บทที่ 173: ชิมเนื้อย่างที่หลงโม่ทำ
เสียงที่นุ่มนวลและมั่นคงของหลงโม่ดังเข้ามาในหูของหูเจียวเจียว ราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิที่พัดเข้าสู่หัวใจ แล้วความอบอุ่นนั้นก็แผ่ไปที่แขนขา
หญิงสาวก้มลงมองมือที่กำลังประสานกันพร้อมกับที่มีความประหลาดใจฉายผ่านดวงตาเรียวสวย
นี่เขาถือโอกาสนี้สารภาพรักกับเธอหรือเปล่า?
ไม่ใช่เพราะความรับผิดชอบหรือเพราะถูกบังคับ แต่เป็นเพราะเขาอยากดูแลเธอให้ดี
ทางด้านหูหมินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ก่อนที่หูเจียวเจียวจะทันได้เคลื่อนไหว แม่ของเธอก็พูดต่อว่า
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจะต้องรับผิดชอบอาหารที่เจียวเจียวและลูกกิน”
“...!” คนเป็นลูกสาวตกตะลึง
เธอไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าแม่จิ้งจอกเฒ่ามีความคิดที่อยากจะให้หลงโม่ทำอาหาร!
ถ้าจะให้เธอกินอาหารที่มังกรหนุ่มทำ เธอยอมกินเนื้อสัตว์ดิบ ๆ เสียดีกว่า!
“ท่านแม่ เขาทำอาหารไม่เป็น ให้ข้าทำเถอะ ข้าชอบทำอาหารมาก” หูเจียวเจียวเขย่าแขนหูหมินโดยพยายามให้อีกคนกลับคำตัดสินนี้
ไม่เพียงแค่นั้น ลูกน้อย 5 คนในครอบครัวของเธอไม่ใช่คนที่จู้จี้จุกจิกเรื่องกิน แต่พวกเขากลับพยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่พ่อมังกรเป็นคนทำซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าฝีมือการทำอาหารของอีกฝ่ายนั้นน่าสะพรึงกลัวแค่ไหน
“ขนาดทำอาหารยังทำไม่เป็น แล้วเขาจะดูแลเจ้าได้ยังไง?”
หูหมินมีท่าทีแข็งกร้าว ก่อนจะหันไปพูดใส่หลงโม่ด้วยท่าทางไม่ไว้ใจ
“เจ้าทำอาหารไม่เป็นด้วยซ้ำ แบบนี้ข้าจะไว้ใจฝากเจียวเจียวไว้กับเจ้าได้ยังไงกัน!”
ยามนี้จิ้งจอกสาวแทบอยากจะร้องไห้ เธอที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้เป็นแม่รีบส่ายหัวส่งสัญญาณให้มังกรหนุ่ม
ความคิดของหูเจียวเจียว: ช่วยบอกว่าไม่เห็นด้วยทีเถอะ!
สิ่งที่หลงโม่เข้าใจ: อย่าทำให้แม่ของนางผิดหวัง
ในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มผงกหัวรับอย่างมั่นใจ
อย่างไรเสีย เขาก็เคยย่างเนื้อให้ลูกทั้ง 5 กินมาก่อน อีกทั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้เขาได้ดูวิธีการทำอาหารของจิ้งจอกสาวทุกวัน ดังนั้นการทำอาหารจึงไม่น่าจะใช่เรื่องยากสำหรับเขา
ทางด้านหูเจียวเจียวถอนหายใจด้วยความโล่งอก และในขณะที่เธอกำลังจะชื่นชมยินดี เสียงของหลงโม่ที่ฟังดูมั่นใจมากก็ดังขึ้น
“ตกลง วันนี้ข้าจะทำอาหารให้ทุกคนเอง”
ยิ่งไปกว่านั้น เขากลัวว่าหญิงสาวจะเป็นกังวลจึงพูดเสริมอีกว่า
“ข้าจะตั้งใจทำ”
“???” หูเจียวเจียวนิ่งค้างไปชั่วครู่ก่อนจะส่งเสียงกู่ร้องในใจ
ไม่น้าาาาา!
…
บนบันได หลงเหยาที่ง่วงงุนตกใจจนหางของเขาตั้งชัน
ท่านพ่อเพิ่งพูดว่าอะไรนะ?
เขาอยากจะทำอาหารของวันนี้หรือ?
รูม่านตาสีแดงของเจ้าตัวเล็กขยายใหญ่ขึ้นด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ชัด พร้อมกับปากที่อ้ากว้าง โดยรวมแล้วความรู้สึกที่แสดงออกบนใบหน้าของเขามีแต่ความหวาดกลัว จากนั้นเจ้าตัวเล็กก็ยันตัวลุกขึ้นจากพื้นรีบวิ่งไปที่ห้องของพี่ ๆ
ในขณะที่วิ่งไป เด็กน้อยก็แหกปากตะโกนไม่ขาดสาย
“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม พี่สี่!”
“ท่านพ่อกำลังจะฆ่าพวกเรา!”
แต่ด้วยความที่เขาวิ่งเร็วจนเกินไปจึงเผลอสะดุดขาตัวเองล้มลงกับพื้น
บวกกับร่างกายของเด็กหนุ่มกลมไปทั้งตัวจึงกลิ้งไปบนพื้นหลายตลบก่อนที่เขาจะลุกขึ้นวิ่งต่อไป
ในหัวของหลงเหยาตอนนี้คิดที่จะหนีเอาชีวิตรอดให้ได้เพียงเท่านั้น
…
“ท่านแม่ ข้าคิดว่าควรลืมมันไปเสียดีกว่า” หูเจียวเจียวพูดเกลี้ยกล่อมพลางส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปที่พ่อจิ้งจอก
“เสี่ยวหมิน เจ้าให้ข้าทำดีกว่าไหม?”
หูเฉียงเข้าใจความหมายของลูกสาวในทันที และพูดกับภรรยาด้วยรอยยิ้ม
ตอนนี้เขาเริ่มประทับใจในตัวของหลงโม่และยินดีที่จะช่วยเหลืออีกฝ่ายต่อหน้าหูหมิน
มันก็แค่ทำอาหารเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะที่สำคัญกว่านั้นคือเขาจะหาเวลาสอนลูกเขยทำอาหารในอนาคต
ทางด้านหูเจียวเจียวแสดงท่าทางขอบคุณผู้เป็นพ่อ
อย่างน้อยพ่อของเธอก็ยังคงเชื่อถือได้
ขณะเดียวกัน หูหมินเลิกคิ้วมองไปทางสามี “เจ้าหุบปากไปเลย! เจ้าไปเอาผลไม้มาให้ลูกกินเร็วเข้า!”
“ตกลง ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
พ่อจิ้งจอกพยักหน้ารับระรัว เขาแทบจะติดปีกบินเข้าไปในบ้านเพื่อหยิบผลไม้เลยด้วยซ้ำ
“...” หูเจียวเจียวที่เห็นเช่นนั้นรู้สึกพูดไม่ออก
เธอขอถอนคำพูดของตัวเองเมื่อกี้นี้ทั้งหมด!
หลงโม่เองก็แยกไปที่ครัวเพื่อทำอาหาร จิ้งจอกสาวจึงตั้งท่าจะเข้าไปช่วยเขา แต่เธอกลับถูกหูหมินลากไปคุยอีกทาง เธอเลยได้แต่ภาวนาในใจเงียบ ๆ ว่าวันนี้คู่ของตนจะทำอาหารได้ดีเป็นพิเศษ
เมื่อพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า
ในที่สุดมังกรหนุ่มก็ทำอาหารเสร็จ และทุกคนในครอบครัวก็มานั่งพร้อมหน้ากันอยู่ที่โต๊ะอาหารในสวนหลังบ้าน พลางมองดูเขาวางจานเนื้อย่างสีเข้มไว้บนโต๊ะ
แล้วคนอื่น ๆ ก็ทำหน้าสงสัย
เจ้าสิ่งนี้กินได้ใช่ไหม?
“หลงโม่ เจ้าทำอะไรน่ะ?” หูหมินมองดูชายหนุ่มนำเนื้อจานสุดท้ายมาวาง และก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“เนื้อย่าง” หลงโม่ตอบแบบจริงจัง
เนื่องจากนี่เป็นอาหารชนิดเดียวที่เขารู้วิธีทำ
เมื่อหูเจียวเจียวกวาดตามองดูอาหารบนโต๊ะที่น่าขนลุก เธอก็ยกมือขึ้นลูบหน้าผากตัวเอง เธอไม่สามารถทนมองสิ่งที่วางอยู่ตรงหน้าตนได้อีกต่อไป
ทางด้าน 4 พี่น้องตระกูลหู หูชิงซานผู้เป็นพี่ใหญ่รู้สึกว่าฉากนี้ช่างดูคุ้นเคย เขาจึงหันไปมองหน้าพี่น้องอีก 3 คนพลางถ่ายทอดคำพูดผ่านทางสายตา
ทำไมเนื้อย่างจานนี้ถึงดูคล้ายกับเนื้อที่พวกเราทำเลยล่ะ?
ส่วนเด็กตระกูลหลงทั้ง 5 คนถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากพร้อมกับทำสีหน้าเหมือนกับว่ากำลังประท้วงพวกผู้ใหญ่อยู่
“ท่านพ่อ ทำไมเนื้อย่างถึงเหมือนกับถ่านที่ท่านแม่ทำเลยล่ะ?” หลงเหยาใช้หางรูปสามเหลี่ยมค่อย ๆ เขี่ยเนื้อย่างตรงหน้า ซึ่งสัมผัสที่ได้รับนั้นมันแข็งมากจนเขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมา
มันคล้ายกันมากจริง ๆ!
“ฮ่า ๆๆ อุ๊บ!” หูเจียวเจียวหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง เมื่อเธอนึกขึ้นมาได้ว่าไม่สมควร เธอก็รีบยกมือขึ้นปิดปาก กลั้นยิ้ม ก่อนจะอธิบายอย่างจริงจัง
“สีเนื้อสุกเกินไป มันออกเข้ม ๆ ไปหน่อย แต่ข้างในอาจจะอร่อยก็ได้”
จากนั้นหูเฉียงก็เป็นคนคอยช่วยบรรเทาบรรยากาศที่หนักอึ้ง “ใช่ พวกเจ้ามัวมองอะไรกันอยู่ กินเร็ว เรามาลองชิมฝีมือของเสี่ยวโม่กัน”
เขาพูดจบแล้วก็เป็นผู้นำในการหยิบเนื้อที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมากัดคำใหญ่
“เจียวเจียวพูดถูก แม้ว่าสีมันจะดูเข้มไปหน่อย แต่ถ้าเจ้าไม่ลองชิมดูก็ไม่รู้หรอก รสชาติจริง ๆ แล้ว... แอวะ!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อจิ้งจอกค่อย ๆ เลือนหายไป และเขาพยายามอย่างหนักที่จะกลืนเนื้อย่างในปาก แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถทนต่อไปได้อีก จึงคายมันออกมา
“...” ยามนี้ทุกคนที่ได้เห็นสภาพของหูเฉียงนิ่งเงียบไปชั่วขณะ
เขาคิดจริงหรือว่าคนอื่นจะเชื่อคำพูดของเขา!
“เสี่ยวหมิน เจ้าไม่ต้องกินดีกว่า เดี๋ยวท้องเสีย” ชายวัยกลางคนคายของเสียออกจากปาก และรีบพูดกับภรรยาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
เขาทำท่าเหมือนกับว่ามียาพิษอยู่ในเนื้อย่าง
ปฏิกิริยาของพ่อจิ้งจอกทำให้คิ้วของหลงโม่ขมวดแน่น
เนื้อย่างของเขาแย่ขนาดนั้นเลยหรือ?
เขาจำได้ว่าตอนที่หูเจียวเจียวทำอาหาร มันก็มีไฟลุกแบบนี้ เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าขั้นตอนทุกอย่างเหมือนกันหมด แล้วเขาพลาดตรงไหนไปกันแน่?
มังกรหนุ่มรู้สึกสับสนมากจึงหันไปหาลูกทั้ง 5 คน
พอเด็ก ๆ เห็นผู้เป็นพ่อหันหน้ามามองตนก็พากันตัวสั่น
“เช้านี้ข้ากินอิ่มเกินไป ข้ายังไม่หิวเลย” หลงอวี้มองไปทางอื่นและพูดเสียงเบาเหมือนกำลังพูดกับตัวเอง
“ใช่ ข้าก็ไม่หิวเหมือนกัน” หลงหลิงเอ๋อพยักหน้าเห็นด้วย
ทานด้านหลงเซียวเอื้อมมือไปแตะโต๊ะ แล้วขยับตัวให้ห่างเนื้อย่างก่อนจะทำท่าคว้าอากาศ
ในขณะที่หลงจงโพล่งออกมาตามตรง “ข้าไม่กินถ่าน”
การแสดงออกของเด็กน้อย 4 คนส่งผลให้ใบหน้าของหลงโม่เข้มขึ้นเรื่อย ๆ และในที่สุดเขาก็จ้องมองไปที่ลูกชายคนสุดท้องนิ่ง
“เอิ่ม เอ่อ...” หลงเหยากระวนกระวายจนไม่สามารถพูดได้ชัดเจน จากนั้นเขาจับหางของตัวเองมาเป็นกำบังเหมือนกับผู้หญิงสมัยโบราณที่รีบปิดหน้าตนเองด้วยผ้าเช็ดหน้า
“เจ้าไม่หิวหรือ?”
พ่อมังกรถามขึ้นมาทันที
เจ้าตัวเล็กรีบส่ายหัวทันควัน “เปล่า เสี่ยวเหยาหิวมาก เสี่ยวเหยากินได้เยอะ!”
“งั้นก็รีบกินเถอะ” หลงโม่พูดพร้อมยื่นชิ้นเนื้อย่างให้เขาอย่าง 'อ่อนโยน'
“ฮือออ...ขอบคุณท่านพ่อ...”
หลงเหยารู้สึกสะเทือนใจจนเขาอยากจะร้องไห้ เขาหยิบเนื้อย่างขึ้นมาภายใต้สายตาที่อ่อนโยนของคนเป็นพ่อ ในไม่กี่อึดใจ เขาหลับตาลงพร้อมจะพลีชีพ
งั่ม!
เขากัดเนื้อลงไปเต็มแรง
ปั้ก!
เพียงแค่ฟันน้อย ๆ กระทบเนื้อ ฟันซี่หนึ่งก็หลุดออกจากปากของเจ้าตัว!
บัดนี้มันปลิวไปในอากาศอย่างสวยงามก่อนจะตกลงบนโต๊ะพร้อมกับเสียงดังตุ๊บและหมุนไปมาหลายครั้ง…
ต่อมา หลงเหยาลืมตาขึ้นแตะฟันที่ว่างเปล่า จากนั้นเบ้าตาของเขาก็ชื้นทันที ประกอบกับปลายจมูกเปลี่ยนเป็นสีแดง จนในที่สุดเจ้าตัวเล็กก็ร้องไห้ออกมา
“โฮ ๆๆ...ฟันเสี่ยวเหยาหายไปแล้ว...”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ไปเปิดคณะตลกกันเถอะ ยิ่งรวมตัวกับครอบครัวฝั่งแม่ยิ่งโบ๊ะบ๊ะคูณ 10 555555555