ตอนที่ 19 ไอ้แมงมุม
หลังมื้อเย็น
ทั้งสองก็กลับเข้ามาในค่ายอีกครั้ง
มินโฮถือคบเพลิง และมองไปรอบๆ ค่ายที่เงียบสงัด- และไร้วี่แววสิ่งมีชีวิต
“มินโฮไปทางนั้น เดียวฉันจัดการทางนี้ เสร็จแล้วกลับมาเจอกันตรงกลางค่าย”
มู่เหลียงเองก็ถือคบเพลิงด้วยเช่นเดียวกัน ก่อนที่จะพูดต่อ
“เดียวเสี่ยวไกจะตามมินโฮไปด้วย”
“ได้เลย”
มินโฮรู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อมีเสี่ยวไกติดตามมาด้วย
“มินโฮ ไม่ต้องก่อกองไฟเยอะนะ”
มู่เหลียงเตือนอีกครั้ง
“รู้แล้วน่า”
มินโฮพยักหน้าก่อนจะเดินถือคบเพลิงไปอีกทาง
“เด็กน้อยคนนี้ ใจถึงว่าง่ายจริงๆ”
มู่เหลียงมองไปยังมินโฮด้วยสายตาที่ชื่นชม เด็กน้อยคนนี้มีความเด็ดเดี่ยวไม่ต่างจากผู้ใหญ่คนหนึ่ง
มู่เหลียงเดินไปอีกทางและเข้าไปในกระท่อมไม้บางหลังเพื่อก่อกองเพลิง
และฟืนก็ใช้จากเศษไม้ที่เหลือจากการรื้อบ้านมาเป็นเชื้อเพลิง
จากนั้นก็รอแค่ให้สายของโจรที่จะมาถึงได้เห็นสภาพของค่าย และรีบกลับไปรายงานเรื่องนี้
เมื่อไรที่พวกโจรเคราโลหิตติดกับ ก็มีแต่ฝุ่นเท่านั้นที่ให้พวกมันไล่ล่า
เวลาผ่านไปกองไฟยิ่งจุดเพิ่มมากขึ้น
“บ้านนี้ไม่มีคนอยู่นานแล้ว….”
มู่เหลียงเดินถือคบเพลิงเข้ามาในบ้านหลังหนึ่งที่เต็มไปด้วยฝุ่นและหยากไย่
เขาชะงักทันทีเมื่อเห็นแมงมุมตัวหนึ่งที่ห้อยลงมาจากมุมห้อง
“ถ้าจำไม่ผิดเรามี 10 แต้มของวันนี้ที่ยังไม่ได้ใช้ จะปล่อยมันเสียเปล่าไปดีหรือเลี้ยงแมงมุมตัวนี้ดี”
มู่เหลียงเอื้อมมือไปจับแมงมุมเอาไว้ ก่อนที่จะเกิดเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นในใจ
-ติ๊ง!! ตรวจพบสัตว์ที่ฝึกฝนเลี้ยงได้ ต้องการฝึกฝนหรือไม่-
มู่เหลียงตอบอย่างไม่สนใจเท่าไร
“เริ่มฝึก”
-ใช้แต้มฝึกฝน 10 แต้ม ทำการฝึกฝนแมงมุมผีแดงระดับ 0-
-ติ๊ง! ใช้ 10 แต้ม ในการฝึกฝนแมงมุมผีแดง-
มู่เหลียงแบมือออก และเห็นว่าตัวของแมงมุมจากขนาดเท่านิ้วก้อยก็ขยายใหญ่ขึ้นจนเต็มฝ่ามือของเขา
มันได้เผยลักษณะเด่นของมันคือตัวที่มีสีดำ แต่มีปลายขา และขอบลำตัวเป็นสีแดง
และที่เด่นชัดกว่าอะไรเลยคือมีลวดลายสีแดงคล้ายหน้าคนบนหลังของมัน
-ติ๊ง! ต้องการสืบทอดพลังมาจากแมงมุมผีแดง และรับทักษะ ใยแมงมุมวิญญาณหรือไม่-
“รับ”
มู่เหลียงตอบอย่างไม่คิดอะไรเลย เขาสนใจแค่ความสามารถใหม่ที่จะได้รับ
-ทำการถ่ายทอดความสามารถสู่ร่างเจ้านาย ได้รับความสามารถ ใยแมงมุมวิญญาณ-
มู่เหลียงรู้สึกร้อนๆ ที่ปลายนิ้วเล็กน้อย และลามไปถึงฝ่ามือของเขา
“เป็นเพราะร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นรึป่าวทำให้รู้สึกไม่ค่อยชัดเจนเหมือนก่อนหน้านี้”
มู่เหลียงคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและรู้สึกสงสัย
เขาเรียกดูค่าสถานะ และพบว่าค่าสถานะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นหลังจากได้รับการสืบทอดพลังจากแมงมุมผีแดง
“ระบบเพิ่มระดับให้แมงมุมผีแดงถึงระดับ 3 ที”
เพื่อจะยืนยันเรื่องนี้มู่เหลียงต้องลองวิวัฒนาการแมงมุมผีแดงนี้ไปถึงระดับ 3 ดู
-ติ๊ง! หากต้องการวิวัฒนาการแมงมุมผีแดงจากระดับ 1 ไป 3 จำเป็นต้องใช้แต้มทั้งหมด 110 แต้ม-
“ยืนยัน”
-แมงมุมผีแดงได้รับการวิวัฒนาการเป็นระดับ 3 -
-ทักษะแมงมุมผีแดงเป็นระดับ 3 วิวัฒนาการทักษะเป็นถักทอใยแมงมุม-
-ทำการถ่ายทอดความสามารถสู่ร่างเจ้านาย ได้รับความสามารถถักทอใยแมงมุมระดับ 3-
ครั้งนี้มู่เหลียงรู้สึกได้ถึงกระแสน้ำอุ่นที่ไหลผ่านร่างอีกครั้ง แต่ถึงอย่างงั้นค่าสถานะต่างๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก
ผู้ฝึก : มู่เหลียง
ถึกทน 24
ว่องไว 23.5
กำลัง 24.2
ปราณ 35
อายุขัย 24 / 450 ปี
แต้มฝึกฝน 0 (คืนค่าทุกวัน และสะสมได้)
แต้มวิวัฒนาการ 109
ความสามารถ พสุธาถล่มระดับ 3 ลอบเร้นระดับ 3 กายมนุษย์ระดับ 1 ถักทอใยแมงมุม 3
…..
สิ่งที่ฝึกฝน เต่าหิน(ระดับ 3) ทักษะ พสุธาถล่มระดับ 3
กิ้งก่าสามสี(ระดับ 3) ทักษะ ลอบเร้นระดับ 3
แมงมุมผีแดง(ระดับ 3) ทักษะ ถักทอใยแมงมุม 3
…..
“ชัดเจนแล้วว่ามันมีข้อจำกัดในการเสริมพลังอยู่”
มู่เหลียงได้ดูค่าสถานะของเขา และรู้แล้วว่าหากเป็นสัตว์อสูรฝึกเลี้ยงระดับต่ำ หรือในระดับเดียวกันมีข้อจำกัดอยู่
เขาดึงสติกลับมาแล้วสนใจแมงมุมผีแดง ที่ตอนนี้มันได้ห้อยตัวอยู่กับแขนของเขา
“แก…ลงไปก่อนได้ไหม?”
มู่เหลียงพูดขึ้นพร้อมกับมุมปากที่ยกสูงแปลกๆ
ก็เพราะตอนนี้แมงมุมผีแดงนั้นตัวใหญ่ถึง 1 เมตร ทำให้เขารู้สึกกลัวเล็กน้อย
จี้….
แมงมุมผีแดงพ่นใยออกไปเกาะที่มุมหนึ่งของบ้าน และไต่ไปตามกำแพงอย่างง่ายดาย
จี้…..
มู่เหลียงก็ลองทำตามดู เขาชี้นิ้วออกไป ก่อนที่จะมีใยพุ่งออกมาจากนิ้วของเขาไปติดกับกำแพงบ้าน
ใยที่พ่นออกมานั้นสีใส และลุกติดไฟได้ง่าย
“เรารู้สึกได้ถึงน้ำหนัก และขนาดทิศทางของใยพวกนี้ได้หมดเลย”
ความสามารถใหม่ที่มู่เหลียงได้รับมาจากแมงมุมผีแดงนั้น ทำให้นิ้วของเขารู้สึกแปลกๆ ไปด้วย
“ทั้งเหนี่ยว และทนทาน ดีกว่าเชือกเป็นไหนๆ”
“ความเหนียวของใยพวกนี้เกิดจากเส้นใยเล็กๆ มัดรวมกัน ยิ่งทนต่อแรงดึง”
“และตัวใยก็โปร่งแสง เหมาะมากที่จะเอาไว้ทำกับดักสัตว์หรือสัตว์อสูร”
หลังจากที่ทดลองพลังเล็กน้อย มู่เหลียงก็คิดวิธีการใช้ประโยชน์จากใยนี้ได้มากมาย
เขาเงยหน้าขึ้นมองไปยังแมงมุมผีแดงที่ไต่อยู่บนเพดาน และคุยกับมันผ่านกระแสจิต
“ต่อจากนี้แกมีชื่อว่าเซียวหง แล้วฉันมีงานให้แกทำ ไปชักใยไว้รอบๆ นอกค่าย และหากว่ามีอะไรเคลื่อนไหว ให้แกรีบกลับมาบอกฉันทันที”
แคร็ก
แมงมุมผีแดงขูดผนังหนึ่งครั้งเพื่อแสดงว่ามันเข้าใจสิ่งที่มู่เหลียงพูด
แล้วมู่เหลียงก็ออกคำสั่งเพิ่มอีกเล็กน้อย
“หากเจอคนไม่ต้องจับ ให้กลับมาบอกฉันพอ”
มันคงไม่ดีแน่หากว่าเซียวหงจับสายของโจรกลับมาให้เขา มันจะทำให้แผนที่วางเอาไว้ล้มทั้งหมด
จี้!!
เซียวหงพ่นใยและโหนตัวเองออกไปจากบ้าน และยิงใยไปเกาะบ้านอีกหลังก่อนที่จะโหนตัวต่อไป ราวกับมันบินได้
“สไปเดอร์แมน…งั้นหรอ??”
มู่เหลียงกระพริบตาหลายครั้ง และอยากลองทำแบบนั้นดูบ้าง
เขามองไปยังคบไฟที่อยู่ในมือ ก่อนที่จะหยุดความคิดที่จะทำตัวเป็นสไปเดอร์แมนเพื่อนบ้านที่แสนดีจากหนังซุปเปอร์ฮีโร่ค่ายดัง
เขาเดินออกไปก่อกองไฟต่อไป
“มู่เหลียง!?”
เสียงที่ดูประหม่าของเด็กสาวดังขึ้นจากที่ไม่ไกล
“ใช่ ฉันเอง”
มู่เหลียงตอบก่อนที่จะเดินไปหาต้นเสียงนั้น
“เดี๋ยวแปบหนึ่งนะ ฉันอยู่หลังถัดไปนี้เอง”
มินโฮวิ่งเหยาะๆ ออกมาและเข้ามาหามู่เหลียงด้วยท่าทางโล่งอก
“รีบจัดการให้เสร็จแล้วกลับบ้านกันเถอะ”
มู่เหลียงมองดูหูกระต่ายของมินโฮที่กระดิกไปมาอีกครั้ง ดูเหมือนเธอจะไม่ระวังตัวแล้ว?
“อื้อ!”
มินโฮพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง
ไม่ถึงสิบนาที ทั้งสองก็จุดกองไฟไปทั่วค่าย
ก่อนที่ทั้งสองจะเดินข้างกันในความมืด เพราะคืนนี้เป็นคืนเดือนดับทำให้ทุกอย่างมืดไปหมด แม้แต่ดวงดาวบนฟ้าก็ยังไม่มีให้เห็น
“รีบกลับกันเถอะ อากาศเริ่มหนาวแล้ว!”
มู่เหลียงได้ยินเสียงหอบหายใจที่หนาวสั่นของมินโฮ
เขาจึงยื่นมือออกไปจับมือของมินโฮเอาไว้ และวิ่งไปหาเต่าทมิฬ
“อื้อ….”
มินโฮเพียงขานรับและวิ่งตามไป พร้อมกับมุมปากที่ยิ้มออกมาน้อยๆ โดยที่เธอไม่รู้ตัว พร้อมกับมือของเธอที่ถูกกุมไว้แน่น