ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 27 หลบหนีจากด่านพรมแดน
หลังจากกลับไปยังเมืองเทือกเขาอัคคีอย่างปลอดภัย เซวียนห่าวก็ตัดสินใจมุ่งหน้ากลับไปที่นิกายกระบี่ล่องนภาทันทีและหลีกเลี่ยงการตรวจจับของผู้อาวุโสจากนิกายเพลิงโหมกระหน่ำไปพร้อมกัน
เซวียนห่าวออกจากอาคารสหภาพนักสำรวจและโยนหินวิญญาณสองสามก้อนที่เขาได้รับจากภารกิจสืบสวนลงในกระเป๋าก่อนจะเดินทางกลับออกจากเมือง
เซวียนห่าวต้องคิดเกี่ยวกับการหลบหนีจากผู้อาวุโสขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดของนิกายเพลิงโหมกระหน่ำที่ประจำอยู่ด่านพรมแดน
หากเขาบินออกไปที่อาณาจักรข้างเคียง ยอดฝีมือที่ถูกส่งไปตรวจตราบริเวณพรมแดนคงไม่สังเกตถึงเขา
น่าเศร้าที่วิธีนี้มีข้อบกพร่อง เนื่องจากแรงกดดันที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อบินสูงขึ้นไป แต่ความหนาแน่นของพลังปราณระหว่างสวรรค์และโลกก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งมักจะบ่มเพาะอยู่ในที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะเหตุนี้นิกายส่วนใหญ่มักอยู่บนยอดเขา
หากหนีเข้าสู่อาณาจักรข้างเคียงนั้นมีความเป็นไปได้มากทีสุดแต่ความเสี่ยงที่จะถูกพบก็มากขึ้นตาม เซวียนห่าวจึงไม่ใช้วิธีนั้น เขาอยากจะถูกพบโดยนิกายเพลิงโหมกระหน่ำมากกว่าผู้พิทักษ์แดน...
เขาถอดเสื้อผ้าของผู้อาวุโสหลักออกและสวมเสื้อผ้าปกติมากขึ้น
แม้ว่ายอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดของนิกายเพลิงโหมกระหน่ำจะพบเขา แต่อย่างมากที่สุดเขาก็จะคิดว่าเซวียนห่าวเป็นเพียงยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดต่างถิ่นที่เดินผ่านมา นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกเกินไป หากจะมองว่าเขามาจากเทือกเขาอัคคีแผดเผาที่แผ่ขยายไปทั่วอาณาจักรนับไม่ถ้วน
หากเป็นยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดต่างถิ่นที่เข้าสู่อาณาจักรนภาสวรรค์จริง นั่นก็เป็นหน้าที่ของราชวงศ์ ไม่ใช่นิกายกระบี่ล่องนภา !
ปัญหาเดียวที่ยังคงอยู่ก็คือเขามีหญ้าหัวใจอเวจี สมุนไพรวิญญาณที่แพร่ขยายพลังปราณออกไปรอบ ๆ ถุงเล็ก ๆ ที่ซวนห่าวใส่ไว้
การซ่อนมันจากยอดฝีมือขอบเขตควบแน่นแก่นแท้นั้นง่ายมากเพราะเซวียนห่าวสามารถปกปิดมันด้วยสัมผัสสวรรค์ได้
แต่วิธีนี้ใช้ไม่ได้กับยอดฝีมือวิญญาณก่อกำเนิด
เซวียนห่าวคิดว่าหากเขามีถุงมิติของหรือสมบัติที่สามารถเก็บของไว้ในนั้นได้ ปัญหาต่าง ๆ ของเขาคงจะหมดไป
น่าเศร้าที่สิ่งเหล่านี้ต้องใช้ผู้ฝึกตนขอบเขตราชันเท่านั้นจริงจะสร้างมันได้ ผู้ฝึกตนขอบเขตราชันสามารถใช้ขอบเขตของเขาเพื่อแกะสลักส่วนหนึ่งของมิติและผูกมันเข้ากับบางอย่างเช่นกระเป๋าหรือแหวน
จากสิ่งที่เซวียนห่าวรู้ มีเพียงราชวงศ์เท่านั้นที่มีของเช่นนี้และส่วนใหญ่เป็นเพราะพวกเขามีผู้ก่อตั้งที่มาถึงขอบเขตราชันครึ่งขั้นในอดีต
ขอบเขตราชันครึ่งขั้นมีฐานการบ่มเพาะเทียมและยังมีความสามารถในการแกะสลักมิติด้ในระดับหนึ่ง แม้มันจะด่อยกว่าของที่ผู้ฝึกตนขอบเขตราชันที่แท้จริงสร้างขึ้น แต่มันก็ยังสามารถเก็บของต่าง ๆ ได้เช่นกัน
เซวียนห่าวกระโดดขึ้นไปบนกระบี่ของเขาและรีบบินไปยังนิกายกระบี่ล่องนภาโดยหวังว่ายอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดจะไม่สนใจเขา
เมื่อเซวียนห่าวผ่านด่านพรมแดนของนิกายเพลิงโหมกระหน่ำ กระบี่ยาวที่ทำจากไฟก็ฟันเข้าใส่เขาจากด้านล่าง มันเป็นการฟาดฟันอย่างรุนแรงจากยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด
ท้ายที่สุดพวกเขาก็สังเกตเห็น...
“เจ้าคนเย่อหยิ่ง รนหาที่ตายยิ่งนัก” มีเสียงตะโกนดังออกมาจากด่านหน้า เสียงนั้นเย่อหยิ่งและเต็มไปด้วยรัศมีที่แข็งแกร่งซึ่งข่มทุกคนที่อยู่รอบ ๆ
นี่คือรัศมีพลังของยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด
พลังจากกระบี่เพลิงลุกโชนนี้ราวกับดวงอาทิตย์ที่ขึ้นสู่ท้องฟ้า ในไม่ช้าคมกระบี่ก็พุ่งเข้าใส่เซวียนห่าว มันระเบิดจนทำให้เกิดแสงสว่างโดยรอบ
ร่างของซวนห่าวถูกกลืนกินโดยกระบี่เพลิงที่กำลังระเบิดอยู่ พลังของมันทำให้ผู้คนรอบ ๆ ตระหนักรู้ถึงพลังที่แท้จริงของยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด
เซวียนห่าวมองไปในทิศทางที่กระบี่จากมา
นี่ไม่ใช่กระบี่จริง ๆ แต่เป็นพลังปราณธาตุไฟที่อัแน่นจนเป็นกระบี่ มันมาจากยอดฝีมือวิญญาณก่อกำเนิดที่ประจำอยู่ที่ด่านพรมแดน
เซวียนห่าว ไม่ได้คาดคิดว่าผู้อาวุโสจากนิกายเพลิงโหมกระหน่ำนี้จะโจมตีทันทีที่เขาปรากฏตัว
การฟาดฟันครั้งแรกของผู้อาวุโสจากนิกายเพลิงโหมกระหน่ำนั้นไม่รุนแรงมากนัก เขาใช้มันเพื่อประเมินคู่ต่อสู้ของเขา หลังจากนั้นพลังที่รุนแรงก็พุ่งเข้าหาเซวียนห่าวอีกครั้ง
เมื่อกระบี่ไฟปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา เซวียนห่าวก็ปลดปลอกกระบี่ของเขาและรวบรวมเจตจำนงกระบี่ก่อนที่จะฟันลงไปด้วยพลังทั้งหมดของเขา
กระบี่ไฟที่ไม่ธรรมดาแตกสลายอย่างรวดเร็วภายใต้กระบี่ของเซวียนห่าว พลังปราณธาตุไฟดับลงเมื่อกระบี่เคลื่อนไปยังด่านหน้า
เซวียนห่าวยังปลอดภัยเมื่อยืนอยู่บนกระบี่ของเขาและมองไปที่กำแพงขนานใหญ่ที่ทำจากไฟซึ่งดูเหมือนจะป้องกันกระบี่ของเขาไว้
โชคดีที่เขาไม่ได้ใช้กระบี่วิญญาณของเขาในการบิน มิฉะนั้นเขาคงลงเอยด้วยการล้มลงกับพื้นในขณะที่เขาพยายามสกัดกั้นกระบี่เพลิงก่อนหน้านี้
ในวินาทีต่อมา ร่าง ๆ หนึ่งก็ได้ปรากฏตัวต่อหน้าด่านพรมแดน
ผู้อาวุโสขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดจากนิกายเพลิงโหมกระหน่ำ พลังของเขาน่ากลัวเสียจริง รัศมีพลังของเขาพุ่งขึ้นไปหาเซวียนห่าว
เซวียนห่าวเพียงแค่ยักไหล่และมองตรงไปที่ผู้อาวุโสจากนิกายเพลิงโหมกระหน่ำที่ยืนอยู่หน้าด่านพรมแดน
เซวียนห่าวไม่ประหม่าเลยแม้แต่น้อย ตราบใดที่เขาสามารถจัดการกับผู้อาวุโสจาก นิกายเพลิงโหมกระหน่ำได้ เขาก็จะสามารถหลบหนีไปได้ก่อนที่กำลังเสริมของพวกนั้นจะมาถึง
จากการโจมตีก่อนหน้านี้ทำให้เซวียนห่าวรู้สึกได้ว่าเขาแข็งแกร่งกว่าที่เขาคาดไว้ และแม้ว่าอีกฝ่ายจะอยู่ที่ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 5 แต่นั่นก็เพราะเขาได้ใช้เคล็ดลับบางอย่างและฐานการบ่มเพาะของเขาก็ยังไม่เสถียร
เซวียนห่าวไม่ได้พูดอันใดต่อและปล่อยกระบี่อีกเล่มหนึ่งฟาดใส่ผู้อาวุโสจากนิกายเพลิงโหมกระหน่ำ
ขณะที่ใช้กระบี่นี้ เซวียนห่าวดูเหมือนเป็นเทพกระบี่ที่ปลดปล่อยความโกรธของเขามายังโลกมนุษย์ กระบี่นี้ลงมาจากท้องฟ้า
กระบี่ของเซวียนห่าว พุ่งออกไปและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ท่าทีของผู้อาวุโสเปลี่ยนไปเช่นกันเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของกระบี่นี้
ในวินาทีถัดมา เขาก็โดนการโจมตีของเซวียนห่าว ปราณธาตุไฟกระจายออกมาจากเขาและสร้างเกราะป้องกัน แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะปิดกั้นกระบี่นี้ได้และในไม่ช้าหน้าอกของเขาก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงจนทำให้เขาก็กรีดร้องอย่างหน้าสมเพช เลือดก็กระเซ็นออกมาที่พื้นใต้ฝ่าเท้าของเขา
บาดแผลปรากฏขึ้นที่หน้าอกของเขา
“ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าต่ำไป เจ้าแข็งแกร่งมาก แต่เจ้าเพียงคนเดียวจะไปสู้กับคนทั้งนิกายเพลิงโหมกระหน่ำได้อย่าไร ในไม่ช้าเจ้าต้องตาย” ผู้อาวุโสปิดบาดแผลของเขาและกลายเป็นเปลวไฟที่สว่างไสวในขณะที่เขาหายตัวไปอย่างรวดเร็ว