ตอนที่ 5 ประเดิมศพแรก
-ต้องการจะฝึกสัตว์อสูรตัวนี้หรือไม่-
ระบบนักฝึกอสูรได้ถามขึ้นอีกครั้ง
มู่เหลียงรู้ว่ากิ้งก่าสามสีตัวนี้พิเศษกว่าปกติ
ยิ่งไปกว่านั้น แต้มฝึกฝนของเขาก็ฟื้นกลับมาแล้ว พอที่จะใช้สำหรับฝึกสัตว์อสูรเพิ่มได้
ทุกๆ เที่ยงคืนของทุกวันแต้มฝึกฝนจะถูกคืนค่า 10 แต้มทุกวัน
มู่เหลียงจึงตอบกลับไป
“ฝึกสัตว์อสูรตัวนี้”
-ติ๊ง!! ตรวจพบสิ่งมีชีวิตระดับ 0 กิ้งก่า….เริ่มทำการฝึก-
-ใช้แต้มฝึกฝน 10 แต้มในการฝึกเลี้ยงสัตว์อสูร……ฝึกฝนสำเร็จ-
แล้วตัวของกิ้งก่าก็เปล่งรัศมีสีขาวออกมา ก่อนที่มันจะสั่นเทาไปทั้งตัว ราวกับว่ามันกำลังสบายอย่างบอกไม่ถูก
ก่อนที่สามวินาทีต่อมา กิ้งก่าก็ขยายตัวเท่ากับฝ่ามือของมู่เหลียง สีบนผิวหนังของมันก็ดูชัดเจนขึ้น
-ติ๊ง! เจ้านายต้องการสืบทอดพลังมาจากกิ้งก่าสามสี และรับทักษะ กลมกลืนหรือไม่-
“สืบทอด”
มู่เหลียงคิดในใจและพยักหน้าเบาๆ
-ติ๊ง! ทักษะกลมกลืนกำลังถ่ายโอนข้อมูล….ปรับแต่ง…..การสืบทอดพลังเสร็จสิ้น-
มู่เหลียงรู้สึกเหมือนมีไอลมเย็นๆ ไหลผ่านตามผิวหนังของเขา ก่อนที่จะรู้สึกราวกับได้แช่น้ำอุ่น
“ระบบเปิดค่าสถานะของฉันที”
มู่เหลียงรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เขาจึงอยากจะรู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงขึ้นจริงหรือไม่
ผู้ฝึก : มู่เหลียง
ถึกทน 6.2
ว่องไว 4.5
กำลัง 5.1
ปราณ 9
อายุไข 24 / 110 ปี
แต้มฝึกฝน 0 (คืนค่าทุกวัน และสะสมได้)
แต้มวิวัฒนาการ 0
ความสามารถ หนามหินระดับ 1 กลมกลืนระดับ 1 กายมนุษย์ระดับ 1
…..
สิ่งที่ฝึกฝน เต่าหิน(ระดับ 1) ทักษะ หนามหินระดับ 1
กิ้งก่าสามสี(ระดับ 1) ทักษะ กลมกลืนระดับ 1
…..
“ค่าสถานะเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย แต่กิ้งก่าสามสีก็มีทักษะติดตัวอยู่”
มู่เหลียงลองเปิดใช้งานความสามารถกลมกลืน ทำให้ผิวหนังของเขารู้สึกเย็นขึ้นมา ก่อนที่ผิวหนังของเขาจะเปลี่ยนไป
ทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลา 1 วินาที
มู่เหลียงลองสำรวจร่างกายดูและเห็นว่าทั้งเสื้อผ้า และผิวหนังของเขากลายเป็นสีเดียวกับกำแพงหินที่อยู่ตรงหน้า
10 วิ 1 นาที 10 นาที ผ่านไป
มู่เหลียงยืนนิ่งๆ อยู่ยังงั้นเพื่อจะทดสอบว่าความสามารถนี้จะมีข้อจำกัดเรื่องเวลาหรือไม่
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง
“ดูเหมือนว่าความสามารถนี้จะไม่มีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาสินะ”
มู่เหลียงลองขยับมือขยับเท้า และพบว่าผลของกลมกลืนนั้นจะหายไปตามส่วนของร่างกายที่เคลื่อนไหว
“ดูเหมือนว่าความสามารถนี้จะปรับเปลี่ยนการหักเหของแสงที่ตกกระทบบนร่าง หากว่าเคลื่อนไหวผลของความสามารถจะยกเลิกไปสินะ”
มู่เหลียงเริ่มเข้าใจข้อดีและข้อเสียของความสามารถกลมกลืน
เขาอดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้มออกมา และถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
“ความสามารถนี้มันเหมาะอย่างมากกับงานลอบสังหาร”
“ไป! แอบติดตามฉันอย่าได้ห่างละ”
มู่เหลียงวางกิ้งก่าสามสีลงบนพื้น
กิ้งก่าสามสีระดับ 1 แม้จะดูอ่อนแอ เขาจึงต้องเลี้ยงมันเอาไว้ไม่ให้ไกลตัว เหมือนกับสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง
กิ้งก่าสามสีเงยหน้ามองมู่เหลียง และรีบปีนขึ้นไปบนกำแพงหินไม่ไกลจากตัวมู่เหลียง
เมื่อไหร่ที่มันหยุดนิ่งตัวของมันจะกลมกลืนไปกับพื้นผิวของสิ่งนั้น และยากที่จะสังเกตเห็น
“ถ้าแกเติบโตไปมากกว่านี้ หวังว่าจะมีความสามารถในการโจมตีดีๆ นะ ฉันจะฝึกแกให้เก่งกาจเหมือนกับลัทธินักฆ่า(Assassin Creed)ที่มีชื่อเสียงเลย และแกจะได้ชื่อว่านักฆ่ากิ้งก่า ทำให้ชื่อของแกเป็นฝันร้ายของทุกคน”
มู่เหลียงพูดขึ้นอย่างติดตลก และหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย
เขาดึงมือออกจากแผ่นหิน และนำกิ้งก่าที่ตายใส่ถุง และล่าเหยื่อตัวต่อไป
ใช้เวลาในการล่าถึง 2 ชั่วโมง สิ่งที่เขาได้ก็มีแต่กิ้งก่าตัวเล็กเท่านั้น
บางครั้งก็พบแมลงมีพิษอย่างแมงป่อง หรือแมลงขนาดเล็กๆ
มู่เหลียงรู้ว่าสิ่งนี้กินได้ แต่เขาก็ไม่อยากจะกินมันเป็นอาหารเท่าไร
“นี่มันโพรงหนู!”
มู่เหลียงพบว่ามีโพรงรูหลายโพรง และมีรอยเท้าเล็กๆ อยู่ที่ปากหลุม
เขาจึงวางแผนที่จะใช้กิ้งก่าสามสีเข้าไปไล่ต้อนพวกหนูออกมาจากรู
ตึกๆ
มู่เหลียงได้ยินเสียงของฝีเท้าดังขึ้นไม่ใกล้และไกลจากตัวของเขา และเขารู้ได้เลยว่าทิศทางนั้นมาจากทางไหน
เขาถูกฝึกฝนในหน่วยรบพิเศษมาหลายปี
มู่เหลียงรับรู้ได้ทันทีจากสิ่งที่เรียนมา เขาเอนตัวพิงกำแพงหินอย่างรวดเร็ว และเปิดใช้งานกลมกลืนเพื่อซ่อนตัว
ในเวลานั้นไม่ถึงนาที ร่างที่คุ้นเคยแต่มีรูปร่างที่แตกต่างไปจากเดิมปรากฏขึ้นต่อสายตาของเขา
สิ่งที่พูดถึงอยู่นั้นคือมินโฮ
แต่ที่มู่เหลียงไม่คุ้นตาเลยคือ หูกระต่ายสีฟ้ายาวคู่หนึ่งบนหัวของมินโฮ
“ตามไปเร็ว! อย่าให้มันหนีไปได้”
“แกหาเรื่องตายแล้วที่มาแย่งอาหารของพวกเรา!”
“อย่าให้พวกเราจับแกได้นะ ถ้าจับแกได้เมื่อไรแกตายแน่!”
…..
มีคนสี่คนตะโกนตามหลังมินโฮมา พร้อมกับตะโกนด่าทอไม่หยุด ในมือนั้นถือมีดที่ทำมาจากกระดูก หอกไม้แหลม และอื่นๆ ที่ดูเหมือนอาวุธ
เด็กสาวกลับวิ่งเร็วขึ้นพร้อมกับตะโกนด่าสาปแช่งกลับไปเช่นเดียวกัน เห็นได้ชัดเลยว่ามินโฮนั้นสามารถหลบหนีได้อย่างสบาย
มู่เหลียงดักรอให้เด็กสาววิ่งผ่านเขาไปก่อน จนกระทั้งหนึ่งในสี่ที่ตามินโฮผ่านตัวเขาไปแต่เขายังไม่หยุดคนคนนั้น
และคนที่สองก็ผ่านไป คนที่สาม จนถึงคนที่สี่
มู่เหลียงคว้าคอของคนที่สี่เอาไว้ และใช้ประโยชน์จากแรงเฉื่อยที่เกิดขึ้นเหวี่ยงร่างนั้นลงกับพื้นและใช้แรงนั้นกดลงไปที่หัว
กร๊อบ!!
เสียงของกระดูกคอที่หักจากการถูกเหวี่ยงและกระแทกอย่างแรง คนคนนี้ตายโดยที่ไม่ทันได้ร้องออกมาสักคำ
มู่เหลียงนั้นใช้เวลาไม่ถึงสองวิในการฆ่าคนคนนี้ ก่อนที่เขาจะตามทั้งกลุ่มไป
และใช้เทคนิคเดียวกันในการจัดการกับคนที่อยู่หลังสุด
โดยที่ทั้งสองคนที่นำหน้าไปนั้นไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
จนกระทั้งพวกเขารู้สึกผิดสังเกตที่ไม่ได้ยินเสียงหอบหรือหายใจของเพื่อนที่วิ่งตามมาด้วยกัน จนพวกเขาหยุดและหันกลับไปมอง
“แกเป็นใคร?”
“แล้วแกทำอะไรกับพวกของเราอีกสองคน!!”
ทั้งสองจับอาวุธแน่นทั้งหอกไม้ และมีดกระดูก ก่อนที่จะตะโกนถามอย่างหวาดกลัว
มู่เหลียงนั้นยืนอยู่ห่างจากทั้งสองคนเป็นระยะทางสี่เมตร
แล้วตอนนั้นเองที่มินโฮได้ยินเสียงตะโกนที่ผิดปกติจึงหันกลับมามองด้วยความสงสัย
“เอ๋?”
เด็กสาวอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่ามู่เหลียงจะมาโผล่ด้านหลังของเธอ
เด็กสาวมั่นใจว่าพาทั้งสี่คนวิ่งออกไปจากเส้นทางที่มู่เหลียงไปแล้ว แต่ไหนเขากลับมาอยู่ที่นี่ได้
มินโฮตะโกนอย่างสุดเสียง
“มู่เหลียง!! หนีไป!!!”
“ยังงี้นี้เอง….เป็นพวกเดียวกันกับไอเด็กหูกระต่ายนั้นสินะ”
เมื่อทั้งสองเห็นว่าชายที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นพวกเดียวกับเด็กที่พวกเขาไล่ตามก็ลดความกลัวลง
ตอนแรกพวกเขากลัวว่าจะเจอกับพวกนักล่ามืออาชีพ
“จัดการมันก่อน!”
คนที่ถือหอกไม้แทงหอกออกไปสุดแรง เล็งไปยังกลางอกของมู่เหลียง
“....”
มู่เหลียงยังนิ่งอยู่ และเบี่ยงตัวหลบจากวิถีหอกเล็กน้อย และใช้แรงเฉื่อยที่เกิดขึ้น กระแทกศอกใส่อกของคนคนนี้อย่างจัง
แอ๊ก!!
ราวกับได้ยินเสียงของบางสิ่งแตกหัก คนถือหอกไม้นอนคว่ำลงกับพื้น ก่อนที่จะอ้วกออกมาเป็นเลือด
เดิมที่พละกำลังของมู่เหลียงก็มากกว่าคนปกติอยู่แล้วเพราะเป็นทหารหน่วยรบพิเศษเก่า แต่มันถูกเสริมด้วยพลังที่ได้รับมาจากสัตว์อสูรที่ฝึกเลี้ยงอีก
ทำให้กำลังของเขามากขึ้นเป็นสามเท่า
เพียงมู่เหลียงออกแรงนิดหน่อยก็พอแล้วที่จะกำราบคนธรรมดาได้
“แกเพิ่มพลังกายงั้นหรอ?!”
ชายที่ถือมีดกระดูกผงะถอยหลังไปครึ่งก้าว พร้อมกับถือมีดกระดูกอย่างสั่นเทา และมองมู่เหลียงที่อยู่ต่อหน้า
อยู่ๆ ขาของเขาก็แข็งจนก้าวไม่ออกอีกต่อไป
“มู่เหลียง หนีไป!!”
มินโฮนั้นตะโกนอย่างร้อนรน
ในช่วงเวลานั้นเด็กสาวจึงตัดสินใจวิ่งกลับเข้ามาหามู่เหลียง และกระโดดถีบชายคนนี้จากด้านหลังจนมีดกระดูกในมือของเขานั้นกระเด็นหลุดมือไป
ชายที่ถือมีดกระดูกล้มลงกับพื้น และเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเพื่อนของเขานั้นกำลังอ้วกออกมาเป็นเลือด ยิ่งรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้น
“ไม่!! แกฆ่าฉันไม่ได้นะ ฉะ–ฉะฉันเป็นคนของหัวหน้ากลุ่มเคราโลหิตเลยนะ!”
ชายคนสุดท้ายรีบตะโกนบอกภูมิหลังของตัวเองทันที หวังว่าจะหยุดทั้งสองคนนี้ได้