ตอนที่ 1076 หญิงงามนั้นเป็นเหตุ.. เป็นบ่อเกิดแห่งหายนะ!(2)

ภายในคอนโดมิเนียมหรูมูลค่าหลายร้อยล้าน หัว อี้อู่ เองได้แต่งตัวสบายๆ หนวดเครารุงรังนอนอยู่บนโซฟา เขาได้นอนจ้องมองเพดานด้วยสายตาว่างเปล่าอยู่คนเดียว รูปร่างหน้าตารวมถึงท่าทางของเขา ที่ไหนจะยังดูเหมือนดาราดังได้อีก ตัวเขาเองกลับดูเหมือนโอตาคุที่ดูมีสภาพเสื่อมโทรมมากกว่า..

เขาได้อยู่ในสภาพแบบนี้ มากว่าครึ่งเดือนแล้ว..

คุณแม่หัว ที่ได้เดินเข้ามาจากข้างนอก แต่พอได้มาเห็นลูกชายหน้าตาแบบนี้ เธอก็ได้มีสีหน้าปวดใจขึ้นมาทันที

เธอรู้ว่าลูกชายของเธอทําผิด และแม้กระทั่งทําสิ่งที่ผิดกฎหมายลงไป เขาเองไม่สมควรเรียนรู้เรื่องไม่ดีพวกนี้มาจากกลุ่มเพื่อนของเขา ทั้งตัวเขาเองก็ย่อมที่จะต้องรู้ด้วยซ้ำว่าการทําเรื่องแบบนั้นลงไปมันคือสิ่งที่ไม่สมควรมาก.. แต่ถึงอย่างไร เขาเองก็เป็นลูกชายที่เธอรัก และเธอเองก็ได้ให้อภัยลูกชายของเธอแล้ว และได้ให้อภัยลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอแทนเด็กผู้หญิงที่ได้ตกเป็นเหยื่อเหล่านั้นแล้ว

ลูกชายสุดที่รักของเธอ เป็นดาราดัง.. แล้วลองดูเมื่อก่อนเขาโด่งดังขนาดไหน!

แต่เดิม.. เขามีชีวิตที่สดใส และมีอนาคตที่สดใส แต่มาตอนนี้ ..เขากลับตกต่ำลง และกลายมาเป็นคนที่ทุกคนรังเกียจ

ผู้หญิงเหล่านั้นที่ตกเป็นเหยื่อ.. พวกเธอมันก็แค่สูญเสียร่างกาย แต่ดูลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของฉัน เขาได้สูญเสียออร่าดาราที่พร่างพราวไป…

ดูสิว่า.. ลูกชายสุดที่รักของเธอ ตอนนี้ ..เป็นอย่างไร เขาดูเหงา และดูโดดเดี่ยวมาก แค่เธอเห็น.. เธอก็รู้สึกปวดใจมากแล้ว!

เธอไม่สามารถทนมองดูลูกชายของเธอตกต่ำลงไปแบบนี้ได้

“ลูกรัก อย่าเอาแต่อยู่ในบ้านทั้งวันแบบนี้สิ เราออกไปทํากิจกรรม และออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกบ้าง..” คุณแม่หัว ได้กล่าว

หัว อี้อู่ เอาแต่จ้องมองเพดานด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่มีการส่งเสียงใดๆ และดูไม่ได้สนใจ คุณแม่หัว มันราวกับว่าเขาไม่ได้สังเกตเห็นเธอเลย…

คุณแม่หัว ได้ถอนหายใจ และได้เดินเข้ามานั่งลงตรงข้ามกับ หัว อี้อู่ แล้วพูดว่า : “แม่ได้จองตั๋วเครื่องบินให้ลูกแล้ว หลักจากนี้อีกสามวัน ลูกจะได้กลับไปอเมริกา”

จากนั้น หัว อี้อู่ ก็ดูมีปฏิกิริยา เขาได้หันศีรษะมาหาเธอ แล้วพูดว่า : “ทำไมต้องกลับไปอเมริกา?”

คุณแม่หัว พูดว่า : “ลูกลองดูสถานการณ์ปัจจุบันของลูกที่จีนสิ ไปที่ไหนก็มีแต่คนหัวเราะเยาะ.. แล้วทำไมลูกถึงได้ยังอยากอยู่ที่นี่? กลับไปอเมริกาดีกว่า ยังไงเราก็มาจากอเมริกา และเราก็ควรที่จะกลับประเทศเราได้แล้ว ถือซะว่าเป็นการหลบซ่อนตัวก็ได้ ต่อไปพอเวลาเหมาะสม เราก็ค่อยกลับมาที่นี่”

สัญชาติของ หัว อี้อู่ ไม่ใช่หัวเซี่ย และนี่ก็ไม่ใช่ความลับอะไร โดยพื้นฐานแล้ว ทุกคนก็รู้ว่าเขาเป็นคนสัญชาติอเมริกันมาตั้งแต่เด็ก เขาเคยเรียนที่สหรัฐอเมริกามาก่อน แต่เขาก็ไม่น่าจะเป็นดาราในสหรัฐอเมริกาได้ โดยเฉพาะการเป็นดารายอดนิยม อย่างไรเสีย.. เขาก็ไม่มีความสามารถทั้งคนอเมริกันก็ไม่ได้ชอบหน้าคนเอเชียอย่างเขา

เขาเองไม่สามารถอยู่ในสหรัฐอเมริกาได้ และจากนั้นเขาก็ได้มาที่ หัวเซี่ย และเขาก็ได้โด่งดังขึ้นมาในทันที เขามีความสุขมาก และการได้มาอยู่ที่ หัวเซี่ย มันก็ทำให้เขาดีขึ้น ทั้งเขาเองก็มีความสุข ทั้งดีใจที่มีคนชอบใบหน้าของเขา เมื่อนั้นเขาจึงได้ตัดสินใจอยู่ในหัวเซี่ย และได้เข้าไปอยู่ภายใต้การสนับสนุนของ เชอร์รี่ เอนเตอร์เทนเมนท์ และเพียงไม่นาน เขาก็ได้กลายมาเป็นดารายอดนิยมในระดับชั้นนำในประเทศจีน

แล้วการเป็นดารายอดนิยม.. มันหมายความว่าอย่างไร แน่นอนว่ามันก็ต้องหมายถึง เงินจำนวนมาก

เขาอยู่ในอเมริกา เขาไม่สามารถทําเงินได้มากมายขนาดนี้เลย และยิ่งไม่สามารถอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมหรูมูลค่าร้อยล้านเช่นนี้ได้..

อย่างไรก็ตามในหัวเซี่ย เขาได้บรรลุความฝันที่แสนจะมั่งคั่งนี้ และตอนนี้เขาก็ได้มีมูลค่าสุทธิอย่างน้อยก็มากกว่าหนึ่งพันล้าน! แล้วเช่นนี้ใครจะไปมีปัญหาเรื่องเงิน? และเช่นนี้ ใครมีน้ำนมก็เป็นแม่!(1)

ตั้งแต่นั้นมาเขาก็มีความสุขมาก และไม่อยากกลับไปอเมริกาอีกแล้ว

และมันก็มีมากกว่าหนึ่งครั้ง ที่เขาได้แสดงความรักต่อหัวเซี่ย และเขาก็ได้ถือว่าตัวเองเป็นคนหัวเซี่ยแล้ว และนั่นยิ่งทำให้เขาได้ภูมิใจที่ได้เป็นคนหัวเซี่ย.. แฟนคลับของเขาก็ยิ่งชื่นชมเขาว่า เขาได้รักชาติของตัวเองมาก..

ความรักชาติ คืออะไร? แต่เขาไม่ใช่คนที่มีสัญชาติหัวเซี่ย แล้วการพูดว่า “รักชาติ” นี้.. มันก็ทำให้มันฟังดูแปลกๆ

และเมื่อนั้น ก็ได้มีคนถามเขาว่า ในเมื่อเขารัก ‘หัวเซี่ย’ ขนาดนี้ ทําไมถึงไม่ถอนสัญชาติอเมริกัน และย้ายเข้าสู่สัญชาติจีนล่ะ

เมื่อใดก็ตามที่มีคนพูดถึงหัวข้อนี้ หัว อี้อู่ ก็ได้อ้ำๆ อึ้งๆ เขาดูลังเลที่จะพูดถึง แต่หากจะให้พูดมันก็ดูออกจะไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม.. เขาเองก็ไม่ได้เปลี่ยนสัญชาติ

ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยังลังเลที่จะเปลี่ยนสัญชาติอเมริกัน และเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนสัญชาติของเขา เขาได้แต่บอกรักหัวเซี่ย ด้วยวาจา.. และทำการหาเงิน ตัดกุยช่ายจากหญิงสาวที่พิการทางสมอง ..ในประเทศจีนต่อไป

คุณแม่หัว กล่าวว่า : “มันก็อย่างที่แม่พูด และก็โชคดีมากที่ลูกไม่ได้ฟังการยุยงของคนเหล่านั้นให้เปลี่ยนสัญชาติ พอมาตอนนี้มันได้เกิดเรื่องแล้ว และลูกก็แค่กลับไปอเมริกา อเมริกาเป็นประเทศที่กว้างใหญ่ พอลูกกลับไปก็จะไม่มีใครพูดอะไรเกี่ยวกับลูกได้ ทั้งลูกเองก็ไม่ได้มีชื่อเสียงขนาดนั้นที่นั่น ทั้งไม่มีสิ่งใดมารบกวน เดี๋ยวพอข่าวลือนี้ผ่านไป ก็ค่อยกลับมาทำเงินที่นี่ต่อก็ได้”

