ตอนที่แล้วระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 32 เริ่มบ่มเพาะได้เสียที
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 34 สงครามอาจเกิดขึ้น

ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 33 อดีตที่ขุ่มมัว


เซวียนห่าวอดทนรอให้ชิงอี้ปรากฏตัวที่ลานฝึก การนั่งสมาธิในขณะที่รอบางสิ่งค่อย ๆ กลายเป็นนิสัยติดตัวของเซวียนห่าว มันทำให้เขาผ่อนคลายอย่างหาที่เปรียบมิได้ บางทีอาจเป็นเพราะวิญญาณในอดีตของเซวียนห่าวที่รวมเข้ากับเขา

เซวียนห่าวยังจำได้หลังจากที่เขาข้ามมิติมาที่นี่ เขาจมอยู่กับความรู้สึกและความทรงจำที่ไม่คุ้นเคยจากเซวียนห่าวในอดีตจนทำให้เขาค่อย ๆ ลืมชื่อเดิมของเขาและกลายเป็นเซวียนห่าวในไม่ช้า

จากความทรงจำในอดีตของเซวียนห่าว เขาเห็นสิ่งแปลกประหลาดมากมาย ตั้งแต่ตอนเกิดและจนกระทั่งเขามาที่นี่ ช่วงเวลาก่อนที่เขาจะมาถึงขอบเขตควบแน่นแก่นแท้นั้นเขาเห็นเพียงหมองควันที่หนาแน่เพียงเท่านั้น

หลังจากที่เขาเข้าสู่ขอบเขตควบแน่นแก่นแท้ความทรงจำทั้งหมดก็เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เซวียนห่าวมองเห็นเรื่องราวในอดีต เซวียนห่าวท่องไปในโลกเพียงลำพังตั้งแต่อายุยังน้อยไปยังอาณาจักรนับไม่ถ้วน เขาเหมือนคนหลงทางที่ไร้เป้าหมาย เขาคงพยายามหลีกหนีจากบางอย่าง

หลังจากที่ได้พบกับจ้าวนิกายกระบี่ล่องนภา เฟิงเฉินแล้ว เซวียนห่าวในอดีตก็กลายเป็นเพื่อนกับเขาและเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภาตั้งนั้นเป็นต้นมา

ในอดีตของเซวียนห่าว เขาใช้เวลาบ่มเพาะอย่างเงียบ ๆ ในตำหนักของเขาจนกระทั่งเขาไปถึงขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากมาถึงขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดเซวียนห่าวก็ได้หลอมรวมเข้ากับวิญญาณของเซวียนห่าวในอดีต

เซวียนห่าวเองรู้ว่าเขาคงไม่สามารถพักผ่อนและมีความสุขกับชีวิตเหมือนตอนนี้ได้ตลอดไป ความทรงจำที่ขาดหายไปเตือนเขาถึงบางสิ่งที่อันตรายกำลังจะมาถึง ซึ่งเป็นสิ่งที่เซวียนห่าวในอดีตเคยหลบหนีตั้งแต่ก่อนที่จะถึงขอบเขตควบแน่นแก่นแท้

จากสิ่งที่เซวียนห่าวสามารถรวบรวมได้หลังจากหลอมรวมกับเซวียนห่าวในอดีต สิ่งที่เขากำลังหลบหนีนั้นไม่ได้มาจากทวีปเอวาเรีย

กลับกัน มันเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือไปจากนั้น บางอย่างที่อันตรายกว่าสิ่งที่เรียกว่าผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิของที่นี่ มันคือ...

“ท่านอาจารย์ !”

“...” เซวียนห่าวกระพริบเล็กน้อยด้วยความสับสน ความรู้สึกบางอย่างยังคงอยู่ในใจของเขาขณะที่เขาหันกลับมามองที่ศิษย์ของเขา ชิงอี้

“ท่านไม่สบายหรือ?” ชิงอี้กระพริบตาด้วยความสับสน นางเอียงศีรษะไปทางด้านข้างเล็กน้อย นางสงสัยว่าเหตุใดอาจารย์ของนางถึงมองมาที่นางด้วยสีหน้าสับสนเช่นนี้

“อย่าได้ใส่ใจไปเลย มาเริ่มการบ่มเพาะเสียที !” เซวียนห่าวส่ายหัวเล็กน้อย เขาเลือกที่จะลืมเรื่องก่อนหน้านี้และมุ่งความสนใจไปที่การบ่มเพาะของชิงอี้ในตอนนี้ เมื่อเขาอยู่คนเดียวเขาจึงค่อยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกรอบ

“เจ้าใช้เคล็ดวิชาบ่มเพาะอันใดหรือ? ข้าจะไม่ขอให้เจ้าเปิดเผยเคล็ดวิชาบ่มเพาะเพราะนั่นมันเป็นมรดกตกทอดของตระกูลของเจ้า สิ่งที่ข้าอยากรู้ก็คือว่ามันคือกับไหนกัน มันคือปราณธาตุเมฆา, ปราณธาตุน้ำ, ปราณธาตุพงไพรหรืออันไหนกัน” เซวียนห่าว อธิบายอย่างอดทน

“ข้ากำลังใช้เคล็ดวิชาบ่มเพาะพลังปราณธาตุปฐพี มันเป็นสิ่งเดียวที่ข้าสามารถใช้เมื่อข้าพยายามในอดีต” ชิงอี้อธิบายอย่างนุ่มนวลด้วยความกระอักกระอ่วนในใจ เซวียนห่าวสงสัยว่าเขาจะสามารถได้ยินสิ่งที่นางพูดหรือไม่หากเขามิใช่ผู้ฝึกตนขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด

“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกเขินอายเกี่ยวกับเรื่องนี้ เหตุผลที่เจ้าไม่สามารถบ่มเพาะได้ก่อนหน้านี้ อาจเป็นเพราะกายาศักดิ์สิทธิ์ของเจ้ายังไม่ตื่นขึ้น แต่สิ่งนี้จะไม่ใช่ปัญหาของเจ้าอีกต่อไป”

“ตอนนี้เจ้าได้บ่มเพาะพลังปราณธาตุปฐพีและจะเปลี่ยนเป็นพลังปราณธาตุไฟในตอนนี้ นี่ไม่ใช่ปัญหา อย่างมากที่สุดคงต้องใช้เวลาสองถึงสามชั่วโมง ข้าจะแปลเปลี่ยนพลังปราณธาตุปฐพีของเจ้าให้กลายเป็นปราณธาตุไฟเสียก่อน” เซวียนห่าวเดินไปหาชิงอี้ เขาผายมือให้นางนั่งลงและเอามือโอบหลังนาง

“ตอนนี้ข้าจะปล่อยพลังปราณจากสิ่งรอบข้างและปล่อยให้มันเข้าสู่ร่างกายของเจ้า เจ้าจะต้องขับไล่พลังปราณธาตุปฐพีทั้งหมดที่เหลืออยู่ในร่างกายของเจ้าออกไป”

ชิงอี้พยักหน้าตามคำสั่งของเซวียนห่าว เขาเริ่มดึงพลังปราณธาตุไฟอย่างช้า ๆ ขณะที่ชิงอี้ขับพลังปราณธาตุปฐพีภายในร่างกายของนางออกจากร่าง

หนึ่งชั่วโมงผ่านไปอย่างช้า ๆ และพลังปราณธาตุปฐพีระลอกสุดท้ายก็ออกจากร่างของชิงอี้ ตอนนี้ทั่วทั้งร่างของนางเต็มไปด้วยพลังปราณธาตุไฟที่บ้าคลั่ง ไม่ไม่ใช่เพราะเซวียนห่าว พลังปราณเหล่านี้คงสูญสิ้น

“ขั้นตอนแรกเสร็จสิ้น ตอนนี้ข้าจะปล่อยพลังปราณของข้าเข้าไปในร่างกายของเจ้าโดยใช้เคล็ดวิชาบ่มเพาะใหม่ของเจ้า เจ้าต้องทำความคุ้นเคยกับมัน” เซวียนห่าวยิ้มให้กับความก้าวหน้าที่พวกเขาได้ทำไปแล้ว เขารีบแนะนำชิงอี้ถึงขั้นตอนต่อไป

ชิงอี้ไม่ได้พูดต่อ นางเพียงพยักหน้าช้า ๆ เมื่อได้ยินคำพูดของเซวียนห่าว

ในขณะนี้นางมีสมาธิอย่างเต็มที่และไม่กล้าที่จะให้ความสนใจกับสิ่งอื่นใด

เมื่อรู้สึกว่าพลังปราณของอาจารย์ค่อย ๆ ไหลเข้าสู่จุดตันเถียนจากทางด้านหลังของนาง ชิงอี้จดจ่อกับพลังปราณและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเลียนแบบมัน

ชิงอี้เริ่มที่จะคุ้นชินกับมันอย่างช้า ๆ และพลังปราณธาตุไฟที่เคยอาละวาดก็เริ่มสงบลงจนทำให้จุดตันเถียนของนางมั่นคงขึ้น

“เจ้าได้แปลเปลี่ยนพลังปราณธาตุปฐพีเป็นปราณธาตุไฟเสียแล้ว ตอนนี้เจ้าสามารถเริ่มบ่มเพาะได้อย่างแท้จริง นี่คือเคล็ดวิชาเพลิงสวรรค์ มันมุ้งเน้นที่พลังปราณธาตุไฟซึ่งเหมาะกับกายาศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าอย่างมาก” ชิงอี้มองไปที่อาจารย์ของนางด้วยท่าทางเหนื่อยล้า นางหยิบหนังสือที่อาจารย์มอบให้อย่างมีความสุข

“กลับไปพักผ่อนเสียก่อน ตอนนี้เจ้าสามารถลองอ่านเคล็ดวิชาเพลิงสวรรค์ได้ ยิ่งเจ้าเข้าใจมันมากเท่าใด ฐานการบ่มเพาะและความแข็งแกร่งของเจ้าก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น”

ชิงอี้ยิ้มอย่างมีความสุข นางกอดหนังสือขณะที่นางวิ่งกลับไปที่ห้อง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้ นางตื่นเต้นกับเคล็ดวิชาบ่มเพาะที่อาจารย์มอบให้นาง

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด