บทที่ 186: เขาแอบคบกับผู้หญิงโดยไม่บอกเรา
“นั่นสิ เจ้าสี่ไปไหน? ดูเหมือนว่าพ่อจะไม่เห็นเขาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” หูเฉียงก็ทำท่าสงสัยเช่นกัน
ปกติเขาจะเห็นลูกชายคนที่ 4 ทุกวันในตอนที่ออกไปล่าสัตว์
หูชิงเกาผู้เป็นลูกชายคนรองกางมือพลางยักไหล่ “ไม่ใช่แค่เมื่อวาน ข้าไม่เห็นเขาเลยตั้งแต่คืนก่อน และข้าไม่รู้ว่าเจ้านั่นไปไหน”
“พี่สี่หายตัวไปหรือ?” หูเจียวเจียวขมวดคิ้ว เธอกังวลเล็กน้อยว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับหูชิงหยวน
ทางด้านหูชิงซานกับหูชิงหลู่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองหน้ากัน ขณะที่พวกเขาส่งสายตาคุยกันเงียบ ๆ
“มันไม่ได้หาย...” คนเป็นพี่ใหญ่ยกมือขึ้นกำหมัดแน่น แล้วกระแอมไอเบา ๆ “อะแฮ่ม... เจ้าสี่น่าจะไปหาผู้หญิงสักคน”
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตอนเช้าวานนี้ พวกเขาก็เดาได้ไม่ยากว่าหูชิงหยวนกำลังทำอะไรอยู่
พอหูเฉียงกับหูหมินได้ยินเช่นนี้ ทั้งคู่ต่างก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ
“ไปหาผู้หญิง? เขากำลังคบหากับผู้หญิงคนไหน ยังมีผู้หญิงในเผ่าที่สนใจเขาอยู่หรือ?” ใบหน้าของแม่จิ้งจอกวัยกลางคนเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ในบรรดาลูกชาย 4 คนของนาง ลูกคนโตนั้นแข็งแรงที่สุด คนที่ 2 ก็หน้าตาดี สำหรับคนที่ 3 มีเสียงไพเราะ ส่วนเจ้าคนสุดท้องนั้นไม่มีทั้งพละกำลังหรือความสามารถที่โดดเด่น เขาทำได้เพียงแค่ติดตลกไปวัน ๆ เท่านั้น
ไม่ว่านางจะคิดหาเหตุผลอย่างไรมันก็เป็นไปไม่ได้ที่ลูกชายคนที่ 4 จะหาคู่ได้ก่อนคนอื่น
“หา?” หูชิงเกาน้องรองมองไปที่หูชิงซานด้วยความตกใจ “พี่ใหญ่ ท่านล้อเล่นหรือเปล่า?”
“อย่าบอกนะว่าเจ้านั่นรีบหาคู่ให้ได้ก่อนฤดูหนาวจะมาถึง แต่ถึงงั้นก็เถอะ ไม่มีทางที่เขาจะหาคู่ได้เร็วขนาดนี้...”
หูชิงเกาย่นหน้าตัวเองจนยับยู่ยี่ไม่น่ามอง
“จริงสิ เจ้าสี่บอกข้าเมื่อวานว่าเขากอดผู้หญิง บางทีตอนนี้น่าจะ…” หูชิงหลู่พูด
ทั้งที่ลูกชายคนที่ 3 พูดไม่จบ แต่ทุกคนก็สามารถคาดเดาทุกอย่างได้ทั้งหมดแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับภาพวาดของหูชิงเกาเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ
“ไอ้หมอนั่น มันทำแบบนี้ได้ยังไง! มันเป็นคนแรกในบรรดาพวกเรา 4 คนที่หาคู่ได้เนี่ยนะ คอยดูเถอะ ถ้าเจ้าบ้านั่นกลับมา ข้าจะตีมันสักที การที่มันแอบไปมีผู้หญิงโดยไม่บอกพวกเรานี่มันน่านัก!”
จู่ ๆ ชายหนุ่มก็รู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง
เพราะเขาเป็นคนสุดท้ายใน 4 พี่น้องที่รู้เรื่องนี้!
“แล้ว... ผู้หญิงคนนั้นคือใคร?” หูเจียวเจียวอยากรู้มากว่าภูตหญิงที่หูชิงหยวนไปพัวพันด้วยเป็นใคร เธอคาดไม่ถึงเลยว่านางจะได้ใจพี่ชายคนที่ 4 ไปครอง
…
ในบ้านไม้หลังหนึ่ง
พอหู่จิงเห็นหูชิงหยวนเข้ามาพร้อมกับผลไม้ในมือ นางก็รีบสวมเสื้อผ้าหนังสัตว์ของตนด้วยใบหน้าสีแดงระเรื่อ
“เจ้าหิวไหม เนื้อย่างฝีมือข้าไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ เจ้ากินผลไม้ไปก่อนได้หรือเปล่า...” หูชิงหยวนพูดพลางเกาหัว
จิ้งจอกหนุ่มตัดสินใจว่า หลังจากกลับไปที่บ้าน เขาจะต้องไปขอเรียนรู้วิธีการทำเนื้อย่างจากพ่อของตน
“ไม่เป็นไร ผลไม้ก็อร่อย ข้าไม่เลือกกิน”
เสือสาวหยิบผลไม้มาอย่างเขินอายและอ้าปากกัดคำใหญ่
แต่จู่ ๆ นางก็ชะงักค้างไปกะทันหันเพราะเพิ่งคิดได้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งกำลังเฝ้าดูการกระทำของตัวเองอยู่ตลอดเวลา นางจึงถอนปากออกจากผลไม้แล้วใช้มือเช็ดเบา ๆ ก่อนจะหันไปยิ้มแบบเหนียมอายให้เขา
จากนั้นนางก็กัดกินคำเล็ก ๆ
“ข้ากินไม่เยอะ...” นางกล่าวเสริมไปอีกครั้ง
“กินเยอะ ๆ เลย เจ้าผอมเกินไปแล้ว” หูชิงหยวนกระตุ้นด้วยรอยยิ้มโง่ ๆ แล้วทำเป็นเมินกล้ามเนื้อที่เหมือนนักกล้ามของหญิงสาว
หู่จิงกินผลไม้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มต่อไป แต่การเคลื่อนไหวของนางยังคงช้าเหมือนเดิม
ทว่าหลังจากที่นางกินไปไม่กี่คำ นางก็ไม่สามารถเสแสร้งได้อีกต่อไป นางจึงชำเลืองมองจิ้งจอกหนุ่มซึ่งยังคงตั้งใจมองตนแล้วถามว่า
“ชิงหยวน เจ้าไม่ได้กลับบ้านมาทั้งวันแล้ว เจ้าอยากกลับไปไหม...”
“ข้าไม่รีบ ข้าจะรอให้เจ้ากินเสร็จก่อน” หูชิงหยวตอบโดยไม่ต้องคิด
เขาจะทิ้งคู่ที่กำลังหิวโหยไว้คนเดียวได้อย่างไร?
“...”
ข้าจะกินให้หมดได้ยังไงถ้าเจ้ายังไม่กลับไป!
