บทที่ 983 (104) จับกุม (ตอนฟรี)
บทที่ 983 (104) จับกุม (ตอนฟรี)
“เสี่ยวเฟิง หม่าเหวินชางที่คุณพูดถึงอาศัยอยู่ที่วิลล่าข้างหน้านี้” ยานพาหนะทั้งหมดถูกซ่อนอยู่ในความมืด จี้เส้าฮงนั่งอยู่ในรถ มองดูตำรวจค่อยๆ เข้าไปใกล้พลางหันไปคุยกับจี้เฟิง
“ฟังจากที่คุณพูด มันเหมือนว่าคุณรู้จักหม่าเหวินชางคนนี้อยู่แล้ว?” จี้เฟิงอดถามไม่ได้ว่า “คุณดูไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ หรือว่ารู้อยู่แล้วว่าหม่าเหวินชางคนนี้เป็นหัวหน้าแก๊งขอทาน?”
“มันไม่มีอะไรน่าแปลกใจต่างหากล่ะ!” จี้เส้าฮงเย้ยหยัน “หม่าเหวินชางคนนี้ หากจะบอกว่าเขาร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆ ในเมืองฮั่วเหอของเราก็คงไม่ผิด นอกจากนั้นชื่อของเขายังเป็นที่รู้จักกันไปทั่วฮั่วเหอ และการมาอยู่ในเมืองเล็กๆแต่กลับร่ำรวยมากขนาดนี้ ถ้าบอกว่าเขาเป็นคนดีซื่อสัตย์ทำมาหากินสุจริต คุณจะเชื่อหรือเปล่าล่ะ?”
“ไม่เชื่อ!” จี้เฟิงส่ายหัวและยิ้ม
เพียงแค่มองไปที่วิลล่าที่อยู่เบื้องหน้า จี้เฟิงก็ไม่เชื่อแล้วว่าหม่าเหวินชางคนนี้คือพลเมืองดีที่ปฏิบัติตัวตามกฎหมายทุกอย่าง เมื่อมองเผินๆ วิลล่าแห่งนี้มีความสูงอย่างต่ำก็สามชั้น
“ใช่ไหมล่ะ!” จี้เส้าฮงยิ้มหยัน “ยิ่งไปกว่านั้น หม่าเหวินชางคนนี้ยังมีอีกสถานะหนึ่ง”
“สถานะอะไร? สมาชิกสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งประชาชนจีนเหรอ?” จี้เฟิงถามอย่างสบายๆ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ พวกเศรษฐีมีเงินบางคนต้องการมีสายสัมพันธ์กับพวกข้าราชการงานเมือง บางครั้งก็ใช้เงินซื้อตำแหน่งสมาชิกสภาพที่ปรึกษา(CPPCC) เพื่อทำอะไรแบบนั้น มันแทบกลายเป็นบรรทัดฐานของพวกคนรวยและเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
“นั่นก็ใช่!” จี้เส้าฮงพยักหน้าและพูดว่า “แต่ที่ฉันอยากจะพูดคือ หม่าเหวินชางคนนี้เป็นน้องเขยของเจียงเว่ยผิง รองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคประจำเทศมณฑล และนี่คือสถานะอื่นๆที่สำคัญของเขา นอกจากนี้ยังเป็นเหตุผลหลักด้วยว่าทำไมถึงไม่มีใครไปตรวจสอบเขาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา”
“อะไรนะ?!” จี้เฟิงตกใจ “หม่าเหวินชางเป็นน้องเขยของเจียงเว่ยผิง?”
“ฮ่าๆๆ~!” เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ไม่แปลกใจเลยที่คุณจะดูมีความสุขแบบนี้!”
จี้เส้าฮงก็หัวเราะและพูดว่า “มีน้องเขยที่เกี่ยวข้องกับคดีลักพาตัวเด็ก ฉันอยากเห็นจริงๆว่าคราวนี้เขาจะแก้ตัวอย่างไร!”
จี้เฟิงรู้สึกเข้าใจอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น ไม่น่าแปลกใจเลยที่จี้เส้าฮงจะจัดการเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง กลายเป็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่มีสถานะอยู่บ้าง และการที่จี้เส้าฮงจะสามารถเอาชนะเจียงเว่ยผิงได้หรือไม่นั้น การจับกุมหม่าเหวินชางก็มีบทบาทสำคัญ
จริงๆ แล้ว ไม่ว่าหม่าเหวินชางจะรับสารภาพหรือไม่และเจียงเว่ยผิงจะรู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า ประเด็นเดียวคือหม่าเหวินชางเป็นน้องเขยของเจียงเว่ยผิง และเมื่อถึงเวลานั้น จะไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบร่วมกันได้ น้องเขยทำเรื่องเลวทรามและผลกระทบก็เลวร้ายมาก แล้วเจียงเว่ยผิงจะอธิบายให้ผู้บังคับบัญชาของเขาฟังว่าอย่างไร
หากความสัมพันธ์ของเจียงเว่ยผิงกับผู้นำของเขาแข็งแกร่งพอ บางทีอย่างมากเขาแค่อาจจะถูกย้ายออกจากเมืองฮั่วเหอ แต่ถ้าไม่แข็งแกร่งพอ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะช่วยเหลือเขา!
อย่างไรก็ตาม เจียงเว่ยผิงคนนี้โหดเหี้ยมจริงๆ ผลของการลักพาตัวเด็กนั้นเลวร้ายมาก เมื่อสิ่งต่างๆกลายเป็นเรื่องร้ายแรงและเข้าสู่ระบบการจัดการอย่างเป็นทางการ แม้แต่จี้เส้าฮงและเลขาธิการคณะกรรมการพรรคประจำเทศมณฑลล้วนมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม เจียงเว่ยผิงในฐานะรองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคเทศมณฑลไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมายนัก
เมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ผู้นำที่อยู่ระดับบนจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบหลัก และคนแรกๆที่จะต้องถูกสอบสวนคือจี้เส้าฮงผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารและเลขาธิการพรรค และในเวลานั้น เจียงเว่ยผิงอาจใช้โอกาสนี้เพื่อเลื่อนตำแหน่งของตัวเอง เป็นความก้าวหน้าที่สละมาด้วยชีวิตของผู้อื่น ชั่วร้ายมากจริงๆ!
“เจียงเว่ยผิงนี่ใจกล้ามากจริงๆ!” จี้เฟิงพูดอย่างเย็นชา “ถ้าเจียงเว่ยผิงรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยจริงๆ แล้วไม่คิดที่จะหยุดมัน จุดประสงค์แอบแฝงของเขาก็เลวร้ายมาก!”
“สำหรับคนบางคน ขอแค่ให้ตัวเองได้เลื่อนตำแหน่งและนำตัวเองไปสู่ความมั่งคั่งได้ พวกเขาก็ไม่เลือกวิธีการหรอก!” จี้เส้าฮงเย้ยหยัน “ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการลักพาตัวเด็ก ถ้าจำเป็นพวกเขาก็กล้าที่จะฆ่า!”
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะเงียบ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของแต่ละคนไม่เท่ากันจริงๆ!
“ก๊อก! ก๊อก!” กระจกหน้าต่างรถถูกเคาะ จี้เส้าฮงซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังได้ลดกระจกลงและถามว่า “มีอะไรหรือ?”
ชายคนหนึ่งในเครื่องแบบตำรวจกล่าวว่า “ท่านหัวหน้า เราได้วางกำลังคนไว้พร้อมแล้ว สามารถบุกเข้าไปในวิลล่าได้ทุกเมื่อ รอแค่คำสั่งดำเนินการของท่านหัวหน้าเท่านั้นครับ!”
ชายคนนี้เป็นรองผู้อำนวยการที่จี้เฟิงเคยเจอมาก่อนหน้านี้ และเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนสนิทของจี้เส้าฮงในสำนักงานเขต ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะถูกเรียกตัวมาเข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้
“งั้นก็เริ่มได้เลย!” จี้เส้าฮงโบกมือ
“ครับ!”
รองผู้อำนวยการตอบรับ จากนั้นก็สั่งการบุกเข้าไปทันที
จี้เฟิงยิ้มและพูดว่า “คราวนี้การควบคุมสำนักงานเขตคงจะง่ายขึ้นแล้วใช่ไหม? ฉันคิดว่ารองผู้อำนวยการคนนี้มีอำนาจไม่น้อย ถ้าเขาได้รับผิดชอบงานในสำนักงานเขตทั้งหมด คุณก็ไม่ต้องกังวลในส่วนนี้มากนัก”
จี้เส้าฮงพยักหน้าและยิ้ม แต่เขาไม่ได้ตอบ เพราะการต่อสู้ในท้องถิ่นไม่ง่ายอย่างนั้น อย่างไรก็ตาม การเอาชนะเจียงเว่ยผิงด้วยปฏิบัติการในค่ำคืนนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะข่มขู่คนอื่นๆ อย่างน้อยก็ไม่มีใครกล้าเพิกเฉยต่อศักดิ์ศรีของจี้เส้าฮง หัวหน้าฝ่ายบริหารเทศมณฑล
ไม่กี่นาทีต่อมา ด้วยการออกคำสั่งของรองผู้อำนวยการ การปฏิบัติการก็เริ่มขึ้น ตำรวจติดอาวุธหลายสิบนายเข้าล้อมวิลล่าอย่างรวดเร็ว บางคนปีนข้ามกำแพงจากด้านหลัง บางคนบุกไปที่ประตูโดยตรง
“ปัง! ปัง! ปัง!” ตำรวจคนหนึ่งทุบประตูอย่างแรง
“ใครมาเคาะประตูเสียงดังดึกๆดื่นๆแบบนี้วะ?!” คนในบ้านตะโกนถาม
“นี่ฉันเอง ฉันมีธุระกับหม่าเหวินชาง!”
“กึก.. แอ๊ดดด—!”
เมื่อประตูถูกเปิดออก และก่อนที่คนที่อยู่ด้านในจะทันได้ตอบโต้ ตำรวจที่อยู่ด้านนอกก็กรูกันเข้าไปด้านในและตะโกนเสียงดัง
“นี่ตำรวจ อย่างขยับ!”
ตำรวจหลายสิบนายวิ่งเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็วพร้อมกับมีเสียงตะโกนอยู่ตลอดเวลา
แต่ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนมีสติดีพอที่จะมีปฏิกิริยาตอบโต้ เขาตะโกนกลับมาด้วยความโกรธ “ตำรวจจริงหรือเปล่าใครจะรู้! มาบุกรุกบ้านคนอื่นยามวิกาลแบบนี้มีหมายค้นหรือเปล่า?!”
“เอ๊ะ... ทำไมเสียงคุ้นๆ” จี้เฟิงที่นั่งอยู่ในรถอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ
“หืม? คุณหมายความว่ายังไง?” จี้เส้าฮงถามด้วยรอยยิ้ม “อย่าบอกนะว่ามีคนรู้จักอยู่ข้างใน? หรือเป็นพวกคนร้ายบางคนที่หนีรอดพ้นเงื้อมมือคุณไปได้แล้วมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่?”
จี้เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “อาจเป็นอย่างหลัง.. แต่ไม่น่ามีใครหนีรอดจากฉันไปได้!”
จี้เฟิงและพรรคพวกของเขาเพิ่งมาถึงเมืองฮั่วเหอได้ 2 วัน พวกเขาก็จัดการกับกลุ่มคนสารเลวที่ลักขโมยเด็กไป 2 ครั้ง ครั้งแรกคือตอนที่พวกเขาลงจากรถไฟ จางเล่ยรับหน้าที่สั่งสอนจนพวกนั้นไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก ดังนั้นพวกเขาควรจะนอนอยู่ที่โรงพยาบาลในเวลานี้
และครั้งที่สอง เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะมาที่นี่ ไม่ว่าจะหยางเหล่าซานหรือคนอื่นๆที่อยู่ในบ้านหลังนั้น ถ้าหากไม่สามารถกำจัดไฟฟ้าชีวภาพที่อยู่ในร่างกายออกไปได้ ก็ไม่ต้องพูดถึงการวิ่งหนี...
ถ้าไม่ใช่คนเหล่านั้น แล้วจะเป็นใครได้อีกบ้าง?
จี้เฟิงไม่มีเวลาคิดให้ถี่ถ้วน เพราะในเวลานี้ตำรวจได้ควบคุมสถานการณ์ในวิลล่าได้แล้ว จี้เส้าฮงกล่าวว่า “เสี่ยวเฟิง คุณอยากเข้าไปดูกับฉันไหม?”
“น่าสนใจ!” จี้เฟิงยิ้มและพยักหน้า “ยังไงก็ตาม ฉันขอโทรตามจางเล่ยและคนอื่นๆก่อน ถ้าเกิดมีเหตุฉุกเฉินอะไรพวกเขาจะช่วยได้...”
...............
คนกลุ่มหนึ่งเดินไปที่สนามหญ้าหน้าวิลล่าอย่างรวดเร็ว ระหว่างทาง จางเล่ยอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างตื่นเต้น “ในที่สุดก็สามารถกำจัดไอ้พวกสัตว์นรกเหล่านั้นได้ในคราวเดียว อยากจะเห็นหน้าไอ้ตัวหัวหน้าแก๊งจริงๆ อยากรู้ว่ามันจะมีเขางอกเหมือนควายหรือว่ามีหน้าตาอัปลักษณ์เหมือนปีศาจไหม ทำไมมันถึงได้ทำเรื่องเลวระยำแบบนี้ได้!”
“ลองพูดคำหยาบอีกครั้ง...” เฉินจิ้งยี่ที่อยู่ข้างๆกระซิบบอกจางเล่ย แต่ต่อหน้าคนมากมาย เธอไม่อยากดุจางเล่ยและไม่ต้องการพูดอะไรมากนัก ผู้หญิงสามารถต่อว่าคนรักได้ แต่ไม่ใช่ต่อหน้าคนอื่น การรักษาหน้าผู้ชายเวลาอยู่ข้างนอกเป็นการให้เกียรติที่สำคัญ เธอเข้าใจความจริงข้อนี้ดี
แต่ถงเล่ยไม่จำเป็นต้องเกรงใจพี่ชายของเธอ เธอจ้องมองไปที่จางเล่ยอย่างดุดัน
“ใครส่งพวกคุณมา? ทำไมถึงได้มายุ่มย่ามแถวนี้?!” จู่ๆก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น “หัวเจี้ยนเซี่ยหรือว่าจี้เส้าฮง ไปเรียกสองคนนั้นมาคุยกับฉันซิ! รู้หรือเปล่าว่าทำแบบนี้มันผิดกฎหมาย!”
จี้เส้าฮง จี้เฟิงและคนอื่นๆผงะไปทันที ในฮั่วเหอจะมีสักกี่คนที่กล้าเรียกชื่อหัวหน้าผู้บริหารและเลขาธิการพรรคเทศมณฑลโดยตรง แถมยังเรียกด้วยน้ำเสียงที่หยิ่งผยอง!
ทันใดนั้นจี้เฟิงและจี้เส้าฮงก็มองหน้ากันและพูดขึ้นมาพร้อมกันว่า
“อู๋จื้อเหอ?”
“ฮ่าๆๆ~!” จี้เฟิงหัวเราะออกมาทันที “ตายๆ! ฉันไม่คาดคิดเลยว่าทุกคนจะมารวมตัวกันในสภาพนี้ ฮ่าๆ.. ชักน่าสนุกซะแล้วสิ!”
ใบหน้าของจี้เส้าฮงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาเช่นกัน “คราวนี้นายน้อยตระกูลอู๋คงต้องเสียหน้าแล้วล่ะ...”
เมื่อจางเล่ยได้ยินสิ่งที่จี้เส้าฮงและจี้เฟิงคุยกัน เขาก็พอจะเข้าใจสถานการณ์ เขาหันหน้าไปด้านข้างแล้วถามว่า “คนที่อยู่ข้างในคืออู๋จื้อเหอ นายน้อยคนที่สองของตระกูลเหอเหรอ? แล้วเขามาทำอะไรที่นี่!”
“จะทำอะไรซะอีก ก็มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหานั่นแหละ...” จี้เฟิงยิ้ม ก่อนหน้านี้จี้เส้าฮงบอกเขาอยู่เหมือนกันว่าอู๋จื้อเหออยู่ที่ฮั่วเหอ แต่ไม่รู้ว่าอาศัยอยู่ที่ไหน แต่ตอนนี้รู้ชัดเจนแจ่มแจ้งแล้ว
เจียงเว่ยผิงคนนี้คิดจะยืมมือของอู๋จื้อเหอจริงๆ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่จัดการให้อู๋จื้อเหอและคนอื่นๆมาพักอาศัยอยู่กับน้องเขยของเขาที่นี่
“ใครช่างกล้าเสียงดังขนาดนั้น อ้าปากเรียกเลขาของเราเช่นนี้?” จี้เส้าฮงและคนอื่นๆเดินเข้าไปในลานบ้านและแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าใครคือเจ้าของเสียง แล้วพูดต่อไปว่า “เป็นอาชญากรแต่กลับไม่เจียมกะลาหัว แสดงกิริยาแข็งกร้าวต่อทางการแบบนี้ ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด!”
ในชั่วพริบตา เสียงจากบริเวณโดยรอบก็เงียบลง ตอนนี้จี้เฟิงและคนอื่นๆสามารถมองเห็นสถานการณ์ภายในได้อย่างชัดเจน
มีคน 7-8 คนถูกตำรวจควบคุมตัวเอาไว้ พวกเขาถูกกดไว้กับกำแพง ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แม้แต่นิดเดียว ในบรรดาคนเหล่านี้ มีอู๋จื้อเหอ เจิ้งหยูซิ่ว หรงซูเยี่ยนและหวางซั่วเซิงที่จี้เฟิงเคยเห็น ส่วนคนอื่นๆที่เหลือจี้เฟิงไม่รู้จักแล้ว
ฮ่าๆๆ~!
จี้เฟิงแอบหัวเราะอยู่ในใจ การเหวี่ยงแหครั้งนี้ได้ปลามาตุงตาข่ายเลยทีเดียว อู๋จื้อเหอผู้นี้ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้ เกรงว่าจะไม่มีที่ให้เอาหน้าไปซุก!
“จี้เส้าฮง!” อู๋จื้อเหอโกรธจัดเมื่อเห็นจี้เส้าฮงและคนอื่นๆเดินเข้ามา “แกทำอะไรของแก ไม่มีตารึไง? แกกำลังจับกุมใครรู้ตัวรึเปล่า?!”
“เอ๊ะ! นี่ใครกันล่ะเนี่ย? ทำไมถึงได้กล้าตะโกนเอะอะโวยวายที่นี่!” จี้เส้าฮงพูดอย่างเย็นชา “พาพวกเขาทั้งหมดกลับไปที่สำนักงานแล้วทำการสอบสวนโดยละเอียด นอกจากนี้ค้นหาและช่วยเหลือเด็กที่ถูกลักพาตัวมาทันที..”
“ครับ!” เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายสิบนายตอบรับอย่างแข็งขันและกำลังจะพาคนที่ถูกจับกุมออกไป
“จี้เส้าฮง แกกล้าดียังไง!” อู๋จื้อเหอโกรธจัด จี้เส้าฮงไม่มีสิทธิ์มาทำกับเขาแบบนี้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม สำหรับเขา การกระทำแบบนี้คือการล้ำเส้น!
“อ้าว?!” จี้เส้าฮงยิ้ม “ผู้ชายคนนี้ใช่คุณชายอู๋หรือเปล่าครับเนี่ย? ทำไมถึงได้มาพัวพันกับอาชญากรเหล่านี้ได้ล่ะ? หรือว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคดีนี้คือคุณชายอู๋?”
....จบบทที่ 983 ~