ตอนที่ 12 หวังว่าแกจะเป็นคนฉลาด
“วันนี้แหละ เหมาะที่จะเป็นโจรที่สุดแล้ว!”
พ่อบ้านยัดเนื้อใส่ถุงผ้าอย่างดุดันและดูไม่พอใจอย่างมาก พร้อมทั้งหยิบเนื้อบางส่วนขึ้นมาจนอาหารเต็มปาก
“ดูถ้าจะเอาไปเยอะเกินไป”
พ่อบ้านพึ่งสังเกตเห็นว่าถุงผ้าที่ใส่อาหารนั้นตุงจนล้นออกมา และหนักถึงร้อยกิโลได้
แล้วพ่อบ้านก็ค่อยๆ เปิดประตูห้องออกอย่างเงียบๆ
มู่เหลียงเองก็เดินตามหลังพ่อบ้านไปอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะใช้มือเอื้อมไปปิดปากพ่อบ้านจากด้านหลัง และใช้มีดจ่อไปที่คอหอยของพ่อบ้าน
“อู้!!”
พ่อบ้านผงะและส่งเสียงร้องออกมาจากลำคอ
“ชูๆๆ นิ่งๆ ถ้าไม่อยากให้คอของแกเป็นรู”
มู่เหลียงพูดด้วยเสียงที่ทั้งทุ้มและแหบข้างๆ หูของพ่อบ้าน
“.....”
พ่อบ้านยกมือขึ้น และไม่แสดงท่าทางขัดขืนอีกต่อไป
“ดี ดูท่าแกยังฉลาดอยู่”
มู่เหลียงพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบขึ้น
“หากยังไม่อยากตายก็ฟังคำพูดฉันดีๆ นะ”
“อือ!!”
พ่อบ้านพยักหน้าพร้อมกับส่งเสียงในคอเบาๆ
“ดี เพื่อเป็นรางวัลที่แกเชื่อฟัง ฉันมีเรื่องดีๆ จะบอกกับแก”
มู่เหลียงน้ำเสียงดูเย็นชาขึ้น ยิ่งทำให้พ่อบ้านใจหายมากขึ้น
“หัวหน้าค่ายของแกตาย ตั้งแต่แกก้าวเท้าออกจากห้องโถง และฉันนี้แหละเป็นคนหักคอมัน”
“....”
แววตาของพ่อบ้านั้นเบิกกว้างด้วยความตกใจ ร่างของเขาเย็นลงทันทีด้วยความกลัว
หากสิ่งที่ชายผู้นี้พูดเป็นความจริง นั้นแปลว่าตั้งแต่เขาก้าวขาออกไปจากห้องโถง หัวหน้าค่ายก็ถูกฆ่าตายแล้วงั้นหรอ?!
หมายความว่าชายผู้นี้แอบอยู่ในห้องตั้งแต่แรก!!
“เป็นอย่างที่แกเข้าใจ ฉันแอบอยู่ในห้องนั้นต้องนานแล้ว และได้ยินทุกอย่าง”
มู่เหลียงนั้นพอจะคาดเดาได้ว่าพ่อบ้านคิดอะไร
ตั้งแต่เริ่มจับตัวพ่อบ้านได้ เขาก็ใช้เทคนิครีดข้อมูลสมัยตอนยังเป็นทหารหน่วยรบพิเศษทันที
“อืออ…”
พ่อบ้านนั้นเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ฟังไม่ชัด
“แกเป็นคนฉลาด แต่อย่าได้หันกลับมาเด็ดขาด และห้ามส่งเสียง!”
มู่เหลียงค่อยๆ ปล่อยมือของเขาออกจากปากพ่อบ้าน และลดมีดลง
พ่อบ้านพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“แล้วท่านต้องการอะไรจากผม..”
เมื่อไม่ถูกฆ่าทันทีทำให้พ่อบ้านเข้าใจได้ว่าชายผู้นี้ต้องการอะไรสักอย่างจากเขา
“ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น…”
มู่เหลียงตอบอย่างเฉยชา
“เออ….”
พ่อบ้านตัวแข็งอยู่กับที่ และพยายามจะพูดแต่พูดไม่ออก
“แล้วฉันจะบอกอีกเรื่องหนึ่งคือ คนของกลุ่มโจรเคราโลหิตที่ถูกส่งมาวันนี้ ฉันฆ่าพวกมันไปหมดแล้ว”
มู่เหลียงพูดเบาๆ
“แต่หากว่าโจรพวกนี้ไม่กลับไปยังฐานของพวกมัน พรุ่งนี้พวกโจรเคราโลหิตจะส่งคนมาตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น และหากว่ามันพบว่าหัวหน้าค่ายเสียชีวิต ลองเดาดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”
“หากเป็นแบบนั้น….อึ้ก!”
พ่อบ้านกลืนน้ำลายก้อนโตลงคอด้วยความกลัว
สิ่งที่พวกโจรจะทำอย่างแน่นอนเลยคือบุกค่ายและเอาทุกอย่างของค่ายแห่งนี้ไปเป็นของพวกมัน
“และค่าตอบแทนสำหรับข่าวนี้….”
มู่เหลียงหยิบถุงผ้าที่ใส่อาหารของพ่อบ้านขึ้นมา
ก่อนที่เขาจะเดินถอยออกไปเงียบๆ ราวกับภูติผี และพูดขึ้นไล่หลังมาว่า
“แกนะฉลาด และเป็นคนที่น่าสนใจนะ …”
“....”
พ่อบ้านตัวแข็งทื่อไม่ตอบสิ่งใด และสั่นไปทั้งตัวราวกับคนกำลังจะร้องไห้
ทำไมต้องมาสนใจตัวฉันด้วย ฉันมันแค่ไอโง่คนหนึ่งเท่านั้นเอง
นี้คือสิ่งที่พ่อบ้านคิด แต่เขาไม่ได้พูดออกไป
มู่เหลียงไม่สนใจว่าพ่อบ้านจะปฏิเสธหรือไม่ หากว่าอีกฝ่ายโง่เง่าเกินไปที่จะทำตามแผนสุดท้ายแผนการนี้ก็ล้มอยู่ดี
เขาให้เสี่ยวไกที่กลับมาแล้ว เดินเข้าไปหาพ่อบ้าน และเอาอุ้งเท้าตบเบาๆ บนขาของเขาราวกับพูดว่า ฉันสนใจในตัวนายจริงๆ นะ
ส่วนเรื่องแผนการ มู่เหลียงพึ่งจะคิดได้เมื่อกี้ แต่แผนนี้ก็ถือว่าสมบูรณ์แบบแล้ว
“ถึงจะมีอาหารแต่ก็ขาดแคลนน้ำ”
มู่เหลียงที่เดินออกจากห้องนั้นมาแล้วก็รอเสี่ยวไกกลับมาหาเขา
กี้!
เสี่ยวไกคลานเข้ามาทางหน้าต่างโดยที่ไม่ปล่อยให้มู่เหลียงรอนาน
“มินโฮคงตกใจแน่นอนกับของพวกนี้
มู่เหลียงแสยะยิ้มขึ้นเบาๆ โดยที่เขาไม่รู้ตัว
ก่อนที่เขาจะมัดของทุกอย่างบนหลังเสี่ยวไก และหาที่อยู่ของแหล่งน้ำ
และพบว่าทางจะไปแหล่งน้ำนั้นมียามเฝ้าอยู่
สำหรับมู่เหลียงที่มีความสามารถลอบเร้นได้มันก็ไม่ได้ยากอะไรที่จะผ่านยามคนนี้ไป
มู่เหลียงหาหินตามพื้น ก่อนที่จะปามันออกไปสร้างเสียงให้ยามคนนั้นออกไปตรวจดู
ก่อนที่เขาจะแอบย่องไปด้านหลังของยามคนนั้น และใช้สันมีดทุบจนยามสลบไป
มู่เหลียงเปิดประตูทางเข้าอย่างระมัดระวังไม่ให้ใครมาเห็น ก่อนที่จะลากยามที่หมดสติเข้ามาแอบข้างหลังประตู
ที่หลังประตูมีคบเพลิงติดอยู่ที่ผนัง
“แปลว่าแหล่งน้ำของที่นี่เป็นบ่อน้ำบาดาล”
มู่เหลียงเดินลงมาตามทางและยกแผ่นไม้ที่ปิดฝาบ่อขนาดสองเมตรออก
ข้างๆ บ่อมีถังสำหรับตักน้ำอยู่ แต่ในบ่อตอนนี้นั้นมืดสนิทมองไม่เห็นสิ่งใดเลย และไม่รู้ว่ามีน้ำอยู่หรือไม่
ฟิ้ว…..ต๋อม!!
มู่เหลียงโยนถังน้ำลงไปในบ่อ ก่อนจะดึงเชือกที่ถูกกับหูหิ้วถังเอาไว้ขึ้นมา และพบว่าสิ่งที่ตักขึ้นมาได้นั้นเป็นน้ำโคลน และตัวถังเองก็เลอะโคลนเต็มไปหมด
“ไม่แปลกล่ะ ก็มันจะแห้งอยู่แล้ว”
มู่เหลียงจึงวางถังลงและปิดฝาบ่อน้ำ
เนื่องจากในบ่อแทบไม่มีน้ำเหลือแล้ว มู่เหลียงจึงมองไปรอบๆ และเห็นว่ามีถังที่ปิดฝาตั้งอยู่
ขนาดของมันสูงประมาณ 1 เมตร และใหญ่พอๆ กับ 1 คนโอบ
จ็อกแจ้ก
มู่เหลียงเมื่อเขย่าถังไม้ดูก็ได้ยินเสียงของน้ำที่อยู่ในถัง เขาจึงแบกเอาถังไม้ที่เต็มไปด้วยน้ำขึ้นไหล่ซ้ายและขวา
-ด้วยร่างกายที่แข็งแรงขึ้นของเขาพอแล้วที่จะแบกน้ำสองถังได้ไม่ต่างจากแบกขนมปังสองชิ้น
“เท่านี้ก็น่าจะพอใช้ไปสักพัก”
มู่เหลียงเดินถือถังน้ำออกมาอย่างสบายใจ
…..
ที่อีกด้านหนึ่งพ่อบ้านนั้นยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน เพราะกลัวว่ามู่เหลียงจะฆ่าเขา
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าที่ดูเร่งรีบเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
ปัง!!
เสียงของประตูเปิดออกอย่างแรงจนกระแทกกับผนัง
สาวใช้คนเดิมที่เดินออกไปจากห้องครัวตอนนั้น เข้ามาในห้องและร้องตะโกนโวยวายทันที
“พ่อบ้าน!! แย่แล้วหัวหน้าตายแล้ว!”
“ท่านตายแล้วจริงหรอ!?!”
พ่อบ้านที่ตัวแข็งทื่อมาต้องนานในที่สุดก็ผ่อนคลายลง เขาใช้มือพยุงตัวเองกับขอบโต๊ะ เนื่องจากขาของเขาหมดแรง และสั่นไปด้วยความกลัว
ก่อนที่เขาจะถามต่อ
“หัวหน้า…เจ้าเจอเขาที่ไหน แล้วท่านตายได้อย่างไร”
“ในห้องโถงคอท่านถูกหัก”
สาวใช้ผู้ด้วยความหวาดกลัว
“หัวหน้าค่ายตายแล้วจริงๆ เขาคนนั้นไม่ได้พูดเล่น”
ความคิดของพ่อบ้านเปลี่ยนไปทันที และจดจำสิ่งที่ชายลึกลับนั้นพูดได้ทุกคำ
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที และพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา
“งั้นแปลว่า…คนของกลุ่มเคราโลหิตก็ถูกฆ่าไปจริงๆ”
หนี!! อยู่ไม่ได้อีกแล้ว ต้องไปจากที่นี่เท่านั้น
พ่อบ้านคิดอยู่ภายในใจ เขาตรงเข้าไปในครัวและยัดอาหารลงถุงผ้าอีกครั้ง
สาวใช้รีบตามมาแล้วถามขึ้น
“พ่อบ้าน หัวหน้าตายแล้ว เราจะหนีไปกันเลยไหม”
“.....”
พ่อบ้านหยุดชะะงักและตัวแข็งทื่อไป
“อา…จริงสิหัวหน้าตายแล้ว”
เขาไม่จำเป็นต้องหนีอีกต่อไปแล้ว ก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงเล็กน้อยพร้อมกับคิดหาหนทางต่อไป
พ่อบ้านนึกถึงสิ่งที่ชายลึกลับคนนั้นพูด ทำไมเขาถึงดูเหมือนตั้งใจจะมาบอกเรื่องโจรเคราโลหิตที่เขาฆ่าไป?
หรือว่าเขามีนัยยะแอบแฝงอยู่ในคำพูดเหล่านั้น
พ่อบ้านนั้นนึกได้ว่าคำพูดสุดท้ายของชายลึกลับที่พูดเอาไว้คือ เจ้านะฉลาด และเป็นคนที่น่าสนใจนะ
“เขาแอบตามฉันมาตลอดงั้นหรอ? ตั้งแต่ตอนไหนกัน!”
“หรือตามมาตั้งแต่ในมุมมืดของห้อง หรือตั้งแต่ในค่าย”
“แล้วเรื่องที่วางแผนจะหนีไปสองคนเขาก็อาจจะรู้…”
พ่อบ้านพูดอยู่คนเดียวเหมือนกับคนสติแตก
ในที่สุดเขาก็คิดออกถึงความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของชายผู้นี้
พ่อบ้านเงยหน้าขึ้นและหันไปทางสาวใช้ และออกคำสั่งไปทันที
“เรียก…..ไปเรียกหัวหน้าทีมนักล่ามาให้หมด ฉันมีเรื่องที่จะต้องคุยกับพวกเขาด่วนตอนนี้ บอกเขามันเกี่ยวข้องกับความเป็นและความตายของคนทั้งค่าย!”
“ได้ๆ เข้าใจแล้ว”
สาวใช้แสดงสีหน้าหวาดกลัวเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าพ่อบ้านที่เธอคบหาอยู่ด้วยนั้นดูจริงจังขึ้นมาแปลกๆ
“คนฉลาด?”
พ่อบ้านหัวเราะกับตัวเอง
จงหนีไปพร้อมกับคนในค่ายแห่งนี้ นี่คือความหมายแฝงที่ชายลึกลับหมายถึง!
“ชายคนนี้…เป็นใครกันแน่”