976 - ญาณวิเศษโบราณ
976 - ญาณวิเศษโบราณ
เย่ฟ่านยืนอยู่นอกประตูภูเขา สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขากวาดออกไปรอบๆและรู้ว่าผู้คนที่อยู่ในวิหารแห่งนี้มีอยู่สามคน
เมื่อในขณะนี้สายตาของเขาจะต้องที่ชายหนุ่มซึ่งสวมชุดมังกร ดูโอ่อ่าราวกับราชาแห่งสรวงสวรรค์เสด็จลงมายังโลก คนผู้นี้ทรงพลังอย่างยิ่งซึ่งทำให้เย่ฟ่านสับสนเป็นอย่างมาก!
พลังโลหิตของเขาพลุ่งพล่านราวกับมหาสมุทร ถ้าไม่ใช่เพราะดวงตาของเย่ฟ่านคือดวงตาศักดิ์สิทธิ์มันคงเป็นเรื่องยากที่เขาจะมองผ่านได้
เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อเขามาที่ทุ่งดวงดาวโบราณจื่อเว่ยเป็นครั้งแรก เขาเห็นชายหนุ่มผู้ทรงพลังที่สามารถยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิได้อย่างแน่นอน!
“เจ้าเป็นใคร ถือดีอย่างไรจึงมาสร้างปัญหาที่นี่” ชายหนุ่มถามอย่างเฉยเมย
“ข้าไม่ได้ตั้งใจจะรุกราน ข้าตกลงมาจากท้องฟ้าและทำให้ประตูภูเขาเสียหาย…” เย่ฟ่านอธิบาย
“เลิกกล่าวเรื่องไร้สาระสักที เจ้าทำลายประตูภูเขาของข้าและทำร้ายศิษย์หลานของข้าเจ้าจะต้องถูกลงโทษด้วยการกลายเป็นทาสเฝ้าภูเขานี้คืนเวลาสามพันปี”
ชายหนุ่มเอามือไพล่หลังและกล่าวอย่างช้าๆด้วยน้ำเสียงที่ก้องกังวาล
“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงจะทำให้ข้ากลายเป็นทาสเฝ้าประตูอยู่ที่นี่ได้”
เย่ฟ่านเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่บนยอดเขาด้วยรอยยิ้มเย็นชา!
“นี่คือโอกาสเดียวที่ข้าจะมอบให้เจ้า รับไว้ไม่เช่นนั้นก็ตายอยู่ที่นี่!” ชายหนุ่มยืนอยู่บนหน้าผามองลงมาที่เย่ฟ่านด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ข้าแค่อยากรู้ว่าเจ้าของวังไป๋จิงคือไท่ซ่างเหล่าจวินหรือไม่”เย่ฟ่านถาม
“หืม สถานที่แห่งนี้เป็นของพี่ของข้า” ดวงตาของชายหนุ่มยังคงเย็นชาเช่นเดิม
“เจ้าเป็นใคร” เย่ฟ่านถาม
“พี่ของข้าคือหยินเทียนเต๋อเป็นเจ้าของวังไป๋จิง ข้าคือเจ้าของถ้ำเสวียนตูนามหยินเทียนจื่อ จำชื่อข้าไว้เพราะนี่คือชื่อของคนที่จะฆ่าเจ้า” ชายหนุ่มกล่าวเบาๆ
“อาจารย์อาออกมาแล้วเจ้าคนบ้านนอกเจ้าต้องตายอย่างแน่นอน” ชายหนุ่มคนแรกตะโกนเสียงดัง
“แครก”
เย่ฟ่านเคลื่อนไหว มือของเขาเคลื่อนตัวผ่านความว่างเปล่าและตบเข้าที่ปากคลองชายหนุ่มจนฟันของฝ่ายตรงข้ามหลุดร่วงออกมาทั้งหมด
“เจ้ากำลังรนหาที่ตาย ไม่มีใครกล้าทำร้ายคนของข้าในวังไป๋จิง!”
ใบหน้าของหยินเทียนจื่อมืดมนในขณะที่เดินเข้าหาเย่ฟ่านอย่างช้าๆ
ใบหน้าครึ่งหนึ่งของชายหนุ่มแตกเป็นเสี่ยงๆ เขาพยายามดิ้นรนลุกขึ้นพร้อมกับคำรามอย่างดุร้าย
“อาจารย์ของข้ากำลังจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะ เจ้าหนีไม่รอดแน่นอน”
“แครก”
เย่ฟ่านยื่นมือสีทองขนาดใหญ่ออกไปและตกลงที่ใบหน้าอีกฝั่งหนึ่งของเขาโดยตรง ร่างของชายหนุ่มปลิวกระเด็นกลับไปทางด้านหลังก่อนจะตกลงไปในเศษซากของก้อนหินที่กระจายอยู่ทั่วพื้น
“คิดจะตีสุนัขต้องดูหน้าเจ้าของด้วย” หยินเทียนจือกล่าวอย่างใจเย็น
“จริงๆข้าก็อยากเห็นเช่นกันว่าเจ้าของสุนัขหน้าตาเป็นอย่างไร”
เย่ฟ่านก้าวขึ้นไปบนท้องฟ้าและเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามอย่างใจเย็น
“หือ?”
หยินเทียนจื่อตกใจเล็กน้อยจากนั้นดวงตาของเขาก็เปล่งประกายด้วยความโล�
“กลิ่นอายของปราณปฐพีต้นกำเนิด เจ้ามีปราณปฐพีต้นกำเนิดสีดำเหลืองอยู่กับตัวหรือ ฮ่าๆๆพี่ของข้ากำลังปรับแต่งเจดีย์ลึกลับให้กลับสู่ความสมบูรณ์แบบอีกครั้ง เขากำลังค้นหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่เช่นนี้อยู่ ในเมื่อเจ้ามีมันก็มอบออกมาเถอะ!”
หยินเทียนจื่อกล่าวราวกับเรื่องนี้ได้รับการตัดสินอย่างแน่นอนแล้ว
เย่ฟ่านสะดุ้งเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งเพียงใด แต่หากอีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากปราณปฐพีต้นกำเนิด ก็เห็นได้ชัดว่านี่จะต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใกล้เคียงกับขอบเขตแห่งความเป็นอมตะอย่างยิ่ง
“ปัง”
ทั้งสองฝ่ายพุ่งเข้าหากันกลางอากาศ ร่างกายของหยินเทียนจื่อแข็งแกร่งและไม่แตกต่างจากทองคำศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังที่สุด
“ทรงพลังขนาดนั้นเลยหรือ!”
หัวใจของเย่ฟ่านเต้นไม่เป็นจังหวะ นี่เป็นหนึ่งในร่างกายที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น
“ข้าชำระร่างกายด้วยเลือดของเฟิ่งหวงอมตะ นอกจากพี่ใหญ่ที่มีร่างกายแข็งแกร่งกว่าข้าแล้ว ข้ายังไม่เคยพบใครที่บ่มเพราะร่างกายจนทรงพลังเหมือนกับเจ้า?!”
หยินเทียนจื่อรู้สึกประหลาดใจอย่างมากเช่นกัน จากนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“เลือดเฟิ่งหวงเดือดพล่าน!”
เขาตะโกนเสียงดังในขณะนั้นปราณสีแดงเลือดได้ปะทุออกมาจากร่างของเขาอย่างรุนแรง
เย่ฟ่านเยาะเย้ย เขาไม่ได้ตั้งใจจะเก็บรั้งความแข็งแกร่งของตัวเองไว้อีกต่อไป ในขณะนั้นพลังศักดิ์สิทธิ์ศรีทองก็ระเบิดออกมาจากร่างของเขาอย่างทรงพลังเช่นกัน
“ปัง…”
ภายใต้การปะทะกันระหว่างร่างศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ทั้งสองฝ่าย ทันใดนั้นแขนข้างหนึ่งของหยินเทียนจื่อก็ถูกเย่ฟ่านฉีกออกออกจากร่างของเขาอย่างดุร้าย
“เจ้า…”
หยินเทียนจื่นกรีดร้องอย่างน่าสังเวชและรีบหลบหนีกลับเข้าสู่วังไป๋จิงด้วยความกลัว
“ในเมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นแล้ว เจ้าก็ไม่อ่านหนีรอดได้!”
เย่ฟ่านคำรามอย่างเย็นชา
หยินเทียนจื่อแขนขาดสะบั้น มงกุฎบนศีรษะของเขาเอียงไปด้านข้างเล็กน้อย ตั้งแต่เกิดมายกเว้นพี่ใหญ่ของเขาไม่มีใครสามารถทำให้เขาตกอยู่ในความสิ้นหวังแบบนี้ได้
รูม่านตาของหยินเทียนจื่อเป็นสีแดงเหมือนเลือด ในขณะนั้นเขาประกบนิ้วมือข้างขวาก่อนจะชี้ไปที่เย่ฟ่านซึ่งกำลังไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว
นิ้วหัวแม่มือแต่ละข้างเป็นเหมือนกระบี่ที่ทอดยาวขึ้นสู่สวรรค์ มันส่องแสงสีแดงพร่างพรายทำให้โลกทั้งใบเต็มไปด้วยพลังที่ชั่วร้ายอย่างถึงที่สุด
เย่ฟ่านหลีกเลี่ยงการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามอย่างทุลักทุเล ในขณะเดียวกันมือของเขาก็ประสานอินเพื่อกระตุ้นผนึกขุนเขาให้ตกลงมาจากท้องฟ้า
ในขณะนั้นภูเขาลูกใหญ่ที่มีความสูงไม่ต่ำกว่าหมื่นวาได้เคลื่อนลงมาจากด้านบน กำลังทำลายล้างของมันไม่แตกต่างอะไรจากดาวหางที่กำลังจะฉีกโลกออกเป็นชิ้นๆ
ปัง!
กระดูกของหยินเทียนจื่อส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ร่างของเขาถูกกดจมลงไปในดินและเลือดสีแดงสดได้สาดกระจายไปทุกที่
ในขณะเดียวกันฝ่าเท้าที่แข็งแกร่งของเย่ฟ่านก็กดลงมาจากด้านบนและเหยียบย่ำหยินเทียนจื่อโดยไม่คิดจะเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายรอดชีวิตได้
ปัง!
ภายใต้เสียงระเบิดที่ดังกึกก้อง ภูเขาขนาดใหญ่พังพินาศไปในพริบตา
ในระยะไกลชายหนุ่มที่ถูกตบจนฟันหลุดร่วงตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ หยินเทียนจื่อนั้นทรงพลังมาก แม้แต่เจ้าของวังไป๋จิงก็ยังยกย่องเขา แต่ตอนนี้เขาถูกกดขี่ด้วยพลังของมนุษย์คนหนึ่ง!
“นี่เป็นร่างศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิสงครามที่อาจารย์เคยพูดถึงหรือไม่!” ชายหนุ่มตกใจ
ถ้าหยินเทียนจื่อเสียชีวิตอาจารย์ของเขาจะต้องทำให้โลกใบนี้เกิดภัยพิบัติอย่างแน่นอน
ปัง!
เศษฝุ่นเศษหินกระจายขึ้นสู่ท้องฟ้า หยินเทียนจื่อที่มีแขนเพียงข้างเดียวพยายามตะเกียกตะกายหลบหนีอย่างหวาดกลัว
ความแข็งแกร่งของเย่ฟ่านเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและเขาไม่เคยพบกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่เช่นนี้ ซึ่งแน่นอนว่าหากเขาหนีไม่ทันก็อาจจะไม่เห็นดวงตะวันของพรุ่งนี้อีกแล้ว
“ปราณม่วงตะวันออกสามหมื่นลี้!”
หยินเทียนจื่อตะโกนเสียงดัง ในขณะนั้นบอกสีม่วงที่เหมือนคลื่นทะเลได้กวาดมาจากทิศตะวันออกและปกคลุมท้องฟ้าอันกว้างใหญ่อย่างสมบูรณ์
“มรดกของไท่ซ่างเหล่าจวิน!”
เย่ฟ่านตกตะลึงอย่างถึงที่สุด นี่เป็นทักษะเฉพาะตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไท่ซ่างเหล่าจวินอย่างไม่ต้องสงสัย