ตอนที่ 1091 ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อสัมภาษณ์ แต่ฉันมาที่นี่ก็เพื่อสัมภาษณ์ กลุ่ม หยงจิ่ว ของพวกคุณ!
หลินฟาน ได้ถือชุดชา และเดินเข้าไปในห้องประชุม
เฉิน ซื่อหง ได้อยู่ภายในห้องประชุมกับลูกน้องของเขาอีกสองคน แต่โดยไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่า เฉิน ซื่อหง กำลังด่าทอลูกน้องทั้งสองคนของเขาอยู่ โดยที่ลูกน้องทั้งสองคนของเขา ได้เอาแต่ก้มหน้าก้มตา ไม่กล้าผายลมใดๆ ออกไปแม้แต่คนเดียว
“คุณเฉิน สวัสดีครับ..”
หลินฟาน ได้กล่าวทักทาย ก่อนที่จะเดินเข้าไป
ทั้งสามคนได้เงยหน้าขึ้น และมองไปที่ หลินฟาน และก็ได้เห็น หลินฟาน ถือชุดน้ำชาอยู่ในมือ เฉิน ซื่อหง จึงได้คิดถือไปว่า หลินฟาน เป็นเลขาฯ นั่นก็เพราะเมื่อกี้ ก่อนที่ เจียง จงเฉิน จะออกไป เขาได้บอกว่าเขาจะไปตาม เลขาฯ ให้ออกมาต้อนรับพวกเขา
ปรากฏว่า เลขาฯ ที่เขาว่า.. เป็นผู้ชายสินะ เมื่อนั้น เฉิน ซื่อหง ก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกฝ่ายมากนัก
แต่กลับผู้ชายสองคนนั้น ที่ จู่ๆ ก็ได้เห็น หลินฟาน สีหน้าของพวกเขาก็ได้เปลี่ยนไป พวกเขาแค่มองปราดเดียวก็จํา หลินฟาน ได้แล้ว แต่พระเจ้า.. นี่มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือเรื่องบ้าอะไรกันแน่? หรือ หลินฟาน ได้มาตามหาพวกเขา และนั่นยิ่งทำให้จิตใต้สํานึกของพวกเขา ได้พากันหดคอของตัวเองลงไป โดยไม่รู้ตัว..
เฉิน ซื่อหง ได้สังเกตเห็นปฏิกิริยาที่ผิดปกติของชายทั้งสองคนนี้ เขาจึงได้เงยหน้าขึ้นมองไปที่ หลินฟาน จากนั้นเขาก็ได้ขมวดคิ้ว แล้วพูดไปว่า : “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
หลินฟาน ยิ้ม แล้วพูดไปว่า : “คุณเฉิน สองคนนี้เป็นลูกน้องของคุณหรือ? พอดีว่าเราโชคดี ที่ได้ไปพบกันเมื่อเช้านี้ครับ..”
เฉิน ซื่อหง กล่าวว่า : “นี่คุณ.. กำลังหมายความว่าอะไร?”
ผู้ชายที่ได้ถูก หลินฟาน โยนออกจากร้าน ได้พูดขึ้นว่า : “บอส เขา… มันคือ เขาที่เป็นคนทุบตีพวกเราเมื่อเช้า!”
สีหน้าของ เฉิน ซื่อหง ได้เปลี่ยนไป : “อะไรนะ คนนั้นก็คือคุณ?”
โลกนี้มันก็ช่างแคบเกินไปจริงๆ เดิมทีเขาเองได้ตั้งใจจะสัมภาษณ์เสร็จ แล้วค่อยไปชำระบัญชีกับ หลินฟาน ขนาดลูกน้องของเขามันยังกล้าทุบตี และด้วยอารมณ์ของเขา เขาเองคงไม่คิดที่จะปล่อย หลินฟาน ไป..
หลินฟาน กล่าวว่า : “ที่แท้เรื่องนี้.. พวกเขาก็ได้บอก คุณเฉิน ไปแล้ว”
เฉิน ซื่อหง ได้กล่าวอย่างเย็นชาไปว่า : “ใน หยงจิ่ว กรุ๊ป คุณเองก็เป็นแค่เลขาฯ ตัวน้อยๆ แต่กลับกล้าที่จะหยิ่งผยองมาก ดูเหมือนว่า หยงจิ่ว กรุ๊ป จะสมควรเป็นบริษัทที่ใหญ่จริงๆ สินะ ทั้ง คุณหลิน ก็สมควรแล้วจริงๆ ที่เป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในหยุนเฉิง!”
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
หลินฟาน ได้ร้องโอ้ แล้วพูดไปว่า : “คุณเฉิน ลูกน้องทั้งสองคนของคุณ ได้บอกอะไรกับคุณไปบ้าง?”
เฉิน ซื่อหง ได้พูดตะคอกกลับไปว่า : “เรื่องที่คุณทําเอง กลับยังต้องการให้ฉันบอกกับคุณอีก?”
ใบหน้าของ เฉิน ซื่อหง ได้มืดมนลงทันที หลินฟาน ก็รู้แล้วว่า ลูกน้องทั้งสองคนของเขาไม่ได้บอกความจริงกับเขาไป และได้พูดโยนหม้อ (โยนความผิด) ไปให้กับ หลินฟาน ซึ่งหากถ้าลูกน้องทั้งสองคนบอกความจริงออกไปแล้ว แต่เขาก็ยังกลับมีสีหน้าเช่นนี้อยู่ มันก็ดูเหมือนว่า ..จะมีปัญหานิดหน่อยแล้ว
หลินฟาน ได้มองไปที่ ชายผู้โชคร้าย ด้วยสายตาที่เย็นชา แล้วเขาได้พูดไปว่า : “คุณบอก คุณเฉิน ไปว่าอย่างไร.. ไหนคุณช่วยพูดมันออกมาตรงๆ กับฉัน ..ดีกว่า”
“นี่…”
ชายผู้โชคร้าย ได้มองไปที่ เฉิน ซื่อหง แล้วหันมองกลับมาที่ หลินฟาน อีกที เขาเองดูสับสนเล็กน้อย และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าสถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว ก่อนหน้านี้ หลินฟาน เป็นแค่คนที่เดินผ่านไปมา แต่ตอนนี้.. หลินฟาน กลับเป็นคนของ หยงจิ่ว กรุ๊ป ทั้งยังมีส่วนได้ส่วนเสียกับพวกเขา..
หลินฟาน ได้พูดพร้อมกับได้หัวเราะออกไปว่า : “ผมไม่รู้ว่าลูกน้องของคุณได้พูดบอกกับคุณไปว่าอย่างไร สู้แบบนี้ดีกว่า คุณเฉิน.. ผมจะพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ แล้วให้คุณลองเปรียบเทียบดูด้วยตัวคุณเอง.. เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้…”
หลินฟาน ได้อธิบาย เหตุการณ์ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนเช้าออกไป ..ตามความจริง ในตอนสุดท้าย เขาก็ได้ถามไปว่า : “ลูกน้องทั้งสองคนของคุณ พูดแบบนี้หรือไม่?”
หลังจาก เฉิน ซื่อหง ได้ฟังจบ เขาก็ได้เงยหน้าขึ้น แล้วมองไปที่ลูกน้องทั้งสองคนของเขา เพราะสถานการณ์ที่ หลินฟาน พูด กลับสิ่งที่พวกเขาพูดนั้น.. มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย
เฉิน ซื่อหง ได้จ้องมองเขม็ง : “สิ่งที่เขาพูด ..เป็นความจริงหรือเปล่า?”
ใบหน้าของ ชายผู้โชคร้ายนั้นได้แดงไปแล้ว : “คือว่า นี่…”
หลินฟาน กล่าวว่า : “ฉันเคยบอกพวกคุณว่า ..ฉันชอบโน้มน้าวคนอื่น ด้วยเหตุผล และสิ่งที่ฉันพูดออกไปนั้น.. มันเป็นความจริงหรือไม่นั้น? เราเองก็สามารถไปหา เถ้าแก่เนี้ย เพื่อขอเปิดดูกล้องวงจรปิดได้ ทั้งนี้ถึงไงภาพจากกล้องวงจรปิด ..มันก็ไม่สามารถหลอกลวงผู้คนได้อยู่แล้ว”
ชายผู้โชคร้าย พอได้ยินคำพูดนี้ เขาก็ได้เลิกดิ้นรนอย่างสิ้นเชิง ใช่.. ถ้าคนอื่นพูดความจริงออกไป และถ้ามันพิสูจน์ได้ในที่สุดว่าเขา โกหก.. มันก็เท่ากับว่าเขา ..เสียหน้า แต่ไอ้เรื่องเสียหน้าตอนนี้ก็ช่างมันไปเถอะ เพราะส่วนใหญ่แล้วมันก็คงจะเป็นเจ้านายที่เสียหน้า ตอนนี้สถานการณ์มันได้เปลี่ยนไปแล้ว พวกเขากําลังคุยเรื่องความร่วมมืออยู่กับ หยงจิ่ว กรุ๊ป ทั้งเรื่องนี้มันก็อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ได้..
