ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 54 นายน้อยไป๋หมูตัวอ้วน
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าสามารถก้าวข้ามไปสู่ขอบเขตการก่อตั้งรากฐานได้เช่นกัน... เอาเข้าจริง ๆ ตอนแรกข้านั้นคิดว่ามันเป็นเรื่องตลก ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าก่อนหน้าฐานการบ่มเพาะของเจ้านั้นต่ำแค่ไหน! ข้าสงสัยเสียจริง ๆ ว่าเจ้าได้กลืนกินสมุนไพรไปแล้วเท่าใดเข้าจึงทำให้ฐานการบ่มเพาะของเจ้าไปถึงขอบเขตก่อตั้งรากฐานได้” ไป๋เฟยพูดอย่างเหยียดหยามขณะที่เขามองลงมาที่ชิงอี้ เขาราวกับจะไม่สนใจนางมากนัก แม้ว่าทั้งคู่จะมาถึงขอบเขตบ่มเพาะเดียวกันแล้วก็ตาม
“ไป๋เฟย! แล้วเราจะได้เห็นดีกันในรอบชิงของการประลอง!” ชิงอี้ไม่พูดสิ่งใดอีก นางเดินตรงไปยังสถานที่จัดการประลองโดยไม่รอให้ไป๋เฟยกล่าวสิ่งใด
เซวียนห่าวยืนอยู่ที่ด้านข้างและสังเกตการโต้ตอบสั้น ๆ ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เขาเพิ่งใช้งานระบบและตรวจสอบว่าสิ่งใหม่ ๆ เหล่านี้
เห็นได้ชัดว่านายน้อยนั้นถูกจัดประเภทเป็นระดับต่าง ๆ ในแต่ละระดับก็จะมีรางวัลที่ระบุไว้เช่นกัน
[ระดับนายน้อย]:
[นายน้อยระดับต่ำ]: ความแข็งแกร่งในขอบเขตการก่อตั้งรากฐาน มียอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดคอยช่วยเหลือเป็นอย่างน้อย
[รางวัลที่เป็นไปได้สำหรับศิษย์]: การทะลวงอย่างฉับพลันระหว่างการต่อสู้กับนายน้อย การพบเจอสมบัติวิญญาณ/สมุนไพรวิญญาณหรือสิ่งของเร้นลับ
[นายน้อยระดับกลาง]: ??? (พบกับนายน้อยระดับกลาง)
[รางวัลที่เป็นไปได้สำหรับศิษย์]: ???
เมื่อมองไปที่ระดับของนายน้อย เซวียนห่าวก็สังเกตเห็นได้ทันทีว่านายน้อยระดับต่ำจะต้องมีผู้ฝึกตนขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดเป็นอย่างต่ำคอยช่วยเหลือพวกเขาและฐานการบ่มเพาะของพวกเขาก็อยู่ในขอบเขตก่อตั้งรากฐาน
ไป๋เฟยดูราวจะเป็นสิ่งเดียวกับที่ระบบอธิบายของ เขามีฐานการบ่มเพาะที่ขอบเขตก่อตั้งรากฐานและมีอาจารย์ที่อยู่ในขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด
เซวียนห่าวผงกหัวกับตัวเอง เขาสนใจรางวัลที่ชิงอี้สามารถได้รับจากการเผชิญหน้ากับไป๋เฟย การทะลวงขอบเขตบ่มเพาะต่าง ๆ และพบเจอสมุนไพรหรือสมบัติที่ล้ำค่าทำให้เขารู้สึกไม่ยุติธรรมเล็กน้อย เซวียนห่าวคิดในใจว่าหากเขาจัดการกับคนอย่างไป๋เฟยและก้าวข้ามขอบเขตบ่มเพาะของเขาได้ในทันที สิ่งนี้คงจะทำให้เขาอยู่ยงคงกระพันแท้จริง...
เมื่อเซวียนห่าวมองเข้าไปใกล้อีกนิดเขาก็เห็นรางวัลสุดท้าย สิ่งของเร้นลับ...
รางวัลนั้นคือสิ่งของเร้นลับอย่างที่ชื่อบอก เซวียนห่าวเองก็ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับสิ่งใด บางทีมันอาจจะเป็นมรดกลับของผู้ฝึกตนในสมัยโบราณ เส้นทางสู่อาณาจักรลับที่ก่อตั้งโดยยอดฝีมือขอบเขตราชันผู้ทรงพลัง?
เซวียนห่าวอดสงสัยไม่ได้ใน เขาออกจากห้วงจิตสำนึกและมองตรงไปที่ไป๋เฟยด้วยแสงที่ส่องประกายในดวงตาของเขา
หากชิงอี้สามารถพัฒนาฐานการบ่มเพาะของนางได้ เขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน... คนอย่างไป๋เฟยนี่เป็นสมบัติล้ำค่าที่สวรรค์ประทานมาให้อย่างแท้จริง!
ห่างออกไปเล็กน้อย ไป๋เฟยเองก็ได้เดินทางไปยังสถานที่จัดการประลองแล้วเช่นกัน เขาเดินอย่างมั่นใจ ทันใดนั้นไป๋เฟยก็รู้สึกเย็นยะเยือกไปทั่วทั้งกระดูกสันหลัง เขามองไปรอบ ๆ อย่างกังวลใจ
“นายท่านไป๋ มีสิ่งใดผิดแปลกหรือไม่? หญิงสาวก่อนหน้านี้ทำให้ท่านไม่พอใจหรือ?” เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันของเขา คนรับใช้ที่เดินเข้ามาใกล้ก็ถามด้วยน้ำเสียงโกรธขณะที่เขานึกถึงเรื่องที่ชิงอี้หยาบคายกับเจ้านายของเขา
“ข้าแค่ไม่คาดคิดว่าลมข้างนอกจะแรงเช่นนี้” เขาตอบกลับโดยไม่คำนึงว่าวันนี้เป็นวันที่อากาศร้อนอบอ้าวและไม่มีลมแม้แต่น้อย ไป๋เฟยยักไหล่และเดินเข้าสู่การประลอง
ผู้แรกที่เผชิญหน้ากับไป๋เฟยยอมจำนนทันทีทำให้เขาก้าวไปสู่รอบต่อไปอย่างง่ายดาย
ชิงอี้ก็เช่นกัน ไม่มีใครอยากสู้กับผู้ที่มีขอบเขตบ่มเพาะที่เหนือกว่าตน มีเพียงอัจฉริยะท้าสวรรค์เพียงเท่านั้นที่จะกล้าท้าทายผู้ที่เหนือตนได้ คนธรรมดาเช่นพวกเขาไม่อาจที่จะกล้าคิดเช่นนั้น
“ไป๋เฟย เจ้าแพ้ข้าไปเมื่อปีที่แล้วและแม้ว่าเจ้าจะสามารถพัฒนาฟรือจะเข้าถึงขอบเขตการก่อตั้งรากฐานได้ก็ตาม ข้าก็จะเอาชนะเจ้าเหมือนปีที่แล้ว!” เมื่อเวลาผ่านไป การแข่งขันรอบรองชนะเลิศก็เริ่มขึ้น ชิงเฉินอี้อดีตอัจฉริยะของตระกูลชิงยืนอยู่ต่อหน้าไป๋เฟยขณะที่เขาประกาศเสียงดังลั่น
เรื่องที่ชิงอี้ได้ทะลวงผ่านถึงขอบเขตก่อตั้งรากฐานก่อนเขานั้นทำให้เขาเจ็บปวดไม่น้อย แต่ท้ายที่สุดแล้วพวกเขายังคงเป็นตระกูลเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงยังพอสบายใจอยู่บ้าง
ในทางกลับกันไป๋เฟยผู้เป็นศัตรูและคู่แข่งของเขา ในตอนนั้นไป๋เฟยแทบจะไม่สามารถเอาชนะเขาได้และนั่นทำให้ชนะการประลองครั้งล่าสุดได้ แต่ตอนนี้เขาสามารถเป็นศิษย์ของผู้ฝึกตนขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดได้ ทำให้ไป๋เฟยสามารถพัฒนาได้เร็วกว่าเขาไปมาก!
เป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาชิงเฉินอี้ไม่กล้าที่จะหยุดพักและยังสามารถไปถึงขอบเขตรวมปราณขั้น 8 ได้เสียด้วย
แต่น่าเศร้าที่สิ่งนี้ยังห่างไกลที่จะต่อกรกับผู้ที่อยู่ขอบเขตการก่อตั้งรากฐาน
“ชิงเฉินอี้? ฮ่าฮ่า เจ้ายังอยู่ขอบเขตรวมปราณอีกหรือ แม้ว่าสาวน้อยชิงอี้คนนั้นก็ยังแซงหน้าเจ้าไป มาเถิด ข้าจะรีบจบมันโดยเร็ว!” ไป๋เฟยยิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เขาส่งสัญญาณให้ชิงเฉินอี้เริ่มโจมตีเขา
“ไป๋เฟย!” ชิงเฉินอี้โกรธที่เขาถูกอดีตคู่แข่งเมินเฉยและโจมตีด้วยพลังทั้งหมดของเขาทันที
“ช่างน่าสมเพชเสียจริง ๆ ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นถึงความแตกต่างของเรา!” เมื่อเห็นชิงเฉินอี้พุ่งเข้าใส่เขา ไป๋เฟยก็ไม่ได้สนใจมันและใช้เพียงฝ่ามือฟาดใส่เขาอย่างไม่ตั้งใจ
“ไป๋เฟย เจ้าประเมินข้าต่ำไป!” เมื่อเห็นว่าไป๋เฟยดูราวกับจะไม่สนใจการโจมตีของเขา ชิงเฉินอี้ก็รู้สึกว่าความโกรธของเขาเพิ่มสูงขึ้น ในที่สุดเขาก็ปะทะกับการโจมตีฝ่ามือของไป๋เฟย
ชิงเฉินอี้ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะต่อต้าน เขากระเด็นปลิวว่อนออกจากเวทีภายใต้การจ้องมองที่ประหลาดใจของฝูงชน
ไป๋เฟยแข็งแกร่งมาก! แม้แต่ชิงเฉินอี้ เขาก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย!
ฝูงชนเริ่มตั้งหน้าตั้งตารอการต่อสู้ระหว่างชิงอี้และไป๋เฟย
พวกเขาลืมเลือนชิงเฉินอี้ที่เพิ่งกระเด็นลงสู่พื้น มีเพียงคนจากตระกูลชิงที่เข้ามาช่วยเขา…