ตอนที่แล้วตอนที่ 206: เดินทางไปโลก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 208: การแข่งขัน

ตอนที่ 207: งานเลี้ยง


ตอนที่ 207: งานเลี้ยง

ณ นิวยอร์ก

อันเดร์จัดงานเลี้ยงต้อนรับเซี่ยเฟยภายในคฤหาสน์ โดยที่เขาได้ทำการเชิญชวนเหล่าผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมาร่วมงานด้วย

“อาจารย์!” โบเดนตะโกนพร้อมกับน้ำตาไหลพราก เมื่อได้เห็นพอตเตอร์เดินลงมาจากแวมไพร์พร้อมกับเซี่ยเฟย

ในตอนนี้เขาไม่สนใจภาพลักษณ์ที่เขาเป็นผู้บริหารของบริษัทควอนตัมเลยแม้แต่น้อย เพราะเขากำลังวิ่งร้องไห้เข้าไปกอดพอตเตอร์เหมือนกับเขาเป็นเด็ก ๆ

“ฉันไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันกลับมาแล้ว” พอตเตอร์กล่าวพร้อมกับปลอบโบเดนเบา ๆ

“อาจารย์ไปไหนมา? ผมเป็นห่วงอาจารย์มากเลย” โบเดนถามอย่างเป็นห่วง

หลังจากจากกันไปนานอาจารย์ลูกศิษย์คู่นี้ก็มีเรื่องให้ต้องพูดคุยกันอย่างมากมาย เซี่ยเฟยจึงเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมกับหลบไปให้ทั้งสองได้พูดคุยกันอย่างสะดวก ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้บอกโบเดนเรื่องที่เขาเดินทางออกไปตามหาพอตเตอร์ที่ภูมิภาคดาวมฤตยู เขาจึงรู้สึกผิดกับพี่ชายคนนี้อยู่เล็กน้อย

ขณะเดียวกันซันนี่, แม่ของซันนี่และน้องชายของซันนี่ก็คุ้นเคยกับพอตเตอร์เป็นอย่างดี พวกเขาจึงรวมกลุ่มพูดคุยกันกับภรรยาและลูก ๆ ของโบเดน

เซี่ยเฟยทักทายทุกคนอย่างอบอุ่นซึ่งมันก็มีหลายคนที่เขาไม่รู้จัก โดยคนเหล่านี้ได้เข้ามารับผิดชอบหน้าที่ต่าง ๆ ภายในบริษัทภายใต้การบริหารงานของคนที่เซี่ยเฟยไว้ใจอย่างอันเดร์

เซี่ยเฟยไม่ได้รังเกียจหากจะต้องจ้างคนใหม่เข้ามาช่วยงานบริษัท เพียงแต่การบริหารงานจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของคนที่เขาไว้ใจ และสิ่งนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไม่ว่าเวลาจะผ่านพ้นไปนานขนาดไหนก็ตาม

งานเลี้ยงดำเนินไปอย่างมีชีวิตชีวามาก ซึ่งพอตเตอร์ก็ดูเหมือนจะเข้ากับคนอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี แต่แฮร์ริสดูเหมือนจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เพราะเขาหลบเข้าไปภายในมุมมืดพร้อมกับหยิบคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเพื่อหาข้อมูลอะไรสักอย่างอยู่คนเดียว

เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกกังวลมากนัก เพราะท้ายที่สุดก็อย่าลืมว่าแฮร์ริสคือนักโทษหลบหนีของพันธมิตร ดังนั้นการที่เขาไม่ทำตัวเด่นจึงถือเป็นเรื่องที่ดีแล้ว ที่สำคัญชายหนุ่มต้องการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยของเขาเท่านั้นไม่สำคัญว่าเขาจะชอบเข้าสังคมหรือเปล่า

คฤหาสน์ของอันเดร์ใหญ่โตมากและชายชราก็ได้เตรียมพนักงานคอยให้บริการทุกคนเป็นอย่างดี

ในเวลาเดียวกันซาร่าก็ยืดหน้าอกเดินไปดึงชายเสื้อของเซี่ยเฟยเล็กน้อย ซึ่งชายหนุ่มก็หันกลับมามองเธอด้วยรอยยิ้ม

ซาร่าในวันนี้แตกต่างจากตัวเธอในอดีตอย่างสิ้นเชิง เพราะเธอได้แต่งหน้าบาง ๆ พร้อมกับใส่เสื้อผ้าที่ดูดีจนทำให้เธอเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ดูมีเสน่ห์มากเลยทีเดียว

“คืนนี้ไปที่ห้องฉันไหม?” ซาร่าถามโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

งานเลี้ยงเพิ่งจะจบลงและฝูงชนยังไม่กลับไป ทุกคนที่ได้ยินจึงได้หันมามองซาร่าเป็นตาเดียวและรู้สึกชื่นชมในความใจกล้าของเธอ

“โทษทีนะ คืนนี้ฉันยังมีธุระต้องกลับไปทำน่ะ” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มโดยไม่คิดจะหลบสายตาซาร่าเลยแม้แต่น้อย

“อือ งั้นค่อยไว้คุยกันทีหลัง” ซาร่ากล่าวพร้อมกับพยักหน้า

หลังจากพูดจบซาร่าก็เดินออกจากห้องโถงของงานเลี้ยง ซึ่งการเดินของเธอดูไม่ค่อยมั่นคงเล็กน้อยคล้ายกับว่าเธอยังไม่คุ้นชินกับสิ่งต่าง ๆ เช่นรองเท้าส้นสูง

“การจะเป็นคนสวยที่สง่างามนี่มันยากจริง ๆ” อู่หลงกล่าวอย่างลึกลับพร้อมกับโอบไหล่ของเซี่ยเฟย

เซี่ยเฟยจุดบุหรี่โดยไม่พูดอะไรและไม่ว่าหญิงสาวจะมองเขายังไง แต่เขาก็มองซาร่าเป็นเพียงแค่มิตรสหายที่ดีคนหนึ่งเท่านั้น

ตกดึกเซี่ยเฟย, อันเดร์และพอตเตอร์ก็มารวมตัวกันอยู่ในห้องสูบบุหรี่ โดยชายหนุ่มยังคงสูบบุหรี่ยี่ห้อหงตะชานราคาถูกอยู่เช่นเดิม ส่วนอันเดร์สูบซิการ์ที่เขาสูบอยู่เป็นประจำ ในขณะที่พอตเตอร์ไม่รู้จักวิธีการสูบบุหรี่เขาจึงดื่มไวน์แดงราคาแพงจากบอร์โดซ์

แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนอันเดร์ถอยออกจากการบริหารงานของบริษัทไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงเป็นผู้ควบคุมการตัดสินใจที่สำคัญหลาย ๆ อย่างในบริษัท เพราะท้ายที่สุดชายชราคนนี้ก็มีคุณสมบัติสำหรับการตัดสินใจที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของประสบการณ์หรือในแง่ของความสามารถก็ตาม

หลังจากนั้นอันเดร์ก็เริ่มอธิบายวิธีการผลิตอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จ ซึ่งมันก็ทำให้พอตเตอร์ถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ

“อุปกรณ์เสริมพลังชาร์จคืออะไร?”

“นี่คืออุปกรณ์เสริมพลังชาร์จเกราะพลังงานของยานอวกาศที่ผมได้ออกแบบขึ้นมาครับ มันสามารถช่วยเพิ่มความเร็วในการชาร์จเกราะพลังงานได้ถึง 30% โดยที่ไม่ต้องใช้พลังงานเพิ่มเติมเลย” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับมอบพิมพ์เขียวอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จให้กับพอตเตอร์

“นี่มันช่างเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ นายออกแบบให้ใช้พลังงานกลจากเกราะพลังงานวนกลับมาช่วยเสริมความเร็วในการชาร์จให้กับเกราะพลังงานสินะ ถ้าเมื่อไหร่ที่ผลิตภัณฑ์นี้ถูกขายออกไปยังตลาด มันจะเปลี่ยนยุคสมัยของยานอวกาศไปอย่างแน่นอน” พอตเตอร์กล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้นหลังจากที่เขาได้กวาดสายตาอ่านพิมพ์เขียวที่ชายหนุ่มให้มา

“อันที่จริงอุปกรณ์ชิ้นนี้กำลังจะถูกนำไปผลิตแล้วครับ หากเรื่องทุกอย่างราบรื่นดีพวกเราจะสามารถผลิตอุปกรณ์เสริมนี้ได้ 300 ชุดในทุก ๆ 24 ชั่วโมง พรุ่งนี้ลุงสนใจจะไปดูโรงงานผลิตอุปกรณ์พวกนี้ด้วยกันไหมครับ?” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

พอตเตอร์เคยได้รับฉายาเทพแห่งเครื่องจักร เขาจึงมีความคุ้นเคยกับอุปกรณ์กลไกต่าง ๆ เป็นอย่างดี ถ้าหากว่าพอตเตอร์ได้เข้ามาช่วยดูแลการผลิตของอุปกรณ์ชิ้นนี้ พวกเขาก็จะได้รับผลตอบแทน 2 เท่าโดยใช้ความพยายามเพียงแค่ครึ่งเดียว

“ได้สิ! ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้มันจะมีหน้าตายังไง” พอตเตอร์กล่าวอย่างอารมณ์ดี

ไม่นานมานี้พอตเตอร์ยังคงรู้สึกเศร้าใจที่วินด์ไชม์ไม่ยอมเดินทางมาด้วย อย่างน้อย ๆ การทำอะไรสักอย่างมันก็ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของเขาได้และทำให้เขาไม่รู้สึกเศร้าจนเกินไป

“ลุงพอตเตอร์ครับ บริษัทของผมกำลังขาดหัวหน้าวิศวกร ลุงสนใจ…” เซี่ยเฟยถาม

“อยากจะให้ฉันทำอะไรก็บอกมาเถอะ ฉันไม่สนใจตำนงตำแหน่งอะไรอยู่แล้ว” พอตเตอร์กล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง

“ถ้าอย่างนั้นจากนี้ไปผมขอแต่งตั้งให้ลุงเป็นหัวหน้าวิศวกรของบริษัทควอนตัม, เป็นผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเครื่องกล, เป็นหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีและเป็นหนึ่งในชุดคณะกรรมการบริษัท ลุงไม่มีปัญหากับตำแหน่งพวกนี้ใช่ไหมครับ?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ

“ก่อนหน้านี้นายบอกแค่หัวหน้าวิศวกรไม่ใช่หรอ? ทำไมอยู่ ๆ มันถึงเพิ่มมาอีกหลายตำแหน่ง” พอตเตอร์กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“แค่นี้ลุงไม่เหนื่อยหรอกครับ นี่ถ้าผมไม่เกรงใจผมจะเพิ่มตำแหน่งให้ลุงอีกสัก 2-3 ตำแหน่ง” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เซี่ยเฟยรู้ดีว่าพอตเตอร์เป็นคนที่ไม่ชอบอยู่เฉย ๆ และเขาก็มักจะทำให้ตัวเองยุ่งอยู่เสมอ ซึ่งการมอบตำแหน่งให้แค่นี้จึงไม่คณามือพอตเตอร์เลย ในความจริงชายหนุ่มกลัวว่าพอตเตอร์จะรู้สึกน้อยใจที่ให้งานเขาทำน้อยไปด้วยซ้ำ

“รอบนี้ผมได้เชิญแฮร์ริสผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุกรรมเดินทางมากับผมด้วย แต่เขาไม่ค่อยชอบเข้าสังคมและตัวตนของเขาก็ค่อนข้างพิเศษ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุดถ้าเราจะไม่เปิดเผยตัวตนของเขาออกไป” เซี่ยเฟยเปลี่ยนเรื่องมาพูดเรื่องของแฮร์ริส

“ให้ฉันจัดการสร้างตัวตนใหม่ให้เขาดีไหม?” อันเดร์กล่าว

“ผมขอฝากลุงด้วยครับ” เซี่ยเฟยกล่าว

“เรื่องแค่นี้เล็กน้อยมาก แต่ในบริษัทควอนตัมไม่มีงานเกี่ยวกับพันธุกรรมแล้วเราจะเอาผู้เชี่ยวชาญคนนี้มาทำอะไร?”

“พวกเราจะเริ่มสร้างสถาบันวิจัยให้แฮร์ริสทำงานของเขาไปก่อน สักวันหนึ่งเราจะเอาการวิจัยของเขามาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท ส่วนเรื่องรายละเอียดเดี๋ยวผมจะเป็นคนพูดคุยกับเขาเองครับ” เซี่ยเฟยกล่าว

“ไม่มีปัญหา บริษัทยังเหลือที่ดินว่างอีกตั้งเยอะ แต่การซื้ออุปกรณ์สำหรับการวิจัยอาจจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก” อันเดร์กล่าวอย่างกังวล

การสร้างโรงงานผลิตเครื่องเสริมพลังชาร์จได้ใช้เงินทุนเกือบทั้งหมดของบริษัทควอนตัมไปแล้ว ทำให้ในปัจจุบันบริษัทไม่เหลือเงินสำหรับการสร้างสถาบันวิจัยขึ้นมาเพิ่มเติม นอกจากนี้การวิจัยเรื่องพันธุกรรมยังจำเป็นจะต้องนำเข้าอุปกรณ์จากดาวดวงอื่น ซึ่งราคาของอุปกรณ์พวกนั้นก็มีราคาอยู่ไม่น้อย

“ผมจะจัดการปัญหาเรื่องการเงินเองครับ ส่วนสถาบันวิจัยเอาไปสร้างในอลาสก้าน่าจะดีที่สุด” เซี่ยเฟยกล่าว

“อลาสก้ามันหนาวมากเลยนะ คุณแฮร์ริสเขาจะไม่บ่นเรื่องนี้เหรอ?” อันเดร์กล่าว

“ไม่ต้องห่วงครับ เขาไม่มีทางบ่นออกมาแน่นอน” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ดูชั่วร้าย

ท้ายที่สุดแฮร์ริสก็สวมสร้อยเจ้าชีวิตของเซี่ยเฟยอยู่เขาจึงไม่สามารถขัดคำสั่งของชายหนุ่มได้ มันจึงไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงเรื่องการสร้างสถาบันวิจัยในอลาสก้าเลย เพราะถึงแม้เขาจะสร้างสถาบันวิจัยบนดาวอังคารแฮร์ริสก็ต้องเข้าไปทำงานในสถาบันวิจัยแห่งนั้นอยู่ดี

หลังจากนั้นอันเดร์ก็ขอตัวออกไป ก่อนที่พอตเตอร์จะหันมาถามเซี่ยเฟยว่า

“ฉันว่าแฮร์ริสคนนี้ไม่ค่อยน่าไว้ใจ ฉันเห็นสร้อยเจ้าชีวิตบนข้อมือของเขาด้วย”

“ลุงเคยได้ยินน้ำยาปรับสภาพยีนที่ชื่อน้ำยาหยกม่วงหรือน้ำยาอเมทิสต์หรือเปล่าครับ?” เซี่ยเฟยกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม

“คุ้น ๆ นะเหมือนมันเป็นน้ำยาปรับสภาพยีนที่มีผลเป็นพิษทำให้ผู้ทดลองตายไปเป็นพัน ๆ คน” พอตเตอร์กล่าวหลังจากนึกถึงเรื่องข่าวในอดีต

“แฮร์ริสคนนี้แหละครับคือคนคิดค้นน้ำยาตัวนั้นขึ้นมา” เซี่ยเฟยพูดขึ้นมาเบา ๆ

“แล้วนายเอาเขามาที่นี่ได้ยังไง? คนคนนั้นใช้มนุษย์ในการทดลองเชียวนะ คนแบบนี้สมควรตายไปซะด้วยซ้ำ!” พอตเตอร์กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ลุงไม่ต้องห่วงครับ สร้อยเจ้าชีวิตบนข้อมือของเขาเป็นของผมเอง จากนี้ไปถึงแม้เขาต้องการจะหนีแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างน้อยเขาก็ยังเป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้า พวกเรายังสามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถของเขาได้” เซี่ยเฟยกล่าว

เซี่ยเฟยไว้ใจพอตเตอร์มากเขาจึงไม่คิดจะปิดบังอะไรในเรื่องของแฮร์ริส

“ที่นายพูดมาก็มีเหตุผล การที่เขายอมใส่สร้อยเจ้าชีวิตโดยสมัครใจก็หมายความว่าเขายังพอมีจิตสำนึกอยู่บ้าง แต่พวกเราต้องระมัดระวังคนประเภทนี้เอาไว้ให้ดี ๆ” พอตเตอร์กล่าว

“ไม่ต้องห่วงครับลุง ผมจะจับตาดูเขาเอาไว้เป็นอย่างดี เขาไม่มีทางสร้างปัญหาอย่างในอดีตขึ้นมาได้อีกแน่นอน”

ก่อนที่พอตเตอร์จะเดินทางมายังดาวโลกเขาคิดเสมอว่าบริษัทควอนตัมของเซี่ยเฟยเป็นเพียงบริษัทเล็ก ๆ แต่ตอนนี้อุปกรณ์เสริมพลังชาร์จสามารถดึงดูดความสนใจของเขาได้เป็นอย่างมาก ทั้งสองคนจึงอยู่พูดคุยกันจนดึกก่อนที่จะแยกย้ายกันไปพักผ่อน

***************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด