บทที่ 206: กลับไปนอนฝันเอาเถอะ!
ปัจจุบันผลไม้ดินในทุ่งโตเต็มที่แล้ว!
หูเจียวเจียวขุดมันฝรั่งขึ้นมา 2 ต้นและพบว่าขนาดของมันฝรั่งที่ปลูกในเผ่านั้นใหญ่กว่ามันฝรั่งที่โตในป่า 2-3 เท่า และจำนวนมันฝรั่งต่อต้นก็มากกว่ามันฝรั่งป่าหลายเท่าเช่นกัน
อาจเป็นเพราะมีการใช้เมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงจากในมิติ มันฝรั่งที่ปลูกไว้จึงเยอะเกินความคาดหมายของหญิงสาว
“เจียวเจียว นี่…นี่คือผลไม้ดินจริง ๆ หรือ?” หัวหน้าเผ่าตกใจเมื่อเห็นขนาดของผลไม้ดินที่ถูกขุดออกมา
“แน่นอนว่ามันเป็นผลไม้ดิน” จิ้งจอกสาวยิ้มอย่างพึงพอใจ
การทำงานหนักตลอด 3 เดือนที่ผ่านมานั้นไม่สูญเปล่า ตอนนี้เผ่ามีอาหารเพียงพอหรือมีมากเกินพอสำหรับฤดูหนาวในปีนี้ด้วยซ้ำ ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นกับเผ่ามาก่อน
เหล่าภูตที่ยืนอยู่ด้านข้างล้วนแต่เบิกตากว้าง และปากของพวกเขาก็อ้ากว้างพอที่จะยัดกำปั้นเข้าไปได้
“ข้าไม่เคยเห็นผลไม้ดินลูกใหญ่ขนาดนี้มาก่อน มันใหญ่มาก!”
“นอกจากนี้ ต้นผลไม้ดิน 1 ต้นสามารถขุดผลไม้ดินขึ้นมาได้มากกว่า 10 ผล มันนับว่ามากกว่าตอนที่เราไปขุดผลไม้ดินในป่าอย่างน้อย 5 เท่า!”
เมื่อหูเจียวเจียวเผชิญกับความประหลาดใจของภูตคนอื่น เธอก็ได้แต่ยิ้มเพราะไม่รู้จะพูดอะไรออกไป
ตอนที่เธอออกไปขุดมันฝรั่งในป่า เธอสามารถขุดได้เพียง 3-4 ลูกต่อต้น อีกทั้งพวกมันยังมีขนาดเล็กกว่าเท่าตัว
โดยปกติถึงแม้ว่าเธอจะขุดมันฝรั่งป่าหลายสิบต้น แต่เกือบทุกต้นจะมีมันฝรั่งผลเล็ก ๆ เพียง 2-3 ผลเท่านั้น การที่มันฝรั่งที่ปลูกในเผ่ามีมากกว่า 10 ลูกมันก็เกินความคาดหมายของเธอไปมากแล้ว
จิ้งจอกสาวต้องยกความดีความชอบทั้งหมดให้กับมิติที่เปรียบดั่งพรจากพระเจ้าของเธอเลยก็ว่าได้
หากไม่มีต้นกล้ามันฝรั่งจากในมิติ แม้ว่าเธอจะสามารถปลูกมันฝรั่งในเผ่าได้ แต่ผลผลิตจะมีไม่มากนัก
ถ้าไม่รวมส่วนที่ถูกลู่ซุยซุยทำลาย ในที่ดิน 2 ไร่นี้ เธอคิดว่าคนในเผ่าสามารถขุดมันฝรั่งได้อย่างน้อย 5,000 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งถือได้ว่าให้ผลผลิตสูงมาก
“ฮ่า ๆ หน้าหนาวนี้ทุกคนไม่ต้องทนหิวกันอีกแล้ว!”
หัวหน้าเผ่าถือผลไม้ดินผลใหญ่พลางยิ้มจนปากแทบฉีกถึงรูหู
หากสังเกตให้ดีจะพบว่าปลายนิ้วของเขาสั่นน้อย ๆ ซึ่งบ่งบอกว่าเขากำลังตื่นเต้นมากแค่ไหน
“เจียวเจียว ขอบคุณเจ้ามาก!”
