ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 56 ตระกูลผู้ครองเมือง
“…” ฝูงชนทั้งหมดชะงักไปครู่หนึ่งขณะที่พวกเขามองดูว่าไป๋เฟยที่นอนสลบอยู่กับพื้น จากนั้นพวกเขาก็หันกลับมาและเงยหน้าขึ้นมองชิงอี้
นี่คือการประลองครั้งยิ่งใหญ่ของผู้ฝึกตนขอบเขตก่อตั้งรากฐาน! การประลองในครั้งนี้ควรจะเกิดขึ้นอย่างงดงาม...
ชิงอี้ไม่คาดคิดว่าการประลองจะจบลงอย่างง่ายดายเช่นนี้ นางยิ้มอย่างเคอะเขินเมื่อเห็นสีหน้าที่สับสนของฝูงชน
“นังสารเลว!” ขณะที่ไป๋เฟยกระแทกลงกับพื้น ชายชุดคลุมดำจากนิกายนวาระทมิฬก็ลืมตาขึ้นและมองไปที่ชิงอี้ด้วยใบหน้าที่ขมวดคิ้ว
รัศมีพลังของยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดกระจายออกไปอย่างรวดเร็วจนกลืนกินชิงอี้และฝูงชนทำให้พวกเขาหยุดนิ่ง
“เจ้าพวกตระกูลชิงกล้าดีอย่างไรมาโจมตีคนจากนิกายนวาระทมิฬ? เจ้ารนหาที่ตายเสียจริง ๆ” ชายในชุดคลุมดำยืนขึ้นและมองไปทางตระกูลชิงอย่างเหยียดหยาม
ชิงหยางและคนอื่น ๆ ในตระกูลชิงเริ่มตัวสั่นด้วยความโกรธเมื่อได้ยินคำพูดของชายชุดคลุมดำ
โจมตีหรือ? นี่คือการประลองสุดเหี้ยมโหด จะไม่มีผู้คนบาดเจ็บได้อย่างไร? เจ้าคงจะหาข้ออ้างจัดการกับข้าเป็นแน่
เซวียนห่าวมองไปที่ท่าทางที่โกรธแค้นบนใบหน้าของตระกูลชิง จากนั้นหันไปมองชายในชุดคลุมดำที่ยืนอยู่ต่อหน้าตระกูลไป๋ในขณะที่เขายิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยามต่อพวกเขา
“…”
ยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดไร้ยางอายเช่นนี้ได้อย่างไร นี่คือความคิดของเซวียนและฝูงชนในขณะนี้
แต่ฝูงชนตัดสินใจที่จะอยู่เงียบ ๆ หลังจากที่ตระหนักว่าเขาคือผู้ฝึกตนขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด...
“ข้าจะจัดการกับสาวน้อยผู้นี้!” ยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดจากนิกายนวาระทมิฬสะบัดมือของเขาเล็กน้อยจนปรากฏเป็นเส้นเลือดที่ก่อตัวขึ้นในอากาศ เส้นเลือดนี้เรียวยาวคล้ายด้ายพุ่งเข้าหาชิงอี้ด้วยความเร็วที่มีเพียงเซวียนห่าวเท่านั้นที่มองเห็น
ก่อนที่ฝูงชนจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ฝูงชนที่อยู่รอบ ๆ ก็เห็นเส้นเลือดที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าชิงอี้
แต่ขณะที่ทุกคนคิดว่าชิงอี้กำลังจะพินาศ รัศมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวก็เปล่งออกมา!
เส้นเลือดที่น่าสะพรึงกลัวของชายชุดคลุมดำถูกผ่าออกเป็นสองท่อนในทันทีเมื่อกระบี่ที่อยู่ต่อหน้าชิงอี้ฟาดฟันไปที่มันในช่วงวินาทีสุดท้าย
ชิงอี้ถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นสิ่งนี้ นางรู้ว่าอาจารย์ของนางได้ปกป้องนางในตอนนี้
“ข้าไม่คาดคิดเลยว่าจะได้เห็นผู้ที่ไร้ยางอายเช่นนี้ เจ้าทนไม่ได้ที่ศิษย์ของเจ้าพ่ายต่อศิษย์ของข้าจึงจะสังหารนางหรือ?” เสียงของเซวียนห่าวดังออกมาจากข้าง ๆ ชิงอี้ เขาปรากฏตัวข้าง ๆ นางอย่างกระทันหัน
“รัศมีเช่นนี้… เหตุใดจึงมียอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดอีกคนอยู่ที่นี่!”
“เขาผู้นี่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อยด้วย เจ้าเห็นหรือไม่ว่าเขาจัดการกับเส้นเลือดนั่นอย่างง่ายดายเพียงใด!”
“หากเป็นข้า หากแม้แต่เศษเสี้ยวของพลังนั้นโดนข้า ข้าคงตายไปเสียแล้ว...”
