ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 28 กลับสู่นิกายกระบี่ล่องนภา
เมื่อมองไปที่ผู้อาวุโสจากนิกายเพลิงโหมกระหน่ำที่หายไปในระยะไกล เซวียนห่าวก็รู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถฆ่าเขาได้
สำหรับนิกายกระบี่ล่องนภาและนิกายเพลิงโหมกระหน่ำ ผู้อาวุโสขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 5 นั้นแข็งแกร่งมาก หากไม่ใช่เพราะเขาอยู่คนเดียวและโดดเดี่ยวที่ด่านพรมแดน เซวียนห่าวก็คงไม่มีโอกาสต่อสู้กับเขาแบบตัวต่อตัวอีกครั้ง
นอกจากนี้ร่างกายของยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดนั้นยังแข็งแกร่งมาก เซวียนห่าวจึงใช้เจตจำนงกระบี่เพื่อโจมตีเขา
แต่ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บหนัก ผู้อาวุโสขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดสามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ด้วยการพักผ่อนเพียงสองถึงสามวัน
เมื่อเซวียนห่าวรู้สึกถึงรัศมีพลังของผู้ฝึกตนขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดหลายคนที่เข้ามา เขาก็ไม่กล้าอยู่อีกต่อไป เขารีบกระโดดขึ้นกระบี่ของเขาและรีบบินออกไปก่อนที่กำลังเสริมของนิกายเพลิงโหมกระหน่ำจะมาถึง
การโจมตีจากก่อนหน้านี้ทำให้เขาหมดแรงไปพอสมควรแล้วและการรับมือกับยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดสี่ถึงห้าคนไม่ใช่สิ่งที่ตัวเขาในตอนี้จะทำได้
ขณะที่เซวียนห่าวออกจากสถานที่นั้น เหล่ายอดฝีมือก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าด่านพรมแดนเสียแล้ว
“เจตนงกระบี่แท้จริง... ข้าไม่รู้เลยว่าจะมีใครในอาณาจักรนภาสวรรค์ที่สามารถเข้าใจมันได้ มันคงจะเป็นคนจากภายนอก !” ชายชราที่อยู่ด้านหน้าตรวจสอบรอยแผลเป็นที่หลงเหลือจากการต่อสู้และสรุป
“ผู้อาวุโสกุ้ย เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าสัมผัสถึงพลังปราณธาตุไฟที่รุนแรงจากเขา”
“จ้าวนิกาย มันน่าจะเป็นสมุนไพรธาตุไฟ จากสิ่งที่ข้าสัมผัสได้ อย่างน้อยมันก็คงจะเป็นสมุนไพรวิญญาณระดับสูงสุด” ชายชราตอบพลางตรวจสอบรอยแผลเป็นที่หลงเหลือจากการต่อสู้
“ถ้าเรารู้ก่อนหน้านี้ เราอาจสร้างกับดักจับเขาได้ ด้วยสมุนไพรวิญญาณระดับสูงสุดธาตุไฟ ข้าอาจสามารถทะลวงและเข้าสู่ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้นสูงสุด !” ชายชราถอนหายใจอย่างเสียใจขณะที่เขามองเข้าไปในระยะทางที่เซวียนห่าวหายตัวไป
“แต่ตอนนี้ เราสูญเสียโอกาสนั้นไปแล้ว ข้าจะต้องเสี่ยงชีวิตและพยายามเข้าสู่ส่วนลึกของเทือกเขาอัคคีแผดเผา เลิกไล่ตามผู้ฝึกตนกระบี่ที่เข้าใจเจตจำนงกระบี่แท้จริงไปเสียก่อน ขอบเขตราชันนั่นแค่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ” คนอื่น ๆ มองหน้ากันอย่างช่วยไม่ได้
จ้าวนิกายได้มาถึงขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 8 และอยู่ห่างจากขั้น 9 เพียงก้าวเดียว แต่เพราะก้าวสั่น ๆ นั้นทำให้ผู้ฝึกตนขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดส่วนใหญ่ไม่สามารถไปถึงจุดสูงสุดของขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดได้
“วันนี้ข้าจะเข้าสู่เทือกเขาอัคคีแผดเผา ข้าจะรอช้าไม่ได้” ความมุ่งมั่นก็ฉายชัดขึ้นในดวงตาของชายชรา
“แต่จ้าวนิกาย จะเป็นอย่างไรหากนิกายกระบี่ล่องนภาโจมตีเมื่อท่านไม่อยู่ ?” ผู้อาวุโสร่างผอมถามอย่างกังวลในขณะที่เขามองไปที่ความมุ่งมั่นที่ส่องประกายจากภายในดวงตาของจ้าวนิกาย
“ไม่ต้องห่วง แม้ว่าเฟิงเฉินจะทำเช่นนั้น แต่เราก็ยังมียอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดอีกมาก เจ้าเพียงแค่ต้องซ่อนตัวอยู่ในนิกายและเขาก็จะไม่สามารถทำอะไรได้ ประการที่สอง พวกเขาจะรู้ได้อย่างไร” ชายชรากล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยบนริมฝีปากของเขา
“จริงอย่างที่ท่านว่า แต่หากท่านหายไปนานเกินไป พวกเขาจะเริ่มสงสัยอย่างแน่นอน…” ผู้อาวุโสร่างผอมยังไม่มั่นใจ เขายังจำได้เมื่อจ้าวนิกายของพวกเขาและจ้าวนิกายของนิกายกระบี่ล่องนภาต่อสู้กัน ในตอนนั้นทั้งสองคนมีพละเทียบเท่ากันแม้ว่าจ้าวนิกายจะมีญานการบ่มเพราะที่เหนือกว่าจ้าวนิกายกระบี่ล่องนภา
“อย่างน้อยข้าคงจะใช้เวลาสองสามปี แค่บอกว่าข้าเก็บตัวเข้าสู่การบ่มเพาะ ผู้คนเหล่านั้นจะเชื่อข้อแก้ตัวนั่น” หลังพูดจบ เขาก็หายเข้าไปในเทือกเขาอัคคีแผดเผา
“จ้าวนิกาย เราจะบอกกับภรรยาของท่านว่าอย่างใด ?” ผู้อาวุโสร่างผอมตะโกนเสียงดังไปทางจ้าวนิกายที่หายตัวไป
“บอกนางไปว่าข้าเก็บตัวบ่มเพาะ”
“แต่...”
ก่อนที่ผู้อาวุโสจะถามจ้าวนิกายของพวกเขาต่อ เขาก็หายตัวไปในระยะไกลเสียแล้ว พวกเขาจะได้พบเขาอีกหรือไม่ อนาคตข้างหน้านั้นไม่แน่นอน
เขามักจะไม่กลับมาทันทีแม้ว่าเขาจะหาสมุนไพรธาตุไฟได้แล้วก็ตาม เขาต้องการบ่มเพาะ...
“เราควรจะบอกกับภรรยาของจ้าวนิกายว่าอย่างใดกัน…”
“…”
“ผู้เฒ่ากุ้ย ดูเหมือนว่าเจ้าจะได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ ทำไมเจ้าไม่กลับไปก่อนล่ะ ?” ผู้อาวุโสที่ค่อนข้างหนุ่มพูดในขณะที่เขายิ้มให้กับผู้อาวุโสกุ้ยที่ได้รับบาดเจ็บ
“ข้าคิดว่าเจ้าควรกลับไปเสียก่อน เราจะอยู่ที่นี่และจับตาดูผู้ฝึกตนกระบี่ผู้นั้น !” ผู้อาวุโสอีกคนกล่าวขึ้นในขณะที่เขาแสร้งทำเป็นจับตาดูต้นไม้สองสามต้นในระยะไกล
“พวกเจ้า…” ผู้อาวุโสกุ้ยพูดไม่ออกและเมื่อเขากำลังเดินทางกลับไปยังนิกายเพลิงโหมกระหน่ำเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากันผู้ใด นั่นก็คือภรรยาของจ้าวนิกาย
โดยปกติแล้วเขาไม่ควรกลัวภรรยาของจ้าวนิกาย มีเพียงปัญหาเดียวและเพราะว่านางเป็นลูกสาวของรองจ้าวนิกาย
ครั้งสุดท้ายที่ผู้อาวุโสกุ้ยกวนใจนาง เขาลงเอยด้วยการถูกพ่อของนางทุบตี พ่อของนางมักจะตามใจนางยิ่งนัก
เซวียนห่าวผู้นี้ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาทำนั้นทำให้ผู้อาวุโสกุ้ยต้องทนทุกข์ขนาดไหนและถึงแม้เขาจะรู้ เขาก็คงจะหัวเราะเยาะผู้อาวุโสผู้นี้
เซวียนห่าวได้ออกจากอาณาเขตของนิกายเพลิงโหมกระหน่ำและกลับมายังเขตเหนือของอาณาจักรนภาสวรรค์ที่ที่นิกายกระบี่ล่องนภาปกครองอยู่