ตอนที่ 38 โอโรจิมารุขายผู้หญิงกิน
ปั้มลูกฟื้นฟูตระกูลอุจิวะ ตอนที่ 38 โอโรจิมารุขายผู้หญิงกิน
“โอโรจิมารุ ทักษะของแกไร้ความหมายต่อหน้าเนตรคู่นี้ของฉัน!”
คุณเคยได้ยินประโยคนี้ไหม โอโรจิมารุ?
เขาได้ยินมากเกินไปด้วยซ้ำ!
เขายังมีความทรงจำสดใหม่อยู่เลย!
"โอโรจิมารุ ทักษะของแกไร้ความหมายต่อหน้าเนตรคู่นี้ของฉัน
นั่นคือสิ่งที่อิทาจิพูดกับเขาตอนที่เขาลอบโจมตีอิทาจิ!
แทบจะเหมือนกัน!
และตอนนี้ ไม่เพียงแต่เขาแพ้อิทาจิ แต่ยังแพ้นัตสึฮิโกะด้วย
"ดวงตาแบบนี้...เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาในตำนาน..."
โอโรจิมารุกัดฟันด้วยความแค้นที่ควบคุมไม่ได้สะท้อนอยู่ในแววตา: "ฉันคิดไม่ถึงว่านายจะมีดวงตาแบบเดียวกับอิทาจิ..."
“นายซ่อนลึกจริง ๆ!”
"นายเบิกเนตรตอนที่รู้เรื่องคืนฆ่าล้างตระกูล... และที่นายอ้างว่าไม่เก่งพอ เพราะจะได้มอบภารกิจล้างแค้นแทนอุจิวะให้ซาสึเกะ เรื่องทั้งหมดนี้คือการปกปิดของนายใช่ไหม? "
"น้องชายของอิทาจิได้กลายเป็นโล่ของนาย!"
ความโกรธและความอัปยศแฝงเต็มอยู่ในน้ำเสียงของโอโรจิมารุ
ต่อหน้าเนตรคู่นี้ ทำให้เขานึกถึงความอัปยศที่ตัวเองได้รับตอนที่ต่อสู้กับอิทาจิ...
นัตสึฮิโกะไม่เผยสีหน้า
แม้นว่าจะมีช่องโหว่ในคำพูดของโอโรจิมารุกับความเป็นจริง แต่ก็ไม่สำคัญ
“ธุระของผมไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ” นัตสึฮิโกะพูดอย่างใจเย็น: "แต่คุณโอโรจิมารุ คุณยังมีคุณค่าสำหรับผม"
ในวินาทีต่อมา ดวงตาของเขาก็วูบวาบ
พลังเนตรที่พลุ่งพล่านสลายไปอย่างรวดเร็ว เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาค่อย ๆ หายไป กลายเป็นดวงตาปกติ
โอโรจิมารุจึงสามารถกลับมาเคลื่อนไหวและคลายคาถาลวงตาได้
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นความโกรธบนใบหน้าก็ค่อย ๆ หายไป
"นายต้องการอะไร?" โอโรจิมารุสูดลมหายใจเข้าลึก กลับมาเยือกเย็นใหม่
เขาเป็นคนเยือกเย็นมากจริง ๆ หากไม่ใช่เพราะมีแผลฝังใจกับอิทาจิมากเกินไปตั้งแต่ต้น เขาคงไม่หมกมุ่นกับเนตรวงแหวนมากนัก จนกลายเป็นหินรองเท้าของซาสึเกะในที่สุด
"เซลล์ของเซนจู ฮาชิรามะ และเซลล์ของจูโกะ" นัตสึฮิโกะไม่สุภาพ พูดออกไปตรง ๆ
หนึ่งเกี่ยวกับร่างเซียน และอีกหนึ่งเกี่ยวกับโหมดเซียน
เขาไม่ต้องหามันเองก็ได้ เขาสามารถรอคะแนนพรสวรรค์ของลูกเพิ่มขึ้นทีละนิด ซึ่งสะดวกและปลอดภัยกว่า เขาไม่จำเป็นต้องเสี่ยงใด ๆ
แต่เซลล์ทั้งสองนี้ช่วยเสริมศักยภาพร่างกายของมนุษย์ได้อย่างมาก
กล่าวอีกนัยหนึ่ง – แม้เขาไม่ใช้ ผู้หญิงของเขาสามารถใช้ได้!
และแน่นอน เหตุผลหลักคือนัตสึฮิโกะไม่คิดว่าตอนนี้ตัวเองได้เปรียบถึงขั้นสามารถฆ่าหรือควบคุมโอโรจิมารุด้วยกำลังของตัวเองได้ง่าย ๆ แต่อย่างใด
ในโลกนารูโตะไม่มีอะไรยากไปกว่าการฆ่าโอโรจิมารุ
ไม่ต้องพูดถึงอักขระสาป การต่อสู้ครั้งนี้ นัตสึฮิโกะไม่คิดว่าเขาสามารถฆ่าโอโรจิมารุได้ด้วยตัวคนเดียว —— โอโรจิมารุเป็นนินจามากฝีมือ เจนจัดสนามรบ ต่อให้ถูกอิทาจิทุบตีเนื่องจากพลังที่อ่อนแอของเขา แต่เขาจะจมอยู่กับความแพ้พ่ายงั้นเหรอ? เขาจะท้อแท้เพราะความอ่อนแอของตัวเอง? และไม่เตรียมตัวรับมือ?
เป็นไปไม่ได้!
อันที่จริง เมื่อโอโรจิมารุผงะออกจากซาสึเกะ อิทาจิกลับมิได้ใช้พลังเนตรและวิชาลวงตาบดขยี้โอโรจิมารุให้ตายอย่างหมาตั้งแต่ต้น
เห็นได้ชัดว่าในเวลานั้น อิทาจิก็ระวังโอโรจิมารุในระดับหนึ่งเช่นกัน
“ฮาชิรามะเซลล์กับเซลล์จูโกะ?” โอโรจิมารุขมวดคิ้วแล้วมองนัตสึฮิโกะแปลก ๆ: "นายรู้หลายอย่างจริง ๆ"
ห้องทดลองเซลล์ฮาชิรามะเป็นความลับสูงสุด มีไม่กี่คนอย่างดันโซและโฮคาเงะรุ่นที่สามที่รู้
มีเพียงเท่านี้ แม้จะยังมีหนทางที่จะรู้เรื่องเซลล์ฮาชิรามะอีกก็ตาม
แต่เรื่องเซลล์จูโกะเขาเพิ่งได้รับมาไม่นาน!
นัตสึฮิโกะรู้ได้ยังไง?
"ได้ แต่นายต้องรอหน่อย เซลล์ฮาชิรามะอยู่ที่นี่ แต่เซลล์จูโกะอยู่ในห้องทดลองอื่น ฉันต้องส่งคนไป" โอโรจิมารุพยักหน้าโดยไม่ต่อล้อต่อเถียง
“งั้นรอแปปนึงก็ได้ ผมว่าง” นัตสึฮิโกะยิ้มเล็กน้อย
เขาคว้าเก้าอี้และนั่งลง
โอโรจิมารุเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ติดต่อผู้ใต้บังคับบัญชา
คาบูโตะยังกัดฟันแน่นก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเริ่มรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเอง
อายาโกะยังรู้สึกสับสนกับการเปลี่ยนแปลงของเรื่องนี้ ตอนที่เธอรู้สึกตัว เรื่องราวก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว
หลังจากลังเลครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอก็เดินเข้าไปหานัตสึฮิโกะ
บีบไหล่ นวดแข้งขา แล้วขอโทษอย่างนุ่มนวล
น้ำเสียงและการเคลื่อนไหวของเธอแฝงไว้ด้วยความยั่วยวน—หากเธอยังไม่ตั้งครรภ์ มันอาจจะเป็นจริงก็ได้
นัตสึฮิโกะยอมรับการปรนนิบัติ แต่ไม่พูดแม้แต่คำเดียวว่า 'ยกโทษให้เธอ'
ผู้หญิงที่ทรยศแล้วครั้งหนึ่งจะทรยศเป็นครั้งที่สอง
เขาจะไม่ให้โอกาสเธอเป็นครั้งที่สอง!
คลอดลูกเสร็จก็จบภารกิจ ความรักอะไรกัน!
แต่เขาต้องขอบอกว่านินจาสาวที่โอโรจิมารุเป็นคนฝึกนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รสชาติดีมาก ไม่ต้องสงสัยเกี่ยวกับทักษะลีลาแม้แต่นิด สามารถยั่วยวนจนผู้ชายยอมสู้ตายถวายชีวิต
นัตสึฮิโกะเองก็เป็นผู้ชายธรรมดา และเขายังเหงามาหลายวันจากการตามรอย จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะมีปฏิกิริยาบางอย่าง
เมื่อได้เห็นปฏิกิริยา อายาโกะก็เพิ่มความยั่วยวนยิ่งขึ้น - เธอรู้ว่าเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ชายที่จะทนโกรธได้ต่อตอนที่อยู่ในสถานะอารมณ์พลุ่งพล่าน
หากพยายามอย่างหนัก บางที—
“โอ้ ดูเหมือนว่านี่เป็นความผิดของฉัน” โอโรจิมารุรีบพูดขึ้น น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ: "นัตสึฮิโกะคุงมาที่บ้านของฉันทั้งที ฉันจะดูแลนายไม่ดีได้ยังไง"
เขาหันหน้าไปให้คำแนะนำกับคาบูโตะ
คาบูโตะมีสีหน้าแปลก ๆ แต่เขาก็ยังรับคำสั่งแล้วจากไป
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็มาพร้อมกับนินจาสาวหน้าตาดีสองสามคน
นินจาสาวแต่ละคนมีรูปร่างหน้าตาดี มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง และในด้านความแข็งแกร่ง มีโจนินหนึ่งคนและโจนินพิเศษสองคน เห็นได้ว่าโอโรจิมารุมิได้เพิกเฉยต่อสไตล์ของนัตสึฮิโกะ
ทันทีที่กลุ่มหญิงสาวมาถึง พวกเธอก็แห่กันไปที่นัตสึฮิโกะ
นวดไหล่อย่างเบามือ ลูบคลำแข้งขา กลิ่นหอมโชยมา ร่างกายมีแต่ความอ่อนช้อยนุ่มนวล...
สีหน้าของนัตสึฮิโกะเริ่มแปลกไป
โอโรจิมารุเองก็ทำตัวงี่เง่าเป็นเหมือนกันเหรอ?
ฉันควรรับหรือปฏิเสธดี?
ถึงยังไง พวกเธอก็พยายามอย่างหนักกันตั้งหลายนาที เอ็นดูพวกเธอหน่อย ยอมรับความเมตตานี้แล้วกัน นัตสึฮิโกะรู้สึกว่าค่อนข้างยากที่จะข้ามผ่านธรณีประตูด่านนี้ในใจ
ไม่เข้าประตูก็ดูไม่ดี, นัตสึฮิโกะเคอะเขินเล็กน้อย
แต่หากไม่เข้าไป กลัวจะทำให้โอโรจิมารุผิดหวัง - นี่อาจเป็นครั้งเดียวในชีวิตที่หมอนี่ทำแบบนี้!
"ดูเหมือนฉันได้แต่ต้องทำตามความปรารถนาดีของหมอนั่นซะแล้ว"
…