ผู้คนที่อ่อนแอบางคนในฝูงชนอดไม่ได้ที่จะถอยหนีอย่างหวาดกลัวและมองไปที่เซวียนห่าวด้วยความกลัว
เจ้าพวกตระกูลไป๋! เหตุใดพวกเขาถึงไม่บอกพวกเราว่าตระกูลชิงก็มียอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดหนุนหลังด้วยเช่นกัน!
“ข้าขอถามสหายเต๋าผู้นี้มาจากที่ใดกัน?” ชายในชุดคลุมดำจากนิกายกระบี่ล่องนภาฟื้นคืนสติในขณะที่เขาถามอย่างระมัดระวังด้วยสายตาที่หรี่ลง
ที่ด้านข้าง ตระกูลไป๋รู้ว่าสถานการณ์ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขาอีกต่อไปและคนส่วนใหญ่ก็มองไปที่ชายในชุดคลุมดำอย่างใจจดใจจ่อโดยหวังว่าเขาจะสามารถจัดการกับยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดเร้นลับผู้นี้ที่อยู่เคียงข้างตระกูลชิง
ไป๋ฮวา อดีตจ้าวตระกูลไป๋มองไปที่เซวียนห่าวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ชิงอี้และถอนหายใจ
“ตระกูลไป๋ทำไปเพื่อเหตุใด… เหตุผลเดียวที่นิกายกระบี่ล่องนภารับไป๋เฟยก็เพียงเพราะเขามีประโยชน์กับพวกเขา หากต้องต่อสู้กับผู้ฝึกตนขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดเช่นนี้ เขายังจะปกป้องตระกูลไป๋อยู่อีกหรือ…” ไป๋ฮวาตระหนักได้ว่าความหวังที่เขามีต่อตระกูลไป๋ได้จางหายไปเสียแล้ว เขาเดินออกไปจากที่แห่งนี้
มีเพียงเซวียนห่าวและชายชุดคลุมดำจากนิกายนวาระทมิฬเท่านั้นที่เห็นเขาออกจากที่แห่งนี้ แต่ทั้งคู่ไม่สนใจเขามากนัก เหตุใดกันที่จะทำให้พวกเขาสนใจว่าใครจะอยู่หรือไปจากที่นี่
“จากวันนี้เป็นต้นไป ข้าจะเดินทางไปทั่วโลกโดยไม่ผูกมัดกับภาระหน้าที่ในการดูแลตระกูลไป๋อีกต่อไป…” ไป๋ฮวาส่งยิ้มเศร้าเป็นครั้งสุดท้ายให้กับตระกูลไป๋ที่กำลังตื่นตระหนก ไป๋ฮวากล่าวกับตนเองขณะที่เขารู้สึกตัวว่าเขาเป็นอิสระและผ่อนคลายกว่าที่เคย
นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ตระกูลไป๋จะได้เห็นไป๋ฮวา
“…”
เซวียนห่าวมองไปที่ชายชราในวัยแปดสิบเศษ ๆ ที่หายไปในระยะไกล เขารู้ว่าไป๋ฮวาผู้นี้เป็นคนจากตระกูลไป๋ แต่เพราะความรู้สึกเศร้าของชายชราทำให้เซวียนห่าวไม่ได้จัดการเขา
เขารู้สึกว่าชายชราผู้นี้ไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลไป๋ที่พยายามสังหารตระกูลชิง
การต่อสู้ในปัจจุบันระหว่างทั้งสองตระกูลนั้นกินเวลานานกว่าหลายร้อยปี แต่เมื่อไม่นานมานี้ตระกูลไป๋ก็เริ่มพยายามกำจัดตระกูลชิงอย่างแท้จริง!
เซวียนห่าวไม่พบสงครามของทั้งสองตระกูลในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา นี่ช่างแปลกยิ่งนัก ทั้งสองตระกูลนี้แข็งแกร่งเทียบเท่ากันและยังอยู่ในเมืองเดียวกันเสียด้วย
“…” เซวียนห่าวถอนหายใจ เขามองออกไปจากด้านหลังของชายชราและหันความสนใจกลับไปที่ยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดที่สวมชุดคลุมดำ
การต่อสู้ระหว่างสองตระกูลเพื่อปกครองเมืองนั้นไม่ยุติธรรมเสียจริงและเซวียนห่าวก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน
ผู้ร้ายที่แท้จริงของเรื่องนี้คือตระกูลไป๋และนิกายกระบี่ล่องนภา แต่นี่เป็นเพียงจากมุมมองของตระกูลชิงเพียงเท่านั้น
สิ่งเดียวที่เซวียนห่าวเห็นคือการต่อสู้ของสองตระกูลเพื่อควบคุมเมืองเพียงเท่านั้น ศิษย์ของเขาแค่บังเอิญมาจากที่นั้น ทำให้เขาเข้าร่วมกับตระกูลของนางอย่างหลีกเลี่ยงมิได้
ศิษย์ของเขาผู้นี้... บางทีนางอาจยุ่งยากมากกว่าที่เขาคิดเสียอีก...