บทที่ 207: พาลูกไปขุดผลไม้ดิน
“ข้าจะไปช่วยพี่ใหญ่ดูแลเสี่ยวเหยา” หลงเซียวพูดจบแล้วก็เดินตามหลงอวี้ไป
พอหลงจงได้เห็นอย่างนี้ ใบหน้าของเขาก็มืดลง
ทำไมทุกคนต้องหาเหตุผลที่จะไปกับท่านแม่ด้วย!
“ข้าจะไปด้วย!” เขารีบร้อนพูดเพราะกลัวจะตามไม่ทันและถูกทิ้งให้อยู่บ้านเพียงลำพัง จากนั้นเขาก็หน้าแดงพร้อมอธิบายแบบคนร้อนตัวว่า “ข้าจะไปช่วยท่านผู้เฒ่าขุดผลไม้ดิน…”
ทางด้านหูเจียวเจียวมองดูลูกน้อยทั้ง 5 แล้วแอบขำ “เอาล่ะ ถ้าพวกเจ้าอยากไปก็ไปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ แม่จะไปหาเครื่องมือให้”
การที่ลูก ๆ เอ่ยปากอยากมีส่วนร่วมในการช่วยทำงานมันเป็นเรื่องที่ดี เธอจึงไม่ปฏิเสธให้เด็กเสียกำลังใจ
ถัดมา แม่จิ้งจอกแสร้งทำเป็นเข้าไปในบ้านเพื่อหยิบจอบเล็ก ๆ ที่เด็กสามารถใช้ได้ออกมาจากมิติ จากนั้นเธอก็ส่งมันให้เด็กทุกคนที่รออยู่ข้างนอก
ในเวลาเดียวกัน หยินชางยืนเงียบ ๆ อยู่ที่มุมห้องพลางมองดูครอบครัวอบอุ่นนี้
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าหูเจียวเจียวใจดีกับตนมาก แต่เมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว เขาก็ยิ่งอยากเก็บตัวอยู่เงียบ ๆ เพราะกลัวจะไปรบกวนอีกฝ่าย
จังหวะที่เด็กหนุ่มกำลังจะหาอะไรทำเพื่อเป็นการเลี่ยงออกไปจากสถานการณ์นี้ อยู่ดี ๆ เขาก็รู้สึกว่าเสื้อผ้าของตัวเองถูกบางอย่างดึงรั้งเอาไว้
หยินชางหันกลับไปมองก่อนจะเห็นหลงหลิงเอ๋อยืนยิ้มหวานให้เขา แล้วนางก็หันกลับไปพูดกับแม่จิ้งจอกว่า
“ท่านแม่ เราพาหยินชางไปด้วยได้ไหม?”
ขณะนี้หูเจียวเจียวกำลังแจกจ่ายจอบขนาดเล็กให้กับลูก ๆ และยังคงถือจอบอันที่ใหญ่กว่าเอาไว้ในมือ จากนั้นเธอหันไปมองที่เด็กตัวโตพลางเอ่ยถามว่า “หยินชาง เจ้าอยากไปกับเราไหม?”
ก่อนหน้านี้จิ้งจอกสาวก็คิดเอาไว้ว่าจะชวนหยินชางไปด้วยกัน
ในวันที่ 3 หลังจากหยินชางย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านตระกูลหลง หลงโม่ก็จัดการสร้างเตียงคั่งเสร็จ อีกทั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะและเก้าอี้ก็เสร็จในเวลาไล่เลี่ยกัน เวลาต่อมา หูเจียวเจียวก็บอกให้เขาย้ายเข้ามาพักในห้องชั้น 1 ที่ดัดแปลงมาจากโกดังเก็บของ
เนื่องจากห้องของเด็กหนุ่มใหญ่กว่าห้องของเด็กตระกูลหลง ดังนั้นหลงเหยาจึงชอบขอไปเล่นที่ห้องของเขาเสมอ ซึ่งเด็กทั้ง 2 ก็เข้ากันได้ดีทีเดียว
ทว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา หยินชางเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องโดยไม่ได้ออกไปไหน นอกจากจะออกมาช่วยจิ้งจอกสาวทำงาน
ความกังวลเพียงอย่างเดียวของหูเจียวเจียวก็คือ เขาไม่ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับภูตคนอื่น รวมถึงพวกเด็ก ๆ ซึ่งทำให้เขายิ่งปลีกตัวออกจากผู้คนมากกว่าเดิม
ภูตก็เหมือนกับมนุษย์ที่ต้องสื่อสารกับโลกภายนอก หากพวกเขาปิดขังตัวเอง จิตใจของพวกเขาก็จะบิดเบี้ยวตามไปด้วย
ก่อนหน้านี้หญิงสาวยุ่งมาก ในเมื่อตอนนี้เธอว่างแล้ว เธอจึงวางแผนที่จะพาหยินชางและลูกทั้ง 5 ไปเดินเล่นรอบ ๆ เผ่าให้มากขึ้น
ขณะนี้เด็กที่โตที่สุดในบ้านยังคงทำหน้านิ่ง เขาชี้มือเข้าหาตัวเองแล้วชี้ไปที่บ้านหิน ซึ่งหมายความว่าเขาสามารถอยู่บ้านเพื่อดูแลบ้านให้พวกเธอได้
อาจเป็นเพราะหยินชางรู้ว่าภูตพวกนั้นจะนินทาอะไรในตอนที่พวกเขาเห็นตนเอง
ตอนนี้เขาไม่มีความรู้สึกว่าอยากจะออกไปพบเจอภูตคนอื่น ๆ ในเผ่าเลยสักนิด
ส่วนหูเจียวเจียวคาดการณ์เอาไว้แล้วว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธ
“ถ้าอย่างนั้นเจ้า...” เธอถอนหายใจและกำลังจะพูดตอบรับ
แต่จู่ ๆ เสียงใสของหลงหลิงเอ๋อก็ดังขัดขึ้นมาเสียก่อน
“ไปเถอะน่า ไปด้วยกัน! อยู่บ้านคนเดียวน่าเบื่อแย่ เสี่ยวเหยาชอบอยู่กับเจ้าที่สุด ดังนั้นเจ้าควรไปกับเขา!”
ในระหว่างที่เด็กสาวพูด นางหันไปขยิบตาให้น้องชายคนเล็ก แถมยังข่มขู่ผ่านทางสายตาสำทับไปอีก
อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าหยินชางแอบเอาอาหารให้เจ้าทุกวัน ถ้าเจ้าไม่พาเขาไปกับเจ้าวันนี้ ข้าจะฟ้องท่านแม่!
สายตาคมกริบของพี่สาวทำให้หลงเหยายืนตัวแข็งทื่อ ก่อนที่ขาป้อมสั้นจะวิ่งไปกอดต้นขาของพี่ชายคนใหม่ และชักชวนให้เขาไปด้วยกัน
“ท่านพี่ ไปด้วยกันเถอะนะ~”
เสียงออดอ้อนที่หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งดังขึ้น
หยินชางก้มลงมองเจ้าตัวเล็กที่กำลังกอดต้นขาตน แต่ความสนใจของเขากลับเพ่งไปยังมือของสาวน้อยที่ยังคงจับชายเสื้อเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ
แล้วเด็กหนุ่มก็พยักหน้ารับเหมือนคนโดนสะกดจิตครั้งแล้วครั้งเล่า
คำตอบที่ตรงใจทำให้ดวงตาของหลงเหยาเป็นประกาย จากนั้นเขาก็ปล่อยมือก่อนจะวิ่งไปเอาจอบของตัวเองทันที
ถัดมา เจ้ามังกรน้อยแบกจอบเล็ก ๆ ไว้บนบ่าด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างเท้าสะเอวเอาไว้ แล้วเขาก็ประกาศด้วยน้ำเสียงเล็กแหลมว่า
“ไปขุดผลไม้ดินกัน!”
เวลาผ่านไปไม่นาน ในที่สุดจิ้งจอกสาวก็มาถึงทุ่งปลูกมันฝรั่งพร้อมกับเด็ก 6 คนที่กำลังถือจอบไว้ในมือคนละอัน
ในตอนนี้หูหมินกับหู่จิงก็มาถึงที่ทุ่งปลูกมันฝรั่งแล้วเช่นกัน พอทั้ง 2 คนเห็นหูเจียวเจียวเดินเข้ามาหา ใบหน้าของผู้เป็นแม่ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
นางโบกมือให้ลูกสาวเพียงหนึ่งเดียวทันที “เจียวเจียว ทางนี้”
ทางด้านหูเจียวเจียวพาลูก ๆ เดินไปหาพวกนาง แต่หูหมินกลับคว้ามือซ้ายของเธอไว้แล้วดึงเธอเข้าไปใกล้ “เจียวเจียว เจ้ามานั่งพักข้างแม่ก่อน เดี๋ยวแม่จะช่วยเจ้าขุดผลไม้ดินเอง เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”
ส่วนหู่จิงก็พยักหน้าพลางตบหน้าอกของตัวเองแรง ๆ “เจ้าร่างกายอ่อนแอ ปล่อยเรื่องใช้แรงแบบนี้ให้ข้าทำเถอะ”
ตอนนี้เสือสาวกับหูชิงหยวนได้กลายเป็นคู่กันแล้ว
นางถือว่าตนเองเป็นคนของตระกูลหู ดังนั้นนางควรปฏิบัติต่อหูเจียวเจียวเป็นอย่างดี
“ท่านแม่ หู่จิง พวกท่านกำลังทำอะไรกัน ข้าไม่ได้พิการซะหน่อย” จิ้งจอกสาวทำตัวไม่ถูกกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของหู่จิง
และไม่ว่าหญิงสาวจะอายุเท่าไหร่ หูหมินก็ยังถือว่าเธอเป็นเด็กที่ต้องได้รับการดูแลอยู่ตลอดเวลา
ถึงแม้ว่าแม่จิ้งจอกวัยกลางคนจะปฏิบัติเช่นนี้กับตน ทว่าจิ้งจอกสาวก็คุ้นชินกับมันมาสักพักแล้ว แต่ไฉนหู่จิงดันไปติดเชื้อจากนางมาอีก ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้เจออีกฝ่ายแค่ไม่กี่วันเท่านั้น
“แม่เป็นห่วงลูกมาก เห็นไหมว่าช่วงนี้ลูกยุ่งจนผอมลงอีกแล้ว” หูหมินมองลูกสาวด้วยสายตาสงสาร
“ท่านแม่ ข้าผอมลงตรงไหน ข้าก็เป็นแบบนี้ตลอดไม่ใช่หรือ?”
เมื่อหูเจียวเจียวเผชิญกับการพูดเกินจริงของคนเป็นแม่ เธอก็ทำอะไรไม่ถูก
โดยธรรมชาติภูตจิ้งจอกมีหน้าตาหล่อเหลาสวยงามและมีรูปร่างที่น่าหลงใหล อีกทั้งไขมันบนตัวของพวกเขาก็น้อยนิด ต่อให้บางคนจะมีกินมีใช้ไม่ขาดมือแล้วทำตัวเกียจคร้าน แต่พวกเขาก็ยังมีรูปร่างผอมเพรียวอยู่เหมือนเดิม
ไม่นานมานี้ หูเจียวเจียวทำงานยุ่งจนหัวหมุนทุกวัน ไขมันในร่างกายของเธอจึงถูกเผาผลาญไปเกือบหมด รวมถึงกล้ามเนื้อก็กระชับขึ้น นั่นยิ่งทำให้เธอมีรูปร่างที่ผอมกว่าเดิม ซึ่งมันไม่ได้เกินจริงอย่างที่หูหมินพูดเลย
ทางด้านหู่จิงชำเลืองมองแขนของจิ้งจอกสาวที่บางจนถ้าออกแรงเล็กน้อย นางก็สามารถหักมันได้ แล้วพูดแย้งขึ้นมาว่า “เจียวเจียว เจ้าผอมมากจริง ๆ”
จากนั้นเสือสาวก็อวดกล้ามเนื้อแขนข้างหนึ่งที่เกือบแข็งแรงพอ ๆ กับแขนทั้ง 2 ข้างของหูเจียวเจียว
ต่อมา นางบีบเอวเล็กของจิ้งจอกสาวเบา ๆ ด้วยมือทั้ง 2 ข้าง พลางเทียบกับกล้ามหน้าท้องของตัวเอง
นั่นทำให้มุมปากของหูเจียวเจียวกระตุก
นางจะเอาเธอไปเทียบกับตัวเองแบบนั้นไม่ได้!
หู่จิงเองเป็นถึงภูตเผ่าเสือโคร่ง ร่างมนุษย์ของนางจึงแข็งแกร่งกว่าภูตหญิงทั่วไป และรูปร่างหน้าตาก็ดูดุมากกว่าคนอื่น จากสายเลือดที่ทรงพลัง เส้นกล้ามเนื้อบนร่างกายของนางก็สวยมากเช่นกัน ซึ่งมันไม่ใช่กล้ามเนื้อที่มองแล้วน่ากลัวเลยสักนิด
หากจะพูดให้ถูก นางเป็นตัวละครที่แข็งแกร่งพอที่จะถูกวางตัวมาเพื่อจัดการกับนางร้ายของนิยายอย่างหูเจียวเจียวโดยเฉพาะ ทำให้ผู้คนรู้สึกว่านางเป็นแม่เสือสาวจอมพลัง
อันที่จริงหากหู่จิงซึ่งมีรูปร่างเช่นนี้เกิดในยุคปัจจุบัน นี่เป็นหุ่นของคนที่มีสุขภาพดีที่สาว ๆ หลายคนใฝ่ฝัน
จากนั้นเสือสาวก็พูดอีกไม่กี่คำ ก่อนที่ทั้ง 3 คนจะเริ่มลงมือขุดผลไม้ดิน
ภูตหญิงแต่ละคนได้รับตะกร้าเปล่าที่สานด้วยไม้หวาย และงานจะเสร็จสิ้นก็ต่อเมื่อผลไม้ดินเต็มตะกร้า 2 ใบ
ตะกร้า 1 ใบสามารถใส่มันฝรั่งได้ประมาณ 120 กิโลกรัม ใน 1 วันทุกคนสามารถขุดมันฝรั่งรวมกันได้อย่างน้อย 2,500 กิโลกรัม ถ้าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ มันฝรั่งในทุ่งจะถูกเก็บเกี่ยวจนหมดภายในเวลาไม่ถึง 4 วัน
ขณะเดียวกัน ลูก ๆ ของหูเจียวเจียวก็ปักหลักอยู่ด้านข้างผู้เป็นแม่แล้วเริ่มขุดผลไม้ดินขึ้นมา
ยามนี้หยินชางและเด็กตระกูลหลงทั้ง 4 คนกำลังทำงานอย่างหนัก แม้ว่าแต่ละคนจะใช้จอบขนาดเล็ก แต่พวกเขาก็สามารถขุดผลไม้ดินกอใหญ่ขึ้นมาได้ด้วยการลงจอบ 2-3 ครั้ง
มีเพียงหลงเหยาเท่านั้นที่นั่งลงกับพื้นพลางใช้จอบน้อยขุดพื้นเหมือนมีดขูดน้ำแข็งอยู่นานกว่าจะขุดผลไม้ดินออกมาได้สักหัว
ครู่ต่อมา เขาหันหน้าไปมองพวกหลงอวี้ เมื่อเห็นว่าพี่ ๆ ทั้ง 5 ขุดผลไม้ดินออกมาได้มากกว่า 1 ผล เขาก็รู้สึกกังวลขึ้นมา
ในหัวน้อย ๆ นั้นคิดว่าจอบเล็กไม่จำเป็นอีกแล้ว เขาจึงโยนมันทิ้งไปข้างหลัง ก่อนจะนั่งลงหน้าต้นผลไม้ดินแล้วเริ่มใช้ 2 มือตะกายดินขึ้นมา
จนในที่สุดผลไม้ดินก็เผยออกมาให้เห็นมากกว่าครึ่งหนึ่ง และหลงเหยาก็กำต้นผลไม้ดินเพื่อดึงมันขึ้นมาจากดิน
“ฮึบ! เจ้าผลไม้ดิน ออกมาเร็วเข้า…”
เจ้าตัวเล็กออกแรงสุดกำลังจนใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง
ทันใดนั้นดินในทุ่งก็คลายออกและผลไม้ดินก็ถูกดึงออกมา ก่อนที่หลงเหยาจะมีความสุขที่สามารถดึงผลไม้ดินขึ้นมาได้ เขาก็เซถอยหลังไปหลายก้าว
ผลั่ก!
เด็กน้อยถอยไปเหยียบจอบเล็ก ๆ ที่ตนเพิ่งขว้างไปข้างหลัง
“!!”