
“ออกมาเถอะ คุณไม่จำเป็นจะต้องซ่อนตัวอีกแล้ว”
“มีอะไร?” อันธอุทานอย่างสงสัย
ทันใดนั้นกำแพงหินก็เริ่มขยับก่อนที่จะมีเงาสีดำเคลื่อนที่ออกมาจากกำแพงอย่างช้า ๆ
เจ้าของร่างนี้คือชายชราที่สวมชุดต่อสู้สีดำ โดยผมเผ้าและเคราของเขาต่างก็ล้วนแล้วแต่มีสีขาว
“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ตรงนี้?” ชายชรากล่าวอย่างสงบ
“ผมไม่รู้ ผมก็แค่พูดออกไปลอย ๆ แต่คุณออกมาเอง” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างไม่จริงจัง
“ฮ่า ๆ ๆ อย่าคิดว่าฉันจะถูกหลอกง่าย ๆ ถ้านายแค่เดาจริง ๆ แล้วทำไมถึงหันหน้ามาตรงที่ฉันอยู่” ชายชรากล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง
“ผมก็แค่โชคดี” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ฉันคิดว่าหลังจากนี้โชคของนายก็คงจะไม่ค่อยดีนัก ในเมื่อนายฆ่าศิษย์ของสำนักเราแล้วฉันก็ไม่สามารถปล่อยให้นายหลบหนีไปได้” ชายชรากล่าวก่อนที่แววตาของเขาจะเปลี่ยนไปอย่างดุร้าย
เหตุการณ์นี้ถึงกับทำให้เซี่ยเฟยพูดไม่ออก เพราะตั้งแต่ต้นคนที่เข้ามาภายในถ้ำไม่ได้มีเพียงแค่ 5 คนแต่มันมี 6 คนต่างหาก!
คนทั้งห้าแกล้งทำเป็นถอนตัวแต่ชายชราคนนี้ยังรอคอยอยู่ที่เดิมอย่างอดทน และการซ่อนตัวของเขายังแนบเนียนจนทำให้แม้แต่เซี่ยเฟยก็ยากที่จะสังเกตเห็น
“ระวังด้วย! เขาคือ ‘เงารัตติกาล’ เป็นอาจารย์ลุงสองของฉันเองและเขาก็แข็งแกร่งมาก” อันธกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างน่าเกลียด
แม้ว่าอันธจะไม่พูดแต่เซี่ยเฟยก็สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของชายชราคนนี้อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสองคนต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่สำคัญกับอันธเหมือนกัน มันจึงทำให้วิญญาณตนนี้รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ที่จริงนายทำได้ดีมาก! ถึงกับทำให้ศิษย์ของฉันทั้งห้าถูกนายหลอกได้ แต่น่าเสียดายที่ความอดทนของนายยังน้อยไปหน่อย ถ้าหากว่านายเลือกซ่อนตัวเพิ่มอีกสัก 2-3 ชั่วโมง ฉันก็คงจะถอนตัวไปแล้วเหมือนกัน” อาจารย์ลุงสองของอันธพูดขึ้นมาอย่างช้า ๆ
บนใบหน้าของชายชรามีรอยยิ้มประดับเอาไว้โดยตลอดราวกับว่าเขาเป็นองค์พระยูไลที่กำลังเล่นกับซุนหงอคงบนฝ่ามือ
“5 คนนั้นก็ไม่รู้ว่าคุณอยู่ที่นี่งั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยกล่าว
“ใช่แล้ว นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันถูกค้นพบในรอบหลายสิบปี” ชายชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม
อันธเคยได้ยินมาเหมือนกันว่าอาจารย์ลุงสองจะแอบติดตามศิษย์ไปสังเกตการณ์นอกสำนักอยู่เสมอ ทำให้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่สามารถรอดพ้นสายตาของชายชราคนนี้ไปได้
“ผมสังหารแค่ 2 ใน 3 คนนั้นเท่านั้น” เซี่ยเฟยจุดบุหรี่พร้อมกับกล่าวออกไปอย่างใจเย็น
ท่าทางของเซี่ยเฟยทำให้ชายชรารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะเขาไม่เข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มถึงยังใจเย็นได้แบบนี้และแววตาของชายหนุ่มยังไม่มีร่องรอยของความสิ้นหวัง เพราะอารมณ์ที่สื่อผ่านแววตาออกมานั้นมันให้ความรู้สึกถึงการไม่แยแส
“เรื่องนั้นฉันพอจะเดาได้ แต่ที่ฉันอยากรู้คือทำไมเด็กคนนั้นถึงฆ่าอาของตัวเอง” ชายชรากล่าว
เซี่ยเฟยเม้มริมฝีปากแต่ไม่พูดอะไร เพราะเขาพยายามปกป้องเกียรติศิษย์น้องหกของอันธเอาไว้
ท้ายที่สุดหากเขาบอกว่าชายคนนั้นเป็นชู้กับภรรยาของศิษย์น้องหก มันก็จะเป็นการทำลายชื่อเสียงของศิษย์น้องหกอย่างรุนแรง และถึงแม้ว่าศิษย์น้องหกจะยังไม่ตายแต่เขาก็คงจะปลิดชีพตัวเองถ้าความลับได้ถูกเปิดเผยออกไป
“หนุ่มน้อยความเงียบไม่สามารถช่วยชีวิตนายได้หรอกนะ จงบอกทุกอย่างที่นายรู้ออกมาซะ” เงารัตติกาลยังคงถามอย่างไม่ลดละ
เซี่ยเฟยดีดก้นบุหรี่ก่อให้เกิดประกายไฟหล่นลงไปในอ่างน้ำ และในเวลาเดียวกันกับที่ประกายไฟหล่นลงไปบนพื้น ชายหนุ่มก็เคลื่อนที่อย่างว่องไวแล้วพุ่งตัวไปยังส่วนลึกของถ้ำ!
เงารัตติกาลส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ และไม่รีบร้อนที่จะทำการไล่ล่าชายหนุ่มเลย ท้ายที่สุดเขาก็ได้ทำการตรวจสอบแล้วว่าถ้ำแห่งนี้เป็นทางตัน หากเซี่ยเฟยไม่ได้มีความสามารถในการเจาะทะลุถ้ำเขาก็ไม่สามารถที่จะหลบหนีไปได้
หลังจากออกวิ่งไปได้ประมาณ 100 เมตรเซี่ยเฟยก็ทำการปลดปล่อยเซเลสเชียลมูนจากแขนขวา
“ทำลายมันซะ!”
เซี่ยเฟยส่งเสียงร้องคำรามพร้อมกับใบมีดทั้ง 18 เล่มที่พุ่งเข้าหากำแพงอย่างรุนแรง
ตูม!
กำแพงถ้ำถูกเจาะทะลุในทันทีซึ่งรูที่เกิดขึ้นนี้เป็นรูที่เชื่อมต่อไปยังถ้ำอื่น
ในช่วงระยะเวลาเพียงแค่สั้น ๆ เซี่ยเฟยกลับสามารถมองเห็นจุดเปราะบางของถ้ำได้อย่างรวดเร็ว!
ในที่สุดเงารัตติกาลก็ตระหนักว่าเซี่ยเฟยได้เตรียมการหลบหนีเอาไว้แล้วเขาจึงได้พ่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา ก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปในความมืดเหมือนกับชื่อของเขาที่ถูกตั้งว่าเงารัตติกาล
***************