ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 31 ปลุกกายาศักดิ์สิทธิ์ตะวันเจิดจรัส
ชิงอี้และจื่อหรัวกลับมาที่ตำหนักเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน หลังจากเข้าไปในตำหนักแล้วชิงอี้ก็พบว่ามีบางคนยืนอยู่ที่โถงทางเดินและมองดูทั้งสองคน
“นายท่าน !”
“ผู้อาวุโสเซวียน !”
ชิงอี้ร้องเรียกเซวียนห่าวอย่างมีความสุข ในขณะที่จื่อรั่วรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อยและซ่อนตัวอยู่ข้างหลังชิงอี้อย่างเขินอาย
“ชิงอี้... เจ้าคงจะเป็นคนรับใช้ที่เรือนคนรับรับใช้ส่งมาหรือไม่?” เซวียนห่าวยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าชิงอี้ตื่นเต้นเพียงใดและเขาหันไปมองจื่อหรัวที่หลบอยู่ข้างหลังชิงอี้
“เจ้าค่ะ ผู้อาวุโสเซวียน !” จื่อหรัวตอบกลับด้วยน้ำเสียงของนางและกลับไปหลบซ่อนอยู่ข้างหลังชิงอี้อีกครั้ง
“เจ้าไม่ต้องประหม่าไป เจ้าจะค่อย ๆ ชินกับการใช้ชีวิตที่นี่ ชิงอี้ได้บอกเจ้าแล้วหรือไม่ว่าเจ้าต้องพักที่ใด”
“เจ้าค่ะ ท่านหญิงชิงอี้พาข้าไปที่ห้องก่อนนี้นี้แล้ว !”
“งั้นหรือ ข้าขอตัวชิงอี้สักครู่” เซวียนห่าวลาไปพร้อมกับชิงอี้ ขณะที่จื่อหรัวกลับไปที่ห้องที่นางและเริ่มแกะกระเป๋าของนางออก
“ท่านหาหญ้าหัวใจอเวจีเจอแล้วหรือ?” หลังจากที่พวกเขาเดินออกจากตำหนักแล้ว ชิงอี้ก็ไม่อาจรั้งตัวเองไว้ไม่ให้ถามอีกต่อไป
“ใช่ ข้าหามันเจอแล้ว เราจะปลุกกายาศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าที่ลานฝึก มันง่ายที่จะควบคุมในกรณีที่ปราณธาตุไฟระหว่างสวรรค์และโลกของเจ้าควบคุมไม่ได้หรือเกิดเหตุการณ์ที่สวรรค์แสดงออกมา
“หากมันเกิดขึ้นจริง ข้าจะได้ควบคุมมัน หากเกิดปรากฏการณ์ที่บ่งบอกว่าผู้มีกายาสวรรค์ถือกำเนิดขึ้น มันจะเป็นอันตรายแก่เจ้า !” เซวียนห่าวกล่าวกับนางในขณะที่ไปที่ลานฝึก
“ข้าควรทำอย่างไร?” ขณะที่พวกเขาเดินไปที่ใจกลางลานฝึก ชิงอี้ก็เงยหน้าขึ้นมองเซวียนห่าวอย่างสงสัยและถามเขา
“ข้าได้เจือจางผลของหญ้าหัวใจอเวจีไว้แล้ว สิ่งที่เจ้าต้องทำมีเพียงแค่ดื่มมันเท่านั้น” เซวียนห่าวหยิบโอสถที่เขาทำไว้ก่อนหน้านี้ออกมา
“ดื่มมันแล้วกายาศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าจะตื่นขึ้น” เซวียนห่าวยื่นโอสถที่น่าสงใสให้กับชิงอี้
“…” ชิงอี้มองโอสถนั้นอย่างสงสัย นางเห็นเศษหญ้าหัวใจอเวจีที่ลอบเคว้งอยู่ในนั้น
หากนักปรุงโอสถคนใดเห็นการปรุงยาของอาจารย์ของนาง พวกเขาจะถลกหนังเขาเป็นแน่...
“ข้าจะดื่มมันเดี๋ยวนี้ !”
แม้นางจะยังสงสัยในตัวโอสถ แต่นางก็ไว้ใจในตัวอาจารย์
ชิงอี้ดื่มจนหมดถ้วยและสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงทันที ความร้อนที่ร้อนแรงเริ่มแผ่กระจายไปทั่วร่างกายของนาง
“นั่งลงและผ่อนคลายร่างกายของเจ้า สิ่งที่เจ้ารู้สึกตอนนี้คือผลของหญ้าในหัวใจอเวจีที่ไหลผ่านร่างกายของเจ้า ในไม่ช้าความร้อนจะรวมตัวในจุดตันเถียนของเจ้า เมื่อเป็นเช่นนั้น ให้เจ้าพยายามกระจายความร้อนจากตันเถียนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย !”
ขณะที่ชิงอี้รู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ไปทั่วร่างกายของนาง นางก็ได้ยินอาจารย์และรีบทำตามที่เขาบอกนางและในไม่ช้าความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของนางก็รวมตัวกันอยู่ภายในจุดตันเถียนของนาง
ความร้อนเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ และชิงอี้ก็เริ่มเหงื่อออกขณะที่นางพยายามอย่างเต็มที่เพื่อกระจายความร้อนที่ภายในจุดตันเถียนของนางออกไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
เพียงหนึ่งชั่วโมงผ่านไปในที่สุดชิงอี้ก็สามารถแผ่ความร้อนที่ลุกโชนในจุดตันเถียนของนางไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้
ตอนนี้นางเหนื่อยมากจนเหงื่อไหลออกมา เพียงแค่ความร้อนเพียงอย่างเดียวก็ทำให้นางแทบจะทนไม่ได้ หากไม่ใช่เพราะเซวียนห่าวคอยช่วยเหลือนางเป็นครั้งคราว ชิงอี้ก็สงสัยว่านางจะสามารถทำได้หรือไม่
“แฮก...”
เมื่อความร้อนระลอกสุดท้ายออกจากจุตันเถียนของนางและแผ่กระจายไปทั่วร่างกายก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นทันที
ผมสีดำของนางเข้มขึ้นและดวงตาสีน้ำตาลของนางแปลเปลี่ยนเป็นสีแดง
นอกเหนือจากนั้น ฐานการบ่มเพาะของนางจากขอบเขตรวมปราณขั้น 4 ก็ไปสู่ขอบเขตรวมปราณขั้น 7 ทำให้นางเข้าใกล้ขอบเขตรวมปราณขั้นสมบุรณ์
เซวียนห่าวเห็นสิ่งนี้และยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ เขามองไปที่ชิงอี้โดยใช้พลังของระบบ
ชื่อ: ชิงอี้
ค่าพรสวรรค์: 38
[ร่างกาย: กายาศักดิ์สิทธิ์ตะวันเจิดจรัส (ตะวันดวงเล็ก)]
ดูเหมือนว่าพรสวรรค์ของนางจะเพิ่มขึ้น 1 หลังจากกายาศักดิ์สิทธิ์ตื่นขึ้น แม้จะไม่มากแต่มันก็ยังเปลี่ยน
มันน่าจะเป็นผลจากหญ้าหัวใจอเวจีไม่ใช่ร่างกายศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่มค่าพรสวรรค์ของนาง
เซวียนห่าวจดจ้องไปที่ร่างกายของนาง มันมีคำว่าตะวันดวงเล็กเพิ่มขึ้นมา
เมื่อตรวจสอบเพิ่มเติม เซวียนห่าวก็พบว่าตะวันดวงเล็กเป็นขั้นของกายาศักดิ์สิทธิ์ นั่นหมายความว่ากายาศักดิ์สิทธิ์สามารถยกระดับขั้นต่อไปได้ในอนาคตหรือไม่
มันไม่มีคำอธิบายเสริมใด ๆ และเซวียนห่าวเองก็ไม่รู้ว่าจะเพิ่มขั้นกายาศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร เนื่องจากเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับมันมาก่อน
“ท่านอาจารย์ มันได้ผลหรือไม่?” ชิงอี้นอนลงกับพื้นอย่างหมดแรงและถามเขา
“มันได้ผลดีมาก ชิงอี้ เจ้าปลุกกายาศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าสำเร็จแล้ว !” เมื่อเห็นใบหน้าที่เหนื่อยล้าของชิงอี้ เซวียนห่าวก็โยนความคิดที่จะยกระดับขั้นกายาศักดิ์สิทธิ์ของนางออกไปและมุ่งความสนใจไปที่นางแทน
“งั้นหรือ...” ชิงอี้หลับตาและหลับใหลไป
“…”
เซวียนห่าวมองลงมาที่ศิษย์ที่เปียกโชกไปด้วยเหงื่อของเขา นางหลับใหลภายใต้แสงดาว เซวียนห่าวก้มลงและอุ้มนางขึ้นก่อนจะเดินกลับไปที่ตำหนัก
“อย่างน้อยข้าก็มีคนรับใช้ในเวลาที่เหมาะสม...” เซวียนห่าวพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะก็ส่งชิงอี้ที่เปียกโชกไปด้วยเหงื่อให้กับจื่อหรัวที่มึนงง
เมื่อมองไปที่จื่อหรัวรีบกลับไปที่ห้องของชิงอี้ขณะที่อุ้มชิงอี้ไว้ในอ้อมแขนของนาง เซวียนห่าวก็ถอนหายใจกับเหตุการณ์นั้น
โลกของการบ่มเพาะนั้นช่างยอดเยี่ยมเสียจริง แม้แต่คนรับใช้สาวที่อ่อนแอก็ยังแข็งแกร่งพอที่จะแบกรับผู้ชายได้ นับประสาอะไรกับหญิงสาวตัวเล็ก ๆ อย่างชิงอี้...