ตอนที่ 194: โลกาวินาศ
ตอนที่ 194: โลกาวินาศ
“มันคือระบบที่สามารถระบุตำแหน่งวัตถุได้อย่างแม่นยำและระบบค้นหาวัตถุ!!” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
ระบบระบุตำแหน่งเปรียบเสมือนกับดวงตาของยานอวกาศ ซึ่งถ้าหากว่ายานลำไหนสามารถระบุตำแหน่งของศัตรูได้ก่อน พวกเขาก็จะมีความได้เปรียบในการรบที่มากขึ้น
นอกจากนี้การระบุตำแหน่งที่แม่นยำยังมีความสัมพันธ์กับการไล่ล่า เพราะถ้าหากว่ายานรบวาร์ปตามไปโผล่ห่างจากศัตรู มันก็จะทำให้ศัตรูสามารถหลบหนีได้ง่ายดายมากขึ้นกว่าเดิม
ระบบระบุตำแหน่งของไททันมีโอกาสเกิดความผิดพลาดแค่หลักเซนติเมตรเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าศัตรูจะมีไหวพริบมากเพียงใดพวกเขาก็ไม่สามารถซ่อนตัวภายใต้เรดาร์ชั้นสูงแบบนี้ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นระยะการค้นหาของระบบระบุตำแหน่งนี้ยังไกลถึง 1 ล้านปีแสง หรือมันอาจจะกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าทุกการเคลื่อนไหวภายในระยะ 1 ล้านปีแสงล้วนแล้วแต่อยู่ภายใต้การควบคุมของไททัน
ปัจจุบันระบบระบุตำแหน่งที่ดีที่สุดของพันธมิตรสามารถตรวจจับวัตถุได้ภายในระยะ 100,000 ปีแสงเท่านั้น และข้อผิดพลาดในการระบุตำแหน่งก็มีระยะทางที่ค่อนข้างห่างมาก ทำให้บ่อยครั้งพวกเขาไม่สามารถที่จะไล่ตามศัตรูที่หลบหนีได้
ส่วนระบบค้นหาวัตถุก็เป็นระบบที่มีความพิเศษมากยิ่งกว่า เพราะมันจะช่วยให้เราสามารถค้นหาเป้าหมายได้อย่างง่ายดายแม้ว่ายานรบของศัตรูจะมีมากกว่า 100,000 ลำก็ตาม
ระบบค้นหาวัตถุมีความสำคัญมากโดยเฉพาะในสงครามขนาดใหญ่ดังสำนวนโบราณที่เคยกล่าวเอาไว้ว่า ‘จับโจรให้จับหัวหน้า’ ดังนั้นถ้าหากว่าเราสามารถค้นหาตำแหน่งยานบัญชาการของศัตรูได้ก่อน เราก็จะสามารถส่งกองกำลังพิเศษเข้าไปทำลายยานบัญชาการของศัตรูได้ในคราวเดียว และเมื่อไหร่ก็ตามที่ยานบัญชาการถูกทำลายสมาชิกภายในกองยานจะเริ่มเกิดอาการตื่นตระหนก ซึ่งมันก็อาจจะเปลี่ยนกระแสของการรบทั้งหมดไปได้เลย
คำพูดของเซี่ยเฟยทำให้พอตเตอร์รู้สึกตกใจมาก เพราะในฐานะที่เขาเคยเป็นอดีตทหารเขาจึงเข้าใจถึงความสำคัญของระบบเหล่านี้เป็นอย่างดี
“พระเจ้า! มันเป็นระบบเรดาร์ที่สุดยอดมากจริง ๆ ด้วย หากยานรบลำใดติดระบบเรดาร์นี้เข้าไปมันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรบขึ้นจากเดิมอย่างก้าวกระโดด” พอตเตอร์กล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
“แต่สิ่งที่ฉันสนใจมากกว่าคือนายทำความเข้าใจพิมพ์เขียวที่ซับซ้อนแบบนี้ได้ยังไง? ในค่ายฝึกจัสทิสลีกมีสอนเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ” พอตเตอร์ถามขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่เขาจะบอกกับชายชราว่าเขาเลือกทำงานเป็นบรรณารักษ์ภายในห้องสมุด ซึ่งในระหว่างที่ทำหน้าที่ฉินหมางได้มอบหนังสือให้เขาทำการเรียนรู้พื้นฐานเรื่องต่าง ๆ ทั้งทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่ชายหนุ่มไม่ได้พูดถึงพวกหนังสือโบราณโดยเฉพาะหนังสือที่เกี่ยวกับหุ่นยนต์
ท้ายที่สุดถึงแม้ว่าเขาจะไว้ใจพอตเตอร์มากแค่ไหน แต่เขาก็ต้องปกป้องฉินหมางด้วยเหมือนกัน
“นายโชคดีจริง ๆ ที่ได้พบกับหัวหน้างานที่ดีแบบนี้ คนส่วนใหญ่ที่เข้าไปภายในค่ายคงจะไม่มีโอกาสได้รับความรู้พวกนั้นด้วยซ้ำ” พอตเตอร์กล่าวพร้อมกับพยักหน้า
ทางเลือกนี้เป็นทางเลือกที่เซี่ยเฟยได้เลือกเอง และถึงแม้ว่าในตอนแรกมันจะเป็นทางเลือกที่ดูไร้สาระแต่มันกลับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากที่สุด ถึงแม้ว่าคนอื่นจะได้พบกับโอกาสที่ดีแบบนี้ แต่มันก็คงมีคนยอมไปเป็นบรรณารักษ์ที่ต่ำต้อยเพียงแค่ไม่กี่คน
ท้ายที่สุดความโชคดีของเซี่ยเฟยก็เกิดขึ้นจากความกล้าหาญที่ตัดสินใจละทิ้งเส้นทางที่คนอื่นได้เลือกเดิน
การเลือกเส้นทางเดินที่ผิดแปลกจากชาวบ้านแบบนี้ได้สร้างโอกาสให้กับเขาอย่างมากมาย เช่น พิมพ์เขียวของระบบเรดาร์ที่เขาเพิ่งได้รับมา มันก็เป็นเพราะเขาตัดสินใจเลือกเส้นทางที่คนอื่นไม่เดิน
หากคนอื่นได้รู้ว่าพอตเตอร์ได้หายตัวไปภายในพื้นที่เขตแรงโน้มถ่วงสูง มันจะมีคนสักกี่คนที่เลือกเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเพื่อช่วยชีวิตพอตเตอร์ออกมา ซึ่งถ้าหากว่าเซี่ยเฟยไม่เลือกทางนี้เขาก็คงจะไม่ได้เห็นยานไททันกับตาของตัวเองด้วยซ้ำ และมันก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงการที่เขาได้รับพิมพ์เขียวของระบบเรดาร์ที่มีค่าอย่างประเมินไม่ได้ชิ้นนี้เลย
ในตอนนี้เซี่ยเฟยกำลังคิดหาวิธีประยุกต์ใช้พิมพ์เขียวนี้ในรูปแบบของตัวเอง เพราะท้ายที่สุดเทคโนโลยีในการสร้างระบบเรดาร์ของไททันที่สมบูรณ์ก็เป็นเทคโนโลยีที่สูงมากจนเกินไป เขาจึงจำเป็นที่จะต้องประยุกต์ใช้ระบบเรดาร์นี้เข้ากับระบบเรดาร์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
เครื่องขยายพลังชาร์จที่น่าอัศจรรย์ยังอยู่ในกระบวนการวิจัยและพัฒนาสำหรับการผลิตออกขายในระดับอุตสาหกรรม แต่ในตอนนี้ระบบเรดาร์แบบใหม่กำลังโบกมือทักทายความคิดของเซี่ยเฟยแล้ว ถ้าหากเขาสามารถผลิตสินค้าทั้งสองชิ้นนี้ออกไปวางขายในตลาดได้จริง ๆ พวกมันก็คงจะช่วยให้ควอนตัมกลายเป็นบริษัทชั้นนำได้โดยไม่ยากลำบากจนเกินไป
หนึ่งในเป้าหมายปัจจุบันที่เซี่ยเฟยต้องการจะทำคือการยกระดับฐานะของตัวเอง หากบริษัทควอนตัมได้กลายเป็นบริษัทชั้นนำของพันธมิตรจริง ๆ เรื่องของเขากับแอวริลก็จะเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นกว่าเดิม
เซี่ยเฟยไม่เคยคิดที่จะใช้เงินจากแอวริลเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาอยู่กับเธอด้วยความรักที่บริสุทธิ์ใจ แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงแรงกดดันและคำเยาะเย้ยที่ดังขึ้นมาจากคนรอบข้าง
คนธรรมดาคงจะยอมแพ้ให้กับแรงกดดันแบบนี้ไปแล้ว แต่เซี่ยเฟยยังคงยืนหยัดเรื่องความรักเอาไว้อย่างมั่นคง ตราบใดก็ตามที่ระบบเรดาร์กับเครื่องเสริมพลังชาร์จถูกผลิตเข้าสู่ตลาด ฐานะของเขาย่อมสูงขึ้นจนไปยืนเคียงข้างแอวริลได้อย่างภาคภูมิใจ
“เพียงแค่ระบบเรดาร์ของไททันยังน่าอัศจรรย์ขนาดนี้ ผมคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าพิมพ์เขียวของยานไททันจะมีความน่าอัศจรรย์มากขนาดไหน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดาย
“ไททันเป็นยานรบที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาลอย่างแน่นอน มันมีข้อมูลเรื่องอื่น ๆ อยู่ในชิพนั้นด้วยนะ นายลองเปิดพวกมันขึ้นมาดูก็ได้” พอตเตอร์กล่าว
“หือ?” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจก่อนที่เขาจะเปิดข้อมูลจากภายในชิพความจำ
ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่ถูกรวบรวมโดยพอตเตอร์จากซากปรักพังของมนุษย์โบราณเมื่อนานมาแล้ว ซึ่งเนื้อหาภายในชิพเกี่ยวกับเรื่องการประเมินความแข็งแกร่งของไททันจากมนุษย์โบราณ
ข้อมูลที่รวบรวมได้ยังไม่อยู่ในระดับที่สมบูรณ์และแม้แต่อารยธรรมของมนุษย์โบราณก็ยังไม่สามารถทำความเข้าใจไททันได้ทั้งหมด แต่หลังจากที่เซี่ยเฟยได้อ่านข้อมูลเหล่านี้มันก็มากพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าไททันคือยานรบอันดับ 1 ในจักรวาลอย่างแท้จริง
“ตอนแรกผมคิดว่าถึงแม้ไททันจะทรงพลังแต่มันก็ยังถือว่าเป็นยานรบประเภทหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าผมจะคิดผิดสินะครับ” เซี่ยเฟยพูดขึ้นมาโดยพยายามระงับความตื่นเต้นเอาไว้
“ตอนแรกฉันก็คิดเหมือนนาย แต่หลังจากที่ฉันได้เห็นระบบอาวุธของไททันฉันถึงได้รู้ว่ามันไม่ได้มีไว้สำหรับการต่อสู้ แต่มันมีเอาไว้สำหรับการทำลายล้าง” พอตเตอร์กล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
ระบบอาวุธของยานไททันคือปืนซุปเปอร์เลเซอร์ 6 กระบอกที่มีระยะทำลายล้างถึง 1 ปีแสง การโจมตีจากปืนใหญ่เหล่านี้เพียงแค่ 1 นัดก็สามารถจะเจาะทะลุดาวเคราะห์ขนาดเล็กจนเป็นรูได้อย่างง่ายดาย
อาวุธระดับนี้อยู่ห่างไกลจากการป้องกันของยานรบในปัจจุบัน และถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับยานบัญชาการขนาดใหญ่ แต่เขาก็คาดการณ์ว่าแม้แต่ยานรบที่ดีที่สุดภายในพันธมิตรก็ไม่สามารถรอดพ้นจากการจู่โจมอันรุนแรงเช่นนี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้นไททันยังสามารถติดตั้งอาวุธที่มีชื่อว่า ‘โลกาวินาศ’ ได้อีกด้วย
อาวุธขั้นสุดยอดชิ้นนี้สามารถกวาดล้างทุกสิ่งในระยะ 100,000 กิโลเมตรให้หายไปได้ในพริบตา และพลังทำลายที่มันได้ปล่อยออกมาก็มีค่าเกินกว่า 10 ล้านหน่วยมาตรฐานอย่างแน่นอน!
หน่วยมาตรฐานคือหน่วยวัดสำหรับการประเมินพลังของยานรบ ยกตัวอย่างเช่น ยานรบ 1 ลำสามารถทนพลังทำลายได้ 20,000 หน่วยมาตรฐาน หรือมันอาจจะกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าเมื่อไหร่ที่โลกาวินาศถูกใช้งานทุกอย่างภายในระยะ 100,000 กิโลเมตรที่มีพลังป้องกันไม่ถึง 10 ล้านหน่วยมาตรฐานจะถูกกวาดล้างหายไปอย่างสมบูรณ์
แม้แต่ยานบัญชาการที่น่าภาคภูมิใจของพันธมิตรก็ยังมีพลังป้องกันอยู่เพียงแค่ 1 ล้านหน่วยมาตรฐานเท่านั้น มันจึงทำให้ยานทุกลำในพันธมิตรเป็นเพียงแค่มดแมลงตัวเล็ก ๆ เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าอาวุธที่มีชื่อว่าโลกาวินาศ
เซี่ยเฟยไม่สามารถสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้เป็นเวลานาน เพราะเขาไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะมีอาวุธที่น่าสะพรึงกลัวแบบนี้อยู่ภายในจักรวาลอันกว้างใหญ่ด้วย
“วันนี้ผมได้เปิดหูเปิดตาจริง ๆ ใครกันนะที่เป็นคนออกแบบยานรบแบบนี้ได้ ถ้าหากเผ่าพันธุ์ที่มีไททัน 2 เผ่าพันธุ์ได้ทำสงครามกันแบบนี้ พวกเขาไม่ทำให้ภูมิภาคดาวหายไปทั้งภูมิภาคเลยอย่างนั้นหรอครับ?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับกลืนน้ำลาย
“ไททันมีอยู่เพื่อการทำลายล้างจริง ๆ และสิ่งเดียวที่สามารถเอาชนะไททันได้มันก็มีแค่ยานไททันอีกลำเท่านั้น” พอตเตอร์กล่าวพร้อมกับพยักหน้า
ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็ได้นึกถึงไททันที่ยังสร้างไม่เสร็จ เพราะบาดแผลที่ถูกทิ้งเอาไว้บนไททันลำนั้นก็มีความใหญ่โตถึงขนาดที่โทมาฮอว์กสามารถทะลุผ่านเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
ปืนใหญ่ซุปเปอร์เลเซอร์ 6 กระบอกบวกกับโลกาวินาศ… มันก็คงจะมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถหยุดพลังทำลายของไททันได้
“แบบนี้พวกเราก็ควรจะต้องสำรวจเขตแรงโน้มถ่วงสูงต่อไป จนกว่าพวกเราจะสามารถรวบรวมพิมพ์เขียวของไททันได้ทั้งหมด!” เซี่ยเฟยกล่าวกับอันธ
“อย่าหวังสูงมากไปหน่อยเลย แม้แต่มนุษย์โบราณที่ทรงพลังก็ยังหาเจอเพียงแต่พิมพ์เขียวของระบบเรดาร์ของไททันเท่านั้น ถ้าหากพวกเรายังคงออกค้นหาต่อไปพวกเราก็จำเป็นจะต้องเข้าไปในพื้นที่ไร้ข้อมูล ซึ่งมันเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงมากจนเกินไป” อันธกล่าวขัดขึ้นมา
“สมมตินะว่านายบังเอิญเดินทางไปจนถึงเขตการปกครองของเผ่าพันธุ์ที่มีไททัน นายคิดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับพันธมิตรมนุษย์?”
คำอธิบายนี้ทำให้เซี่ยเฟยหยุดความคิดของเขาเอาไว้อย่างฉับพลัน เพราะผู้อ่อนแอไม่มีอำนาจที่จะต่อรอง แล้วมันก็ไม่มีอะไรรับรองว่าเผ่าพันธุ์ปริศนาพวกนั้นจะไม่ได้คิดร้ายกับเผ่าพันธุ์มนุษย์
—
ในที่สุดแวมไพร์ก็เดินทางกลับเข้ามาภายในเขตทุ่งดาวแห่งความตาย
การเดินทางในครั้งนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความอันตรายตลอดเวลา ตอนแรกเซี่ยเฟยคำนวณว่าเขามีโอกาสรอดชีวิตจากเขตพื้นที่แรงโน้มถ่วงสูงเพียงแค่ประมาณ 20% เท่านั้น แต่เขาก็สามารถเอาชีวิตรอดกลับมาได้จริง ๆ
เครื่องยนต์แบล็คเซอร์เพนท์ 130 สมควรแล้วที่จะถูกเรียกว่าเครื่องยนต์ระดับสูงสุดของพันธมิตร เพราะมันสามารถนำเซี่ยเฟยกลับมาจากเขตมรณะถึงแม้ว่ามันจะเหลือกำลังอยู่เพียงแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น
ดูเหมือนว่าความคิดที่เซี่ยเฟยได้ใช้แต่อะไหล่อุปกรณ์ระดับสูงในการประกอบยานจะเป็นความคิดที่ถูกต้อง เพราะถึงแม้ว่าเขาจะต้องใช้เงินทองอย่างมหาศาลแต่มันก็ช่วยให้เขารอดชีวิตกลับมาได้
แวมไพร์ค่อย ๆ ร่อนลงในฐานทัพทุ่งดาวแห่งความตาย ซึ่งในความคิดของเซี่ยเฟยมันก็คงจะมีเพียงแต่ย่าเหวยที่จะช่วยให้เขาซ่อมแซมแวมไพร์กลับมาได้
หลังจากชายหนุ่มได้เดินออกมาจากยานเขาก็ต้องพบกับภาพที่น่าประหลาดใจ เพราะย่าเหวยกำลังยืนรอเขาอยู่ไม่ไกลด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
เซี่ยเฟยกำลังจะเดินเข้าไปทักทายด้วยรอยยิ้ม แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรย่าเหวยก็ได้พูดขึ้นมาด้วยความร้อนรน
“อาจารย์กำลังมีปัญหาใหญ่!”
***************