“เขา... ที่เขาพูด คือความจริง…” ชายผู้โชคร้าย ได้พูดออกไปทั้งสีหน้าของเขาแดงก่ำ
ปัง!
พอ เฉิน ซื่อหง ได้ยินเช่นนั้น เขาก็ได้ตบโต๊ะ แล้วก็กระโดดขึ้นมาด้วยความโกรธ และดุด่าออกไปว่า : “พวกแกสองคนนี่มันงี่เง่าจริงๆ! แม้แต่ฉัน พวกแกยังกลับกล้าโกหก!”
คือ.. ใครมันจะไปรู้ว่ามันจะบังเอิญได้ขนาดนี้ แล้วนี่ ..พวกเขาถึงกลับได้มาพบกับ หลินฟาน อีกครั้ง ได้เร็วถึงขนาดนี้?
หลินฟาน ยิ้ม แล้วพูดว่า : “ตอนนี้.. เรื่องนี้ก็ชัดเจนแล้ว”
เฉิน ซื่อหง ได้หันกลับไปมอง หลินฟาน ด้วยสีหน้าลำบากใจ : “พ่อหนุ่ม เรื่องนี้ฉันต้องขอโทษจริงๆ ที่ในก่อนหน้านี้ฉันได้เข้าใจคุณผิด นั่นก็เพราะฉันได้ถูกไอ้งั่งสองตัวนี้มันหลอกเอาให้ได้ ตอนนี้ฉันสมควรแล้วที่จะต้องบอกขอโทษคุณ.. พวกแกสองคน ยังไม่รีบขอโทษคนอื่นอีก!”
ผู้ชายทั้งสองคนนั้น ก็ได้รีบพยักหน้า และก้มหัวให้กับ หลินฟาน : “พวกเรา ..ขอโทษครับ”
หลินฟาน กล่าวว่า : “เพียง คุณเฉิน เข้าใจถึงเหตุ และผล ก็พอครับ ส่วนเรื่องนี้มันก็ผ่านไปแล้ว ผมเองก็ไม่ได้สนใจมันแล้ว”
เฉิน ซื่อหง ได้ยิ้มพร้อมกับหัวเราะ แล้วได้กล่าวไปว่า : “พ่อหนุ่มคนนี้ ก็ช่างใจกว้างจริงๆ และฝีมือเองก็น่าทึ่งมาก แม้ว่าลูกน้องทั้งสองคนนี่ของฉันจะไม่เอาไหน แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนๆ เดียวจะสามารถหิ้วพวกเขาขึ้นมา และโยนออกไปได้ง่ายๆ อืมมๆ หยงจิ่ว กรุ๊ป ดูเหมือนจะมีของดีไม่น้อยจริงๆ ฉันเองก็ตั้งตารอที่จะได้พบเจอ ประธานหลิน เร็วๆ นี้แล้ว”
เมื่อถึงเวลานี้ หลินฟาน ก็ได้รู้สึกว่า.. เขาสมควรที่จะแสดงตัวตนจริงๆ ของเขาได้แล้ว และเมื่อนั้นเขาเองก็กําลังวางแผนที่จะบอกอีกฝ่ายว่า จริงๆ แล้วเขาคือ หลินฟาน
แต่อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้น เฉิน ซื่อหง ก็กลับทำสีหน้าบึ้ง แล้วจ้องมองไปที่ หลินฟาน ..ทั้งนี้ทัศนคติของเขาก็ดูเปลี่ยนไปมาก ราวกับว่าเป็นคนละคนกัน : “พ่อหนุ่ม.. คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”
หลินฟาน พูดว่า : “ผมทราบแค่ว่า คุณคือ คุณเฉิน ซื่อหง สถาปนิก ที่ได้เดินทางเข้ามาสัมภาษณ์ในวันนี้”
เฉิน ซื่อหง ได้พูดพร้อมกับได้หัวเราะออกไปว่า : “สัมภาษณ์? คุณเองเข้าใจผิดแล้ว หรือพูดอีกอย่างคือ มันกลับตาลปัตรเลย.. ก็ว่าได้ ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อสัมภาษณ์ แต่ฉันมาที่นี่ก็เพื่อสัมภาษณ์ กลุ่ม หยงจิ่ว ของพวกคุณ!”
หลินฟาน : “โอ้?”
