บทที่ 98 – เขียนจดหมายรักเพื่อล้างแค้น
แม่สาวธรรมดา ๆ ที่อยู่ข้างผมกระซิบขึ้นมา “สมน้ำหน้าแล้ว!”
อะไร? นี่ผมทำให้เธอขุ่นข้องหมองใจเรื่องอะไรตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ผมมองไปที่เธออย่างงง ๆ แต่เธอทำเหมือนเป็นไม่รู้ว่าผมมองไปทางนั้น แค่จ้องมองไปที่กระดานดำอย่างเดียว ผมเลยอยากจะที่จะแกล้งเธอขึ้นมาทันที อืม!! คิดแล้วผมก็รวมธาตุแสงเอาไว้ที่นิ้วมือ แล้วเล็งไปที่เธอ ลำแสงเส้นเล็ก ๆ พุ่งลอดใต้แขนของผมไปถูก*****ของเธอทันที
เธอตัวสั่นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนและตะโกนข้อความที่ผมคาดไม่ถึงออกมาลั่นห้องเลย “นายทำอะไรน่ะ!? อาจารย์คะ เขาลวนลามฉัน!”
ผมแทบล้ม! แทบล้มลงทั้งยืนเลย! ทำไมเธอถึงได้มีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้? เธอไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้!!
นักเวทย์ชราคนนั้น คนที่เพิ่งหายโกรธไปเมื่อกี้นี้แหละ ตอนนี้กลับมาโกรธอีกแล้ว เขาตะคอกเสียงดังเชียว “เด็กใหม่! ออกไป! ออกไปยืนอยู่ที่ระเบียงเดี๋ยวนี้”
นักศึกษาคนอื่นในห้องเรียนพากันจ้องมองมาที่ผม เหมือนกับว่าผมทำตัวไม่สมกับที่หน้าตาดีเลย ทำไมต้องไปลวนลามผู้หญิงหน้าตาธรรมดา ๆ ที่หน้าตาบ้าน ๆ คนหนึ่งด้วย มันไม่สมกับหน้าตาอันหล่อเหลาของผมเลย ผมทำได้แค่ยืนขึ้น แล้วเดินออกไปนอกห้อง ก่อนที่จะออกพ้นประตู ผมหันมามองที่เด็กสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ แต่สายตาของเธอเหมือนกำลังเยาะเย้ยผมอยู่ แถมเธอจ้องผมกลับแบบไม่ยอมแพ้ด้วย
ผมยืนพิงผนังอยู่ที่ระเบียง บ้าจริง! ผมโดนเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ รังแกเหรอเนี่ย? ผมต้องแก้แค้น!!! ผมต้องแก้แค้นแน่นอน! การกระทำเมื่อตะกี้นี้มันน่ารังเกียจเกินไป แต่ผมจะล้างแค้นยังไงดี? เอาหนอนใส่กระเป๋าหนังสือ? ใช้เวทย์มนต์ทำให้เธออาย? ไม่ดี! ความคิดพวกนี้ไม่ค่อยน่าสนใจเลย มันธรรมดาเกินไป มันต้องลงโทษเธอด้วยวิธีที่พิเศษหน่อย อืมม!!!
หลังจากจบชั้นเรียน นักเวทย์ชราพาผมไปที่ห้องพักทำงานของเขา “เธอมาที่สถาบันนี้เพื่อที่จะมาเรียน หรือว่าจะมาเที่ยวเล่นไปเรื่อย?”
เขาช่างดุดันจริง ๆ ผมก้มหน้าลง “ผมขอโทษครับอาจารย์ ผมรู้ตัวว่าผมทำผิดไปแล้ว”
“หืม! ไม่ต้องแสดง! จากนี้ไปฉันจะจับตาดูเธออย่างใกล้ชิด เธอเข้ามาเรียนที่สถาบันนี้ด้วยการรับรองพิเศษใช่มั้ย? ถึงแม้ว่าเธอจะมาที่นี่เพื่อชุบตัวหรืออะไรก็ตาม เธอก็ไม่ควรจะรบกวนนักศึกษาคนอื่น บอกฉันสิ ขุนนาง หรือเจ้าหน้าที่คนไหนที่รับรองให้เธอเข้ามาเรียนที่สถาบัน” น้ำเสียงของเขาฟังดูเหมือนกำลงเยาะเย้ยผมอยู่ ดูท่าทางว่าเขาคิดว่าผมเป็นพวกขุนนาง
ผมเลยบอกเขาไปตามตรง “อาจารย์ตี้เหล่าหลุนครับ อาจารย์ตี้เป็นคนรับรองผม”
นักเวทย์ชราคิ้วขมวดขึ้นมาทันที “ตี้เหล่าหลุน! ตี้เหล่าหลุน! อย่าบอกฉันนะว่าเขาคืออาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนมัธยมเวทย์มนต์หลวง?”
ผมพยักหน้า “ใช่แล้วครับ! ตาเฒ่านั่นแหละครับ ผมเป็นลูกศิษย์ของเขา”
“เธอเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ใหญ่ตี้? ถึงเธอจะเป็นก็ตาม เธอก็ไม่ควรรบกวนการเรียนของใคร จำเอาไว้ให้ดีล่ะ เอาล่ะ เธอไปได้แล้ว” น้ำเสียงของเขาดูอ่อนลงมาก ผมแอบหัวเราะอยู่ในใจ ชื่อของอาจารย์ตี้นี่ก็ใช้เบ่งได้เหมือนกันแฮะ
หลังจากผมออกมาจากห้องทำงานของอาจารย์แล้ว ผมรีบกลับมาที่ห้องเรียน นักศึกษาที่อยู่ในห้องต่างสงสัยที่ผมกลับมาได้โดยไร้รอยขีดข่วน ส่วนผม แค่นั่งลงข้าง ๆ ยัยคนนั้นต่อ
แล้วผมก็กระซิบกับเธอ “เมื่อกี้นี้ถือว่าเธอโหดมากที่กล้ามาทำให้ฉันมีปัญหา”
นำมาด้วยเสียง “ฮึ!” ก่อนเป็นเสียงเธอพูด “ฉันทำนายมีปัญหาเหรอ? มันก็แค่พวกลามกอย่างนายควรจะตายไปให้หมด” แล้วเธอก็ “ฮึ!” อีกครั้ง
ใครจะไปจินตนาการได้ว่าเมธีเวทย์อัน...ช่างมัน เมธีเวทย์อย่างผมจะถูกเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ รังแก? ได้เลย! แก้แค้น ต้องแก้แค้น! ผมต้องให้เธอรู้ว่าผมไม่ใช่คนที่ใครก็จะมาเล่นด้วยได้
แล้วผมก็เกิดความคิดอันสุดวิเศษจนได้ ผมเริ่มหยิบกระดาษออกมา แล้วเริ่มเขียนลงไปในกระดาษอย่างเกรี้ยวกราด ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ในห้องกำลังเรียนวิชาอะไรอยู่ มันไม่มีอะไรสำคัญอยู่แล้ว ส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่อาจารย์สอนในห้องมักจะไม่เหมาะสมกับการฝึกของผม ทุก ๆ คืน ผมแค่ต้องทำสมาธิเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
พอเด็กสาวข้าง ๆ ผมเห็นว่าผมเริ่มเขียนอะไรบางอย่างลงกระดาษอย่างงขะมักเขม้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะมองมาที่ผม แน่นอนว่าเธองงว่าผมทำอะไรอยู่ ผมหันข้างเอาตัวเองบังไว้ไม่ให้เธอเห็น ทำให้เธอไม่รู้ว่าผมกำลังเขียนอะไรอยู่
ใช้เวลาไปเกือบครึ่งคาบเรียน ผมเริ่มเขียนเสร็จแล้ว ผมหายใจยาว ก่อนจะยกกระดาษที่เต็มไปด้วยตัวหนังสือนั่นขึ้น อ่านตั้งแต่ต้นจนจบอีกครั้ง คราวนี้ผมพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
แล้วผมก็สะกิดไหล่นักศึกษาที่อยู่ข้างหน้าผม เขาหันกับมาทำหน้านิ่วใส่ผม ก่อนจะเอ่ยปากถาม “นายจะทำอะไร?” ผมรีบเสกเหรียญเพชรออกมาจากกลางอากาศ คิ้วที่ขมวดของเขาคลายออกแล้ว “มีเรื่องอะไรให้ช่วยเหรอ?”
ผมกระแอมก่อนกระซิบ “นายแต่ต้องบอกชื่อของเด็กผู้หญิงใจร้ายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นี่ให้ฉันรู้ แล้วเหรียญนี่จะเป็นของนาย”
เขาลอบมองไปที่นักศึกษาหญิงที่นั่งอยู่ข้างผม ก่อนจะกระซิบที่ข้างหูของผม “เธอชื่อโหมวมู่จือ” ผมหัวเราะอยู่ในใจ ดูเหมือนว่าการมีเงินนี่ก็แก้ปัญหาอะไรได้ไม่น้อย หลังจากนั้น ผมก็รีบเขียนลงไปบนหัวกระดาษอีกนิดหน่อย
มู่จือที่เห็นผมทำตัวมีความลับ ก็เริ่มสงสัยมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอต้องการแอบดูกระดาษในมือผม ผมมองดูเธออย่างเย็นชา “เธอต้องการจะดู?”
เธอรีบสั่นหัว แล้วรีบถอยหลังออกไปทันที “นายจะทำอะไร?”
ผมยืนกระดาษในมือให้เธอ แล้วบอกเธอว่า “เอ้านี่! ไม่ใช่ว่าอยากดูหรอกเหรอ?” ด้วยความสงสัยทำให้เธอรับกระดาษไปจากมือของผม หลังจากที่อ่านมัน หน้าเธอเริ่มแดงกล่ำ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ตอนนี้หน้าสีแดงเข้มของเธอเหมือนลูกแอปเปิล มองดูแล้ว คุณต้องอยากกัดมันสักคำแน่ ๆ
สิ่งที่ผมเขียนไว้ในกระดาษก็คือ สวัสดีคุณหนูมู่จือ ตั้งแต่ตอนที่ผมได้เห็นคุณ ผมรู้ได้ทันทีว่าพวกเราถูกลิขิตมาให้อยู่ด้วยกัน ดวงตาอันกลมโตของคุณช่างดึงดูดผม มันทำให้ผมตกหลุมรักคุณอย่างไม่รู้ตัว ถึงแม้ว่าคุณชอบที่จะแสดงท่าทางเย็นชากับผม แต่นั่นยิ่งทำให้ผมติดกับดักของคุณมากขึ้นไปอีก ผมไม่ได้รู้สึกโกรธเลยแม้แต่นิดเดียว จริง ๆ นะ ไม่ได้โกรธคุณเลย..(มีอีกประมาณ อืม..2,000 คำล่ะมั้ง) ...ที่ผมแกล้งคุณ นั่นเป็นเพราะผมต้องการให้คุณหันมาสนใจผมบ้าง ทำให้คุณรู้ว่าผมมีตัวตนอยู่ ผมรู้สึกอายเกินไปที่จะบอกเรื่องนี้ต่อหน้าคุณ ผมกลัวว่าคุณจะปฏิเสธ ผมได้แต่ใช้จดหมายฉบับนี้ส่งความรู้สึกให้คุณ คุณจะออกไปเที่ยวกับผมได้หรือไม่?
เขียนมาด้วยความรักอันล้นเหลือที่มีต่อคุณ จางกง
เป็นยังไงบ้าง? แผนของผมยอดเยี่ยมหรือไม่ เธอบอกว่าผมลวนลามเธอใช่มั้ย? ขั้นแรกผมจะทำให้เธอตกหลุมรักผม แล้วต่อไปผมจะเริ่มแก้แค้น ฮ่าฮ่า ความคิดนี้ยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า!!
หลังจากที่มู่จืออ่านจดหมายรักที่ผมส่งให้เธอจบ คิดไม่ถึงว่าเธอจะไม่กล้าหันหน้ามาหาผมเลย หลังจากมีแต่ความเงียบอยู่ชั่วขณะหนึ่ง หน้าสีแดงของเธอเริ่มจางลง แล้วเธอก็หันหน้าเธอมาหาผม “น่าเบื่อ! ไม่ต้องใช้ลูกไม้ตื้น ๆ อย่างนี้กับฉันเลย” เธอขยำจดหมายนั่นแล้วโยนกลับมาที่ผม แต่นี่เป็นผลลัพธ์ที่ผมคาดเอาไว้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ด้วยความประทับใจที่ไม่ดีต่อผม เธอจะถูกหลอกได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ? แต่ไม่ต้องกังวล พวกคุณก็แค่ต้องค่อย ๆ ดูต่อไป อีกไม่นานหรอก เธอจะต้องติดกับของผมแน่นอน
ผมค่อย ๆ ก้มหัวลง แกล้งทำอาการเหมือนคนอกหัก และพยายามที่จะคลี่จดหมายรักนั่นออกมา ทำมันให้เรียบ พับมันให้เรียบร้อย แล้วเก็บใส่กระเป๋าไว้อย่างดี หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แค่จ้องไปที่กระดานดำที่หน้าห้อง แต่ในใจของผมตอนนี้กำลังวางแผน ผมจะทำอย่างไรที่จะกระตุ้นให้เธอหลงเสน่ห์ของผมเร็ว ๆ และผมจะทำการแก้แค้นแบบไหนดี
มู่จือมองมาที่ผม สายตาของเธอเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน
เสียงระฆังบอกเวลาจบคาบเรียนดังขึ้น แต่ผมไม่ได้ขยับตัวแม้แต่นิดเดียว ผมไม่รู้ว่าท่าทางเงียบขรึมของผมจะทำให้เธอหวั่นไหวบ้างหรือไม่? ไม่สิ! ลืมมันไปก่อน!! ต้องไปหาหม่าเคอก่อน เจ้าเด็กนั้นยังไม่ได้บอกผมเลยว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นใคร