หัว อี้อู่ พอได้ยินเช่นนี้ เขาก็ได้เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา.. จริงๆ แล้วตอนนี้เขาไม่กล้าเล่นอินเทอร์เน็ต เพราะพอเข้าไปในโลกออนไลน์ ในโลกออนไลน์มันก็จะเต็มไปด้วยข่าวเชิงลบของเขา ชาวเน็ตเองต่างก็ได้ด่าเขา และดูถูกเขา และนั่นมันก็ยิ่งทำให้เขาอับอาย

สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกอับอายมากมันยังไงนะเหรอ?, ก็ตอนนี้ใครๆ ก็ไม่ได้เรียกเขาว่า หัว อี้อู่ อีกแล้ว แต่ละคนต่างก็ได้เรียกเขาว่า หัวเจิน (หัวเข็ม) บรรยายว่าเขามีขนาดใหญ่เท่าเข็ม!

ทั้งหมดมันเป็นความผิดของบทความที่ยาวเหยียดพันคําของ ไอ้นังผู้หญิงแซ่ชื่อ ที่ได้ตั้งชื่อนี้ให้กับเขา และมันก็ได้ทำให้เขาโกรธมาก

นักเขียนคนนี้.. มันสามารถฆ่าคนด้วยมีดพันเล่ม!

แน่นอนว่า หัว อี้อู่ คงไม่เคยคิดฝันเลยว่านักเขียนคนนั้น เป็น หลินฟาน ที่เป็นคนหามา…

“โอเค งั้นผมก็จะกลับไปอเมริกาก่อน ..ก็ได้ ผมเองจะถือว่ามันเป็นการกลับไปพักผ่อน” หัว อี้อู่ ได้ตอบตกลงแล้ว

คุณแม่หัว ก็ได้ดูมีความสุขมาก : “งั้นก็ตกลงตามนี้ เก็บข้าวของกันก่อนเถอะ แล้วเราก็จะกลับประเทศพร้อมกัน อีกอย่างเราก็จะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ตอนนี้สภาพแวดล้อมที่นี่น่ารังเกียจ น่าขยะแขยงเกินไป พวกเขาด่าลูกแบบนี้ คนพวกนี้รู้จักลูกจริงๆ สักคนบ้างไหม แล้วพวกเขามาเกี่ยวอะไรด้วย? ลูกเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของแม่ ทั้งลูกก็ยังเป็นดาราดังที่พร่างพราว พวกเขาก็แค่อิจฉาในความยอดเยี่ยมของลูกก็เท่านั้น จึงได้ดุด่าว่าลูกแบบนี้ ทั้งยังต้องการที่จะทําลายลูก เราไปกันเถอะ อย่าไปอยู่ดูเล่นกับพวกเขา!”

หัว อี้อู่ ได้ซาบซึ้งจนขอบตาแดงก่ำไปหมด : “แม่ครับ แม่ดีกับผมมากเลย..”

คุณแม่หัว กล่าวว่า : “แน่นอน แม่มีลูกชายของแม่เพียงแค่คนเดียว แล้วแบบนี้จะให้แม่ไปดีกับใครล่ะ? พอได้แล้ว ตั้งสตินะ นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ตอนนี้เรามีเงิน เรากลับไปใช้ชีวิตที่อเมริกาก็มีความสุขได้ หากเรื่องใหญ่ขึ้นมา เราเองก็คงตัดสินใจที่จะไม่กลับมาจีน อย่างน้อยๆ ตอนนี้เราก็แค่รอดูสถานการณ์ไปก่อน หากผ่านไปปีสองปี ถ้าดูแล้วไม่ไหวจริงๆ ถึงตอนนั้นเราก็ค่อยคิดเรื่องเกี่ยวกับทางนี้ แต่หากว่าพวกเขาได้หลงลืมไปจริงๆ แม่เองก็เชื่อว่าสิ่งที่เราสูญเสียไปในตอนนี้ ทุกอย่างมันก็ยังจะสามารถนำกลับมาได้!”

หัว อี้อู่ กล่าวว่า : “อืมม.. ครับ จริงๆ แล้วผมเองก็ไม่ได้อาลัยอาวรณ์เกี่ยวกับทางนี้แล้ว ถ้าหากให้บอกว่ายังมีความอาลัยอาวรณ์อะไร มันก็คงเป็นตลาดของทางนี้ เฮ้ออ.. การจากไปครั้งนี้ ผมเองคงจะทำเงินได้มากน้อยลงไปเท่าไหร่กัน!”

เมื่อพูดถึงเรื่องเงิน คุณแม่หัว ก็รู้สึกจุกอยู่ในอกเช่นกัน เธอเองอดไม่ได้จริงๆ จึงได้ตะโกนด่า ผู้หญิงแซ่ชื่อ ออกไปว่า : “ถ้าจะให้โทษเรื่องนี้มันก็เป็นความผิดของ อีนางแซ่ชื่อตัวน้อยนั่น! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เราก็คงไม่ตกมาอยู่ในสภาพนี้ มีเหตุผลอะไร อีนางแซ่ชื่อคนนี้ ถึงได้มาตัดเส้นทางการเงินของเรา ทั้งมีคำพูดที่ว่า การตัดเส้นทางการเงินของคนก็เท่ากับเป็นการทำร้ายชีวิตคนอื่น อียัยตัวน้อยนี่ มันคิดทําร้ายเราให้ตกไปอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช แม่เองแทบรอไม่ไหวแล้วที่ใช้มือฉีกกระชากมันออกเป็นชิ้นๆ!”

หัว อี้อู่ กัดฟัน แล้วพูดว่า : “ผมไม่เคยคิดฝันเลยว่า ไอ้ยัยตัวแสบคนนี้มันจะมีความสามารถมากขนาดนี้ หากรู้ก่อนหน้านี้ละก็.. ผมจะไม่คิดเข้าไปยุ่งกับเธอตั้งแต่แรกแล้ว! ว่ากันว่า หญิงงามนั้นเป็นเหตุ.. เป็นบ่อเกิดแห่งหายนะ!(2) และเธอมันก็เป็นหายนะจริงๆ!”

คุณแม่หัว พูดว่า : “อย่าได้พูดถึงเธอเลย พูดแล้วแม่เองก็อดไม่ได้ที่จะโกรธ เธอมันนับเป็นอะไรได้ เธอสามารถทำให้ลูกชายสุดที่รักของฉันไปมีสัมพันธ์กับเธอได้ เธอเองก็ควรมีความสุข แต่กลับไม่รู้จักสำนึกขอบคุณเลยสักนิด!”

หัว อี้อู่ กล่าวว่า : “พอเถอะครับ อย่าไปพูดถึงเธอเลย”

ทั้งสองที่กําลังพูดคุยกันอยู่นั้น จู่ๆ ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้น

คุณแม่หัว ที่ได้เห็น ..เธอก็ได้ตกใจ ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่ามันจะเป็นสายจากทางตำรวจ

เกิดอะไรขึ้น ทำไม จู่ๆ ตำรวจถึงได้โทรเข้ามา?

หัว อี้อู่ เองก็ได้ตกใจ จนมีสีหน้าเปลี่ยนไป..

คุณแม่หัว เองก็ได้รีบกดรับโทรศัพท์อย่างกระวนกระวายใจทันที

“สวัสดี ทางเราได้โทรมาจาก สภ.หางโจว เราได้โทรมาแจ้งขอให้ คุณหัว อี้อู่ เดินทางเข้ามาให้ปากคำที่ สภ. ในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ โปรดมาให้ตรงเวลาครับ” ทางตำรวจ ได้กล่าวออกมา

หมายเรียก!

“เรื่องอะไรกัน?” คุณแม่หัว ได้มองไปที่ หัว อี้อู่ ด้วยความประหลาดใจ ทั้งหวาดระแวง

หัว อี้อู่ กล่าวว่า : “คุณแม่ไม่เป็นไรครับ คุณแม่ ลองดูสิว่าตั๋วเครื่องบินมันเปลี่ยนได้ไหม เราจะไปกันวันนี้!”

(1)[ใครมีน้ำนมก็เป็นแม่ (有奶便是娘)] - ซึ่งแปลว่าใครก็ตามที่มีน้ำนมสำหรับป้อนนมก็จะถูกมองว่าเป็นแม่ เป็นอุปมาของความโลภอยากได้กำไรจนลืมความชอบธรรม ส่วนใครมีประโยชน์ก็จะเขาไปเกาะพึ่งเขา..

(2)[หญิงงามนั้นเป็นเหตุ (红颜祸水)] - ซึ่งแปลว่า ผู้หญิงสวยเป็นบ่อเกิดแห่งหายนะ ที่มา.. จิ้งซือฟู่ 《静思赋》ผมงานของ โจสิด (หรือ เฉาจื๋อ 曹植) ในยุคสามก๊ก