บทที่ 171: นี่คือบ้านของเรา
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นว่าลูก ๆ มีความสุขเพียงใด เธอก็เผยรอยยิ้มอบอุ่น “แม่จะไปปูเตียงที่ห้องอื่นก่อนนะ”
เด็กตระกูลหลงทั้ง 5 คนพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
ทันทีที่แม่จิ้งจอกกับพ่อมังกรเดินออกไป หลงเหยาก็ตีมือของหลงจงดังเพี้ยะ!
“พี่สาม อย่าแตะต้องมันนะ ไหนท่านบอกไม่สนใจไง แล้วท่านแม่ก็ยกมันให้เสี่ยวเหยาแล้ว”
เจ้าตัวเล็กพูดกับพี่ชายด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
“ข้าแค่ทำไปเพื่อให้เจ้ารู้สึกสบายใจเท่านั้นแหละ” หลงจงทำหน้าลำบากใจแล้วพูดแก้ตัว
“โอ้~ พี่สาม ถ้างั้นท่านก็อย่าแตะมันอีกล่ะ” หลงเหยากระดกก้นพลางไล่ให้ผู้เป็นพี่ออกไป
หลงจงสะบัดหน้าไปทางอื่นอย่างไม่สบอารมณ์ “เฮอะ! ไม่แตะก็ไม่แตะ ใครจะสนใจกัน...”
“พี่ใหญ่ พี่รองมาลองสัมผัสด้วยกันสิ เตียงนี้นุ่มจริง ๆ!” หลงหลิงเอ๋อยังคงมีท่าทางตื่นเต้น นางเดินไปจับมือหลงเซียวและประคองให้เขานั่งบนเตียง
เด็กหนุ่มผู้มองไม่เห็นถูกน้องสาวดันให้นั่งลง ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจ
สิ่งที่นุ่มที่สุดที่เขากับพี่น้องเคยนอนคือหนังสัตว์ที่ปูทับหญ้าแห้ง พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะมีอะไรสบายไปกว่าการนอนบนหนังสัตว์อยู่ในโลกนี้
ส่วนหลงอวี้ยังมีสีหน้าเคร่งขรึมไม่เปลี่ยนแปลง เขาส่ายหัวพลางพูดอย่างใจเย็น “พวกเจ้าลองเถอะ”
เขาคิดว่าตนเองเลยวัยที่ต้องมาทำอะไรแบบเด็กน้อยแล้ว
“เด็ก ๆ เตียงของพวกเจ้าจัดเสร็จแล้ว”
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงของหูเจียวเจียวก็ดังมาจากนอกประตู
เหล่าเด็กตระกูลหลงพากันวิ่งกรูไปที่ห้องของตัวเอง ในขณะที่หลงอวี้ทำเพียงเดินตามหลังมาเรื่อย ๆ
ทว่าทันทีที่คนเป็นพี่ใหญ่เข้าไปในห้องของตน เขาก็แทบรอไม่ไหวที่จะปีนขึ้นไปบนเตียง แล้วกลิ้งไปมาด้วยใบหน้าที่พึงพอใจ ซึ่งภาพนั้นแตกต่างจากหลงอวี้ที่แสร้งทำเป็นผู้ใหญ่เกินวัยโดยสิ้นเชิง
“ข้าทำตัวหน่อมแน้มไร้เดียงสาบ้างก็ไม่เป็นไรหรอก ถึงยังไงข้าก็ยังเป็นเด็ก”
หนุ่มน้อยพึมพำกับตัวเอง
อีกด้านหนึ่ง
หลังจากที่หูเจียวเจียวจัดเตียงของลูกทั้ง 5 เสร็จ เธอกำลังจะไปจัดห้องของตัวเองให้เรียบร้อย แต่เมื่อหญิงสาวกลับไปที่ห้อง เธอก็พบว่าเตียงในห้องนอนของเธอถูกปูเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยที่มันเรียบตึง ไม่มีรอยยับแม้แต่นิดเดียว
สิ่งของที่เคยอยู่ในกระท่อมทั้งหมดก็ถูกจัดวางไว้ในห้องอย่างเป็นระเบียบ
ก่อนหน้านี้จิ้งจอกสาวใช้กล่องใหญ่ 2 กล่องและกล่องเล็ก 1 กล่องเพื่อเก็บของใช้ส่วนตัวรวมถึงของใช้สำคัญ
“เจ้าย้ายของพวกนี้มาที่นี่เองหรือ?” หูเจียวเจียวมองหลงโม่ด้วยความประหลาดใจ
เธอใช้เวลาไปกับการปูที่นอนให้ลูก ๆ เท่านั้น ด้วยเวลาแค่นี้ เขาย้ายบ้านจนเสร็จเลยหรือ?
มังกรหนุ่มส่งเสียง “อืม” ในลำคอ ก่อนจะวางเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนของตัวเองลงบนพื้นตรงมุมห้อง
จิ้งจอกสาวที่เห็นการกระทำของชายหนุ่มก็ผงะอีกครั้ง “ทำไมเจ้าถึงวางเสื้อผ้าของเจ้าลงบนพื้น?”
“ทั้งหมดนี้เป็นของเจ้า” หลงโม่ทำหน้าเคร่งขรึมขณะมองไปที่เครื่องเรือนต่าง ๆ ในห้อง และตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ภูตชายไม่สามารถยุ่งกับของของคู่ครองได้ มิฉะนั้นนางจะโกรธเขา
เมื่อไม่นานมานี้ มังกรหนุ่มได้สังเกตพวกภูตชายในเผ่าอย่างตั้งใจเพื่อเรียนรู้วิธีการเป็นคู่ครองที่ดี
ทว่าหูเจียวเจียวกลับเดินไปหยิบเสื้อผ้าของเขามายัดใส่ตู้เสื้อผ้า
“นี่ไม่ใช่ของข้า แต่เป็นของเรา” หญิงสาวแก้ไขความเข้าใจของอีกฝ่าย
ถ้าใครไม่รู้มาเห็นเข้าก็คงคิดว่าเธอกำลังข่มเหงคู่ของตัวเอง!
“ของเรา...” ดวงตาของหลงโม่เป็นประกาย และเขาทวนคำพูดของเธอซ้ำด้วยเสียงแผ่วเบา
“แน่นอน เราเป็นคู่ครองกัน และนี่คือบ้านของเรา” จิ้งจอกสาวพูดพลางเหลือบมองเสื้อผ้าโทรม ๆ ของอีกฝ่าย แล้วกระแอมเสียงเบา “อะแฮ่ม… ในอีก 2 วัน ถ้าข้ามีเวลาว่าง ข้าจะทำเสื้อผ้าใหม่ให้เจ้า”
แม้ว่าพวกภูตจะไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้มากนัก แต่มังกรหนุ่มก็ยุ่งอยู่กับการทำงานทุกวัน สิ่งเดียวที่เขามีคือเสื้อผ้าที่เอาไว้เปลี่ยนเท่านั้น ซึ่งมันโทรมเกินกว่าจะบรรยายได้
เมื่อหลงโม่ได้ยินเกี่ยวกับการตัดเย็บเสื้อผ้า ประกายแสงก็สว่างวาบขึ้นในดวงตาที่ลึกล้ำของเขา
แต่ชายหนุ่มยังคงส่ายหน้าปฏิเสธ “เสื้อผ้าข้ามีพอแล้ว”
“ตกลงตามนี้แหละ” หูเจียวเจียวไม่เปิดโอกาสให้เขาโต้แย้ง “ยังมีของในครัวและอาหารที่ยังไม่ได้นำมาที่นี่ ข้าจะไปย้ายของเข้าห้องเก็บของก่อน”
“ข้าจะไปย้ายเอง”
ร่างสูงพูดจบแล้วก็เดินผ่านหญิงสาวไปเพื่อจัดการงานที่เหลือทั้งหมดอย่างแข็งขัน
จากนั้นหูเจียวเจียวเดินตามหลังเขาพร้อมกับพึมพำเสียงแผ่วเบา “พรุ่งนี้ข้าต้องเริ่มเก็บฟืนมาทำถ่าน มิฉะนั้นเราจะไม่มีถ่านใช้ในฤดูหนาว”
“พรุ่งนี้ข้าจะไปเก็บเอง” หลงโม่ตอบตกลงโดยไม่ต้องคิด
ยามนี้คำพูดและการกระทำของมังกรหนุ่มทำให้จิ้งจอกสาวอดคิดไม่ได้ว่า ไม่ว่าตนเองจะต้องการอะไร ผู้ชายคนนี้ก็จะทำให้มันเป็นจริงในบัดดล
ทันทีที่ทั้งคู่เดินออกไปข้างนอกบ้านหิน พวกเขาก็เห็นถ่านกองอยู่ที่ประตู
“น้องเล็ก เจ้าอยู่นี่เอง” เมื่อหูชิงเกาเห็นทั้ง 2 คน เขาก็โบกมือทักทายอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม “ดูสิว่าพี่รองนำอะไรมาให้เจ้า”
หูเจียวเจียวเห็นเพียงชายผิวดำคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านหลังกองถ่าน แล้วยังมีรอยเปื้อนสีดำทั่วใบหน้า ถ้าเธอไม่ได้ยินเสียงเขา เธอคงแทบจำไม่ได้ว่านั่นคือพี่ชายคนรอง
“พี่รอง ทำไมท่านถึงมีสภาพแบบนั้น?” หญิงสาวถึงกับปั้นสีหน้าไม่ถูกกันเลยทีเดียว
หูชิงเกาเช็ดใบหน้าของตัวเองด้วยมือที่เพิ่งจับถ่านมา ทำให้ใบหน้าของเขายิ่งดำมากกว่าเดิม
จิ้งจอกหนุ่มยิ้มพร้อมเผยให้เห็นฟันขาวเกลี้ยงเกลาเต็มปาก แล้วพูดด้วยรอยยิ้มจริงใจ
“ไม่เป็นไร พี่รองคนนี้เตรียมถ่านไว้ให้เจ้าในฤดูหนาวแล้ว และพี่กับพี่น้องคนอื่นช่วยกันขนถ่านมาให้เจ้าในวันนี้”
ทันทีที่ชายหนุ่มพูดจบ ก้อนถ่าน 3 ก้อนก็ลอยออกมาจากด้านหลังถ่าน... ไม่สิ นั่นมันพี่ชายอีก 3 คนของเธอ!
บัดนี้พี่ชายทั้ง 4 ตัวดำไม่ต่างจากถ่านเลยสักคน…
ผู้เป็นน้องสาวมุมปากกระตุกอย่างห้ามเอาไว้ไม่ได้ พวกเขาเข้าไปเกลือกกลิ้งอยู่ในกองถ่านหรือว่าใช้ถ่านอาบน้ำมาล่ะเนี่ย?
“น้องเล็ก จะให้เราเอาถ่านพวกนี้ไปเก็บไว้ที่ไหน เราจะช่วยเจ้าขนเข้าไป!” หูชิงซานตะโกนถามมาจากข้างหลัง
หูเจียวเจียวจึงรีบพาพวกเขาไปที่โกดังเก็บของ
ส่วนจิ้งจอกหนุ่ม 4 คนรีบขนถ่านเข้าไปในโกดังทันทีพร้อมกับฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี
หลังจากนั้นไม่นาน โกดังแห่งหนึ่งก็เต็มไปด้วยถ่าน
“พี่รอง ทำไมท่านมีถ่านเยอะขนาดนี้?”
จิ้งจอกสาวตกตะลึงขณะมองไปที่ถ่านในโกดัง
หนาวนี้เธอคงไม่ต้องกังวลเรื่องถ่านอีกแล้ว!
“ท่านผู้เฒ่าไม่ได้บอกหรือว่าจะให้ความสำคัญกับเจ้าก่อนคนอื่น ก็เลยมีเตาเผาอันหนึ่งที่เป็นของเจ้าโดยเฉพาะ” หูชิงเกาอธิบายแบบภาคภูมิใจ
ในขณะที่ภูตคนอื่นต้องต่อแถวเพื่อทำถ่าน แต่น้องสาวตัวน้อยของเขาไม่ต้องต่อแถวรอ!
หูเจียวเจียวที่ได้ยินเช่นนั้นรู้สึกพูดไม่ออกทันที
นี่คือสิทธิพิเศษที่อยู่เหนือใครอื่น…
หลังจากที่พี่น้องจิ้งจอกย้ายถ่านเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลงโม่ก็นำของที่เหลือมา
บ้านหินสร้างเสร็จในตอนเช้า และแม้กระทั่งการทำความสะอาดรวมถึงขนย้ายของเข้าบ้านก็เสร็จภายในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน
จิ้งจอกสาวรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังฝันอยู่
เมื่อทำงานประจำวันเสร็จ หูเจียวเจียวก็บอกให้เด็กตระกูลหลงทั้ง 4 คนไปล้างไม้ล้างมือ และขอให้หลงอวี้ออกไปเรียกหูหมินกับหูเฉียงมาที่บ้านหิน ส่วนเธอวางแผนว่าจะไปยังห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารไว้เลี้ยงทุกคน
แต่เธอไม่คาดคิดว่าขณะที่หลงอวี้กำลังจะออกจากบ้านไป พ่อแม่จิ้งจอกก็มาถึงที่นี่พอดี
“ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านมาแล้วหรือ” หูเจียวเจียวออกไปต้อนรับผู้อาวุโสทั้ง 2 ด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์
ยามนี้หูเฉียงกำลังแบกหมูป่าไว้บนบ่า และในมือของเขามีถุงหนังสัตว์ขนาดใหญ่ 2 ถุงซึ่งใส่ของเต็มจนแทบล้น แต่เธอไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้น
ปัจจุบันคอของหมูป่ายังคงมีเลือดไหลอยู่ ดังนั้นพ่อจิ้งจอกจึงไม่ได้เข้าไปในประตู เขาขนหมูป่าเดินออกไปด้านนอก ก่อนจะวางมันกระแทกพื้นเสียงดังโครมคราม
ตามด้วยถุงหนังสัตว์ทั้ง 2 ใบถูกวางลงข้างหมูป่า จากนั้นหูเฉียงปัดมือ ยืดเส้นยืดสายแล้วพูดกับลูกสาวว่า
“เจียวเจียว พ่อไม่มีอะไรจะให้เจ้ามากนัก เหยื่อและผลไม้นี้เอาไว้ให้เจ้ากับลูก ๆ กิน”
2 วันที่ผ่านมา ชายวัยกลางคนออกไปล่าสัตว์ตั้งแต่เช้าตรู่พร้อมกับเก็บผลไม้ในป่า ดังนั้นของพวกนี้จึงสดมาก
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าแค่อยากให้พวกท่านมากินข้าวเย็นด้วยกันที่นี่ ทำไมท่านถึงเอาอาหารมามากมายขนาดนี้?” หูเจียวเจียวที่ได้เห็นของฝากจากผู้เป็นพ่อแม่ถึงกับทำอะไรไม่ถูก
เหยื่อนี้เพียงพอให้พวกเขา 2 คนกินได้ 2-3 วันเลยทีเดียว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ทุก ๆ ครั้งที่ผู้อาวุโสทั้ง 2 มาเยี่ยมเธอ อีกฝ่ายจะนำอาหารมาให้มากมายโดยหวังจะเลี้ยงดูเธอเหมือนลูกที่ยังไม่โต
“เจียวเจียว พ่อของเจ้ายังไม่แก่ เขาล่าสัตว์ได้ และนอกจากนี้ ใครจะกินเหยื่อที่เขาจับได้หมดถ้าไม่แบ่งมาให้เจ้า” หูหมินพูดพลางจับมือหูเจียวเจียวด้วยความรักใคร่
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: เอ็นดูหลงอวี้ ต่อหน้าคนอื่นต้องทำเป็นเข้มแข็ง เป็นพี่ใหญ่ที่คอยปกป้องน้อง ๆ ทั้งที่น้องก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง