ตอนที่ 1100 ความแค้น ..ที่เก็บสะสมมานาน
บ้านตระกูลจง
ในช่วงเย็นของหลายวันก่อน หญิงชราอายุเกือบแปดสิบปี ได้เดินอย่างช้าๆ อยู่ในซอยเล็กๆ เธอเองได้ถือตะกร้าผักอยู่ในมือ เห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่งกลับมาจากตลาดสด
จู่ๆ ก็เห็นหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง ได้รีบเข้ามาหาหญิงชรา และพูดด้วยเสียงเบาๆ ไปว่า : “เมื่อกี้ฉันเห็นเหมือนมีคนบุกเข้าไปในบ้านของคุณ ไม่รู้ว่าจะเป็นโจรหรือเปล่า คุณรีบๆ กลับบ้านไปดูเถอะ!”
หญิงชราคนนี้ก็คือ แม่ของ จง ฮว่าฟง และพอได้ยินเช่นนี้ คุณแม่จง ก็ได้ตกใจมาก และได้รีบเร่งฝีเท้า เพื่อรีบกลับไปบ้าน, หญิงวัยกลางคนเองก็ได้ดูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และไม่ติดตาม คุณแม่จง กลับไปที่กลับบ้านของเธอ แต่เลือกที่หลบอยู่ใกล้ๆ และตั้งใจที่จะสังเกตความเคลื่อนไหวอยู่ข้างนอก
ไม่ยั่วยุ, ไม่ก่อปัญหาจนนำพาความเดือดร้อนใส่ตัว เป็นคติประจำใจของหญิงวัยกลางคนคนนี้..
คุณแม่จง แทบรอไม่ไหวที่จะรีบกลับบ้าน แต่เธอที่ยังไม่ทันเข้าประตู ก็กลับได้ยินเสียงหัวเราะดังออกมาจากข้างใน
“ฮ่าฮ่าๆ... ยังไง.. มันไม่ใช่ของฉันงั้นเหรอ!” เสียงหนึ่งก็ได้หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
คุณแม่จง ที่ได้ยิน ก็จำได้ว่า นี่ ..ไม่ใช่เสียงของ เลาลิ่ว หรอกหรือ? เธอเองได้ตกใจมาก และได้รีบวิ่งเข้าไปในทันที
ตอนนี้ ..ในบ้าน มันก็กลับดูยุ่งเหยิงไปหมด!
ตู้หีบต่างๆ ก็ถูกรื้อค้น! ทั้งเห็นได้ชัดว่ามีร่องรอยการต่อสู้!
ในที่นี่ก็ได้เห็นชายร่างใหญ่สองคนที่ดูเหมือนพวกอันธพาล ได้กดร่าง จง ฮว่าฟง ลงกับพื้น และก็ได้เห็น เลาลิ่ว ที่ได้ถือกระดาษชิ้นหนึ่งอยู่ในมือ ด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
“คืนมา คืนเบอร์นั่นมา คืนมาให้ฉัน!” จง ฮว่าฟง ได้ตะโกนออกไปด้วยอารมณ์
เลาลิ่ว ได้หัวเราะออกมา แล้วพูดว่า : “คืนให้กับแก.. แล้วให้แกโทรไปหามัน เพื่อให้มันมาทุบตีฉันงั้นเหรอ! แกไม่รู้หรือว่า ..พฤติกรรมของแกที่แอบไปรายงานเล็กๆ น้อยๆ นั้น มันน่ารําคาญมาก.. แกรู้บ้างไหม?”
“พวกแกกําลังทําอะไรลูกฉัน!”
คุณแม่จง ได้รีบวิ่งเข้ามา และพูดร้องตะโกนเสียงออกไปด้วยความตกใจ
ฝ่าย จง ฮว่าฟง ที่ได้เห็น คุณแม่จง ก็ได้รีบพูดไปว่า : “แม่ พวกมันขโมยเบอร์นั่นของผมไปแล้ว!”
คุณแม่จง ก็ได้สงสัย : “เบอร์อะไร?”
จง ฮว่าฟง ได้กล่าวว่า : “เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งได้ให้ผมมา เขาบอกว่าถ้า เลาลิ่ว ยังรังแกผมอีก ก็ให้โทรไปหาเขา และพวกนี่มันก็เลยกลัวว่าผมจะโทรไปหาเขา จึงได้บุกเข้ามาแย่งเบอร์โทรนี้จากผมไป ในขณะที่ผมไม่ทันได้ระวัง!”
เมื่อนั้น คุณแม่จง ก็ได้เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเองก็ได้โกรธอย่างมาก และชี้นิ้วไปดุด่า เลาลิ่ว ออกไปทันทีว่า : “พวกแกนี่ไร้ยางอายจริงๆ ทำแบบนี้ได้อย่างไร รีบๆ เอาของของพวกเราคืนมา!”
เลาลิ่ว ได้พูดว่า : “คืนให้คุณ.. นี่คุณกำลังหมายถึงเบอร์นี้ หรือว่า โกดัง?”
คุณแม่จง ก็ได้พูดว่า : “คืนมาให้หมด ของพวกนี้มันเป็นของพวกเรา!”
เลาลิ่ว ได้พูดขึ้นทันทีว่า : “หญิงชราที่ใกล้จะลงโลงอย่างคุณ ..นี่ไม่ใช่ว่าเลอะเทอะงั้นหรือ? โอเค.. มาๆ เรามาพูดถึงเรื่องโกดังก่อน คุณจำไม่ได้หรือว่า ..นี่ คือสิ่งที่สามีของคุณที่ตอนนี้ตาย และคงกลายเป็นผีไปแล้ว ได้ให้สัญญากับฉันเองในปีนั้น ทั้งนี้เขาเองก็ไม่ได้บอกว่าจะให้ฉันคืนให้กับเขาเมื่อไหร่ ดังนั้นหากพูดโดยปริยายแล้ว ฉันสามารถใช้มันได้ตลอด ..อย่างถาวร แล้วการที่พวกคุณมาถามหาเรื่องนี้จากฉัน นี่มันไม่ใช่ว่าเรียกได้ว่า ..ไร้เหตุผล และไร้ยางอายเกินไปหน่อยหรือ? เฮ้อ.. จริงๆ เลย พวกตระกูลจงอย่างพวกคุณนี่มันอะไรกัน ทําไมถึงได้ไร้ยางอายขนาดนี้ ได้!”
เมื่อได้ยินคําพูดที่ไร้ยางอายนี้ คุณแม่จง ก็ได้โกรธจนตัวสั่น
“แล้วก็ไอ้กระดาษชิ้นเล็กๆ นี้ และก็เบอร์นี้ คุณรู้ไหมว่ามันเป็นของใคร?” เลาลิ่ว ได้พูดต่อไปว่า : “ผู้ชายคนนั้น เขาสามารถกดฉันลงไปกับพื้นโดยใช้แค่นิ้วเดียวยังได้ แล้วการที่ลูกชายของคุณมีเบอร์โทรของเขา ฉันเองก็กลัวว่าเขาอาจจะคิดทําในสิ่งที่เขาต้องการได้ แล้วเช่นนี้ฉันจะยอมให้เขามาขี่หัว กดหัวฉันได้ยังไง! และก็นะ ..ฉันเองตอนนี้ ก็กําลังปกป้องสิทธิ และผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของฉันอยู่!”
จะเห็นได้ว่า เขา.. ดูเป็นกังวลเกี่ยวกับ หลินฟาน จริงๆ, แค่เห็นว่าเบอร์โทรของ หลินฟาน อยู่ในมือของ จง ฮว่าฟง แค่วันเดียว.. เขาก็แทบกินไม่ได้ นอนไม่หลับแล้ว ทั้งยังกลัว และไม่คิดกล้าทำอะไรกับ จง ฮว่าฟง
และถ้ามันเป็นอย่างนี้ต่อไป.. เขาเองก็คงทำได้แค่มอง จง ฮว่าฟง ออกไปฟ้องศาลด้วยตาปริบๆ ถ้าใช้วิธีทางกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เขาเองรู้ว่า ..ส่วนใหญ่แล้ว เขาจะต้องแพ้อย่างแน่นอน งั้นเขาเองจึงได้ต้องเลือกที่จะหยุด จง ฮว่าฟง และก็ต้องยึดเบอร์โทรของ หลินฟาน เอามาไว้ในมือ ..ให้ได้
ดังนั้นเขาจึงได้ออกไปหาผู้ช่วยเขา ..มาสักสองคน และพากันมา ฉวยโอกาสในตอนที่ บ้านตระกูลจง ..ไม่มีใครอยู่ในบ้าน และก็แอบเข้าไปข้างใน เขาเองได้คิดว่า จง ฮว่าฟง คงได้ให้ความสําคัญกับเบอร์โทรศัพท์ของ หลินฟาน มาก ทั้งนี้เขาก็จะต้องแอบซ่อนมันเอาไว้แน่ๆ ดังนั้น เขาจึงได้สั่งให้คนรื้อค้นหาให้ทั่ว แต่.. ก็ไม่พบ
หลังจากเห็น จง ฮว่าฟง กลับเข้ามา พวกเขาก็ได้เข้าจัดการกับ จง ฮว่าฟง แล้วกดเขาเอาไว้กับพื้น และในที่สุดก็ได้พบมันในตัวของ จง ฮว่าฟง
เลาลิ่ว เองก็ได้มีความสุขมากอยู่พักหนึ่ง มันดูราวกับว่าเขาได้ย้อนอดีตไปในวัยหกขวบ ในตอนนี้เขาเองจึงอดที่จะหัวเราะไม่ได้
“คิดจะเอาเบอร์นี้มาขู่ฉัน ไม่มีทาง!”
เลาลิ่ว ได้ยกยิ้ม เขาได้หยิบไฟแช็กออกมา และทําท่าว่าจะเผากระดาษชิ้นนี้
“แก.. มันไอ้สารเลว!”
คุณแม่จง ได้ตระหนักถึงความสำคัญของกระดาษชิ้นนี้ จึงได้รีบเร่งเข้าไป ในตอนนี้มันไม่สำคัญแล้วว่าเธอจะอายุมาก หรือมีร่างกายที่อ่อนแอเพียงใด นั่นก็เพราะเธอไม่คิดที่จะสนใจใดๆ ทั้งสิ้นแล้ว เธอเองได้รีบวิ่งกระโจนเข้าไปพัวพันแย่งชิงกระดาษชิ้นนั้นกับ เลาลิ่ว และพยายามที่จะแย่งกระดาษนั้นมาให้ได้
ผัวะ!
เลาลิ่ว ไม่มีแม้แต่ความเคารพคนชรา เขาได้ยกมือขึ้นแล้วตบไปที่หน้าของ คุณแม่จง อย่างรุนแรง แล้วได้พูดจาที่น่ารังเกียจออกไปว่า : “ไอ้แก่นี่.. หาเรื่องแล้วไหมล่ะ อีกสักป๊าบไหมหะ! แล้วนี่กล้าดียังไงจะมาแย่งของกู!”
คุณแม่จง ที่โดนตบหน้า ก็ได้ล้มฟุบลงไปกับพื้นทันที และ ..ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถลุกขึ้นมาได้สักพัก
“แม่!” จง ฮว่าฟง ก็ได้ตกใจมาก และเขาก็ได้โกรธอย่างมาก “เลาลิ่ว, ไอ้สั.. ไอ้สารเลว!, มึงมาตีแม่กูทำไม มึงมันยังเป็นมนุษย์อยู่อีกไหมหะ!, แม่มัน.. ไอ้สั..!”
เลาลิ่ว กลับหัวเราะ แล้วพูดว่า : “มีอะไรที่ฉันไม่กล้าต่อสู้ แล้ว.. ในที่นี่ใครมันมากล้าดีกับฉัน.. ฉันก็จะทุบตีมันให้หมดนั่นแหละ!”
เมื่อพูดจบ เลาลิ่ว ก็กลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก เลยได้เอาไฟแช็กขึ้นมาจุด แล้วใช้ไฟเผากระดาษชิ้นเล็กๆ นี่
จง ฮว่าฟง ก็ได้มองด้วยตาปริบๆ แต่เขาไม่สามารถหยุดยั้งอะไรอีกฝ่ายได้เลย ตัวเขาเองได้ถูกชายร่างใหญ่สองคนกดเอาไว้ แม้แต่จะขยับตัวก็ขยับไม่ได้
และในไม่ช้า กระดาษชิ้นนั้น ..ก็ได้กลายไปเป็นขี้เถ้า
เลาลิ่ว ดูพอใจมาก และได้วางแผนที่จะจากไป แต่ก่อนไปเขาก็ได้พูดขึ้นว่า : “เดี๋ยว.. ก่อน แกคงไม่ใช่ว่าเก็บเบอร์นี้เอาไว้ในโทรศัพท์ของแก หรอก ใช่ไหม?”
ขณะที่พูดอยู่นั้น เลาลิ่ว ก็ได้นั่งยองๆ ลง แล้วค้นหาโทรศัพท์บนตัวของ จง ฮว่าฟง และเขาก็ได้หยิบโทรศัพท์มือถือของ จง ฮว่าฟง ออกมา
“รหัสผ่านเครื่องนี้?” เลาลิ่ว ได้ถาม
แม้ว่า จง ฮว่าฟง จะเอาชนะพวกเขาไม่ได้ แต่เขาก็สามารถที่จะหุบปากได้ ดังนั้นเขาจึงปิดปากของตัวเองเอาไว้แน่น และไม่ได้ตั้งใจคิดที่จะบอก เลาลิ่ว
เลาลิ่ว ก็ได้หัวเราะ และได้เดินเข้าไปหา คุณแม่จง เมื่อนั้นเท้าข้างหนึ่งของเขาก็ได้ยกขึ้น และทําทีท่าว่าจะเหยียบไปที่ร่างของ หญิงชรา..
“เอาล่ะ.. ฉันจะถามแกอีกครั้ง รหัสเปิดเครื่องนี้คือ?” เลาลิ่ว ได้กล่าวขึ้น
เมื่อ จง ฮว่าฟง เห็นว่าเขาได้ใช้แม่มาขู่เขา เขาก็ได้โกรธอย่างมาก แต่ก็ทําอะไรไม่ได้ เลยได้บอกรหัสไปให้กับ เลาลิ่ว
เลาลิ่ว ก็สามารถเปิดโทรศัพท์ของ จง ฮว่าฟง สำเร็จ และได้รีบค้นดูก็ไม่พบหมายเลขเบอร์โทรศัพท์ของ หลินฟาน เมื่อนั้นเขา ..จึงรู้สึกวางใจได้แล้ว
เลาลิ่ว ก็ได้กลับไปที่ จง ฮว่าฟง แล้วก็ได้นั่งลงยองๆ เมื่อนั้นเขาก็ได้เอื้อมมือไปตบหน้า จง ฮว่าฟง : “ข้อเท็จจริงนี้ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า แก.. ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน.. ดังนั้นแกมันควรที่จะยอมแพ้ไปซะ และฉันก็จะบอกแกให้รู้เอาไว้ว่า หมู่บ้านนี้.. ทั้งหมด มันเต็มไปด้วยคนของฉัน ในตอนนี้ แกเองก็ควรที่จะซื่อสัตย์กับฉันหน่อย หาก.. ถ้าแกเกิดกล้าทําอะไรบุ่มบ่ามขึ้นมาอีกล่ะก็.. ฉันก็จะทุบตีแกให้ตาย และตีแม่ของแกด้วย โอ้วว ใช่ๆ ฉันลืมภรรยาของแกไปได้ยังไง คิดให้เยอะๆ คิดเผื่อพวกเขาไว้.. และก็จง ซื่อสัตย์กับฉัน!”
หลังพูดจบ เลาลิ่ว ก็ได้ยัดโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋าเสื้อของ จง ฮว่าฟง แล้วก็ลุกขึ้น พยักหน้าให้กับชายร่างใหญ่สองคน แล้วก็ได้พาชายร่างใหญ่สองคนออกไป
จนถึงตอนนี้ เลาลิ่ว ก็ได้คิดว่า ..ในที่สุดเขาก็แก้ปัญหาของ จง ฮว่าฟง ไปได้แล้ว และเชื่อว่าการต่อสู้ครั้งนี้ อีกฝ่ายจะไม่กล้ามายุ่งวุ่นวายกับเขาอีกต่อไป
และแน่นอน จง ฮว่าฟง ที่ได้ถูกแม่ และภรรยาของเขาโน้มน้าว พอหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ออกไปจากบ้านแม้แต่วันเดียว
แต่พอถึงเช้าวันนี้ จง ฮว่าฟง ก็ทนความโกรธแค้นนี้ไม่ไหวอีกต่อไป เขาจึงได้ตัดสินใจเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับ เลาลิ่ว ต่อ แต่ก็ได้คิดเผื่อไว้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง จง ฮว่าฟง จึงได้พกมีดติดตัวไปด้วยเพื่อป้องกันตัว, มาตอนนี้เขาไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของ หลินฟาน แล้ว และไม่รู้ว่าจะไปหา หลินฟาน ได้ที่ไหน ดังนั้น.. ในตอนนี้เขาก็คงทำได้แต่ป้องกันตัวเอง
ดังนั้น จง ฮว่าฟง จึงได้แอบออกจากบ้าน
แต่เขาเองก็หารู้ไม่ว่า เลาลิ่ว ไม่ได้พูดโกหกเขา เขาเองได้จัดคนคอยจ้องมองดูความเคลื่อนไหวของบ้านตระกูลจง มาโดยตลอด พอเมื่อ จง ฮว่าฟง ออกไปจากบ้าน เขาก็ได้ถูกคนของ เลาลิ่ว โทรไปรายงานในทันที
เลาลิ่ว ที่ได้รู้ข่าว ก็ได้โกรธอย่างมาก ทำไม จง ฮว่าฟง คนนี้ ถึงได้ยังไม่คิดที่จะยอมแพ้ไป พอเป็นเช่นนี้ นี่มันก็น่ารำคาญจริงๆ
ดังนั้น เลาลิ่ว จึงได้รีบมาหยุด จง ฮว่าฟง ด้วยความโกรธ ทั้งสองฝ่ายจึงได้พบกันบนถนนที่ทางเข้าหมู่บ้าน
จง ฮว่าฟง ที่ได้เก็บงำความแค้นต่อ เลาลิ่ว มานานนั้น เมื่อนั้นเขาก็ไม่สามารถควบคุมสติอารมณ์ของตัวเองได้อีกต่อไป และนั่นก็ทำให้เขาได้ชักมีดออกมาจากเอว และแทงมีดออกไป...