ตอนที่แล้วยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 655 ย้อนรอยนิรันดร์สุดขั้ว (ฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 657 ผู้ลี้ภัย (ฟรี)

ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 656 ศัตรูเคลื่อนไหว (ฟรี)


ไม่นานก่อนหน้านี้ที่ชายแดนได้เกิดการสู้รบขึ้นหลายครั้ง ทำให้จับเชลยศึกได้หลายคน

ข้อมูลที่เค้นออกมาจากพวกมันทั้งหมดทำให้แยกแยะจักรวรรดิระดับสูงทั้ง 5 ได้

ตอนนี้ศัตรูตัวหลักยังคงเป็นสหัสจักรวรรดิ 9 ฟ้าไร้อนันเช่นเดิม เพราะเป็นพวกบ้าสงครามอย่างแท้จริง

เนื่องจากพวกเขามีกองกำลังของจ้าวภัยพิบัติระดับต่ำจำนวนมาก ทำให้มีกำลังพอที่จะประกาศสงครามกับจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์

และเหนือสิ่งอื่นใด สหัสจักรวรรดิ 9 ฟ้าไร้อนันนั้นได้สงบศึกทุกแห่งเพื่อเกณฑ์กำลังจ้าวภัยพิบัตินับพันบุกโจมตีดวงดาวทางเหนือ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์

จักรวรรดิระดับสูงอีก 2 แห่งที่น่าสนใจอีกก็คือจักวรรดิที่เรียกตัวเองว่าราชวงศ์หวู่เหลียง กับจักรวรรดิที่เรียกตัวเองว่าลัทธิสวรรค์

ทั้งสองเป็นจักรวรรดิระดับสูงที่มีความเชื่อในเรื่องศาสนา และทั้งสองก็ขัดแย้งกับจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์เรื่องความเชื่อ และแนวความคิดที่ต่างกัน ทำให้เกิดการปะทะหลายต่อหลายครั้ง แต่ยังไม่ถึงขั้นก่อสงครามกัน

ราชวงศ์หวู่เหลี่ยงนั้นมีแนวความคิดเชื่อและบูชาในเทพที่มีนามว่า บรรพชนสวรรค์ไร้สิ้นสุด พวกเขาเองได้รับการคุ้มครองจากพลังวิเศษที่ว่ากันว่ามาจากเทพองค์นี้

ส่วนลัทธิสวรรค์ เป็นผู้ศรัทธาพลังสวรรค์ที่เก่าแก่ พวกเขาให้ความสำคัญกับพี่น้องร่วมลัทธิ และฝึกฝนในแนวทางของคำสอนที่เคร่งครัด

“สองมหาอำนาจที่สู้กันเองส่งผลดีกับเรา แต่ส่วนจักรวรรดิระดับสูงอื่นๆ ก็ดูแคลนไม่ได้ด้วย”

“ก่อนหน้านี้เราก็ได้ให้เงาไปหาผลประโยชน์ในพื้นที่ขัดแย้งของทั้งสองจักรวรรดิ และได้ผลตอบแทนไม่เลวเหมือนกัน”

ซู่เสี่ยวไป่คิดทบทวนถึงความขัดแย้งที่เกิดระหว่างเขากับจักรวรรดิระดับสูงทั้งหมด แต่ไม่มีจักรวรรดิไหนขัดแย้งกันเองมากเท่าสองจักรวรรดินี้แล้ว

ทำให้พื้นที่ของจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์ได้กลายเป็นสนามประลองให้กับทั้งสองจักรวรรดินี้ด้วย

จักรวรรดิระดับสูงที่เหลือเองก็มีพื้นหลังที่ไม่ธรรมดาเหมือนกัน

จักรวรรดิหวู่ดาเป็นจักรวรรดิที่อยู่มายาวนานที่สุดและได้รับการสืบทอดองค์ความรู้ที่ล้ำค่ามากมาย และเบื้องหลังของจักรวรรดิเองก็มีปีศาจเฒ่า หรือบรรพชนเก่าแก่ที่หลับไหลอยู่อีกมากมาย และมีจ้าวภัยพิบัติขั้น 6 เป็นฐานกำลังหลัก

จักรวรรดิแห่งนี้อยู่มาอย่างยาวนานได้นั้นไม่ใช่เพราะกำลังที่แข็งแกร่ง แต่ต้องมีดีอีกหลายอย่างที่แอบซ่อนไว้ ไม่งั้นจักรวรรดิคงไม่รอดมาถึงวันนี้

และจักรวรรดิระดับสูงสุดท้ายที่บุกมาด้วย หรือจะพูดให้ถูกต้องเรียกว่าเป็นกลุ่มพันธมิตรจักรวรรดิมากกว่า

สหประชาไท่คูซวนประกอบไปด้วยจักรวรรดิ 80 แห่ง มีขนาดใหญ่โตกว่าจักรวรรดิระดับสูงอื่นถึง 4 เท่า

ใน 5 จักรวรรดิระดับสูงที่บุกมานั้นสหประชาไท่คูซวนเป็นตัวอันตรายที่สุดแล้ว และใหญ่โตที่สุดกำลังรบมากสุด และมีพื้นฐานจ้าวภัยพิบัติมากสุด

ซู่เสี่ยวไป่ลองตรวจสอบและนับคร่าวๆ  ดูว่าที่ผ่านมาเขาหมุนเวียนศพของจ้าวภัยพิบัติไปมากแค่ไหนแล้ว และพบว่ามากกว่า 40 เปอร์เซ็นมาจากสหประชาไท่คูซวน!

ในห้องประชุมของดินแดนดวงดาวทางเหนือ ซู่เสี่ยวไป่กำลังมองดูโต๊ะทรายขนาดใหญ่ที่เป็นแผนที่ของทะเลแห่งความว่างเปล่า และบอกตำแหน่งจักรวรรดิและดินแดนต่างๆ

ตอนนี้ดวงดาวทางเหนือได้ก่อตั้งเป็นกลุ่มก้อนเล็กๆ โดยอยู่ในพื้นที่จักรวรรดิไท่เจียง มีจักรพรรดิจากหลายจักรวรรดิ และดินแดนเข้ามาขอความช่วยเหลือจากซู่เสี่ยวไป่บ่อยครั้ง

เพราะแบบนั้นทำให้กองกำลังของซู่เสี่ยวไป่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างงั้นสถานการณ์ในสนามรบก็ยังไม่สู้ดีเท่าไร และแนวโน้มว่ากำลังของศัตรูจะมากขึ้นเรื่อยๆ

ที่ซู่เสี่ยวไป่คาดการณ์ไว้แบบนี้เพราะพักหลังมานี้การจู่โจมเริ่มรุนแรงขึ้นซึ่งซู่เสี่ยวไป่ดูจากจำนวนผลึกต้นกำเนิดที่ร่างเงาเก็บกลับมาได้จากการต่อสู้ จำนวนมันมากขึ้นทุกครั้ง นั้นบ่งบอกได้ว่าศัตรูมีจำนวนมากขึ้น หรือศัตรูแข็งแกร่งขึ้น

แล้วตอนนี้ซู่เสี่ยวไป่ยังติดกำแพงของเขตแดนภัยพิบัติขั้น 8 ทำให้เขายังก้าวเข้าสู่เขตแดนนี้ไม่ได้ แต่ก็กำลังแก้ไขด้วยระบบ และบีบบังคับตัวเองสู่ขั้น 8 ให้ได้ และจะรีบก้าวสู่ขั้นที่ 9 ในทันที

แต่ก่อนจะถึงตอนนั้นเขาต้องเตรียมตัวรับศึกที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นก่อน

“จักรวรรดิระดับสูงพวกนี้เริ่มจะหมดความอดทนแล้ว พวกมันจะบีบเรา และใช้จ้าวภัยพิบัติที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นมาจัดการเรื่องนี้ เพื่อยุติสงครามที่ยืดเยื้อนี้สักที”

ซู่เสี่ยวไป่กำลังเดาการเดินหมากต่อไปของทุกจักรวรรดิ และเดากลยุทธที่ศัตรูจะใช้กับเขาซึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ที่ผ่านมาศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดที่ปรากฏตัวขึ้นในสนามรบคือจ้าวภัยพิบัติขั้น 6 และหากว่านั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญในไม่ช้าพวกเขาจะส่งจ้าวภัยพิบัติขั้น 7 ออกมา

