ตอนที่ 187: บล็อกหิน
ตอนที่ 187: บล็อกหิน
ปืนใหญ่นิวตรอนพ่นเปลวไฟที่สว่างไสวออกมาทั่วทุกพื้นที่พร้อมกับเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว
บนโทมาฮอว์กมีปืนใหญ่อยู่เพียงแค่ 2 กระบอก เนื่องจากวิธีการโจมตีหลักของยานรุ่นนี้คือการปล่อยโดรนออกไปโจมตี แต่เซี่ยเฟยกังวลว่าแรงโน้มถ่วงอันรุนแรงจะทำให้โดรนเสียหายเขาจึงเลือกใช้การโจมตีจากปืนใหญ่ทั้ง 2 กระบอกแทน
“นั่นนายกำลังจะทำอะไร?” อันธอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
อันธไม่สามารถทำความเข้าใจความคิดของเซี่ยเฟยได้เลย ท้ายที่สุดราคาของลูกระเบิดแต่ละลูกก็อยู่ที่ 30,000 สตาร์คอยน์ แต่อย่าลืมว่าปืนใหญ่ทั้ง 2 กระบอกยิงด้วยความเร็ว 180 นัดต่อนาที หากคิดราคาค่าลูกกระสุนเพียงอย่างเดียวการใช้ปืนใหญ่ยิงอย่างไร้จุดหมายก็ทำให้เซี่ยเฟยเสียเงินถึง 5 ล้านสตาร์คอยน์ต่อนาที
เซี่ยเฟยเป็นคนที่ขี้งกมาโดยตลอด ทำไมจู่ ๆ เขาถึงได้ใช้เงินอย่างทิ้งขว้างแบบนี้?
“ฉันกำลังสงสัยว่าของพวกนี้มันไม่ใช่อาคาร” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วและไม่ได้สั่งให้ปืนใหญ่หยุดยิงเลยแม้แต่น้อย
“ถ้ามันไม่ใช่อาคารแล้วมันจะเป็นอะไร?” อันธถามด้วยความสงสัย
ตอนแรกเซี่ยเฟยก็มีความคิดว่าวัตถุสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่พวกนี้เป็นอาคารเช่นเดียวกัน เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีก้อนหินตามธรรมชาติที่มีรูปลักษณ์เป็นทรงลูกบาศก์แบบนี้
แต่หลังจากที่เขาได้ลงไปสัมผัสกับพวกมันด้วยตัวเองความคิดของเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่อาคารจะไม่มีประตูหน้าต่าง เขาจึงเริ่มคิดว่าวัตถุพวกนี้อาจจะไม่ใช่อาคารอย่างที่เขาคิด
ในเวลาเดียวกันระบบสแกนพื้นที่ภายในของโทมาฮอว์กก็ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ เนื่องมาจากสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยแรงโน้มถ่วงอันรุนแรง เซี่ยเฟยจึงตัดสินใจใช้วิธีการตรงไปตรงมาคือการระเบิดเปลือกนอกพวกนั้นออกให้หมดเพื่อที่เขาจะได้มองเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ด้านใน
หากพวกมันเป็นอาคารจริง ๆ อาคารพวกนี้ก็จะถูกระเบิดจนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แต่ถ้ามันไม่ใช่อาคารพวกมันก็อาจจะเป็นวัตถุที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นบล็อกขนาดใหญ่เพื่อเอาไว้ทำอะไรบางอย่าง
การสร้างบล็อกสี่เหลี่ยมที่มีขนาดความกว้างยาวสูงมากกว่า 1 กิโลเมตรจำเป็นต้องใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีในระดับที่สูงมาก แต่ทำไมพวกมันถึงถูกทิ้งเอาไว้บนดาวดวงนี้โดยไม่ได้ใช้งานอะไร
ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่สามารถที่จะจินตนาการถึงเป้าหมายของพวกมันได้เลย ถ้าหากว่าเขาไม่เข้าใจโครงสร้างที่แท้จริงของพวกมัน
“หยุด!” หลังจากสั่งให้ปืนใหญ่โจมตีอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 2 นาที เซี่ยเฟยก็สั่งการให้คอมพิวเตอร์ AI หยุดการจู่โจม
ทั้งเซี่ยเฟยและอันธต่างก็ยืนรอดูผลลัพธ์ด้วยกันอย่างจริงจัง และเมื่อฝุ่นควันเริ่มจางลงมันก็ทำให้พวกเขาทั้งสองคนอ้าปากค้างขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
บล็อกสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ถูกผ่าครึ่งและเผยให้เห็นโครงสร้างทางด้านใน ซึ่งมันก็ได้เปิดเผยความจริงออกมาว่าพวกมันไม่ใช่อาคารเหมือนกับที่เขาได้สันนิษฐานเอาไว้จริง ๆ แต่เป็นบล็อกสี่เหลี่ยมที่คล้ายกับก้อนอิฐขนาดใหญ่
คงจะไม่มีใครกล้าจินตนาการว่าบล็อกสี่เหลี่ยมพวกนี้คือก้อนอิฐขนาดใหญ่จริง ๆ
คำถามก็คือ…
ใครเอาพวกมันมาทิ้งที่ดาวดวงนี้?
พวกมันมีไว้ใช้ทำอะไร?
เซี่ยเฟยจุดบุหรี่นั่งลงบนเก้าอี้และครุ่นคิดอย่างหนัก
“เป็นไปได้ไหมว่ามีใครบางคนต้องการจะใช้พวกมันเพื่อก่อสร้างอะไรบางอย่าง แต่พวกมันกลับถูกทิ้งเอาไว้ที่นี่อย่างไม่ทราบสาเหตุ” อันธพยายามสันนิษฐานขึ้นมา
แต่ทันทีที่วิญญาณนักฆ่าได้พูดจนจบเขาก็หัวเราะให้กับข้อสันนิษฐานของตัวเอง ท้ายที่สุดบล็อกหินพวกนี้แต่ละก้อนก็มีความกว้างความยาวความสูงไม่น้อยกว่า 1 กิโลเมตร แล้วอาคารที่สร้างขึ้นมาจากก้อนหินพวกนี้จะมีความใหญ่โตมากขนาดไหน
อาคารที่มีความสูงหลายร้อยกิโลเมตร มันจะมีเอาไว้เพื่ออะไร?
อย่างน้อย ๆ อาคารขนาดใหญ่แบบนี้ก็ไม่ควรจะเป็นอาคารสำหรับมนุษย์ เว้นแต่ว่ามันจะมีเผ่าพันธุ์ที่มีสติปัญญาบางเผ่าพันธุ์ที่มีลำตัวสูงใหญ่เหมือนกับยักษ์ในตำนาน พวกเขาจึงจะใช้ก้อนหินพวกนี้ไปสร้างเป็นอาคารสำหรับอยู่อาศัย
ในความเป็นจริงมนุษย์ก็มีเทคโนโลยีที่เข้าไปอาศัยอยู่ในวัตถุขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ฐานทัพเรดสโตนในเขตดาววิลเดอร์เนสที่อาศัยการขุดเจาะเข้าไปติดตั้งอำนวยความสะดวกภายในดาวเคราะห์ขนาดเล็ก
ปัญหาก็คือหินพวกนี้มีรูปร่างเหมือนอิฐบล็อก หากนำพวกมันไปใช้สร้างฐานทัพพวกมันก็จะมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กมากจนเกินไป แต่หากนำพวกมันไปสร้างเป็นอาคารขนาดใหญ่มันก็เป็นอาคารที่ใหญ่เกินกว่ามนุษย์จะเข้าไปอาศัยอยู่
โทมาฮอว์กยังคงบินวนรอบดาวเคราะห์สีแดงเข้ม เนื่องมาจากเซี่ยเฟยยังคงใช้ความคิดอย่างหนักเขาจึงยังไม่ได้ออกคำสั่งใหม่แก่ยานรบ
หากมองผ่านช่องหน้าต่างจะพบว่าการเรียงตัวของอิฐบล็อกแต่ละก้อนไม่เหมือนกัน โดยบางก้อนอยู่ติดกันอย่างใกล้ชิดและบางก้อนถูกวางแยกห่างออกไป แต่อิฐบล็อกทุกก้อนถูกจัดวางเอาไว้อย่างเป็นระเบียบมาก ๆ จนทำให้ตอนแรกเซี่ยเฟยหลงคิดว่าพวกมันคืออาคารขนาดใหญ่
“ทำไมพวกมันถึงถูกจัดวางเอาไว้อย่างเป็นระเบียบแบบนี้…” เซี่ยเฟยพึมพำกับตัวเองอย่างสงสัยและทันใดนั้นเขาก็เหมือนกับจะคิดอะไรได้บางอย่าง
“รีบเปลี่ยนระดับความสูงขึ้นไปที่ 150,000 เมตรเร็ว ๆ เข้า!” เซี่ยเฟยตะโกนสั่งการ
เมื่อได้รับคำสั่งโทมาฮอว์กก็บินสูงขึ้นไปจากพื้นดินจนทำให้เซี่ยเฟยเริ่มเห็นอิฐบล็อกพวกนี้เชื่อมต่อกันจนดูเหมือนกับตัวอักษรที่เขาไม่รู้จัก
“ดูนั่นสิ! พวกมันเรียงตัวกันเป็นประโยคใช่ไหม?” เซี่ยเฟยอุทานด้วยความตื่นเต้น
“ประโยค?! จริงด้วยอิฐบล็อกพวกนั้นเรียงตัวกันคล้ายกับเป็นประโยคจริง ๆ แต่พวกมันเป็นตัวอักษรอะไรกันแน่?” อันธพูดขึ้นมาอย่างเห็นด้วยกับข้อสันนิษฐานของเซี่ยเฟย
เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มเล็กน้อยก่อนที่เขาจะใช้ระบบบันทึกภาพเพื่อบันทึกตัวอักษรพวกนี้เอาไว้
ไมโครชิพแปลภาษาในสมองของเซี่ยเฟยพยายามทำงานอยู่ตลอดเวลา แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำความเข้าใจตัวอักษรพวกนี้ได้เลย และถ้าหากว่าแม้แต่ชิพแปลภาษาอัจฉริยะยังไม่สามารถทำความเข้าใจตัวอักษรพวกนี้ได้ มันก็แสดงว่าโครงสร้างของตัวอักษรพวกนี้มีความซับซ้อนและหายากมากจนเกินไป
ถึงแม้ชายหนุ่มจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนทิ้งอิฐบล็อกพวกนี้เอาไว้ และประโยคที่อิฐบล็อกพวกนี้เรียงตัวกันหมายความว่าอะไร แต่เซี่ยเฟยก็ยังรู้สึกโล่งใจที่ได้พบกับร่องรอยของพอตเตอร์และค้นหาจุดประสงค์ของอิฐบล็อกพวกนี้จนเจอ
“อย่างน้อยมันก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะพอตเตอร์มาที่ดาวดวงนี้ก่อนจะจากไป ซึ่งมันก็หมายความว่าอย่างน้อยเขาก็ยังมีชีวิตอยู่” อันธกล่าว
“เปิดใช้งานระบบวาร์ป เตรียมตัวเคลื่อนที่ไปยังเป้าหมายหมายเลข 2” เซี่ยเฟยพยักหน้ารับพร้อมกับหันไปสั่งคอมพิวเตอร์ AI
—
พื้นที่สีม่วงหมายเลข 2 ที่พอตเตอร์ระบุเอาไว้อยู่ไม่ห่างจากพื้นที่หมายเลข 1 มากนัก เซี่ยเฟยจึงจำเป็นต้องใช้การวาร์ปเพียงครั้งเดียว และเนื่องมาจากสภาพแรงโน้มถ่วงไม่ค่อยแตกต่างจากเดิม พวกเซี่ยเฟยจึงไม่จำเป็นจะต้องเสียเวลาปรับตัว
หากวัดจากแผนที่ดาว พื้นที่จุดนี้กำลังมุ่งออกจากเขตทุ่งดาวแห่งความตายและเข้าสู่พื้นที่ไร้การสำรวจแล้ว โดยสภาพแวดล้อมบริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยเศษอุกกาบาตกระจัดกระจายกันอยู่อย่างมากมาย และมีดาวเคราะห์ 4 ดวงอยู่ในขอบเขตของการสำรวจ
ระบบเรดาร์ยังไม่สามารถใช้การได้ เซี่ยเฟยจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องเข้าไปทำการตรวจสอบด้วยสายตาเพื่อค้นหาร่องรอยของพอตเตอร์ต่อไป
เริ่มแรกเซี่ยเฟยเริ่มค้นหาบนดาวเคราะห์ทั้งสี่ทีละดวง แต่บนดาวเคราะห์พวกนี้ไม่มีอะไรที่ดูพิเศษเลย เขาจึงถอยออกมายังบริเวณเศษซากอุกกาบาตที่ล่องลอยอยู่ในจักรวาลแทน
เมื่อไม่พบร่องรอยบนดาวเคราะห์เซี่ยเฟยก็สั่งการให้โทมาฮอว์กเคลื่อนที่ไปข้างหน้าและเริ่มหาร่องรอยบนเศษอุกกาบาตจำนวนนับไม่ถ้วน
“เศษอุกกาบาตพวกนี้มีจำนวนมากเกินไป หากนายต้องการจะสำรวจพวกมันทั้งหมดจริง ๆ ฉันคิดว่ามันต้องใช้เวลาอีก 2-3 เดือน” อันธกล่าวพร้อมกับมองไปยังเศษอุกกาบาตนอกหน้าต่าง
“เปิดใช้งานระบบตรวจจับโลหะเต็มกำลัง สแกนเศษอุกกาบาตในบริเวณนี้ทุกทิศทาง” เซี่ยเฟยสั่งการพร้อมกับขมวดคิ้ว
การพยายามสำรวจเศษอุกกาบาตจำนวนมากขนาดนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากอยู่แล้วแม้ว่าจะไม่มีแรงโน้มถ่วงคอยรบกวนก็ตาม เพราะอุกกาบาตจะเคลื่อนที่อย่างยุ่งเหยิงทำให้พวกมันรบกวนสัญญาณทุกชนิดที่ถูกส่งออกไปจากยานรบ
“พยายามสแกนหาสัญญาณขนาดใหญ่หรือมีขนาดใกล้เคียงกับยานแบทเทิลครุยเซอร์เท่านั้น” เซี่ยเฟยยังคงออกคำสั่งต่อไป
ระบบตรวจจับโลหะเริ่มทำงานอย่างรวดเร็วและเนื่องมาจากเศษอุกกาบาตมีปริมาณมากเกินไป เขาจึงจำเป็นจะต้องกรองเอาอุกกาบาตที่ไม่ต้องสงสัยออกไปก่อน
ในตอนแรกเซี่ยเฟยไม่ได้ตั้งความหวังกับการใช้ระบบตรวจจับโลหะมากนัก เพราะการรบกวนจากพื้นที่เขตแรงโน้มถ่วงสูงรุนแรงมากจนทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกือบทั้งหมดไม่สามารถใช้การได้
แต่ในทันใดนั้นเองระบบตรวจจับโลหะก็ได้พบกับสัญญาณที่ไม่คาดคิด!
สัญญาณนี้อยู่ห่างจากโทมาฮอว์กออกไปประมาณ 10,000 กิโลเมตรและเมื่อพิจารณาจากสัญญาณมันก็มีขนาดใหญ่มากกว่าทุกสัญญาณโดยรอบ
เซี่ยเฟยไม่รู้จะอธิบายความตกใจของตัวเองออกไปยังไงดี เพราะสัญญาณที่ระบบตรวจจับโลหะจับได้คือโลหะนี้มีขนาดอย่างน้อย 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร
มันจะเป็นก้อนโลหะที่ใหญ่เกินไปแล้ว!
นี่มันมีขนาดมากพอที่จะสร้างเมืองโลหะรับรองผู้คนนับหมื่นเชียวนะ!!
มวลโลหะใหญ่ขนาดนี้มันคืออะไรกันแน่?!
“เร่งความเร็วเต็มที่” เซี่ยเฟยสั่งการ
โทมาฮอว์กเริ่มเร่งความเร็วอย่างกะทันหันเพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังเป้าหมายที่สแกนเจอมวลโลหะขนาดใหญ่
“มันมีมวลโลหะขนาดใหญ่แบบนี้ได้ยังไง หรือว่ามันจะเป็นดาวเคราะห์ขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยโลหะ” อันธอุทานอย่างสงสัย
“ไม่น่าจะใช่ ระบบตรวจจับโลหะวิเคราะห์ว่ามันเป็นโลหะสังเคราะห์บริสุทธิ์ ดังนั้นมันน่าจะเป็นวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้น” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
โลหะส่วนใหญ่ในจักรวาลอยู่ในรูปแบบของแร่ธาตุที่ยังไม่บริสุทธิ์ แต่จากข้อมูลที่เขาได้รับมามวลโลหะพวกนี้มีความบริสุทธ์สูงมาก มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะเป็นแร่ธาตุที่ยังไม่ได้รับการถลุง
“วัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้น! แม้แต่ยานรบขนาดใหญ่ที่สุดในพันธมิตรก็มีขนาดประมาณ 500 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น แต่ขนาดของเป้าหมายมันมีขนาดมากกว่านั้นไป 3 เท่าเลยนะ” อันธอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ระบบตรวจจับโลหะถูกแรงโน้มถ่วงรบกวนจนทำงานผิดพลาดหรือเปล่า?” อันธถามขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่มั่นใจ
ท้ายที่สุดวัตถุชิ้นนี้ก็มีขนาดใหญ่มากกว่ายานรบที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดถึงสามเท่า มันจึงทำให้อันธรู้สึกสับสนกับเรื่องนี้มาก
“เป็นไปได้ที่ระบบจะถูกรบกวนจากแรงโน้มถ่วง แต่มันก็มีแนวโน้มว่าขนาดของวัตถุนี้น่าจะมีขนาดใหญ่กว่า 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงอันจริงจัง
***************