ตอนที่แล้วระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 29 คนรับใช้เข้าตำหนัก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 31 ปลุกกายาศักดิ์สิทธิ์ตะวันเจิดจรัส

ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 30 เตรียมปลุกกายาศักดิ์สิทธิ์


เมื่อชิงอี้ฝึกฝนเสร็จนางออกจากสนามฝึกและกลับเข้าในตำหนัก ในขณะนี้ เซวียนห่าวก็ยังไม่กลับมา ชิงอี้ไม่ได้สนใจมากนักเพราะนางรู้แล้วว่าทำไมอาจารย์ของนางถึงจากไปเมื่อวานนี้

“หากข้าสามารถปลุกกายาศักดิ์สิทธิ์ของข้าได้อย่างที่อาจารย์กล่าว ข้าจะสามารถฝึกฝนได้เร็วขึ้นจริงหรือ?” ไม่ว่าเซวียนห่าวจะกล่าวอันใดกับนางก่อนหน้านี้ ชิงอี้ก็ยังไม่เชื่อว่านางมีกายาศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ หากนางไม่ได้เห็นมันด้วยตาของตน

นั่นคือกายาศักดิ์สิทธิ์ ! แม้จะอยู่นอกอาณาจักรนภาสวรรค์สิ่งนี้ก็หายากอย่างยิ่ง

ชิงอี้เคยได้ยินว่าในหมู่คนรุ่นเยาร์ของอาณาจักรนภาสวรรค์มีเพียงผู้เดียวที่มีกายาศักดิ์สิทธิ์ นั่นคือองค์รัชทายาทของราชวงศ์นภาสวรรค์ !

คนเช่นนั้นอยู่ในจุดเดียวกันกับนางจริง ๆ หรือ?

เสียงเคาะประตูปลุกชิงอี้ให้ตื่นขึ้นจากภวังค์และพานางกลับสู่โลกความเป็นจริง

“รอประเดี๋ยว” ชิงอี้ร้องเรียกด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย

นางไม่รู้ว่าใครจะกล้ามาถึงตำหนักของอาจารย์ในเวลาเช่นนี้ มิหนำซ้ำเขายังไม่กลับมาอีกด้วย

ชิงอี้รีบไปที่ประตูหน้าบานใหญ่ของตำหนัก นางค่อย ๆ เปิดออกและมองออกไปข้างนอก

ข้างนอกประตูปรากฏร่างของจื่อหรัว นางรออย่างกระวนกระวายและถือกระเป๋าไว้แน่น

“เจ้าคือใคร?” เมื่อได้ยินเสียงนี้ จื่อหรัวก็ตอบกลับและแนะนำตนเองทันที

“ข้าชื่อจื่อหรัว ข้าคือคนรับใช้ที่ส่งมาจากเรือนคนรับใช้เพื่อรับใช้ของศิษย์ผู้อาวุโส เซวียนห่าว !”

“รับใช้ข้าหรือ?” เสียงนี้ทำให้จื่อหรัวมองไปที่ต้นเสียงและเห็นสาวสวยอายุรุ่นราวคราวเดียวกับนาง

นี่คงเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสเซวียน เมื่อนึกได้เช่นนี้ ความชื่นชมก็เปล่งประกายออกมาจากดวงตาของนางขณะที่นางมองไปที่ชิงอี้

ชิงอี้รู้สึกสับสน นางผู้นี้อ้างตัวว่าจะมาเป็นคนรับใช้ของข้า?

จื่อหรัวมองไปที่ชิงอี้อย่างชื่นชม

ความรู้สึกเช่นนี้จากจื่อหรัวนั้นค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับชิงอี้เนื่องจากสายตาที่ตระกูลชิงและคนอื่น ๆ ในเมืองอาทิตย์สาดส่องล้วนเต็มไปด้วยความผิดหวัง

“ท่าอาจารย์เป็นคนขอหรือ?” เมื่อตระหนักว่านางไม่ได้ไปที่เรือนคนรับใช้เพื่อขอคนรับใช้แต่อย่างใด ชิงอี้คิดว่าอาจารย์ของนางเป็นคนทสิ่งนั้น

“ผู้อาวุโสเซวียนไปที่ที่พักเรือนคนรับใช้เมื่อวานนี้และขอคนรับใช้สำหรับศิษย์ใหม่ของเขา !” จื่อหรัวตอบอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่พลาดจังหวะ

“ข้าเข้าใจแล้ว… งั้นเราไปหาที่พักกันเถอะ ตอนนี้ห้องส่วนใหญ่ยังคงว่างอยู่เพราะมีแค่ข้ากับอาจารย์เพียงเท่านั้นที่อยู่ในตำหนักนี้” ชงอี้มองย้อนกลับไปยังตำหนักหลังใหญ่ที่ยังว่างเปล่า นางรู้สึกมีความสุขเล็กน้อยเมื่อรู้ว่านางไม่ต้องอยู่ที่นั่นคนเดียวอีกต่อไป

เมื่ออาจารย์ทิ้งนางไว้ตามลำพัง ชิงอี้ก็รู้สึกเหงามากที่ต้องอยู่ในตำหนักหลังใหญ่นี้เพียงลำพัง

การมาถึงของจื่อหรัวจะช่วยแก้ปัญหานั้นได้ ดังนั้นแม้ว่าอาจารย์จะออกไปซื้อของอีกครั้ง อย่างน้อยนางก็จะไม่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวอีกต่อไป

จื่อหรัวลากกระเป๋าของนางอย่างเงียบ ๆ นางเดินตามชิงอี้ลึกเข้าไปในตำหนักและในไม่ช้าทั้งสองก็มาถึงห้องที่ว่างเปล่า

“เจ้าอยู่ในห้องนี้ไปก่อน แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่” เมื่อชิงอี้หยุดอยู่หน้าทางเข้าห้องใหม่ของจือหรัว นางถามด้วยความสงสัย

“จากที่ข้ารู้ ข้าควรจะติดตามท่านและช่วยเหลือทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้ ทำความสะอาดตำหนัก, รินชาหรือทำขนมให้ท่านเมื่อยามจำเป็น...”

“งั้นเจ้าก็ตามข้าไปที่โรงอาหาร ข้าและเพื่อของข้ากำลังจะไปทานอาหารที่นั่น เต้าทิ้งกระเป๋าไว้ที่นี่ก่อนแล้วค่อยจัดของทีหลัง”

“เจ้าค่ะ...” จื่อหรัววางกระเป๋าของนางอย่างกระวนกระวายในห้องนอนใหม่ของนางและรีบเดินตามหลังชิงอี้ไป

วันที่เหลือชิงอี้และจื่อหรัวออกไปข้างนอกด้วยกันกับเจิ้งซื่อฮั่น

ในที่สุดสามสาวก็สนิทกันมากขึ้นหลังจากใช้เวลาด้วยกันทั้งวัน

เซวียนห่าวได้เฝ้าดูปฏิสัมพันธ์ระหว่างชิงอี้และจื่อหรัว เขาเฝ้าดูชิงอี้ที่เดินไปโรงอาหารโดยมีจื่อหรัวตามมาติด ๆ

ในขณะที่มีโอกาส เซวียนห่าวจึงใช้ระบบของเขาเพื่อตรวจสอบค่าพรสวรรค์ของจื่อหรัว

“ค่าพรสวรรค์ 3” แม้จะเป็นค่าพรสวรรค์ที่ธรรมดาแต่มันก็ยังคงห่างไกลหากนางจะเข้านิกายกระบี่ล่องนภา “ข้าคาดหวังอันใดกับคนรับใช้กัน...”

เมื่อมองเข้าไปใกล้เพื่อดูว่าเขาพลาดอะไรไปหรือไม่ เซวียนห่าวก็เห็นว่านางมีร่างกายปกติเช่นกัน ไม่มีอะไรผิดปกติ นางเป็นเพียงคนรับใช้ธรรมดาเท่านั้น

แต่ถึงอย่างนั้นเซวียนห่าวก็ไม่สามารถสั่นคลอนความรู้สึกที่ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องออกไปได้

ตอนนี้มันไม่สำคัญ ดังนั้นเซวียนห่าวจึงตัดสินใจโยนความสงสัยของเขาทิ้งไปชั่วขณะ

เซวียนห่าวกลับเข้าไปในห้องของเขาในตำหนักและนำหญ้าหัวใจอเวจีออกมา

การเตรียมหญ้าหัวใจอเวจีสำหรับใช้งานนั้นง่ายมาก สิ่งที่เขาต้องทำคือการผสมมันกับน้ำเพื่อเจือจาง

ด้วยวิธีนี้ ผู้ที่อยู่ขอบเขตควบแน่นแก่นแท้จึงจะสามารถใช้มันได้โดยปราศจากภัยพลังปราณธาตุไฟจำนวนมากภายในหญ้าหัวใจอเวจี

หากนักปรุงโอสถคนใดเห็นว่าเขาทำลายประสิทธิภาพทางการแพทย์ของสมุนไพรวิญญาณระดับสูงสุดเช่นนี้ พวกเขาย่อมอยากฆ่าเซวียนห่าวให้ตายด้วยน้ำมือของตน

นิกายเพลิงโหมกระหน่ำอาจต้องโกรธเกรี้ยวมากยิ่งขึ้นหากพวกเขาเห็นหญ้าหัวใจอเวจีที่สามารถช่วยให้พวกเขาก้าวหน้าได้ต้องสูญเปล่าเพราะเซวียนห่าว

5 3 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด