ตอนที่ 17 อยากทำลายหลังไหนเป็นพิเศษ?
ในการสร้างบ้านสักหลังจำเป็นต้องมีการวางรากฐานที่ดี ทั้งคอนกรีตและเหล็กเพื่อยึดตัวบ้าน
แต่นนี้เป็นโครงสร้างอย่างง่ายๆ โดยใช้แค่หินติดกันเท่านั้น
เต่าทมิฬช่วยให้งานก่อสร้างรวดเร็วขึ้น 90 เปอร์เซ็น
ตัวฐานของบ้านนั้นเชื่อมกับพื้นเพราะงอกออกมาจากหลังของเต่าทมิฬเลย และส่วนต่างๆ ก็ใช้การปรับแต่งตำแหน่งหิน และใช้พลังของเต่าทมิฬเชื่อมหินเข้าด้วยกัน จึงไม่ต้องใช้เหล็กหรือปูนในการผสาน
ก้อนอิฐถูกสร้างจากหิน และจัดเรียงเป็นรูปร่าง
“มันดูวิเศษมากเลย!”
มินโฮนั้นก้มดูก้อนอิฐอย่างสนใจ และจัดเรียงมันตามจุดที่มู่เหลียงทำเอาไว้
เธอพบว่าเมื่อวางอิฐลงไปแล้วมันก็ผสานติดกันทันที และไม่เหลือช่องว่างเลย
“มินโฮ…อย่าทำกำแพงตรงนั้นสูงเกินไป เหลือที่ไว้ทำหน้าต่างด้วย”
มู่เหลียงหลังจากวาดแปลนบ้านบนหลังของเต่าทมิฬเสร็จ เขาจึงหันกลับมาดูว่ามินโฮทำไปถึงไหนแล้ว และเห็นว่าเด็กสาวก่ออิฐเป็นกำแพงสูงเท่ากับตัวเอง
มู่เหลียงเดินเข้ามาและใช้พลังของเขาเปลี่ยนรูปร่างสร้างช่องสี่เหลี่ยมตรงกำแพงอิฐที่มินโฮทำ
“แต่ถ้ามีช่องแบบนี้พวกโจรจะเข้ามาได้นะ!”
มินโฮนั้นท้วงเตือนด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ
กระท่อมเก่าของเธอนั้นแทบจะปิดหมดทุกด้านมีเพียงช่องหน้าต่างเล็กๆ เท่านั้นให้พอมองออกไปข้างนอกได้ เพื่อป้องกันคนเข้ามาขโมยของ
“โจรกระจอกมันปีนขึ้นมาบนหลังเต่าทมิฬไม่ได้หรอก”
มู่เหลียงดีดหน้าผากของเด็กสาวเบาๆ ไปหนึ่งที
“จะ-จริงอย่างที่มู่เหลียงพูด”
มินโฮเอามือจับหน้าผากของตัวเอง พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงติดเล่นของเธอ
ตอนนี้เธออาศัยอยู่บนเต่าทมิฬที่ตัวใหญ่โตสูงยิ่งกว่าต้นไม้เสียอีก เธอไม่จำเป็นต้องกลัวขโมยอีกต่อไป
มู่เหลียงซ่อมจุดที่มินโฮทำเสียเอาไว้ และสร้างประตูต่อ
มู่เหลียงเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าเด็กสาวจะอ่านแปลนบ้านนี้ออก และทำตามที่เขาต้องการได้ ทุกอย่างเขาต้องลงมือทำเอง เพราะภาพบ้านหลังนี้อยู่ในหัวของเขา
เขาสร้างห้องขึ้นมาสองห้อง โดยทีี่ประตูหันหน้าเข้าหากัน ห้องหนึ่งมีขนาด 10 ตารางเมตร
ที่โถงกลางมีขนาด 30 ตารางเมตร
ส่วนห้องน้ำนั้นเขาวางไว้มุมสุดของบ้าน และทำพื้นที่สำหรับรองรับของเสียและปิดพื้นที่นั้นไม่ให้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ลอยออกมา
มู่เหลียงก่อสร้างส่วนอื่นๆ ต่อพร้อมกับสั่งให้เต่าทมิฬช่วยสร้างกำแพงขึ้นอย่างหยาบๆ เพื่อที่จะทุ่นแรงให้กับเขา
มู่เหลียงก้มหน้าก้มตาทำบ้านอย่างตั้งใจ จนเวลาได้ล่วงเลยผ่านไปหลายชั่วโมงโดยที่เขาไม่รู้ตัว
จากท้องฟ้าที่ดูสว่างจ้าเริ่มกลายเป็นท้องฟ้าสีส้มมากขึ้นเรื่อยๆ
“เย็นแล้วหรอเนี่ย?”
เมื่อหันกลับมาดูโครงสร้างบ้านก็เห็นว่าส่วนของหลังคานั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์เลยด้วยซ้ำ แต่มู่เหลียงก็กลับรู้สึกภูมิใจเล็กๆ กับงานในวันนี้
“ว้าว!! ดูมันสิ!! มู่เหลียงมันใกล้จะเสร็จแล้ว บ้านของเรา!”
มินโฮพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น นัยน์ตาของเธอส่องเป็นประกายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เด็กสาวนั้นชูกำปั้นขึ้นแล้วส่งเสียงให้กำลังใจมู่เหลียงอย่างอ่อนหวาน
“พวกเรามาพยายามให้มากขึ้นอีกหน่อยเถอะ และทำให้มันเสร็จภายในวันนี้!”
มู่เหลียงนั้นส่ายหัวเล็กน้อย
“ยังหรอกเหลืออีกหลายส่วนเลย เราต้องหาไม้มาทำเสาค้ำกับทำหลังคาอีก”
“อย่างงี้นี้เอง งั้นเดียวเราไปหาไม้กันเถอะ”
มินโฮดูกระตือรือร้นอย่างมาก และกำลังเดินไปที่ขอบของกระดองเต่าเพื่อจะลงไปหาไม้
“เดี๋ยว!! ไม่ต้องไปหาหรอก ไม้มีอยู่แล้ว”
มู่เหลียงกระชากคอเสื้อของเด็กน้อยจากด้านหลังเพื่อห้ามเธอเอาไว้
“แต่เราต้องเตรียมไม้ และตัดแต่งมันอีกนะ!”
มินโฮพูดขึ้นพร้อมกับเอียงหัวเล็กน้อยด้วยความมึนงง
“จำได้ไหมตอนนี้คนในค่ายอพยพออกไปแล้ว?”
มู่เหลียงพูดให้เด็กสาวคิด
แล้วตอนนั้นเองมู่เหลียงก็ส่งกระแสจิตไปถึงเสี่ยวไก และให้มันไปตรวจสอบดูว่าคนในค่ายออกไปหมดแล้วรึยัง
“ใช่ตอนนี้มันก็ใกล้มืดแล้ว พวกเขาก็น่าจะไปหมดแล้ว”
มินโฮก็ตอบอย่างใสซื่อ และตามคำพูดของมู่เหลียงไม่ทัน ก่อนที่อยู่ๆ เธอจะทำท่าคิดอะไรออก
นัยน์ตาสีฟ้าเบิกกว้างพร้อมกับอ้าปากขึ้นมาทันที
“ไปเอาไม้จากในค่าย!”
“ใช่!! กลับไปที่ค่ายกัน”
มู่เหลียงสั่งเต่าทมิฬทันที
แอ๊!!!
เต่าทมิฬเดินอย่างช้าๆ กลับไปยังค่าย
“เอ๋?”
อยู่มินโฮก็อุทานขึ้นด้วยความตกใจ
“เต่าทมิฬกำลังเคลื่อนที่แท้ๆ แต่ทำไมไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนเลย”
“เต่าทมิฬมันควบคุมแรงสั่นสะเทือนได้ไงล่ะ”
มู่เหลียงตอบ
เพราะความจริงแล้วไม่มีทางเลยที่จะไม่เกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้น ยิ่งวัตถุที่มีขนาดใหญ่เท่าไร หากมีการเคลื่อนไหวยังไงก็ต้องมีแรงสั่นสะเทือนเบาๆ บ้าง
“อ๋อ…แบบนี้นี่เอง”
มินโฮนั้นทำท่าเข้าใจและพยักหน้าสองสามครั้ง
เต่าทมิฬนั้นเดินไม่ได้เร็วมาก แต่หนึ่งก้าวของมันก็มากกว่าคนธรรมดาทั่วไปเดินหลายสิบก้าว
ไม่ถึงสิบนาที เต่าทมิฬก็เดินทางมาถึงอาณาเขตของค่าย
ในเวลานี้ค่ายนั้นได้กลายเป็นค่ายร้างไปแล้ว จากการสำรวจของเสี่ยวไก
“ทุกคนไปหมดแล้ว…”
มินโฮพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าเล็กน้อย
เธอยืนอยู่บนเต่าทมิฬและมองลงมายังค่าย ที่ไม่มีแสงไฟสักแห่ง
“กลุ่มทะเลสาบพระจันทร์นั้นอยู่ไกลจากนี้เท่าไร”
มู่เหลียงถามขึ้นอย่างสงสัย
“อือ..ก็เคยได้ยินจากทีมนักล่ามาอยู่บ้าง เห็นพวกเขาบอกว่าจากนี่ใช้เวลา 5 - 6 วันถึงจะเดินทางถึง”
มินโฮตอบกลับมา
และเมื่อคิดถึงพวกโจรเคราโลหิต มู่เหลียงจึงถามขึ้นอีกครั้ง
“แล้วกลุ่มทะเลสาบพระจันทร์มีคนอยู่เท่าไร”
“น่าจะหมื่นกว่าคนได้ แต่ไม่รู้ว่าเรื่องจริงรึป่าว”
มินโฮตอบด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ
หมื่นคนเป็นจำนวนที่มากเกินไปสำหรับเด็กสาว และยากที่จะเชื่อ
เพราะต้องมีอาหารและน้ำมากขนาดไหนถึงเลี้ยงคนเป็นหมื่นได้
“ดูเหมือนว่าจะเป็นกลุ่มที่ใหญ่เอาเรื่อง แต่มันจะจริงรึป่าว”
มู่เหลียงตบบ่าของมินโฮเบาๆ และพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“งั้นเราไปดูด้วยตาของตัวเองดีกว่า ว่ากลุ่มทะเลสาบพระจันทร์จะใหญ่จริงใหม”
“เอ๊ะ!?”
มินโฮถึงกับผงะไป พร้อมกับส่งเสียงที่ตื่นเต้นออกมา
“แปลว่าหลังจากนี้…..พวกเราจะไปยังกลุ่มทะเลสาบพระจันทร์ งั้นหรอ?”
“แล้วอยากไปไหมล่ะ?”
มู่เหลียงตอบกลับพร้อมกับจ้องมองไปในแววตาสีฟ้าของมินโฮ
“ฉัน…”
มินโฮประสานสายตากับมู่เหลียงและเห็นว่าแววตาของมู่เหลียงดูอบอุ่นและราวกับจะมอบความหวังให้กับเธอ
มินโฮเม้มริมฝีปาก ก่อนที่จะผงกหัวอย่างหนักแน่นและพูดออกมาดังสุดเสียง
“ไป!!! ฉันอยากไปและตามหาพี่สาวของฉัน!!”
“งั้นจุดหมายต่อไปคือกลุ่มทะเลสาบพระจันทร์”
มู่เหลียงยิ้มพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้
“......”
มินโฮจ้องมองรอยยิ้มของมู่เหลียง ด้วยความรู้สึกที่แปลกประหลาดพร้อมกับจังหวะหัวใจที่เต้นเร็วขึ้น
เธอเอามือกุมหน้าอกของเธอเอาไว้และก้มตัวเอง พร้อมกับแก้มที่แดงขึ้น
“เอ้าเป็นอะไร? เราต้องรีบไปหาไม้ในค่ายนะ”
มู่เหลียงใช้มือลูบหัวและหูกระต่ายของมินโฮเบาๆ
“ฉันบอกแล้วไง!! ว่าอย่ามาจับหูของฉัน!!”
มินโฮนั้นแสดงหน้าที่บูดบึ้งทันที และกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ
ความรู้สึกที่สั่นไหวเมื่อครู่นั้นกระเจิงหายไปทันทีด้วยการถูกจับหูเมื่อครู่
และทั้งสองก็ได้ออกไปสำรวจบ้านที่ละหลังอย่างละเอียด
“มีบ้านหลังไหนที่เธออยากรื้อออกเป็นพิเศษไหม?”
มู่เหลียงถามกับมินโฮขึ้น
“หลังนี้ แล้วก็หลังนี้ หลังนี้ด้วย พวกนี้ชอบมาขโมยกิ้งก่าของฉัน!”
มินโฮชี้บ้านหลายหลัง
“ได้เลยงั้นลงมือกันเถอะ เราต้องการท่อนซุงหลายท่อน”
มู่เหลียงก้าวออกมา
“งั้นเรารีบรื้อให้หมดแล้ว ให้เต่าทมิฬขนท่อนซุงขึ้นไป”
“ได้เลย”
มินโฮเดินหน้าเข้าไปเริ่มทำลายรื้อบ้านทันที
ปัง!! เปรี้ยง!! ครืน!!
ด้วยพละกำลังของมู่เหลียงในตอนนี้ มันง่ายมากที่จะรื้อบ้านพวกนี้ และแยกส่วนประกอบต่างๆ ออกมา
มู่เหลียงสามารถแบกท่อนซุงได้ครั้งละ 5 - 6 ท่อน
ที่จริงไม่ต้องการไม้มากขนาดนี้เพื่อทำหลังคา แต่มันจำเป็นต้องมีไม้ไว้สำหรับทำฟืน
หลังจากนั้นไม่นาน ที่ลานบ้านบนหลังเต่าก็เต็มไปด้วยไม้และแผ่นไม้เต็มไปหมด