ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 32 เริ่มบ่มเพาะได้เสียที
เมื่อเซวียนห่าวฝากชิงอี้ไว้กับจื่อหรัวแล้ว เซวียนห่าวก็ถอยกลับเข้าไปในห้องของเขา
เซวียนห่าวต้องการสอนชิงอี้เกี่ยวกับเคล็ดวิชาบ่มเพาะเพลิงสวรรค์ในทันที แต่นางนั้นหลับไหลอยู่ เซวียนห่าวจึงตัดสินใจใช้เวลาที่เหลือไปกับการบ่มเพาะในห้องของเขา อย่างน้อยระบบก็ไม่ได้ขัดขวางเขาจากการบ่มเพาะและเขายังสามารถก้าวหน้าได้แม้จะไม่ได้พึ่งระบบ แม้ว่าจะค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับความก้าวหน้าที่ระบบนำมาให้
เขานั่งเงียบ ๆ อยู่ในห้องเพื่อบ่มเพาะ เวลาผ่านไปไม่นานนัก ดวงอาทิตย์ก็ค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาในระยะไกล
เซวียนห่าวมองไปที่ที่ชั้นหนังสือที่เขาวางเคล็ดวิชาบ่มเพาะเพลิงสวรรค์ไว้
วันนี้เซวียนห่าวได้ตัดสินใจที่จะช่วยชิงอี้ในการบ่มเพาะ ตอนนี้นางได้ปลุกกายาศักดิ์สิทธิ์ของนางแล้ว สิ่งนี้จำเป็นยิ่งกว่าการฝึกเคล็ดวิชากระบี่ของนางเสียอีก
เซวียนห่าวไปที่ห้องของชิงอี้ในทันทีและเคาะเบา ๆ ที่ประตู
“นั่นจื่อรั่วหรือ… อาจารย์ ! รอประเดี๋ยว !” ชิงอี้ที่เปิดประตูด้วยท่าทางงัวเงียได้ตื่นขึ้นทันทีที่เห็นผู้ที่ยืนอยู่หน้าประตู นางรีบกลับเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว
“ท่านมาทำอะไรที่นี่หรือ !” ชิงอี้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ชิงอี้ถามอย่างกระวนกระวายใจ นางยังคงสับสนกับการปรากฏตัวของเซวียนห่าวในตอนเช้าตรู่เช่นนี้
“เจ้าได้ปลุกกายาศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแล้ว ดังนั้นมันจึงถึงเวลาที่เจ้าจะได้บ่มเพาะแล้วเช่นกัน ข้าได้เลือกสิ่งที่เหมาะสมกับกายาศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าไว้แล้ว หากเจ้าพร้อมก็มาที่ลานฝึกฝน”
“เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์ ข้าจะไปที่นั่นทันที !”
“เจ้าไม่ต้องรีบร้อน ไปทานข้าวที่โรงอาหารเสียก่อน”
“เจ้าค่ะ !” เมื่อชิงอี้ได้ยินสิ่งที่เซวียนห่าวกล่าว นางก็รู้สึกหิวขึ้นมาเล็กน้อย
การได้บ่มเพาะอีกครั้งทำให้นางตื่นเต้น ก่อนหน้านี้เมื่อนางตื่นขึ้น สิ่งแรกที่นางพยายามทำคือการบ่มเพาะ ความเร็วของการบ่มเพาะของนางแข็งแกร่งขึ้นจนทำให้นางเกิดความรู้สึกมึนงง
นางรู้สึกว่าฐานการบ่มเพาะของนางเพิ่มขึ้นหลังจากปลุกกายาศักดิ์สิทธิ์ ตอนนี้นางแข็งแกร่งกว่าชิงเฉินอี้เสียอีก !
การเปลี่ยนจากพรสวรรค์ธรรมดา ๆ ไปสู่พรสวรรค์ที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก ชิงอี้รู้สึกมีความสุขอย่างมากในขณะนี้ นางรู้สึกราวกับได้ก้าวขึ้นอีกขั้นในทันที
“ข้าได้ยินมาว่าอาจารย์ได้เข้าสู่ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดเมื่ออายุเพียงยี่สิบเอ็ดปีเพียงเท่านั้น มีคนไม่กี่คนที่อยู่นอกนิกายกระบี่ล่องนภาที่จะรู้เรื่องราวของอาจารย์ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นกัน? แม้แต่ข้าก็เพิ่งรู้จักอาจารย์เมื่อเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภาเท่านั้น...” ขณะที่นางเดินไปที่โรงอาหาร ชิงอี้ก็คิดถึงอาจารย์ของนาง นางคิดว่าไม่มีคนจากนอกนิกายกระบี่ล่องนภาที่จะรู้จักเขา
สิ่งเดียวที่ทุกคนรู้จักเขาก็คือเขาเป็นผู้อาวุโสหลักของนิกายกระบี่ล่องนภาและเป็นยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด
ชิงอี้รู้สึกว่ามันน่าสงสัยอย่างมาก แม้ว่านิกายกระบี่ล่องนภาจะพยายามซ่อนมันมากเท่าไหร่ แต่ก็ยังมีสายลับจากที่ต่าง ๆ ที่ทำให้อายุของอาจารย์ของนางแพร่หลายใน นิกายกระบี่ล่องนภา
มีบางคนไม่เชื่อว่าเขาจะไปถึงขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดตั้งแต่ยังอายุยี่สิบเอ็ดปี มันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อสำหรับคนส่วนใหญ่และหากนางไม่ได้เข้าร่วมนิกายกระบี่ล่องนภา นางคงคิดว่าอาจารย์ของนางเป็นชายชราอายุมากกว่าร้อยปีไปเสียแล้ว
การฟื้นคืนความเยาว์วัยเป็นเรื่องง่ายของผู้ที่อยู่ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด แม้ว่าใครจะมองว่าเขาอายุยี่สิบปี แต่เขาก็อาจมีอายุหลายร้อยปีก็เป็นได้
การที่มีผู้ที่ไปถึงขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดเมื่ออายุยี่สิบเอ็ดปีคงเป็นการโฆษณาที่ยอดเยี่ยมว่านิกายและการบ่มเพาะของพวกเขานั้นแข็งแกร่งมากและนั้นยอดเยี่ยมมากเพียงใด... นอกจากนี้ยังทำให้เหล่ารุ่นเยาว์ขยันบ่มเพาะมากขึ้นด้วยเช่นกัน
“ชิงอี้?”
“อ้าก !” ชิงอี้ยกมือขึ้นข้างหน้าตัวเองเพื่อตั้งท่าป้องกัน นางมองตรงไปยังดวงตาของเจิ้งซื่อฮั่นที่ยืนอยู่ตรงหน้านาง
“เจ้าไม่สบายหรือ ข้าเรียกเจ้าเป็นสิบรอบเจ้าก็ยังไม่ตอบข้า... จื่อหรัว นางอยู่ที่ใดกัน” เจิ้งซื่อฮั่นถามออกมา
“จื่อหรัวหรือ? นางยังคงหลับอยู่เมื่อตอนที่ข้าจากมา ข้ากำลังคิดบางอย่างอยู่...”
“งั้นหรือ เราไปทานข้าวกันก่อนเถอะ ข้าหิวแล้ว !”
เจิ้งซื่อฮั่นและชิงอี้คุยกันต่ออีกเล็กน้อยก่อนจะไปไปทานอาหารเช้า
ก่อนจากไปกันเจิ้งซื่อฮั่นกล่าวกับชิงอี้เกี่ยวกับการประลองศิษย์ใหม่ที่กำลังจะมาถึงสำหรับศิษย์ใหม่ที่เพิ่งเข้านิกาย ผู้ชนะจะได้รับสมบัติปฐพีและศิลาวิญญาณจำนวนมาก
แม้แต่อันดับสองและสามก็จะได้สมบัติ ในขณะที่สิบอันดับแรกจะได้รับศิลาวิญญาณและสมบัติที่อ่อนแอกว่า
ก่อนที่จะปลุกกายาศักดิ์สิทธิ์ ชิงอี้ไม่แม้แต่จะกล้าเข้าร่วมการประลองศิษย์ใหม่
แต่ตอนนี้นางอยู่ในขอบเขตรวมปราณขั้น 7 นางมีโอกาสติดสิบอันดับแรกอย่างแน่นอน ชิงอี้จึงตัดสินใจที่จะถามอาจารย์ของนางเกี่ยวกับการเข้าร่วมการประลองศิษย์ใหม่
นางมุ่งหน้ากลับไปที่ลานฝึกตามที่อาจารย์ของนางกล่าว ในที่สุดนางก็จะได้เรียนรู้เคล็ดวิชาบ่มเพาะจากอาจารย์ของนางเสียที !
เมื่อเทียบกับสิ่งที่ตระกูลชิงมี สิ่งที่อาจารย์มอบให้นางนั้นเหมาะสมกับนางมากกว่าเป็นไหน ๆ