ตอนที่ 13 ก็มันช่วยไม่ได้
ย้อนกลับไปสิบนาทีก่อนหน้านี้
ที่กระท่อมไม้สุดขอบของค่าย
มินโฮนั้นกำลังถลกหนังกิ้งก่าและหนูที่ล่ามาได้วันนี้ และเอาเครื่องในของพวกมันออกมาอย่างคล่องแคล่ว และมัดมันห้อยแขวนไว้กับกองไฟ เพื่อทำการรมควัน
เด็กสาวถูมือกับกองทรายเพื่อล้างคราบเลือดออกจากมือ
ที่มินโฮไม่ล้างมือด้วยน้ำ เพราะมันสิ้นเปลืองเกินไป น้ำเป็นของมีค่ามากสำหรับเธอ
“ทำไมมู่เหลียงไปนานจัง เขาทำอะไรอยู่นะ…”
นัยน์ตาสีฟ้าสดใสของมินโฮจ้องมองไปยังประตูกระท่อมไม้อย่างใจจดใจจ่อราวกับรอใครสักคนเปิดมัน
“หรือว่า…ที่นานแบบนี้เพราะเกิดเรื่องกับเขา!!”
ที่มินโฮคิดเช่นนี้เพราะเธอนั้นใช้เวลาเกือบชั่วโมงในการจัดการชำแหละกิ้งก่ากับหนูพวกนี้
ตอนนี้มินโฮไม่ต้องทำสิ่งใดอีกแล้ว ทำให้เด็กน้อยคิดถึงมู่เหลียงขึ้นมา จนเกิดความกังวลขึ้นเล็กน้อย
หรือที่เธอรู้สึกแบบนี้เพราะต้องอยู่คนเดียวอีกครั้ง ทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย
“ไม่หรอกมั้ง….มู่เหลียงแข็งแกร่งจะตายไป เขาคงไม่พลาดท่าอะไรง่ายๆ หรอก”
มินโฮส่ายหัวน้อยๆ ของเธอเพื่อจะสงบสติอารมณ์ลง
แต่ถึงอย่างงั้นมินโฮก็ยังมองที่ประตูด้วยความหวัง ก่อนที่จะเริ่มเก็บของในกระท่อม
“หมอนพวกนี้ก็ต้องเอาไปด้วย….อ้ะ ผ้าห่มจากหนังกระต่ายอันนี้ก็ต้องเอาไป”
“หรือว่าเราควรเอาไปทั้งเตียงไม้นี้เลย ไม่งั้นเราจะไม่มีเตียงไว้นอน”
“จริงสิ! พวกถ้วยกับถังไม้ก็ต้องเอาไปด้วยเผื่อเจอน้ำระหว่างทางจะได้เก็บน้ำได้”
เด็กน้อยเริ่มเก็บของและรู้สึกไม่อยากจะทิ้งสิ่งใดไว้เลย แม้แต่ประตูไม้นี้ด้วย
เพราะกระท่อมหลังนี้ เธอกับพี่สาวของเธอเป็นคนช่วยกันสร้างขึ้นมา
ครืด!! ครืด!!
มีเสียงเหมือนอะไรสักอย่างขูดประตู ก่อนที่ประตูจะเปิดออก
และมีร่างที่แบกสิ่งของมากมายเดินเข้ามา
“ใครกัน!?”
สีหน้าของมินโฮเปลี่ยนไปทันที พร้อมกับดึงมีดกระดูกออกมาจากเอวอย่างรวดเร็ว
พร้อมกับที่เธอถอยหลังไปติดกับผนังของกระท่อม
กี้!! กี้!!
เสี่ยวไกเจ้ากิ้งก่าสามสีมันได้ร้องตะโกนขึ้นสองสามครั้ง ก่อนที่ร่างของมันจะปรากฏออกมาอย่างชัดเจน
“แก…แกคือเสี่ยวไกงั้นหรอ?”
มินโฮจ้องมองกิ้งก่าสามสีตัวใหญ่ด้วยสายตาที่ประหลาดใจ
ก่อนที่จะลังเลอยู่พักหนึ่งและพูดขึ้น
“ถ้าใช่ละก็ พยักหน้าตอบที”
ฉึบ!
เสี่ยวไกไม่สนใจสิ่งที่เด็กสาวพูดมันเอากรงเล็บของมันตัดเชือกที่ผูกของที่แบกบนหลังของมันออก
“ฉันนี้โง่จริง! จะมีใครอีกนอกจากมู่เหลียงที่จะควบคุมกิ้งก่ายักษ์แบบนี้ได้”
มินโฮนั้นมึนงงอยู่พักหนึ่งกว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองนั้นหัวช้าแค่ไหน
เด็กสาวเก็บมีดกระดูก และเดินเข้าไปหาเสี่ยวไก
“มาเดียวฉันช่วยแกเอง”
เสี่ยวไกเองก็ดูเชื่อฟังสิ่งที่เด็กสาวพูด มันเดินเข้ามาใกล้ๆ และเทม้วนผ้าบนหลังของมันลงมา มีม้วนผ้าห้าสี หนังหมาป่า และของอีกหลายอย่าง
ก่อนที่มันจะหันหลังกลับออกไปจากกระท่อมเพื่อไปหาเจ้านายไร้ยางอายของมัน
“เดี๋ยว! แล้วมู่เหลียงอยู่ไหน!”
มินโฮตะโกนไล่หลังมันไป แต่เสี่ยวไกก็ไม่ได้สนใจและพุ่งหายไปในความมืด
แม้ว่าสัตว์อสูรนี้จะถูกฝึกจนเชื่องแล้วก็ตาม และได้รับการวิวัฒนาการแต่สติปัญญาของมันก็ยังเท่ากับเด็กสองสามขวบเท่านั้น มันจะไปเข้าใจสิ่งที่เด็กสาวถามได้อย่างไร
“เห้อ….แกไม่เข้าใจที่ฉันพูดเลยสินะ”
มินโฮถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
ก่อนที่จะหันมาสนใจกับของที่เสี่ยวไกขนกลับมา
มินโฮสัมผัสเนื้อผ้าด้วยแววตาที่เป็นประกาย ก่อนจะพูดขึ้น
“ผ้าพวกนี้นุ่มและลื่นมากเลย พวกมันทำมาจากขนสัตว์อย่างดีแน่นอน”
“มู่เหลียงนายไปเอาของพวกนี้มาจากไหนกัน แล้วมีม้วนผ้าต้อง 5 สี มันมากพอที่จะทำชุดได้หลายสิบชุดเลยด้วยซ้ำ”
เด็กสาววางม้วนผ้าลงอย่างหนักใจ ก่อนที่จะกางหนังหมาป่าออกและเทียบกับตัวของเธอ
“หนังหมาป่าพวกนี้อยู่ในระดับเดียวกับสัตว์อสูร!”
มินโฮกอดหนังหมาป่าแน่นด้วยความรู้สึกตื่นเต้น และพูดด้วยสีหน้าสงสัย
“แล้วมู่เหลียงไปเอาของแบบนี้มาได้ไง?”
โดยที่ไม่รู้ตัวมินโฮได้พูดออกมาลอยๆ ราวกับคาดเดาออกมาเอง
“หรือว่า…มู่เหลียงเอาเรื่องโจรพวกนั้นไปบอกหัวหน้าค่ายแล้ว ได้ของพวกนี้กลับมาเป็นรางวัล!”
เด็กสาวคิดว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดแล้วที่จะได้รับของเหล่านี้มา
ก่อนที่มินโฮจะวางหนังหมาป่าลง และหยิบดาบขึ้นมาแทน
“ดาบพวกนี้…มันสำหรับทีมนักล่าไม่ใช่รึไง”
มินโฮนั้นมั่นใจว่าสิ่งที่เธอคิดนั้นถูกต้อง
ครืด ครืด
เสียงขูดไม้ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับประตูที่เปิดออก
เสี่ยวไกเดินกลับมาพร้อมกับถุงผ้าขนาดใหญ่บนหลัง
มินโฮรีบเข้าไปช่วยแกะถุงผ้านั้นออกมาทันที และมองดูเสี่ยวไกเดินจากไปเช่นเดิม
ก่อนที่เด็กสาวจะเปิดดูของที่อยู่ในถุงผ้า
“ที่นี้ขนอะไรกลับมาอีกเนี้ย”
“เอ๋!!!”
มินโฮถึงกับผงะด้วยความตกใจ
ถุงผ้าใบนี้เต็มไปด้วยเนื้อตากแห้ง และอาหารหลายอย่าง
ทันใดนั้นเองเด็กสาวก็คิดได้ว่าหัวหน้าค่ายไม่น่าจะใจดีแบบนี้แน่นอน
“อย่าบอกนะว่า…..มู่เหลียงไปขโมยของจากบ้านหัวหน้าค่าย!?”
มินโฮก้มมองดูถุงผ้าอยู่หลายครั้ง ก่อนที่จะกอดมันไว้แน่น และรีบเอาไปซ่อนใต้เตียง กลัวว่าใครจะมาเห็นเข้า
“เอาซ่อนไว้ที่นี่ก่อนคืนนี้ พรุ่งนี้ค่อยขนออกมาตอนจะออกเดินทาง!”
“มู่เหลียงนี้จริงๆ เลย….ถึงจะตัดสินใจแล้วว่าจะออกจากที่นี่ ก็ไม่เห็นต้องขโมยของมามากมายแบบนี้เลย”
“หรือว่าจะย้ายของไปเก็บไว้ที่เจ้าเต่าทมิฬก่อน?”
“อืม…ก็เป็นความคิดที่ไม่เลว เราค่อยบอกมู่เหลียงอีกที ตอนเขากลับมาแล้ว”
มินโฮเอาของทุกอย่างซ่อน และเก็บไว้อย่างดีเพื่อรอให้ถึงวันพรุ่งนี้
เอาไปคืนงั้นหรอ?
ไม่มีทาง!!
มู่เหลียงอุสาขโมยทุกอย่างออกมาด้วยความยากลำบาก เด็กสาวไม่มีทางเอาไปคืนเด็ดขาด!