ตอนที่ 659 ระบบนั้นตลกร้าย (ฟรี)
ผู้นำกองกำลังของลัทธิสวรรค์มาในครั้งนี้มีนามว่าฉิงเฟิง
ความแข็งแกร่งของเขานั้นยากที่จะหยั่งถึง และไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ที่แน่ชัดเลยคืออยู่ในเขตแดนภัยพิบัติขั้น 6
และผู้ติดตามเขา หลานหยู กวางเจี๋ยว เตาเก๋อ ทั้งหมดล้วนมีเขตแดนภัยพิบัติขั้น 6 และได้รับใช้ลัทธิแห่งนี้มาช้านาน พร้อมกับได้สร้างผลงานไว้ในสนามรบหลายแห่ง
จักรวรรดิระดับสูงได้มอบหมายให้พวกเขาจัดการสนามรบแห่งนี้เพื่อที่จะได้ผลประโยชน์มากที่สุด
เพราะที่ผ่านมาพวกเขาได้แต่เศษซากระดูกแข็งๆ เท่านั้น
“จ้าวภัยพิบัติขั้น 5 กับ 6 ยังงั้นหรอ? ไม่คิดว่าจักรวรรดิไท่เจียงยังมีไม้เด็ดแอบซ่อนเอาไว้อีก”
สีหน้าของฉิงเฟิงและคนอื่นๆ มืดครึมลงทันที เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีจ้าวภัยพิบัติขั้น 6 อยู่ด้วยการต้องเผชิญหน้ากับศัตรูแบบนี้พวกเขาเองก็ประมาทไม่ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวตนที่สวมชุดสีขาวเหมือนกัน และรูปร่างเหมือนกันทุกอย่าง พวกเขาได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับตัวตนนี้จากหลายแนวรบ ว่ากันว่าตัวตนนี้ทรงพลังมาก
เงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏตัวขึ้นมันได้แผ่กลิ่นไอ และรัศมีฆ่าฟันออกมาเต็มไปหมด จนไม่ต้องถามก็รับรู้ได้ว่าร่างพวกนี้เคยฆ่ามาแล้วกี่ศพ มันมากจนทำให้รับรู้ได้จากกลิ่นไอ
ซึ่งเงายักษ์ทั้งสองร่างั้นยืนอยู่หลังมังกร 9 มายา ที่ไม่ได้ปิดบังพลังของตัวเองอีกแล้ว มันได้ปล่อยจิตคุกคามไปทั่ว จนใครก็ตามที่สัมผัสได้ก็ต่างมีเหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นเต็มหน้าผาก
สิบปีของการใช้จิตวิทยาต่อสู้มาตลอดของซู่เสี่ยวไป่ ทำให้เขาสามารถชนะในหลายศึกได้โดยที่ไม่ต้องหลั่งเลือดแม้แต่หยดเดียว
ในแง่หนึ่งไม่มีทางที่เขาจะแพ้ศึกด้วยเรื่องกำลังคนอยู่แล้ว เพราะหากเสียท่าซู่เสี่ยวไป่ก็แค่สร้างเงายักษ์ที่ขอบเขตพลังภัยพิบัติขั้น 7 ออกมาจัดการกวาดล้างทุกอย่างในพริบตา
แต่ครั้งนี้เขาอยากเห็นพลังการต่อสู้ของมังกร 9 มายาในศึกแรกของมัน
มังกร 9 มายานั้นสะบัดตัวสองสามครั้งเกล็ดของมันก็พุ่งออกไป ตัดผ่านทุกอย่างราวกับใบบีดโกน
“กลับไปซะ!! หรือจะตายที่นี่เลือกเอา!”
ตอนนี้มันได้ต่างออกไปจากหัวหน้าเหมืองที่ทำหน้าที่ขุดเหมืองทั้งวัน มันได้กลับกลายเป็นเทพแห่งความตายเหมือนในยุคโบราณ
ซู่เสี่ยวไป่ที่ได้ท่องไปในสายธารกาลเวลา ได้เคยเห็นภาพการต่อสู้ของมังกร 9 มายามาแล้ว และรู้ว่าครั้งหนึ่งมันเคยเป็นผู้นำพาหายนะไปยังทุกที่ที่มันไปถึง
ทำให้ซู่เสี่ยวไป่ปล่อยให้มังกร 9 มายาเป็นคนออกหน้าในครั้งนี้ เพื่อจะได้เห็นถึงพลังที่แท้จริงของมังกร 9 มายาตัวนี้ว่าทำอะไรได้อีกบ้าง
เหล่าจ้าวภัยพิบัติของลัทธิก็จ้องมองด้วยสายตาที่เฉียบแหลม และเตรียมพร้อมที่จะสู้
มังกร 9 มายานั้นเปลี่ยนรูปร่างของตัวมันให้เปล่งแสงเหมือนกับสายรุ้งก่อนจะปล่อยพลังออกไปฆ่าผู้ฝึกตนคนหนึ่งตายทันที
ตามด้วยการโจมตีจากเงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง แม้จะไม่ได้แสดงพลังมาก แต่ก็สร้างแรงกดดันให้กับทุกคนที่เห็นได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ในเวลาเดียวกันซู่เสี่ยวไป่นั้นกำลังดำดิ่งเพื่อเก็บเกี่ยวเส้นทางสู่สวรรค์ซึ่งตอนนี้เขามีถึง 22,000 เส้นทางแล้ว
ฉิงเฟิงสัมผัสได้ถึงพลังสวรรค์ที่มากมายจากร่างเงาเหมือนกัน
“นั้นมันเส้นทางสู่สวรรค์งั้นหรอ? ทำไมมันมากขนาดนี้!”
ร่างสีขาวทั้งสองร่างดูภายนอกก็ไม่ต่างจากจ้าวภัยพิบัติขั้น 6 แต่เมื่อสัมผัสดูจริงๆ แล้วกลับมาพลังที่ลึกล้ำกว่ามาก และอาจจะมีพลังเท่ากับจ้าวภัยพิบัติขั้น 7
ตอนนั้นเองที่มังกร 9 มายา ได้ฟาดหางออกไปทำให้ทั้งจักรวรรดิดวงดาวมังกรถึงกับสั่นสะเทือน
ครืน!!! ตูม!!!
เปลวเพลิงมากมายได้โพยพุ่งออกมาจากแผ่นดินของจักรวรรดิดวงดาวมังกร และพุ่งเข้าหาร่างของจ้าวภัยพิบัติขั้น 5 ฝั่งศัตรูจนร่างถูกเผาเป็นก้อนถ่าน แม้แต่จ้าวภัยพิบัติขั้น 6 ก็ยังต้องถอยหนีจากไฟนี้ ผู้ที่โดนเข้าไปก็ถึงกับกระอักเลือดจากความร้อนที่แทรกเข้าไปในร่าง
“เป็นกาโจมตีที่รุนแรงจริงๆ”
ดวงตาของซู่เสี่ยวไป่เบิกกว้างขึ้นมาทันที เมื่อเห็นวิชาของมังกร 9 มายา ที่สามารถจัดการจ้าวภัยพิบัติขั้น 5 ได้ในพริบตา
สายพันธ์มังกร 9 มายาหากว่าดวงจิตที่โคนหางของมันเพิ่มขึ้นเป็น 5 ดวง พลังของมันจะทัดเทียมกับจ้าวภัยพิบัติขั้น 8 เป็นสายพันธ์ที่แข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย มันแข็งแกร่งพอที่จะทัดเทียมกับร่างจริงของซู่เสี่ยวไป่ได้เลย
มังกร 9 มายาระเบิดพลังออกมาอีกครั้งสร้างปราณดาบอันใหญ่โตอัดแน่นไปด้วยพลังภัยพิบัติ
“ร่างกายไม่ยอมฟื้นตัว!! นี้คือพลังของสายเลือดมังกร!!”
ฉิงเฟิงรู้สึกเจ็บปวด และไม่สามารถระงับความเจ็บได้ อาการบาดเจ็บจากไฟนรกเมื่อครู่ ไม่ถูกรักษาในทันที และแผลนั้นยิ่งลุกลามออกไปเรื่อยๆ สร้างความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง
ฉิงเฟิงเป็นถึงจ้าวภัยพิบัติขั้น 6 เขาไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ที่ไม่สามารถรักษาตัวเองได้
สองผู้ติดตามของเขาโจมตีสวนกลับไปอย่างรุนแรง พวกเขาไหวตัวทัน ด้วยกำลังคนที่มากกว่ายังไงพวกเขาก็คิดว่าตัวเองได้เปรียบ
….
ในพริบตานั้นจ้าวภัยพิบัติขั้น 6 ทั้งสองที่ตอบโต้ก็ถูกมังกร 9 มายาใช้ปราณดาบตัดหัวออกทันที ก่อนที่เงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์จะลงมือเข้าไปสังหารจ้าวภัยพิบัติที่ขั้นต่ำกว่า 6 อย่างไร้ความปราณี
“สมแล้วที่เป็นนายท่านของข้า….เพียงร่างแยกสองร่างก็ยังแสดงพลังได้น่ากลัวขนาดนี้”
มังกร 9 มายารู้สึกกลัวซู่เสี่ยวไป่ขึ้นมาจับใจทันที
เขาได้ติดตามซู่เสี่ยวไป่มาระยะหนึ่งแล้ว และรู้ว่าร่างแยกพวกนี้แค่เศษเสี้ยวของพลังทั้งหมดของซู่เสี่ยวไป่เท่านั้น
จนถึงตอนนี้มันยังไม่เคยเห็นซู่เสี่ยวไป่ใช้ร่างจริงสู้เลยสักครั้งเดียว ทำให้มันคิดภาพไม่ออกเลยว่าหากซู่เสี่ยวไป่สู้ด้วยร่างจริงขึ้นมาจะน่ากลัวขนาดไหน
……
ซู่เสี่ยวไป่ไม่ได้สนใจเลยว่ามังกร 9 มายา นั้นจะคิดอะไรอยู่ เขาเพียงให้เงาเก็บศพและแหวนคลังกลับมาหมุนเวียนเท่านั้น และเก็บวิชากลับมาให้เขา
“40 ล้านผลึกต้นกำเนิด….วิชาระดับภัยพิบัติ 100 วิชา ดูเหมือนกองทัพนี้จะอ้วนกว่ากองทัพไหนของลัทธิสวรรค์เสียอีก แต่แค่นี้ก็พอใช้แล้ว”
ซู่เสี่ยวไป่นับยอดผลึกต้นกำเนิดที่เก็บมาได้ พร้อมกับดูวิชาที่ได้รับมาด้วย
ตอนนี้เขามีวิชาภัยพิบัติไม่ต่ำกว่าสองพันวิชาแล้ว
“ระบบหลอมผสานวิชาระดับต่อไป”
ซู่เสี่ยวไป่ลองทำอะไรสักอย่างกับระบบ เพื่อลองเชิงเท่านั้น
“-ติ๊ง! การจะหลอมผสานวิชาระดับที่สูงขึ้นต้องใช้วิชาระดับภัยพิบัติ 1 หมื่นวิชา-”
พ่….
ซู่เสี่ยวไป่ถึงกับอุทานในใจ และรู้ตัวเลยว่าเลือดในตัวของเขากำลังเดือดพล่าน
ที่ผ่านมาซู่เสี่ยวไป่ใช้วิชาระดับภัยพิบัติมากมายเพื่อเติบโต และเพิ่มขอบเขตของพลังจนมาถึงจุดนี้ได้
แต่การต้องหาวิชาระดับภัยพิบัติหนึ่งหมื่นวิชามาสร้างวิชาใหม่นั้น มันบ้าบอเกินไป แม้แต่ทั่วจักรวรรดิไท่เจียง ซู่เสี่ยวไป่ก็มั่นใจว่าคงหาได้แค่ 4 พันกว่าวิชาเท่านั้น ไม่มีทางมากไปกว่านี้
การบริโภคของระบบนั้นโหดร้ายเกินไป แต่ซู่เสี่ยวไป่ก็ยังสะสมพลังและรอมาได้เป็น 10 ปี รออีกสักหน่อยจะเป็นอะไรไป
และความคืบหน้าในการเก็บเกี่ยวเส้นทางสู่สวรรค์นั้นก็เร็วขึ้นทุกวัน ในไม่ช้าเขาจะเก็บเกี่ยวเส้นทางสู่สวรรค์ได้ทั้งหมด 3 หมื่นเส้นทาง และจะก้าวสู่เขตแดนภัยพิบัติขั้น 8 อย่างงดงาม