บทที่ 9 การต่อสู้ของฮีโร่
หลังจากการสับเปลี่ยนหลายครั้ง ในที่สุดหยางเซี่ยวเฉินก็ได้รับเงินค่าไถ่ที่วางไว้ในท่อระบายน้ำใกล้กับอุโมงค์ซานกวน
“คุณได้เงินไปแล้ว ฉันเชื่อว่าทุกคนรู้แล้วว่าฉันให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ฉันไม่ได้แจ้งตำรวจ ฉันขอให้คุณปล่อยลูกชายฉันตอนนี้เลยได้ไหม” เสียงของหวางเวินจิงทางโทรศัพท์ดูประหม่ามาก
"ยังก่อน" หยางเซี่ยวเฉินถือกระเป๋าเดินทางที่เต็มไปด้วยเงินสดสีแดงในมือของเขา และตอบกลับโทรศัพท์ "ฉันจะปล่อยเขาไปในอีกสองสามวัน วางใจได้เลยบอสหวาง"
“คุณไม่ทำตามสัญญา” หวางเวินจิงมองไปรอบ ๆ บริเวณใกล้เคียงและกัดฟัน เขาเคลื่อนที่ออกจากจุดวางค่าไถ่ตามคำขอของผู้ลักพาตัวแล้ว แต่เขามักจะรู้สึกว่าพวกคนร้ายอยู่ใกล้ ๆเขาเสมอ “ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ”
หยางเซี่ยวเฉิน ไม่ตอบสนองเขาวางสายโทรศัพท์และโยนมันออกไป
“นายจะปล่อยเขาไปจริงๆ เหรอ” หยูเชี่ยนหยิบกระเป๋าเดินทางที่หยางเซี่ยวเฉินมอบให้อย่างอารมณ์ดี
“ถึงฉันจะปล่อยเขาไปนายก็ไม่ปล่อยเขาไปอยู่ดี” หยางเซี่ยวเฉินส่ายหัวชี้ไปที่กระเป๋าและพูดว่า "มีเงินสดอยู่ในนั้นสองล้านหยวน ตอนนี้เรารีบไปรวบรวมวัสดุที่เราต้องการกันเถอะ"
ค่าไถ่ที่หยางเซี่ยวเฉินเรียกร้องคือ 3 ล้านหยวนแต่ไม่แปลกใจเลยที่หวางเวินจิงจะไม่มีเงินสดและจำเป็นต้องโอนเงินเพื่อซื้อเวลาให้ตัวเอง แต่เขาไม่คาดคิดว่าค่าไถ่ที่หยางเซี่ยวเฉินต้องการจะอยู่ที่ 1 ล้านหยวนเท่านั้น ดังนั้นหวางเวินจิงจึงนำเงินสดเพียงสองล้านมาส่งให้ที่สานกวน
"นายคิดออกหรือยังว่าต้องทำอะไรต่อ แล้วจะเริ่มจากตรงไหน"
"ฉันทำรายการระหว่างทางมาที่นี่ อาจมีตกหล่นบ้าง แต่ควรครอบคลุมสิ่งจำเป็นส่วนใหญ่"
หยางเซี่ยวเฉินกล่าวว่า "อาหาร, ยา, น้ำดื่ม, เครื่องปั่นไฟฟ้า, เครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ และอุปกรณ์งานไม้"
"สิ่งเหล่านี้ฉันได้รวมไว้แล้วอย่างที่ฉันเคยบอกก่อนหน้านี้ นอกจากนี้เรายังต้องการเชื้อเพลิงอีกจำนวนมาก น้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล แต่ที่สุดคือหาสารเคมีและเครื่องกรองน้ำได้เพียงพอ และแน่นอนว่าเราต้องเตรียมอาวุธที่มีประโยชน์สองอย่างให้นายด้วย"
"ดีกว่านี้ไหม" หยูเชียนถูมีดปอกผลไม้อันแหลมคมที่ลอยออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเขาและลอยไปมาในอากาศ
หยางเซี่ยวเฉินพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้และตอบว่า "ดีกว่า 10,000 เท่า ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าอาวุธเย็นที่สร้างขึ้นโดยเทคโนโลยีโลหะผสมสมัยใหม่คืออาวุธวิเศษเมื่อเที่ยบกับหลายร้อยปีก่อน"