“เอ่อ... ข้าหิวน้ำ เจ้าไปเอาน้ำมาให้ข้าหน่อยสิ” เสือสาวพยายามหาข้อแก้ตัวอีกครั้ง
“ได้” จิ้งจอกหนุ่มรีบหันหลังเดินออกไปหาน้ำทันทีที่ตอบรับเสร็จ
พอหูชิงหยวนหายลับไปจากสายตา หู่จิงก็กินผลไม้หมดใน 2 คำ เนื่องจากเมื่อวานนี้นางไม่มีอะไรตกถึงท้องมากนัก ตอนนี้นางจึงหิวโซจนแทบจะกินวัวได้ทั้งตัวแล้ว
ไม่นานหญิงสาวก็พึมพำกับตัวเองว่า
นี่สินะที่เขาบอกว่ามีความสุขจนลืมกินข้าวกินปลา…
“น้ำมาแล้ว เจ้าค่อย ๆ กินนะ—” หูชิงหยวนเดินเข้ามาพร้อมชามน้ำ และเสียงของเขาก็หยุดชะงักไปทันทีที่เขาเห็นว่าผลไม้ในมือนางเหลือแค่แกนเปล่า ๆ
เขา... ออกไปนานขนาดนั้นเลยหรือ?
ภาพตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มลังเลไปชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะนำน้ำมาให้อีกฝ่ายดื่ม
พอหู่จิงดื่มน้ำไปชามหนึ่ง มันก็ช่วยบรรเทาความหิวของนางลงเล็กน้อย แต่นางก็ไม่ได้รู้สึกอิ่มจริง ๆ
จนถึงเวลานี้ ในที่สุดนางก็เริ่มทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว นางจึงพาคู่ครองออกไปทำเนื้อย่างกินด้วยกัน ปัจจุบันที่บ้านของนางมีอาหารอยู่มากมาย แต่ส่วนใหญ่มันเป็นเนื้อดิบซึ่งบางส่วนก็ถูกทำเป็นเนื้อรมควันตามวิธีที่ได้เรียนรู้มาจากหูเจียวเจียว
กล้ามเนื้อของเสือสาวไม่ได้มาจากการอดอาหาร แต่มาจากการทำงานหนักต่างหาก!
ทางด้านหูชิงหยวนมีหน้าที่ทำความสะอาดเนื้อ ส่วนหู่จิงก็จุดไฟเตรียมย่างเนื้อ ด้วยความร่วมมือของทั้ง 2 คน ในเวลาไม่นานเนื้อก็สุกพอให้พวกเขาได้กินประทังความหิว
“เวลาย่างเนื้อ เจ้าควรให้เนื้ออยู่ห่างจากไฟสักหน่อย มิฉะนั้น เนื้อจะไหม้จนกินไม่ได้” หู่จิงสอนวิธีการย่างเนื้อให้คู่ของตนขณะรับประทานอาหารกัน
แล้วจิ้งจอกหนุ่มก็ทดลองทำตามที่อีกฝ่ายบอกด้วยสีหน้ามุ่งมั่นจริงจังในขณะที่เสือสาวกินเนื้ออย่างเอร็ดอร่อย เพราะในตอนที่เขามัวแต่สนใจกับการย่างเนื้อ เขาก็ไม่มีเวลามามองหญิงสาวอีก
สภาพปัจจุบันของทั้งคู่นั้นอดอาหารมา 1 วันแล้ว แถมยังได้ออกกำลังกายอย่างหนักอีก ณ จุดนี้พวกเขาแทบจะกินเหยื่อเป็นร้อย ๆ ตัวได้เลย
หลังจากที่คู่รักข้าวใหม่ปลามันกินอาหารเสร็จ หู่จิงก็ตระหนักได้ว่าตัวเองเริ่มกินมูมมามแล้ว... แต่นางก็คิดว่าจะหยุดเสแสร้งดีหรือไม่
เพราะการแสร้งทำเป็นผู้หญิงอ่อนแอเรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้นั้นไม่ใช่สิ่งที่นางฝืนใจทำได้จริง ๆ
ในขณะที่หูชิงหยวนเองดูไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แต่เขารู้สึกผิดที่ทำให้คู่ของตนอดข้าว
“หู่จิง ข้าต้องกลับบ้านไปบอกพ่อแม่ของข้าว่าเราตกลงปลงใจเป็นคู่กันแล้ว เจ้าพักผ่อนรอข้าอยู่ที่นี่ก่อนนะ” เขาวางแผนที่จะกลับไปคนเดียว
“ข้าจะไปกับเจ้า” หู่จิงลุกขึ้นจากพื้นพลางปัดฝุ่นออกจากร่างกาย และก้าวไปข้างหน้าเพื่อกอดแขนของคนรักไว้
“แต่ร่างกายของเจ้า...” จิ้งจอกหนุ่มลังเล ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่รอยตรงคอของเสือสาว และโคนหูของเขายังคงเป็นสีแดง
เมื่อวานเป็นครั้งแรกที่เขา… ควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาหยาบคายมาก ซึ่งมันทำให้นางได้รับบาดเจ็บทั่วร่างกาย
โชคดีที่หู่จิงไม่โกรธเขา
“ข้าไม่เป็นอะไร ให้ข้าไปกับเจ้าเถอะนะ” เสือสาวสบตาชายหนุ่มนิ่ง
แม่ของหู่จิงเสียชีวิตหลังจากให้กำเนิดนาง แล้วพ่อของนางก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างออกไปล่าเช่นกัน ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็จากไป
โชคดีที่แม่ของหญิงสาวยังมีคู่อยู่อีก 2-3 คน นางจึงเติบโตมากับภูตชายพวกนั้น แต่นางก็ไม่ได้สนิทกับพวกเขามากนัก ตั้งแต่ตอนยังเด็ก เวลาส่วนใหญ่นางจะอยู่คนเดียวและทำทุกอย่างด้วยตัวเองซึ่งนางไม่เคยสร้างปัญหาให้ใครต้องลำบาก
เสือสาวเติบโตขึ้นมาโดยอาศัยเสบียงที่คู่ของแม่ส่งมาให้ จากการที่เสือสาวต้องดูแลตัวเองตั้งแต่เล็กตนโต นางจึงมีอุปนิสัยเช่นนี้
นางเป็นคนที่พูดจาโผงผาง ทำอะไรรุนแรง บางครั้งนางก็ทำตัวเหมือนผู้ชาย
แต่ถ้าหญิงสาวไม่ทำเช่นนั้น ในโลกภูตที่อาศัยเพียงความแข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะอยู่รอด นางคงจะถูกคนในเผ่ารังแกไปแล้ว
ในความเป็นจริง หู่จิงรู้สึกอิจฉาหูเจียวเจียวมาก เพราะนางถูกพ่อแม่กับพี่ชายตามใจมาตั้งแต่เด็ก นางทำได้ทุกอย่างที่ต้องการ และใครบางคนจะคอยหนุนหลังนางอย่างไม่มีเงื่อนไข
ตอนนี้นางและหูชิงหยวนได้กลายเป็นคู่ครองกันแล้ว นางจึงรู้สึกว่าตนควรไปพบพ่อแม่ของฝ่ายชายเพื่อแสดงความจริงใจ
“ตกลง งั้นเราไปกันเถอะ” แน่นอนว่าจิ้งจอกหนุ่มไม่สามารถปฏิเสธคำขอของคนรักได้
จากนั้นทั้งคู่จึงพากันมุ่งหน้าไปที่บ้านพ่อแม่ของหูชิงหยวนทันที
เนื่องจากชายหนุ่มไม่ต้องการให้หู่จิงเหนื่อยไปมากกว่านี้ ดังนั้นเขาเลยกลายร่างเป็นสัตว์ให้อีกฝ่ายขี่ ในระหว่างการเดินทางก็มีชาวบ้านหลายคนเห็นว่าพวกเขา 2 คนอยู่ด้วยกัน
ส่วนภูตบางคนที่อยู่ใกล้ ๆ ก็เข้ามาถามด้วยสายตารู้ทัน
“หูชิงหยวน หู่จิง เจ้า 2 คนเป็นคู่กันแล้วหรือ?”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: กลับบ้านไปพ่อแม่พี่น้องจะว่ายังไงบ้างนะ