ภูตที่อยู่ด้านข้างก็จ้องมองไปที่ผลไม้ดินในมือของผู้อาวุโสตาวาว
“ตอนนี้เรามีผลไม้ดินมากมาย แม้ว่าเจ้าจะกินแต่ผลไม้ดินในฤดูหนาวนี้ เจ้าก็กินได้มากเท่าที่ต้องการ!”
“หูเจียวเจียว เจ้าคือดาวนำโชคของเผ่าเราจริง ๆ!”
“ตั้งแต่เด็ก ในฤดูหนาวข้าไม่เคยกินข้าวอิ่มเลยสักมื้อ…”
บัดนี้ภูตทุกคนแสดงความขอบคุณต่อหูเจียวเจียว
พวกเขารู้ว่าหากไม่มีจิ้งจอกสาว เผ่าก็จะไม่มีความเจริญก้าวหน้าเหมือน ณ ปัจจุบัน
“ข้าแค่ส่งต่อวิธีการในนามของเทพอสูร ทุกคนมีส่วนร่วมในการทำให้เรามีทุกอย่างในวันนี้”
หูเจียวเจียวยิ้มโดยที่ไม่ได้รับความดีความชอบไปคนเดียว
ตามคำกล่าวที่ว่า ‘โคลนที่ฉาบไม่ติดผนัง’* ถ้าภูตในเผ่าแห่งนี้ไม่มีความสามารถรวมถึงไม่สามัคคีกัน เธออาจเลือกที่จะไปจากที่นี่พร้อมกับหลงโม่และลูก ๆ นานแล้ว
*โคลนที่ฉาบไม่ติดผนัง เป็นสำนวนจีนที่มีความหมายว่า คนไร้ความสามารถ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ
หลังจากเหล่าภูตได้ยินคำพูดของแม่จิ้งจอกก็รู้สึกเขินอายขึ้นมา
พวกเขาสมควรได้รับคุณงามความดีด้วยหรือ? สิ่งที่ทุกคนทำลงไปมันเป็นเพียงความพยายามเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น
ถ้าเป็นภูตชายก็จะรู้โดยธรรมชาติว่านี่คือสิ่งที่ควรทำ
แล้วทันใดนั้นภูตที่ยังโสดก็รู้สึกอิจฉาหลงโม่ขึ้นมาทันที ชายคนนั้นได้ผู้หญิงที่ใจดีและฉลาดคนนี้ไปครอบครองได้อย่างไร!
ในขณะที่หูเจียวเจียวกำลังสำรวจมันฝรั่ง ชายคนหนึ่งก็เดินไปหาหัวหน้าเผ่าพลางลูบมือตัวเองและกระซิบแบบเขินอายว่า
“ท่านผู้เฒ่า ท่านช่วยถามหูเจียวเจียวให้ข้าหน่อยได้ไหมว่านางจะหาคู่ใหม่ตอนไหนหรือ?”
เมื่อชายสูงวัยได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็จางหายไป
จากนั้นเขาหันหน้าไปมองคนพูดด้วยสายตาจริงจัง
“ทำไม เจ้าต้องการให้หูเจียวเจียวมาเป็นคู่ของเจ้าหรือ?” ผู้อาวุโสขมวดคิ้วถาม
“ใช่ แน่นอน...” ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก
หูเจียวเจียวเป็นคนสวย พูดจาไพเราะ และสามารถสร้างประโยชน์มากมายให้กับเผ่า ชายใดจะไม่อยากเป็นคู่กับนางบ้าง
คนเป็นหัวหน้าเผ่าเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะยื่นนิ้วชี้ไปจิ้มหน้าผากของชายผู้นั้นจนหน้าหงาย
“ดูสารรูปของเจ้าสิ คิดว่าตัวเองคู่ควรกับเจียวเจียวหรือไม่ เอาอย่างนี้ไหม? ข้าขอแนะนำให้เจ้าลองกลับไปนอน!”