"ทำตามที่ฉันออกแบบไว้ได้ไหม" ดวงตาของหยูเชี่ยนสว่างขึ้น
“ตราบใดที่นายจ่ายเงินได้และสามารถวาดมันขึ้นมาได้ แต่ตอนนี้เวลาที่กระชั้นชิดเกินไป ฉันแนะนำให้เราแยกกันทำงาน”
“ไม่ อย่างแรกฉันไม่รู้จักโลกนี้ อย่างที่สอง ฉันต้องจับตาดูนาย” ความรอบคอบของหยูเชี่ยนไม่ได้ลดลงแม้จะร่วมงานกันมาแล้วครั้งหนึ่ง
“แล้วเราจะหาทางเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หรือเปล่า ถ้าเกิดเหตุร้ายขึ้น สิ่งแรกที่เราทำคือหาข้อมูล ดูว่ารัฐบาลสามารถร่วมมือจัดส่งข้อมูลมาแลกเปลี่ยนกับข้อมูลบางอย่างของเราได้ไหม แค่ฉันกับนายทำอะไรไม่ได้มาก”
"ไม่!" ความดื้อรั้นของหยูเชียนเกินกว่าที่หยางเซี่ยวเฉินจินตนาการไว้
หยางเซี่ยวเฉินกำลังโกรธและกำลังจะเปิดปากของเขาเพื่อโต้เถียงต่อ ก็ถูกขัดขวางด้วยการระเบิดอย่างรุนแรงจากสถามที่ที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นคลื่นอากาศก็พุ่งกระแทกมาและเสียงแตกก็ดังขึ้น
"นั่นเสียงอะไร"
"มันดูเหมือนปืน ปืนไรเฟิลอัตโนมัติ" ดวงตาของหยางเซี่ยวเฉินเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
“นายไม่ได้บอกว่าอาวุธที่ทรงพลังแบบนี้ไม่สามารถหาได้ในเมืองไม่ใช่หรือ?”
“โดยทั่วไปน่ะ แม้ว่าจะมีอาวุธปืนอยู่ในเมืองแต่มันก็เป็นปืนพกที่ล้าสมัยแล้ว ในประเทศของเราที่มีการควบคุมปืนอย่างเข้มงวด ปืนไรเฟิลที่มีอำนาจการยิงแบบนี้สามารถพบได้ในคลังอาวุธของหน่วยงานระดับกรมทหารมีขนาดค่อนข้างใหญ่เท่านั้น”
"การนำออกมาได้จะต้องผ่านขั้นตอนที่ซับซ้อน ไม่เพียงแต่ล็อคลายนิ้วมือและล็อครหัสเท่านั้น แต่ยังต้องใช้หลายคนที่ถือกุญแจหลายๆดอกเพื่อเปิดคลังอาวุธ กระสุนและปืนกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ และกุญแจก็ไขได้แค่คนละตู้เซฟ ความเป็นไปได้ที่เราจะได้ปืนแบบนี้มาก็แทบเป็นศูนย์เลยก็ว่าได้”
หยางเซี่ยวเฉินมักจะรู้ข้อมูลมากมายในด้านต่างๆ ดังนั้นแม้ว่าเขาจะไม่สามารถพูดอะไรที่เฉพาะเจาะจงได้ แต่ก็สามารถประเมิณคร่าวๆได้
“แล้วข้างหน้าเกิดอะไรขึ้น”
"ฉันไม่รู้" หยางเซี่ยวเฉินแนะนำอย่างเขินอาย "ลองไปดูกันไหม นายมีความสามารถในการควบคุมโลหะบางทีเราอาจได้อาวุธที่ทรงพลังมาบ้าง? แต่มันอาจจะมีอันตรายอยู่ก็ได้"
"ต่อหน้าฉันอาวุธขแงพวกนายไม่เป็นอันตรายเลย" หยูเชียนตอบอย่างเย่อหยิ่ง เนื่องจากเขารู้ว่าอาวุธส่วนใหญ่บนโลกนี้เกี่ยวข้องกับโลหะ เขาจึงทำเหมือนไปมีอะไรหยุดยั้งเขาได้ราวกับว่าในโลกนี้เข้านั้นอยู่ยงคงกระพัน
“สักวันฉันจะใช้กระสุนยางยิงนายให้ตาย” หยางเซี่ยวเฉินที่อยู่ด้านหลังคิดอย่างชั่วร้าย "ฉันขอเรียกนายว่าพ่อคนเย่อหยิ่ง"
…………
สิบนาทีก่อนหน้า
ริมถนนของจัตุรัสเฉาหยางรถสองคันพุ่งผ่านไปโดยไม่สนใจสัญญาณไฟจราจรและแล่นไปด้วยความเร็วสูง
รถยนต์ซีตรองซีโฟลว์พิคาสโซสีเทาและ โตโยต้าพรีเวียสีน้ำเงิน
รถสองคันคู่กันมาบางครั้งก็ขับซิกแซ็กไปมา ยานพาหนะที่ขับอยู่ในทางหลายคันต้องเลี้ยวหักหลบและพุ่งชนกับราวกั้นริมถนนเพื่อหลีกเลี่ยงการชน
ท่ามการดุด่าของเจ้าของรถ รถทั้ง 2 คันขับเข้าไปในอุโมงค์ที่สามด้วยความเร็วสูง
พื้นผิวถนนของอุโมงค์แคบลง และซีตรองซึ่งขับเข้ามาก่อนได้ขับผ่านรถบรรทุกด้วยการปาดเข้าข้างกำแพงหลังจากเดินทางได้ระยะหนึ่ง ขณะที่พรีเวียซึ่งกว้างกว่าเล็กน้อยต้องขับตามหลังรถบรรทุกไปชั่วคราวเพื่อกินฝุ่น
“ครั้งล่าสุดที่แกทำรถพัง แกต้องกระโดดออกจากรถและขาหัก” ชายสวมฮู้ดที่นั่งอยู่บนที่นั่งผู้โดยสารพูดกับคนขับด้วยท่าทางเย็นชาและดุดันว่า "คราวนี้ถ้าทำพังอีกก็กระโดดลงมาจากตึกซะ"
คนขับพยักหน้าและพูดว่า: "กัปตัน ไม่ต้องห่วง คุณจะไม่เสียมันไป สภาพถนนตอนนี้ไม่ดี และซีตรองก็วิ่งเร็วไม่ได้ เมื่อคุณออกจากอุโมงค์จนถึงทางแยกบนและล่าง มีถนนอยู่สองสาย เส้นหนึ่งลงเขาและอีกเส้นขึ้นเขา ฉันจะตามให้ทันที่หัวมุม เว้นแต่จะมี*ชูมัคเกอร์ในซีตรองคันนั้น”
* มิชชาเอล ชูมัคเคอร์ นักแข่งรถF1
"หยุดพูดไร้สาระ" กัปตันไม่สนใจสิ่งที่คนขับพูด เขามองแต่ผลลัพธ์เท่านั้น
ไม่กี่วินาทีต่อมา รถบรรทุกก็ถูกพรีเวียแซงหน้าไป แต่จู่ๆ ก็เกิดการพลิกผันขึ้นอย่างไม่คาดคิด
คนขับประหลาดใจที่พบว่ามีซีตรองรุ่นเดียวกันสีเดียวกัน 2 คันอยู่ข้างหน้า! และอุโมงค์ก็เกือบจะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว และเมื่อถึงทางแยกรถทั้งสองคันก็ขับแยกออกเป็นสองทาง!
เหงื่อเย็นหยดหนึ่งหยดจากหน้าผากของเขา เขาต้องไล่ตามใคร?
"ขึ้นเขา" กัปตันที่นั่งตรงผู้โดยสารพูดว่า" ป้ายทะเบียนไม่เหมือนเดิม รถที่เราต้องการตามขับขึ้นเขาไป
คนขับรู้สึกใจเต้นอีกครั้งและรีบทำตามคำพูดและขับขึ้นเขาเพื่อไล่ตามรถซีตรอง
กัปตันชำเลืองมองรถซีตรองด้วยความสงสัยไปที่รถคันที่ลงเขา แต่เขาก็รับดึงสายตากลับอย่างรวดเร็ว
ในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ไม่มีอะไรที่สามารถทำได้ แม้ว่าแผนรถสองคันจะยุ่งยาก แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะถ่ายโอนเป้าหมายไปที่รถอีกคันในขณะขับรถ - เพราะนั่นคือคนตัวใหญ่ที่มีชีวิต
คำพูดของคนขับเป็นความจริงทันทีที่ถึงโค้ง เขาก็ย่นระยะทางอย่างรวดเร็วด้วยทักษะการดริฟต์ที่ยอดเยี่ยมของเขา ไม่ช้าก็ขับห่างจากซีตรอง 20 เมตร โดยมีรถเพียงสามคันคั่นอยู่ระหว่างนั้น
ในรถซีตรองเหลียวหยวนโจวนั่งอยู่ตรงที่นั่งผู้โดยสาร มองไปที่กระจกมองหลังแล้วถามว่า "ปลาติดเบ็ดหรือเปล่า"
"ติดเรียบร้อยครับ" ผู้ช่วยที่ขับรถพยักหน้าเหงื่อตก
“สลัดทิ้งไม่ได้เหรอ?” เหลียวหยวนโจวถาม
ผู้ช่วยส่ายหัวด้วยความละอาย: "ทักษะการขับรถของอีกฝ่ายดีเกินไป"
"หยุดรถ" เหลียวหยวนโจวออกคำสั่ง ผู้ช่วยอึ้ง “อะไรนะครับ” ในขณะนี้รถซีตรองที่เขาขับกำลังขับขึ้นทางลาด ซึ่งการเบรกกะทันหันอาจทำให้เกิดการชนท้ายขึ้น
"หยุดรถ!" เหลียวหยวนโจวเน้นเสียงของเขา ผู้ช่วยดำเนินการตามคำสั่งทันทีพร้อมกับที่เหยียบเบรก รถบรรทุกและรถเก๋งที่อยู่ข้างหลังเขาก็เบรกกะทันหันเช่นกัน คนขับรถบรรทุกลดกระจกลงและสบถด่าเสียงดัง
" ชนมัน " เหลียวหยวนโจวเอียงศีรษะเพื่อส่งสัญญาณให้ผู้ช่วยถอยรถและชนรถเชิงพาณิชย์ ผู้ช่วยเปลี่ยนเกียร์และเหยียบคันเร่ง ท้ายรถกระแทกเข้ากับหน้ารถบรรทุก รถบรรทุกถอยหลังภายใต้แรงเฉื่อยและชนรถด้านหลัง เสียงของการชนกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางขึ้นเขาทั้งหมดถูกปิดกั้น!
"ไป" ซีตรองพ่นไอเสียออกจากปลายท่อสองอันแล้วขับออกไป
"แม่งเอ๊ย" กัปตันของรถพีเวียที่ถูกปิดกั้นทั้งด้านหน้าและด้านหลังด่าออกมา "พาทุกคนออกไป"
กัปตันเปิดประตูรถและลงจากรถ มือปืนที่สวมฮู้ดออกมาทีละคน และตามกัปตันไปที่รถบรรทุกที่อยู่ข้างหน้าเขา คนขับรถบรรทุกยังคงตะโกนด่า
กัปตันเปิดประตูรถและเล็งปืนไปที่คนขับที่ตื่นตระหนก
"บูม"
หลังจากฆ่าคนขับแล้ว กัปตันก็กระชากคอคนขับแล้วลากศพออกจากประตูรถโยนลงกับพื้น “ขึ้นรถแล้วตามไป”
หลังจากการแข่งแบบเอาเป็นเอาตาย รถของฝ่ายไล่ล่าก็เหนือกว่า
ทั้งสองฝ่ายเริ่มการต่อสู้ด้วยปืนอย่างดุเดือด และเป็นฝ่ายที่นำโดยเหลียวหยวนโจวพ่ายแพ้ เมื่อหยางเซี่ยวเฉินและหยูเชี่ยน มาถึงใกล้ๆ พวกเขาเห็นรถซีตรองที่พังยับเยินพลิกคว่ำอยู่ข้างถนน ควันหนาทึบลอยขึ้นจากตัวรถ
เหลียวหยวนโจวที่ปกคลุมไปด้วยอาการบาดเจ็บหมอบอยู่หลังตัวรถในสภาพลำบากใจ แม็กกาซีนทั้งสองอันว่างเปล่า ปืนพกในมือของเขากลายเป็นเครื่องประดับ และพี่น้องหลายคนในกลุ่มปฏิบัติการได้เสียสละไปแล้ว
นี้คงเป็นการทำงานเต็มที่จนถึงวินาทีสุดท้าย ชีวิตไม่กี่ชีวิตของฉันและพี่น้องแลกกับความปลอดภัยของผู้คนนับล้านในหยวนเจียงการเสียสละนี้ไม่สูญเปล่า เหลียวหยวนโจวยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ วางปืนลง เช็ดเลือดที่หยดจากหน้าผากไม่ให้ปิดกั้นการมองเห็นของเขา
ฝีเท้าของศัตรูกำลังเข้ามาใกล้จากสองทิศทาง ในเวลานี้พวกเขายังจะขนาบเป็นสองข้าง ศัตรูมีไหวพริบ ทรงพลัง และระมัดระวังมากกว่าที่เขาจินตนาการไว้
“แกหนีได้เก่งจริงๆ และแกเกือบจะทำสำเร็จแล้ว” หัวหน้ากลุ่มเล็งปืนไปที่คิ้วของเหลียวหยวนโจวและกล่าวคำประกาศของผู้ชนะอย่างประชดประชัน
"ฮ่าๆ" จู่ๆ เหลียวหยวนโจวก็หัวเราะ "ฉันไม่ได้หนี แต่ฉันทำสำเร็จ แกคิดว่าแกชนะไหม ฮ่าๆ"
หัวหน้ากลุ่มโจรกระตุกใบหน้าของเขาที่ซ่อนอยู่หลังฮูด เขาหันหลังกลับและเปิดประตูรถซีตรอง มีเพียงคนขับที่เสียชีวิตคาที่นั่ง
