ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 47 โจรทะเลทราย
ทะเลทรายฝุ่นแดงนั้นเป็นพื้นที่แห้งแล้งที่ปกคลุมไปด้วยทรายไกลสุดลูกหูลูกตา ที่นี่ไม่มีน้ำและพืชพันธุ์ใด ๆ และแทบจะไม่มีสิ่งมีชิวิตใดที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่ไร้ซึ่งน้ำเช่นนี้
ชิงอี้บินอยู่เหนือทะเลทรายฝุ่นแดงที่รกร้าง นางตระหนักได้ถึงเหตุการณ์เมื่อตอนที่นางเดินทางไปยังนิกายกระบี่ล่องนภา พวกนางต้องเจอสิ่งยากลำบากเช่นใด
ในตอนนั้น พวกนางเคยเผชิญหน้ากับกลุ่มโจรทะเลทรายหลายครั้งและหากไม่ได้รับการปกป้องจากผู้อาวุโสใหญ่ พวกนางก็คงไม่รอดมาถึงทุกวันนี้
ชิงอี้ยังจำได้ถึงครั้งที่แมงป่องทะเลทรายขอบเขตควบแน่นแก่นแท้ได้ซุ่มโจมตีพวกนาง ผู้อาวุโสใหญ่สามารถฆ่ามันด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว นั่นทำให้รุ่นเยาว์ตระกูลชิงและชิงอี้ต้องตกตะลึง
อันตรายที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนทรายทำให้นางนอนไม่หลับหลายคืน แต่ตอนนี้นางมองลงไปและเห็นทะเลทรายที่ไม่มีที่สิ้นสุดอยู่ใต้ฝ่าเท้าของนาง อันตรายที่นางเคยรู้สึกก่อนหน้านี้กลับหายไปเสียแล้วจนกระทั่งนางสามารถสังเกตความงดงามอันเงียบสงบของทะเลทรายฝุ่นแดงได้
“ท่านอาจารย์ เหตุใดทะเลทรายแห่งนี้จึงถูกเรียกว่าทะเลทรายฝุ่นแดง” ชิงอี้มองลงไปที่ทะเลทรายเบื้องล่างอย่างสงสัย
นางสงสัยตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางผ่านทะเลทรายว่าเหตุใดจึงเรียกว่าทะเลทรายฝุ่นแดง นางไม่เคยเห็นฝุ่นใด ๆ เลยแม้แต่น้อย
“ทะเลทรายฝุ่นแดงหรือ หากข้าจำไม่ผิด ทะเลทรายนี้เกิดขึ้นเพราะในอดีตนั้นเคยมียอดฝีมือขอบเขตราชันที่ทรงพลังสองคนต่อสู้กันที่นี่และผู้ที่พ่ายในการต่อสู้นี้ก็คือนักพรตฝุ่นแดง ชื่อของเขาทำให้เกิดทะเลทรายฝุ่นแดงขึ้นมา” เซวียนห่าวตอบคำถามของชิงอี้หลังจากหยุดคิดไปครู่หนึ่ง
“เพียงแค่ต่อสู้กันก็สามารถสร้างทะเลทรายที่กว้างใหญ่เช่นนี้ได้เลยหรือ ผู้ที่อยู่ขอบเขตราชันนั้นช่างน่าสะพรึงกลัวเสียจริง ๆ” ชิงอี้มองออกไปที่ทะเลทรายกว้านใหญ่นี้ นางจำได้ว่าพ่อของนางเคยกล่าวไว้ว่าทะเลทรายแห่งนี้มีพื้นที่กว่าหลายร้อยกิโลเมตร
ไม่น่าแปลกหากผู้คนจะกล่าวว่าขอบเขตราชันสามารถลบล้างอาณาจักรได้ด้วยตัวคนเดียว
เซวียนห่าวไม่ได้อธิบายใด ๆ เพิ่มเติม เขาคิดว่านักพรตฝุ่นแดงผู้นั้นเป็นผู้ที่อยู่เหนือขอบเขตราชันไปเสียแล้ว
สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นมากที่สุดคือนักพรตฝุ่นแดงนั้นได้ทำให้ใครบางคนที่เหนือขอบเขตราชันขุ่นเคืองและถูกฆ่าตายในที่แห่งนี้ ทะเลทรายนี้น่าจะเป็นผลจากเคล็ดวิชาของเขา
ทะเลทรายฝุ่นอดงนั้นมีรูปร่างราวกับฝ่ามือ เซวียนห่าวไม่รู้จริง ๆ ว่าเหตุใดผู้คนถึงไม่สงสัยถึงรูปร่างที่น่าสงสัยของทะเลทรายฝุ่นแดงนี้ ผู้ใดกันที่สามารถใช้เคล็ดวิชาที่ราวกับฝ่ามือพระเจ้าเช่นนี้
“เหตุใดผู้คนเหล่านี้จึงไม่ตระหนักถึงสิ่งนี้กัน?”
“ท่านหมายถึงอย่างไร ท่านอาจารย์?” ชิงอี้ส่งสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสงสัยใส่เซวียนห่าวที่กำลังพึมพำ
ชิงอี้แค่มองเขาอย่างสงสัยอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกลับไปสังเกตทะเลทรายด้านล่างต่อไป
“เร็วเข้า โจรอสรพิษจะตามเราทัน !”
ที่ไหนสักที่ใกล้กับทางออกของทะเลทรายฝุ่นแดง กองคาราวานกำลังเร่งความเร็วผ่านทะเลทรายอย่างกระวนกระวาย เขาเร่งให้เร็วมากสุดเท่าที่อสูรที่อ่อนแอจะลากเกวียนได้
ชิงหมิงที่เพิ่งคิดว่าเขาจะได้กลับบ้านพร้อมกับกองคาราวานขนาดเล็ก แต่กลับต้องรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมากเช่นนี้
การที่จะพบเจอโจรทะเลทรายนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก โจรส่วนใหญ่มักจะอยู่ในขอบเขตรวมปราณเพียงเท่านั้น เมื่อเทียบกับชิงหมิงผู้เป็นขอบเขตก่อตั้งรากฐานนั้น จะมีโจรผู้ใดกันที่จะสามารถต่อกรกับเขาได้
แต่กลุ่มโจรอสรพิษที่กำลังไล่ตามพวกเขานั้นแตกต่างออกไป
เมื่อเร็ว ๆ นี้ พวกเขาได้มีชื่อเสียงค่อนข้างมากหลังจากที่หัวหน้าของพวกเขาได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตควบแน่นแก่นแท้
ชิงเหมิงจะจัดการกับขอบเขตควบแน่นแก่นแท้ได้อย่างไรกัน
“มีคนอยู่ข้างหน้า !”
ชิงหมิงออกจากรถม้าอย่างหวาดกลัวและมองไปข้างหน้า
จ้าวอสรพิษ หัวหน้ากลุ่มโจรอสรพิษ !
รถม้าหยุดลงทันทีขณะที่ผู้คนค่อย ๆ คว้าอาวุธของพวกเขาอย่างสั่นเทาและเผชิญหน้ากับศัตรู
“ฮ่าฮ่า เจ้าพวกอ่อนแอเช่นนี้ต้องการจะสู้กับข้าหรือ !” จ้าวอสรพิษหัวเราะอย่างชั่วร้ายในขณะที่โจรคนอื่น ๆ ก็ค่อย ๆ ล้อมรอบกองคาราวาน
“หากพวกเจ้ายังอยากมีชีวิตก็ทิ้งของมีค่าและผู้หญิงไว้ที่นี่เสีย !” จ้าวอสรพิษกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง เขาเผยรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยตัณหาก่อนจะค่อย ๆ มองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ในกองคาราวาน
“หากเจ้าจะย่ำยีภรรยาและลูกสาวของข้าก็ต้องข้ามศพข้าไปเสียก่อน !” ชายผู้หนึ่งก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญในขณะที่เขามองดูจ้าวอสรพิษอย่างคุกคาม
ชิงหมิงก็รู้สึกเช่นเดียวกัน แต่เขานั้นไม่กล้าก้าวไปข้างหน้า เขารู้ว่าหากเขาพูดถึงภูมิหลังของเขา จ้าวอสรพิษคงจะต้องฆ่าผู้คนเหล่านี้เพื่อให้ไม่มีซึ่งหลักฐาน
“ฮ่าฮ่า ข้าเข้าใจแล้ว... ฆ่าผู้ชายทิ้งและจับตัวผู้หญิงไว้ !” จ้าวอสรพิษสั่งลูกน้องของเขาออกไปอย่างชั่วร้าย
ไม่มีใครเลยหรือที่สามารถช่วยพวกเราได้? ชิงหมิงมองไปรอบ ๆ อย่างช่วยไม่ได้ขณะที่กลุ่มโจรค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ
ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังนั้น จู่ ๆ มันก็ได้ปลุกประกายความหวังขึ้น
“เกิดเหตุใดขึ้น !” ชิงอี้สังเกตเห็นบางอย่างใต้เท้าของนางทำให้นางดึงเสื้อคลุมของ เซวียนห่าวเล็กน้อยและชี้ไปที่จุดนั้น
“หืม?” เซวียนห่าวหันกลับไปมองตรงจุดที่ชิงอี้บอก ทันใดนั้นเขาก็ได้เห็นสิ่งผิดปกติ
ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตรมีโจรทะเลทรายกำลังล้อมรอบกองคาราวานขนาดเล็ก ผู้คนในกองคาราวานมีจำนวนมากกว่ามากและกำลังจับอาวุธของพวกเขาอย่างสั่นเทาขณะที่กลุ่มโจรทะเลทรายเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างช้า ๆ
“นั่นคือชิงหมิง ลูกชายของผู้อาวุโสใหญ่ !” ขณะที่พวกเขาเข้าใกล้ที่นั่นอย่างช้า ๆ ชิงอี้ก็ได้เห็นถึงคนที่นางรู้จัก
เมื่อเซวียนห่าวได้ยินเช่นนั้น เขาก็รีบลงมาในทันที เขาสร้างความตกตะลึงแก่กลุ่มโจรและกองคาราวานอย่างมหาศาล