ตอนที่ 1081 คุณหลิน ตอนนี้มีแต่คุณเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเขาได้แล้ว ฉันขอร้องล่ะคะ!
“มีอะไรเกิดขึ้น?” หลินฟาน มองไปที่ เว่ย เจี้ยนเซิง
เว่ย เจี้ยนเซิง ได้รู้สึกรําคาญอยู่ในใจ เขารู้สึกว่า หลินฟาน ต้องรู้ถึงจุดประสงค์ของเขาอย่างแน่นอน แต่ไอ้เด็ก หลินฟาน คนนี้ มันก็แค่กําลังแกล้งทำเป็นสับสน!
“คุณหลิน ขอช่วยเปลี่ยนที่พูดกันได้ไหม?” เว่ย เจี้ยนเซิง ได้พูด เขาสังเกตเห็นได้จากสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของผู้คนโดยรอบตัวเขา ทั้งที่นี่เองก็ดูไม่เหมาะสําหรับการจะพูดคุยเรื่องนี้ ..ในที่สาธารณะ
หลินฟาน ได้ร้องโอ้ออกมา แล้วพูดว่า : “งั้น.. มาที่ห้องทํางานของฉันเถอะ”
เมื่อมาถึงห้องทํางานของเขาภายในสโมสร หลินฟาน ก็ได้กล่าวว่า : “ฉันยังมีธุระที่ต้องไปทําต่อ พวกคุณมีอะไรก็รีบพูดมาเถอะ”
เมื่อได้ยิน เว่ย เจี้ยนเซิง ก็ได้รีบหันศีรษะทันที พร้อมใช้สายตาจ้องมองไปที่ หัว อี้อู่ : “ยังไม่รีบคุกเข่าให้ คุณหลิน อีก!”
ตุบ!
หัว อี้อู่ ก็ได้คุกเข่าลงต่อหน้า หลินฟาน ทันที โดยที่ไม่มีความลังเลใดๆ และเขาก็เริ่มมีน้ำตาไหลออกมา : “คุณหลิน ขอร้องล่ะ ผู้ใหญ่ย่อมไม่ถือสาผู้น้อย(1) ปล่อยผมไปเถอะครับ!”
หัว อี้อู่ ได้ขอร้องอ้อนวอน
หลินฟาน พูดว่า : “หมายความว่าไง ให้ฉันปล่อยคุณไป? ฉันปล่อยคุณไปอะไรของคุณ?”
เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าวว่า : “คุณหลิน ที่นี่ไม่มีคนอื่น คุณไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแล้ว ฉันรู้แล้วว่าเหตุการณ์นี้ของ เสี่ยวหัว คุณเองก็ได้ใช้ความพยายามอย่างมากอยู่เบื้องหลัง.. แล้วนี่จะให้บอกว่า ผู้หญิงตัวเล็กๆ แซ่ชื่อคนนั้น มีความสามารถมาก และถึงกลับสมองดีได้ถึงขนาดนี้อย่างไร? และพอฉันได้ตรวจสอบจึงรู้ว่าเบื้องหลังของเธอ มีคนคอยชี้แนะอยู่จริงๆ”
วันนั้น เว่ย เจี้ยนเซิง ได้ให้ หลิว จินเวย ตรวจสอบคนที่อยู่เบื้องหลังของ ผู้หญิงแซ่ชื่อ หลิว จินเวย ที่ได้เข้าตรวจสอบก็ได้พบว่าเบื้องหลังของเรื่องนี้ ได้มี ตู้เถา เข้ามาเกี่ยวข้อง แม้ว่ามันจะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับ หลินฟาน แต่ไม่ต้องคิดให้มากก็รู้ได้ทันทีอยู่แล้ว นั่นก็เพราะว่า ..เบื้องหลังของ ตู้เถา มันก็ต้องเป็น หลินฟาน อย่างไม่ต้องสงสัย
คนอื่นอาจไม่รู้ แต่.. เว่ย เจี้ยนเซิง รู้ดีว่า หลินฟาน เป็นบอสใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังของ เทียนเสวีย เอนเตอร์เทนเมนท์ และตู้เถา ซึ่งถือได้ว่าเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการบันเทิง ก็ได้กำลังทํางานให้กับ หลินฟาน
หลินฟาน ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดไปว่า : “คุณกําลังพูดถึงอะไรอยู่.. ทําไมฉันถึงได้ ไม่เข้าใจแม้แต่ ..คําเดียว”
แน่นอนว่า หลินฟาน ไม่สามารถพูดได้ว่า ใช่.. ฉันเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องของพวกคุณ และเว่ย เจี้ยนเซิง ก็รู้ และเข้าใจด้วยว่า หลินฟาน ไม่สามารถพูดยอมรับออกมาได้โดยตรง แต่ก็ไม่สำคัญว่าจะยอมรับหรือไม่ เพราะว่านั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนได้เข้าใจไปโดยปริยาย ..ก็พอ
หัว อี้อู่ ได้ร้องไห้ออกมาพร้อมกับพูดว่า : “คุณหลิน ผมรู้ว่าผมผิดไปแล้วจริงๆ ผมรู้ว่าที่คุณทําแบบนี้ ก็เพราะผมเคยก่อกวน หนิง เสี่ยวเยว่ ในเรื่องนี้ผมเสียใจมากจริงๆ อีกอย่างผู้ใหญ่อย่าง คุณหลิน คงไม่คิดมาสนใจคนตัวเล็กๆ อย่างผม คุณหลิน คุณได้โปรดปล่อยผมไปในครั้งนี้ด้วยเถอะครับ!”