การปรากฏตัวของจ้าวภัยพิบัติขั้น 6 นั้นมีเหตุผลรองรับอย่างแน่นอน

เพราะอย่างจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์ก็เคยส่งผู้แข็งแกร่งจำนวนหนึ่งมาจัดการกับเซียเจียนก็ยังทำมาแล้ว แปลว่านั้นเป็นก้าวแรกของแผนการต่อไปของศัตรู ที่จะส่งจ้าวภัยพิบัติที่แข็งแกร่งมาจัดการเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

แล้วขอบเขตสูงสุดของจักรวรรดิไท่เจียงคือจ้าวภัยพิบัติขั้น 6 หากว่ามีจ้าวภัยพิบัติขั้น 7 ปรากฏตัวออกมาไม่มีทางเลยที่กองทัพของจักรวรรดิไท่เจียงจะต้านทานได้ ซู่เสี่ยวไป่ต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวเหล่านี้ให้ดี

เพื่อจะยุติสงครามนี้ และไม่ให้ความเสียหายลุกลามออกไป จักรวรรดิระดับสูงจะต้องส่งตัวตนจ้าวภัยพิบัติขั้น 7 ออกมาแน่ๆ และหากว่าขั้น 7 จัดการไม่ได้จ้าวภัยพิบัติขั้น 8 จะลงมือทันที

ด้วยความแข็งแกร่งของเงายักษ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เทียบเท่ากับจ้าวภัยพิบัติขั้น 6 มันไม่ง่ายเลยที่จะจัดการจ้าวภัยพิบัติขั้น 7 ในเวลานี้ วิธีการเดียวที่จะสู้ได้คือใช้เงายักษ์เทพเท่านั้น

“หือ….กลิ่นไอแบบนี้มัน”

ซู่เสี่ยวไป่กระพริบตาหลายครั้ง และมุมมองในสายตาของเขาก็เปลี่ยนไปอยู่ที่ซากปรักหักพังตามแนวสนามรบ

ที่นี่เงาพบเข้ากับกองกำลังแปลกๆ

เป็นแนวหน้าของพวกจักรวรรดิหวู่ดา และเช่นเดียวกันพวกนี้ก็เจอเงาของซู่เสี่ยวไป่ด้วย และรู้ว่าเงาพวกนี้เป็นผู้ปิดช่องโหว่ที่จะบุกไปยังดินแดนดวงดาวทางเหนือ

พวกมันเป็นหน่วยมือสังหารลับ ที่อยู่ในเขตแดนภัยพิบัติขั้น 7!

“ทำไมร่างแยกพวกนี้ถึงเอาแต่เก็บศพกับแหวนคลัง? ข้าเห็นมันตระเวรไปทั่วสนามรบ และไม่เห็มร่างนี้บาดเจ็บเลยต้องมีอะไรผิดปกติกับร่างนี้แน่ๆ”

จ้าวภัยพิบัติขั้น 7 นามป้าฮู ได้คว้ามือออกไปและใช้พลังจับเงายักษ์มนุษย์ของซู่เสี่ยวไป่เอาไว้ และพยายามที่จะตรวจสอบมัน เงายักษ์มนุษย์มีขอบเขตพลังภัยพิบัติขั้น 6 ไม่มีทางขัดขืนได้อยู่แล้ว

ในเวลาเดียวกันคนอื่นๆ ในกลุ่มก็พบร่างเงาด้วยเช่นเดียวกัน และจับเงาทั้งหมดกลับมา

ป้าฮูนั้นมีชีวิตอยู่มาอย่างยาวนาน เมื่อเขาสัมผัสดูก็รู้ทันทีว่านี้เป็นแค่ร่างแยกเท่านั้น และใช้พลังของสายธารกาลเวลาเพื่อตรวจสอบที่มาที่ไปของร่างแยกนี้

อย่างไรก็ตามป้าฮู ก็รับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาตกตะลึง

“ร่างพวกนี้ไม่มีตรรกะและโชคชะตางั้นหรอ?!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด