บทที่ 201: ข้าทำแบบนั้นได้ด้วยหรือ?
เหล่าเด็กอันธพาลที่ถูกหลงเหยาจัดการช่วยพยุงกันลุกขึ้นจากพื้น และมองไปทางคนตัวเล็กด้วยสายตาหวาดกลัว
เจ้าเด็กตัวอ้วนกลมคนนี้อันตรายมาก!
“ไอ้อ้วน เราแค่อยากจะสั่งสอนบทเรียนให้กับเจ้าหัวขโมยผลไม้โง่ ๆ คนนี้ หลบไปให้พ้น!” เด็กคนหนึ่งออกคำสั่งกับหลงเหยา
“ไม่! เราไม่ได้ขโมยผลไม้สักหน่อย”
เด็กน้อยโต้กลับพลางกางแขนขวางระหว่างหยินชางกับเด็กเกเรเหมือนลูกไก่ที่ต้องการจะปกป้องนกอินทรี
ทันทีที่หลงเหยาพูดจบ เด็กหนุ่มก็ยื่นมือออกไปดึงเขามาไว้ข้างหลังตนเอง
หยินชางมองเหล่าคนที่กำลังล้อมเขาไว้อย่างไม่แยแส จากนั้นเขาก็จับมือป้อมสั้นของคนตัวเล็กเพื่อลากไปอีกทาง
“หยุดนะ ใครอนุญาตให้เจ้าไป!” เด็กทุกคนรู้สึกได้ทันทีว่าตนเองถูกอีกฝ่ายเพิกเฉยจึงวิ่งไล่ตามทั้งคู่ไปด้วยความโมโห
ไม่นานหยินชางก็โดนกลุ่มเด็กอันธพาลขวางไว้อีกครั้ง เขาจึงหยุดฝีเท้าพร้อมขมวดคิ้วมองไปที่พวกเด็กหยิ่งยโสตรงหน้า
ถ้าเขาใช้กำลังจัดการฝ่ายตรงข้าม เขาจะสร้างปัญหาให้กับหูเจียวเจียวใช่ไหม?
ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังจะบอกให้หลงเหยากลับบ้านก่อน เด็กเกเรคนหนึ่งก็จ้องเขาเขม็งพลางดูถูกตนไม่หยุด
“มองอะไร!? ถ้าเก่งจริงก็เข้ามาเลย!”
“??”
เจ้าเด็กนั่นพูดอะไรของมัน ข้าทำแบบนั้นได้ด้วยหรือ?
บัดนี้ร่องรอยของความประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของหยินชาง
แต่… ถ้าอีกฝ่ายเป็นคนเอ่ยปากเองเขาก็ไม่ผิดใช่ไหม?
ไม่กี่อึดใจต่อมา หยินชางกำมือแน่นแล้วเหวี่ยงหมัดออกไปเพื่อตอบสนองคำขอของคนตรงหน้า
ผัวะ!
“อ๊ากกก!”
ทันใดนั้นฝ่ายที่เอ่ยปากท้าทายก็กรีดร้องเสียงหลง เขายกมือขึ้นปิดตาตัวเองขณะที่ปลิวออกไปไม่กี่เมตร ก่อนจะล้มหงายหลังลงบนพื้น
“นี่เจ้า! เจ้ากล้าดียังไงมาชกข้า!” เด็กที่ถูกต่อยเข้าเต็มแรงร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด ระหว่างที่เขาใช้มือข้างหนึ่งปิดตาและอีกมือชี้หน้าของหยินชาง
ทางด้านเด็กหนุ่มที่เป็นฝ่ายโจมตีทำหน้างุนงง เจ้าหมอนั่นไม่ได้อยากจะมีเรื่องกับเขาเองหรอกหรือ?
ในเวลาเดียวกัน หลงเหยาที่อยู่ข้างหลังหยินชางตกใจมากจนอ้าปากค้าง
พอคนตัวเล็กกลับมาตั้งสติได้ เขาก็ปรบมืออย่างตื่นเต้น “ท่านพี่เแข็งแกร่งมาก!”
เจ้าเด็กเกเรนั่นปลิวออกไปไกลชะมัด พี่ใหญ่ของเสี่ยวเหยายังไม่มีพลังขนาดนั้นเลย!
ยามนี้ดวงตาของหลงเหยาเต็มไปด้วยความชื่นชมพี่ชายคนใหม่ในขณะที่เขาปรบมือไม่หยุด จากนั้นเขาเข้าไปจับมือของคนตัวโตกว่าอย่างมีความสุข แต่ก็ยังไม่วายชูกำปั้นขึ้นข่มขู่พวกเด็กเกเร
ฝ่ายเด็กอันธพาลเองก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน พวกเขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตนเพิ่งเห็นเมื่อครู่
เด็กที่ถูกซัดลอยขึ้นไปในอากาศนั้นแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มพวกเขาแล้ว ทว่าไอ้เด็กตัวผอมคนนี้กลับทำให้เขากระเด็นออกไปได้ด้วยหมัดเดียว
เจ้าหมอนี่จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
เดิมทีพวกเขาอยากจะรังแกเด็กใหม่เพราะเห็นว่าอีกคนผอมบาง แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบไปได้
แล้วเด็กที่เหลือก็มีท่าทีหวาดกลัวก่อนจะตัดสินใจรีบลากสหายที่ล้มลงบนพื้นเพื่อวิ่งหนีไปจากที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด
ถ้าให้พูดตามตรง ไม่มีใครอยากถูกทำร้ายให้เจ็บตัวเปล่า ๆ หรอก
ทางด้านหยินชางคลายหมัดตัวเองออกแบบไม่สบอารมณ์ เขาทำงานกับพี่ชายมาตั้งแต่ตนยังเด็ก และเรียนรู้ที่จะล่าสัตว์ในป่าเพื่อแบ่งเบาภาระของหยินกู่ ถึงแม้ว่าเขาจะดูผอมกว่าคนปกติ แต่ความจริงแล้วร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อล้วน ๆ ต่างหาก
เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กในเผ่าที่ได้รับการเอาใจ อีกทั้งไม่เคยถูกเฆี่ยนตีอย่างรุนแรง ความแข็งแกร่งของเขานั้นเป็นที่ประจักษ์มากกว่า
ไม่ต้องพูดถึงเด็กที่มีอายุเท่ากัน ต่อให้เป็นเด็กที่อายุมากกว่าเขา 4-5 ปี เขาก็สามารถต่อสู้กับคนพวกนั้นได้
ในเวลาเดียวกัน หลงเหยากำหมัดชกลมข้างหน้าอย่างตื่นเต้น ประกอบกับดวงตาสีทับทิมที่เปล่งประกายระยิบระยับ โดยที่เขามองชื่นชมคนตัวโตกว่าไปด้วย
แล้วทันใดนั้นก็มีน้ำลายไหลออกมาจากมุมปากน้อย ๆ
“ท่านพี่แข็งแกร่งจริง ๆ ท่านต้องเก็บผลไม้ได้เยอะเลยใช่ไหม?”
บัดนี้เขาเหมือนเห็นผลไม้ตกลงมาจากท้องฟ้าจนแทบทนไม่ไหวที่จะได้ลิ้มลองมัน
“...” หยินชางที่ได้ยินคำพูดของเด็กน้อยชะงักไปทันที
เมื่อเขาคิดถึงคำว่า ‘ขโมย’ ที่เด็กเกเรใช้ก่อนหน้านี้ สัญชาตญาณของเขาก็บอกว่าผลไม้บนต้นเก็บไปกินไม่ได้
การเก็บมันจะสร้างปัญหาให้กับหูเจียวเจียว
เด็กหนุ่มจึงส่ายหัวก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นเพื่อทำท่าทางบอกว่า ‘ไม่’ ให้กับหลงเหยา จากนั้นเขาก็จูงมือเล็ก ๆ เดินมุ่งหน้ากลับบ้าน
การกระทำของเขาทำให้ใบหน้าที่ตื่นเต้นของหลงเหยาเปลี่ยนไปเป็นผิดหวังทันควัน
“ขอ 5 ลูก! ไม่สิ มันน้อยไป… ท่านเก็บให้ข้าสัก 10 ลูกได้ไหม?”
หยินชางทำหูทวนลมขณะลากเด็กตัวอ้วนให้เดินต่อไป
“งั้น 5 ลูก! แค่ 5 ลูกก็พอ...”
ฝีเท้าของคนเป็นพี่ยังมั่นคงไม่หยุด
“3 ลูก? 2 ลูก? แม้แต่ลูกเดียวก็ไม่ได้หรือ? ฮือ ๆๆ...”
หลงเหยาเดินต่อรองตามแรงลากของพี่ชายคนใหม่ไปเรื่อย ๆ
แต่ไม่คาดคิดว่าหยินชางจะไม่ตอบสนองอะไรคล้ายกับเขาไม่ได้ยินคำพูดของตน
เจ้าตัวเล็กจึงโดนอีกคนลากกลับบ้านไปพร้อมกับมีสีหน้าบูดบึ้ง
ขณะที่เขากำลังเศร้าโศก จู่ ๆ เขาก็ชนเข้ากับขาของคนตรงหน้า
“ท่านพี่เปลี่ยนใจแล้วหรือ?”
เจ้าเด็กน้อยเงยหน้าขึ้นถามอย่างตื่นเต้น แต่พอเขาเห็นหวงเยว่ปรากฏตัวต่อหน้าตนก็หุบยิ้มทันที
ส่วนหยินชางเมื่อเห็นหงส์สาว เขาก็กำมือแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เขาจ้องมองนางเขม็งจนเส้นเลือดบนหน้าผากปูดออกมา พร้อมกับที่เขาพยายามอดกลั้นความรู้สึกบางอย่างเอาไว้
“เสี่ยวหลงเหยา เจ้าหิวไหม? พี่สาวมีของอร่อยอยู่นะ” หวงเยว่มองคนตัวเล็กด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนและใจดี
ขณะนี้นางกำลังถือห่อใบไม้ใบใหญ่ไว้ในมือ โดยที่ข้างในมีเนื้อย่างร้อน ๆ รวมถึงผลไม้สีแดง 2-3 ผลซึ่งดูน่ากินมากอยู่ด้วย
ทันทีที่เด็กหนุ่มเห็นสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นถืออยู่ สีหน้าของเขาก็ขุ่นมัว
อาหารพวกนี้เป็นของล่อตาล่อใจที่หลงเหยาไม่อาจต้านทานได้
ผู้หญิงสารเลวคนนี้ นางกำลังพยายามทำอะไรกันแน่!?
“เสี่ยวหลงเหยา ไม่ต้องกลัวนะ มานี่สิ แล้วพี่สาวจะให้ของอร่อย ๆ แก่เจ้า” หวงเยว่ไม่สนใจท่าทางโกรธแค้นของหยินชาง นางก้มตัวลงและกวักมือเรียกเด็กน้อยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เมื่อหลงเหยาได้เห็นเนื้อแสนอร่อยในมือของหญิงสาว เขาก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย
“ฟืดดด หอมมาก~”
น่าหม่ำชะมัด!
หยินชางที่เห็นปฏิกิริยาของเจ้าตัวเล็กก็ยื่นมือออกไปขวางพร้อมส่ายหัวให้เขาโดยพยายามจะบอกว่าอาหารจากผู้หญิงคนนี้กินไม่ได้!
ทางด้านหวงเยว่ยิ้มและเลื่อนสายตาไปมองเด็กหนุ่มอย่างมีความหมาย “หยินชาง ถ้าเจ้าไม่อยากกินมัน เจ้าก็ให้เสี่ยวหลงเหยากินแทนสิ เขาอยู่ในวัยกำลังโต ฉะนั้นการที่เขาได้กินเนื้อก็ยิ่งดีต่อตัวเขามาก จริงไหม?”
อาหารของนางมีพิษ ถ้าภูตคนใดก็ตามกินเข้าไป คนคนนั้นจะถูกพิษกัดกินจนตาย
พิษชนิดนี้สามารถพบได้ในส่วนลึกของป่าเท่านั้น และตราบใดที่หญิงสาวบอกภูตคนอื่นในเผ่าว่าหลงเหยาถูกหยินชางวางยา อีกฝ่ายก็จะไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้
ที่สำคัญก็คือ เขาเป็นคนใบ้ที่ไม่สามารถอธิบายอะไรเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดได้เลย
เดิมทีหงส์สาววางแผนที่จะรับเลี้ยงหยินชางโดยใช้ยาพิษดังกล่าวกับเขา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าถ้าใช้มันกับหลงเหยาจะได้ผลดีมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ไอ้เด็กเวรเจ้าปัญหานี่คงไม่มีวันยอมกินอาหารที่นางทำให้
เมื่อเด็กหนุ่มมองดูใบหน้ายิ้มแย้มของหวงเยว่ ฉากที่เผ่าเดิมของตนถูกสังหารหมู่ก็แจ่มชัดขึ้นมา แม้ว่าเผ่านั้นจะทำไม่ดีต่อพวกเขา แต่อย่างน้อยเขากับพี่ชายก็ยังสามารถอยู่รอดปลอดภัยได้
นัยน์ตามืดมิดดั่งรัตติกาลจ้องผู้หญิงตรงหน้าเขม็ง ถ้าดวงตาของเขาสามารถเปลี่ยนเป็นคมมีดได้จริง ๆ ความเกลียดชังทั้งหมดที่เขามีคงจะสับนางเป็นชิ้น ๆ ไปแล้ว
“เสี่ยวเหยากินได้จริงหรือ?”
หลงเหยาไม่ได้สังเกตเห็นบรรยากาศแปลก ๆ ระหว่างทั้งคู่ เขากะพริบตาถามในขณะที่มุมปากมีน้ำลายไหลลงมา
พอหวงเยว่เห็นเจ้าตัวเล็กงับเหยื่อที่ตนหย่อนไว้แล้ว ความพึงพอใจก็ฉายผ่านดวงตาของนาง
หงส์สาวเหยียดมือที่ถือเนื้อไปข้างหน้าอีกครั้งพร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม
“แน่นอน อาหารพวกนี้เป็นของเจ้าทั้งหมดเลย”
หญิงสาวยังจำได้ว่าในครั้งล่าสุดนางถูกหยินชางทำร้ายอย่างหนัก นางเลยไม่กล้าเข้าใกล้เขามากเกินไป ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงใช้อาหารหลอกล่อเด็กน้อยเท่านั้น
ต่อมา หลงเหยาสะบัดมือของหยินชางออกทันทีและวิ่งไปหาหวงเยว่
ใบหน้าของเด็กหนุ่มเปลี่ยนสีทันที เขาไม่คาดคิดว่าเจ้าตัวเล็กจะแรงเยอะขนาดนี้ แถมขาป้อมสั้นของอีกคนก็วิ่งเร็วมาก ไม่นานเขาก็ไปหยุดอยู่ข้างหน้าหญิงชั่วในพริบตา
หงส์สาวที่เห็นเช่นนั้นยกมุมปากขึ้นโดยที่แววตาฉายชัดว่าตนเป็นฝ่ายมีชัย
ทางด้านหลงเหยาเอื้อมมือไปทำท่าจะคว้าเนื้อในมือของอีกฝ่าย
ทว่าในวินาทีถัดมา เขากระโดดขึ้นจากพื้นเพื่อกระทืบเท้าของหวงเยว่สุดแรงเกิด
จากนั้นเขาแลบลิ้นใส่นางอย่างอารมณ์ดี
“เฮอะ! นังแพศยา บังอาจคิดจะมาขโมยพ่อของเสี่ยวเหยาไป เสี่ยวเหยาไม่กินอาหารของเจ้าหรอก! แบร่~”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: มาถึงตอนนี้หวงเยว่อำมหิตมากนะ ถึงแม้จะอ้างว่าทำไปเพื่อน้องชาย แต่การกระทำแต่ละอย่างคือไม่น่าให้อภัยเลย