คุณแม่หัว เองก็ได้คุกเข่าลง แล้วพูดว่า : “คุณหลิน ฉันเสียลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของฉันไปไม่ได้จริงๆ ฉันมีลูกชายเพียงคนเดียว.. ขอร้องล่ะ ขอให้คุณปล่อยให้เขาได้มีชีวิตรอดได้ไหม? ตอนนี้มีแต่คุณเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเขาได้แล้ว ฉันขอร้องล่ะคะ!”
เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าวว่า : “หลินฟาน ฉันขอสารภาพกับคุณ คนที่เอาวุฒิการศึกษาของ หนิง เสี่ยวเยว่ มาสร้างปัญหานั้น เป็นฉันเอง และฉันรู้ว่าคุณก็รู้ว่าเป็นฉัน ในครั้งนี้ที่คุณยุ่งกับ เสี่ยวหัว ก็เพื่อตอบโต้ฉัน ตอนนี้.. ฉันเองยอมรับแล้ว และคุณก็ชนะ แค่นี้โอเคแล้ว ใช่ไหม? ต่อไปสิ่งที่ฉันจะรับรองให้คุณได้ก็คือ ในอนาคตในวงการบันเทิงจะไม่มีใครกล้ายุ่งกับ หนิง เสี่ยวเยว่ อีก ตราบใดที่คุณยอมที่จะปล่อย เสี่ยวหัว ในครั้งนี้ไป!”
หลินฟาน ไม่ได้พูดอะไรออกไป เขาเองได้นั่งนิ่งอยู่พักหนึ่ง แน่นอนว่าเขาไม่จําเป็นต้องแสร้งทําเป็นสับสนอีกแล้วจริงๆ ทั้งดูเหมือนว่า เว่ย เจี้ยนเซิง ก็รู้ด้วยเช่นกันถึงสิ่งที่ หัว อี้อู่ ได้ทําลงไป..
และนี่ถ้าไม่ใช่ทางออกสุดท้าย นายน้อยสามของ ตระกูลเว่ย คนนี้ คงจะไม่รีบวิ่งมาก้มหัวให้กับ หลินฟาน..
อย่างที่คิด หลินฟาน ได้คาดเดาไม่ผิด ในครั้งนี้ เว่ย เจี้ยนเซิง ได้รู้สึกว่า ..เขาไม่สามารถปกป้อง หัว อี้อู่ ได้อีกแล้ว เขาจึงได้รีบวิ่งมาหา หลินฟาน ด้วยความจนใจ
ปรากฎว่า เว่ย เจี้ยนเซิง ได้รับโทรศัพท์จากแม่ของ หัว อี้อู่ และได้รู้ว่า หัว อี้อู่ ได้ถูกจํากัดไม่ให้ออกนอกประเทศ และเขาก็ได้ยินมาว่า ทางตํารวจได้กําลังวางแผนที่จะจับกุม หัว อี้อู่
เว่ย เจี้ยนเซิง จึงได้บอกให้ แม่ และลูกชายหัว มาที่บริษัท
นั่นก็เพราะ เว่ย เจี้ยนเซิง ตระหนักได้ว่า ..สิ่งที่ หัว อี้อู่ กระทำลงไปนั้น มันอาจร้ายแรงเกินกว่า ..ที่เขาคิด
ดังนั้น เขาจึงได้บังคับถาม หัว อี้อู่ ว่าเขาได้ทําอะไรลงไปกันแน่ และหัว อี้อู่ ก็ต้องยอมสารภาพทุกอย่าง ถ้าหากมีการปกปิดแม้เพียงเล็กน้อย.. เขาเองก็ไม่สามารถช่วย หัว อี้อู่ ได้
หัว อี้อู่ ที่รู้ว่าตัวเองถูกจํากัดไม่ให้ออกไปนอกประเทศ มันก็เทียบได้เท่ากับนกในกรง ที่มีปีกแต่ก็กลับบินไม่ได้.. ตอนนี้ เว่ย เจี้ยนเซิง ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายของเขา ความคาดหวังเดียวของเขา.. ก็ต้องขึ้นอยู่ที่เขาแล้ว
เช่นนั้นเองที่ทำให้เขา.. ไม่กล้าที่จะปิดบัง
“คุณเว่ย วันนั้นที่คุณได้ถามผมว่า ในบรรดาผู้หญิงที่ถูกผมล่วงละเมิด.. มีผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะบ้างไหมนั้น ผม…” หัว อี้อู่ ก็ได้หน้าแดงอย่างมาก แม้ว่าเขาจะทําสิ่งที่เสื่อมเสียเหล่านี้ลงไป แต่เมื่อให้เขามาพูดด้วยตัวเองเช่นนี้แล้ว มันก็อดที่จะหน้าแดงไม่ได้
เมื่อได้ยินคําพูดนี้ เว่ย เจี้ยนเซิง และคุณแม่หัว ต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปมาก!
คุณแม่หัว เองก็ถึงกลับตกใจจนทรุดตัวลงไปกับพื้น..
โอ้.. พระเจ้า!
หัว อี้อู่ ได้ทำเรื่องแบบนี้ลงไปจริงๆ!
ใครๆ ก็รู้ว่าผลที่ตามมาของเรื่องนี้.. จะร้ายแรงมากขนาดไหน และสิ่งที่ หัว อี้อู่ ต้องเผชิญหน้านั้น.. มันก็คือบทลงโทษทางกฎหมายที่ร้ายแรงที่สุด เมื่อนั้นชีวิตทั้งชีวิตของเขา ..คนนี้ ก็ถือได้ว่า ถูกทําลายลงไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว
สิ่งนี้.. มันก็ยังอธิบายได้อีกว่า ..ทําไม ทางตํารวจถึงยังคงสอบสวนต่อไป แต่เดิม เว่ย เจี้ยนเซิง ได้คิดไปว่าตํารวจได้ยุติการสอบสวนแล้ว ทั้งการรายงานที่ได้ประกาศออกมานั้น มันก็น่าจะเป็นข้อสรุปสุดท้าย ที่ได้ระบุไว้ว่าเรื่องของ หัว อี้อู่ กับผู้หญิงแซ่ชื่อ เป็นเพียงข้อพิพาททางอารมณ์ ที่ได้ทำให้เกิดมีความสัมพันธ์กันขึ้นระหว่างชายหญิง และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎหมาย
ใบหน้าของ คุณแม่หัว ในตอนนี้.. ได้เต็มไปด้วยน้ำตา เริ่มแรกเธอไม่ได้ดุด่า หัว อี้อู่ ออกไป แต่เธอกลับได้คุกเข่าลงให้กับ เว่ย เจี้ยนเซิง : “คุณเว่ย คุณต้องช่วยลูกชายของฉันด้วยนะคะ ตอนนี้มีเพียงคุณเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเขาได้ คุณลองดูสิว่าจะพอหาวิธีส่งเขาออกไปนอกประเทศได้ไหม และฉันก็รู้ด้วยว่า คุณเว่ย ต้องมีวิธี และคุณเว่ย ต้องมีวิธีอยู่อย่างแน่นอน ด้วยเส้นสายของ คุณเว่ย!”
เธอเองอยากที่จะดุด่า หัว อี้อู่ แต่ตอนนี้การจะด่าเขาไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร ความผิด.. มันก็ได้เกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้สิ่งที่เธอเป็นห่วงมากที่สุดก็คือ ความปลอดภัยของลูกชายของเธอ เธอแค่อยากให้ลูกชายของเธอได้รีบหนีออกไปโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องอะไรขึ้น
ใบหน้าของ เว่ย เจี้ยนเซิง ก็ได้ซีดลงแล้ว…
แน่นอนว่าเขา.. ไม่คิดรับปากกับ คุณแม่หัว แม้ว่าเขาจะมีหนทางส่ง หัว อี้อู่ ออกไปนอกประเทศได้จริงๆ ก็ตาม แต่เขาก็จะไม่คิดทําเช่นนี้เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องสงสัยที่ว่าอาจก่อคดีอาชญากรรมร้ายแรง เพื่อหลบหนี.. ผลที่ตามมาคืออะไร เว่ย เจี้ยนเซิง ไม่ใช่คนโง่! และแน่นอนว่าเขาจะไม่เข้าใจได้อย่างไร
คราวนี้ หัว อี้อู่ ส่วนใหญ่ขาข้างหนึ่งของเขาได้ก้าวเข้าไปแล้ว และเว่ย เจี้ยนเซิง ไม่ต้องการที่จะก้าวเข้าไปด้วยอีกคน
จริงๆ แล้วในสายตาของ เว่ย เจี้ยนเซิง เขาไม่ได้ต้องการช่วย หัว อี้อู่ ตั้งแต่ในตอนแรกๆ หนึ่งเลยเขาไม่ใช่พ่อของ หัว อี้อู่ ดังนั้นแล้วเขาจะไปเห็นอกเห็นใจอะไรกับ คุณแม่หัว สิ่งแรกที่เขานึกถึงก็คือ หากเรื่องของ หัว อี้อู่ ถูกเปิดเผยออกมา, มันก็จะส่งผลกระทบต่อบริษัท...
หัว อี้อู่ เป็นศิลปินของ เชอร์รี่ เอนเตอร์เทนเมนท์ หลังจากเรื่องที่อื้อฉาวนี้ระเบิดออกไป ภาพลักษณ์ของ เชอร์รี่ เอนเตอร์เทนเมนท์ ก็จะต้องลดลงไปอย่างแน่นอน และนี่ก็เท่ากับเป็นเรื่องที่พาดพิงเข้ามาถึงบริษัท
สิ่งที่ เว่ย เจี้ยนเซิง ต้องการช่วยไม่ใช่ หัว อี้อู่ แต่เป็นบริษัท
ในเวลานี้เอง เว่ย เจี้ยนเซิง ก็ได้รับโทรศัพท์จาก หลิว จินเวย
“นายน้อยสาม คุณขอให้ฉันตรวจสอบ ผู้หญิงแซ่ชื่อ ทางฝั่งฉันเองก็ไม่ได้อยู่เฉยเลยแม้แต่วินาทีเดียว และตอนนี้เท่าที่ฉันตรวจสอบได้ ผู้หญิงแซ่ชื่อคนนี้ ..มีคนอยู่เบื้องหลังจริงๆ” หลิว จินเวย ได้กล่าว
เว่ย เจี้ยนเซิง รีบถามไปว่า : “เป็นใคร?”
หลิว จินเวย กล่าวว่า : “ตู้เถา!”
“อ่า?” เว่ย เจี้ยนเซิง มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
เป็น.. ตู้เถา คู่ต่อสู้เก่าของเขาเอง!
และสิ่งที่ เว่ย เจี้ยนเซิง คิดก็คือ หลินฟาน เรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นความคิดริเริ่มของ ตู้เถา แต่เป็นคําสั่งของ หลินฟาน อย่างแน่นอน!
ต้องยอมรับว่า หลินฟาน ได้ชนะเกมในครั้งนี้แล้ว ทั้ง หลินฟาน ก็ยังเกือบจะฆ่า หัว อี้อู่ ให้ตาย และทําให้ เชอร์รี่ เอนเตอร์เทนเมนท์ ของเขาถึงกลับ กระสับกระส่าย..
เว่ย เจี้ยนเซิง โกรธมากจนสีหน้าของเขาดำเขียวอยู่พักหนึ่ง หลินฟาน.. มันเป็น หลินฟาน ตัวน้อยนี่อีกแล้ว! ทั้งแกก็ได้ชนะไปอีกครั้งหนึ่งแล้ว และหลินฟาน ตัวน้อย แกมันคือตัวซวยของตระกูลเว่ย ของฉัน! แน่นอนว่ามันคือ หลินฟาน นอกจาก หลินฟาน ตัวน้อยนี่แล้ว ใครมันจะไปกล้าดีอย่างนี้ได้อีก ฉัน.. เว่ย เจี้ยนเซิง แล้วมีใครบ้างที่มันเคยคิดกล้าทำแบบนี้กับฉัน!
“คุณเว่ย เกิดอะไรขึ้น?” หัว อี้อู่ เมื่อเห็นสีหน้าของ เว่ย เจี้ยนเซิง เขาก็ได้ถามออกไปอย่างเป็นห่วง
เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าวว่า : “ฉันจะพาพวกคุณไปหาคนคนหนึ่ง และ.. มีเพียงเขาเท่านั้น ที่จะสามารถปล่อยคุณให้มีชีวิตรอดไปได้”
หัว อี้อู่ ได้ถามอย่างอยากรู้อยากเห็นไปว่า : “เป็นใคร?”
เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าวว่า : “หลินฟาน!”
(1)[ผู้ใหญ่ย่อมไม่ถือสาผู้น้อย (大人有大量)] - เป็นการอธิบายถึงบุคคลที่มีความใจกว้าง และไม่ถือโทษโกรธเคือง