เฉิน ซื่อหง กล่าวว่า : “ฉันเคยออกแบบโครงการก่อสร้างมาไม่ต่ำกว่า 50 โครงการ และได้รับรางวัลสูงสุดในวงการสถาปัตยกรรม แล้วก็สถาปนิกสิบอันดับแรกที่ยังมีชีวิตอยู่ ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น ด้วยสถานะของฉันในวงการสถาปัตยกรรม รู้ไหมว่า.. มันมีกี่คนที่อยากจะเชิญฉันไปช่วยออกแบบสถาปัตยกรรมให้กับพวกเขา และยิ่งเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีโครงการขนาดใหญ่ ที่เมืองเจียงเฉิง นายกเทศมนตรีของเมืองเจียงเฉิงเองก็ได้มาเชิญฉันด้วยตัวเอง ก็เพื่อขอให้ฉันช่วยออกแบบสร้างโรงแรมขนาดใหญ่เป็นสถานที่ต้อนรับแขกต่างชาติในเมืองเจียงเฉิง แต่ฉันได้ปฏิเสธเขาไปโดยตรง แล้วคุณรู้ไหมว่า เพราะอะไร?”
หลินฟาน พูดว่า : “ผมไม่รู้..”
เฉิน ซื่อหง ได้พูดว่า : “แน่นอนว่าคุณ ..ไม่รู้ ไหนแกมาบอกเขาสิ”
เฉิน ซื่อหง ได้หันไปพยักหน้าให้กับ ชายผู้โชคร้ายคนนั้น
ทันใดนั้น ชายผู้โชคร้ายคนนั้น ก็ได้แสดงสีหน้าภาคภูมิใจออกมาทันที แล้วเขาได้พูดว่า : “นั่นก็เป็นเพราะรถที่รัฐบาลเมืองเจียงเฉิง ส่งมารับบอสของเรานั้น ล่าช้า บอสของเราเลยได้หันหลังกลับ และจากไปทันที”
พอ หลินฟาน ได้ฟัง เขาก็ได้เหงื่อตก นี่มันก็โคตรจะโคตรเกินไป.. ดูเหมือนว่า มันจะเป็นที่อารมณ์ของเขาที่รุนแรงเกินไป แต่ หลินฟาน ยังสามารถเข้าใจได้ว่า ..คนที่มีความสามารถมาก ก็มักที่จะมีอารมณ์เหม็นเล็กน้อย แต่แล้วมันก็น่าจะเป็นเรื่อง ..ปกติ?
เฉิน ซื่อหง ได้กล่าวว่า : “วันนี้ ฉันได้มาพบ ประธานหลิน ก็เพื่อไว้หน้า เจียง จงเฉิน ซึ่งเขาก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่าของฉัน แต่มาตอนนี้ ประธานหลิน กลับได้มาสายแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะฉันเห็นแก่หน้า เจียง จงเฉิน ล่ะก็.. ฉันเองคงจะปัดแขนเสื้อแล้วเดินออกไปแล้ว และตอนนี้.. คุณคงเข้าใจแล้วว่า.. ไม่ใช่ คุณหลิน ที่จะมอบงานนี้ให้กับฉันหรือไม่ แต่มันเป็นฉันที่จะยอมรับทำงานนี้ให้เขาหรือไม่ต่างหาก และให้รู้เอาไว้ด้วยว่า.. ความคิดริเริ่มนี้ทั้งหมดมันอยู่ในมือของฉัน!”
ชายผู้โชคร้าย ก็ได้หัวเราะออกมา แล้วพูดว่า : “กล่าวอีกนัยหนึ่ง ก็คือ ..เป็น คุณหลิน ของพวกคุณมากกว่าที่จะมาขอให้บอสของพวกเรา ..ช่วยเขา”
หลินฟาน ได้ร้องโอ้ แล้วพูดว่า : “งั้นเหรอ?”
เฉิน ซื่อหง กล่าวว่า : “พ่อหนุ่ม.. คุณได้ทําร้ายลูกน้องของฉัน แต่ก็ใช่ว่า.. คุณมีเหตุผล ฉันเองเป็นคนแยกแยะระหว่างความรัก และความเกลียดชังได้อย่างชัดเจน ดังนั้นฉันจึงบอกให้พวกเขาขอโทษคุณ.. แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นลูกน้องของฉัน และคุณก็ไม่สามารถแกล้งทำเป็นว่า.. ไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ ถึงอย่างไรคุณเองก็ต้องจ่ายราคาที่สมควรสําหรับสิ่งนี้มา!”
หลินฟาน ได้เหงื่อตก และเขาได้พูดไปว่า : “คุณเฉิน หมายความว่า ผม ..ต้องขอโทษพวกเขา?”
เฉิน ซื่อหง พูดว่า : “ไม่ ฉันอยากให้คุณออกไป!”