ในฝันเจ้าอาจจะมีโอกาสก็ได้
ชายชราไม่ได้พูดประโยคข้างต้นออกไป
“หืม กลับไปนอน... หูเจียวเจียวจะยอมเป็นคู่ของข้าไหมถ้าข้ากลับไปนอน?” ภูตหนุ่มถามอย่างไร้เดียงสาในขณะที่ยกมือกุมหน้าผาก
เขาอดไม่ได้ที่จะพึมพำด้วยสีหน้าฉงน “นี่คือคำแนะนำอะไรเนี่ย?”
ป้าบ!
ทันใดนั้นหัวหน้าเผ่าก็ตบหัวอีกฝ่ายเพราะความโกรธ
ไอ้เจ้าโง่!
ทำไมเจ้าหมอนี่ถึงโง่เหมือนกับเป้าเฟิงเลย!
“ข้าจะบอกว่าให้เจ้ากลับไปนอนฝันเอาเถอะ!” ผู้นำสูงสุดของเผ่าจ้องคนตรงหน้าอย่างโกรธเคือง
โอ๊ย! ทำไมไม่บอกกันดี ๆ เล่า!
ชายคนนั้นได้แต่โอดครวญแล้วเดินกุมหัวจากไปแบบเศร้าสร้อย
ทางด้านหัวหน้าเผ่ามองตามแผ่นหลังอีกคนไป แต่จู่ ๆ ก็เหมือนมีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นในใจตน
เขามีอายุเยอะกว่าหูเฉียงไม่มากนัก แต่ด้วยเหตุผลหลายประการ เขาไม่มีคู่หรือลูกเป็นของตัวเอง ตอนนี้เขาจึงปฏิบัติต่อหูเจียวเจียวดั่งเป็นลูกสาวของตน และในสายตาของเขา ผู้ชายทุกคนในเผ่าก็ไม่ต่างจากหมูที่ต้องการขุดกะหล่ำปลีกิน**
**หมูที่ต้องการขุดกะหล่ำปลีกิน เป็นสำนวนจีนที่เปรียบเปรยหญิงงามเป็นกะหล่ำปลี ส่วนหมูคือผู้ชายที่ต้องการได้หญิงสาวมาครอบครอง
ในความเห็นของชายชรา ไม่มีภูตคนไหนในเผ่านี้ที่คู่ควรกับเจียวเจียวเลยสักคน!
“ไม่ ข้าต้องช่วยเจียวเจียวตรวจสอบให้ดี ข้าจะชะล่าใจไม่ได้...”
หัวหน้าเผ่าใช้มือข้างหนึ่งกำหมัดแล้วทุบลงบนฝ่ามืออีกข้าง พลางพึมพำกับตัวเองอย่างหนักแน่น
ขณะนี้ฤดูหนาวใกล้เข้ามาทุกที ทุกคนในเผ่าต่างก็รีบกักตุนเสบียง และหัวหน้าเผ่าก็จัดแจงให้คนไปเก็บผลไม้ดินมาให้มากที่สุด
การเก็บผลไม้ดินเป็นสิ่งที่ภูตหญิงถนัด พวกนางจึงออกมาช่วยกันเก็บอีกแรง
เมื่อหูเจียวเจียวกลับบ้านไปเพื่อดื่มน้ำ หลงเหยาที่รู้เรื่องการขุดผลไม้ดินจึงอยากตามเธอไปด้วย
“ท่านแม่ ทำไมไม่พาเสี่ยวเหยาไปด้วย~”
เพื่อความสะดวกสบายในการทำงาน แม่จิ้งจอกจึงเปลี่ยนไปใส่กางเกงขายาว ตอนนี้คนตัวเล็กกำลังดึงขากางเกงแล้วมองเธอด้วยสายตาที่ชื้นน้ำตา
ในขณะที่เจ้าตัวเล็กพูด เขากำหมัดเล็ก ๆ เพื่อเบ่งกล้ามแขนซึ่งอุดมไปด้วยไขมันให้ผู้เป็นแม่ดู
“เสี่ยวเหยาก็อยากช่วยท่านแม่ทำงาน เสี่ยวเหยาแข็งแรงมาก!”
ปกติหูเจียวเจียวมีงานต้องวิ่งรอบเผ่า เธอจึงกลัวว่าการพาลูกไปจะไม่ปลอดภัย ดังนั้นเธอเลยปล่อยให้พวกเขาเล่นกันอยู่ที่บ้าน
วันนี้หญิงสาวจะไปเก็บมันฝรั่ง ซึ่งที่นั่นมันไม่มีอันตรายอะไรให้ต้องเป็นกังวล แถมยังช่วยให้เจ้าตัวเล็กได้ออกกำลังกายด้วย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ หลงเหยาจ้องมองกระต่ายอยู่ที่บ้านทั้งวันโดยไม่ยอมออกไปเล่นข้างนอกอีก เธอกังวลว่าอีกคนจะอ้วนขึ้นหากเขาไม่ออกกำลังกาย
ด้วยเหตุนี้ หูเจียวเจียวจึงตอบตกลงแบบไม่คิดมาก
“ตกลง เหยาเอ๋อไปกับแม่ได้”
ส่วนพวกพี่ ๆ 4 คนที่อยู่ไม่ไกลได้ยินการสนทนาของทั้งคู่ก็สาปแช่งอยู่ในใจ
เสี่ยวเหยาเป็นหัวขโมยตัวจริง!
จริง ๆ แล้วเหตุผลที่เจ้าเด็กนั่นขอให้ท่านแม่พาเขาออกไปเป็นเพราะเขาอยากขุดผลไม้ดินกินต่างหาก!
จังหวะที่หูเจียวเจียวไปหยิบชามน้ำมาดื่ม ทันทีที่เธอหันกลับมา เธอเห็นดวงตาแวววาว 4 คู่กำลังมองมาที่ตนอย่างคาดหวัง
หลังจากที่แม่จิ้งจอกให้ยากับลูกทั้ง 2 คนในช่วงเวลาที่ผ่านมา บัดนี้ดวงตาของหลงเซียวเปลี่ยนจากเห็นเงาดำที่พร่ามัวเป็นสามารถแยกแยะสีรวมถึงมองเห็นโครงร่างได้แล้ว
นั่นทำให้เด็กหนุ่มร่าเริงขึ้นกว่าเดิมแม้ว่าเขาจะยังไม่ชอบพูด แต่เขาก็เต็มใจที่จะออกไปข้างนอกมากขึ้น
ส่วนรอยแผลเป็นบนใบหน้าของหลงจงก็จางลงเล็กน้อยเช่นกัน
สิ่งเดียวที่น่าเสียใจคือเธอไม่พบยาในมิติที่สามารถรักษาคอของหยินชางได้
“ท่านแม่ หลิงเอ๋อก็อยากไปด้วย!” สาวน้อยวิ่งไปคว้าขากางเกงอีกข้างของหูเจียวเจียวแล้วกะพริบตาพูดออดอ้อน
“ตกลง” หญิงสาวมักจะแพ้ให้กับหลงหลิงเอ๋อที่ทำตัวเหมือนเด็กน้อย
ขณะเดียวกัน หลงอวี้ยืนขึ้นและพูดอย่างจริงจังว่า “ข้าจะไปดูแลเสี่ยวเหยา ข้าเกรงว่าเขาจะขโมยผลไม้ดินกิน”
เมื่อคนตัวเล็กได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเขาก็ซีดลง ก่อนจะบ่นอุบอิบไม่พอใจ “เสี่ยวเหยาเปล่าขโมยผลไม้ดิน…”
ทำไมพี่ใหญ่ใจร้ายจัง!
เสี่ยวเหยาไม่ได้จะขโมยมันสักหน่อย เสี่ยวเหยาแค่อยากได้รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างทำงานแค่นั้นเอง!
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ถ้าจะมีใครมาจีบเจียวเจียวนี่บอกเลยนะว่าต้องผ่านหลายด่าน แต่ยังไงก็คงไม่มีทางสำเร็จเพราะมันจะมีคนขี้หวงอยู่คนนึง 5555