"มันเป็นไปไม่ได้" หัวหน้าโจรกัดฟันและเบิกตาด้วยความไม่เชื่อ
"เป้าหมายของแกถูกย้ายไปยังที่ปลอดภัยนานแล้ว มันโง่มากที่แกยังคงไล่ตามฉันมาตั้งนาน แกคิดว่าหน่วยงานรัฐซื้อรถไว้มากมายเพียงเพื่อใช้งานส่วนตัวหรือไง ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า" เหลียวหยวนโจวหัวเราะอย่างกล้าหาญและร่าเริง ดูไม่เหมือนคนที่กำลังจะตายเลย
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา หัวหน้าโจรก็ตกใจและทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าในอุโมงค์หมายเลขสาม มีรถซีตรองสองคันที่มีสีและรุ่นเดียวกันโดยขับมุ่งไปที่ทางแยกสองทางขึ้นและลงเขาไป …
"เวลาไม่กี่วินาทีจากเวลาที่ซีตรองขับแซงรถบรรทุกและเมื่อเราแซงรถบรรทุก รถบรรทุกบังสายตาของฉันเพียงไม่กี่วินาที คนตัวใหญ่จะออกจากรถมราขับด้วยความเร็วสูงสองคันในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีได้อย่างไร เปลี่ยนสภาพรถ?” หัวหน้าโจรรู้สึกประหลาดใจ
ดูเหมือนจะเห็นความสงสัยของเขา เหลียวหยวนโจวยิ้มและพูดว่า: "คนๆ นั้นไม่ขยับ รถก็ไม่ขยับ งั้นป้ายทะเบียนก็ขยับ"
ช่างตลกเสียจริง ใครจะปีนลงจากรถ เปลี่ยนป้ายทะเบียน แล้วกลับขึ้นรถได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที? และยังต้องเปลี่ยนพร้อมกันสองคัน...
เดียวนะรถสองคันในเวลาเดียวกัน?
หัวหน้าโจรคร่ำครวญอยู่ในใจ เมื่อนึกถึงกลอุบาย เขายกมือขึ้นแล้วกดป้ายทะเบียนรถซีตรองเข้าไปข้างในและพบว่าด้านหลังกลายเป็นโพรง! แผ่นป้ายทะเบียนกระเด็นเข้าไปอย่างง่ายดาย และแผ่นป้ายทะเบียนอีกแผ่นหนึ่งก็หลุดออกจากกระโปรงหลังรถมาแทนที่ตำแหน่งเดิม
มันคือหมายเลขทะเบียนรถของซีตรอง ที่พวกเขาติดตามก่อนหน้านี้
ฉันเข้าใจแล้ว
ปรากฎว่ารถซีตรอง ที่พวกเขาติดตามไม่ใช่คันเดียวกันกับรถที่พวกเขาตามอยู่ในอุโมงค์ตั้งแต่ต้นจนจบ เดิมทีรถแต่ละคันมีป้ายทะเบียนสองแผ่น ซึ่งสามารถเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วผ่านกลไกที่ติดตั้งที่ด้านหลังของรถยนต์และน่าจะควบคุมรีโมทคอนโทรล
ซีตรองคันเป้าหมายแซงหน้ารถบรรทุกคันดังกล่าว และในช่วงเวลาสั้นๆ ที่รถบรรทุกบังสายตาของพวกเขาซีตรองทั้งสองคันใช้กลไกดังกล่าวเพื่อสลับทะเบียนอย่างรวดเร็ว แล้วขับไปปลายทางคนละที่
วิธีนี้ทำให้การติดตามไม่ง่ายแม้ว่าจะไม่มีอะไรมาบังแนวสายตาก็ตาม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ามีรถบรรทุกขวางแนวสายตาของเขาในตอนนั้น
ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะติดตามซีตรองตันที่ขึ้นเขาด้วยภาพลวงตาที่ว่า "เป็นไปไม่ได้ที่จะโอนย้ายเป้าหมายให้สำเร็จภายในเวลาอันสั้น"
แต่คิดไม่ถึงว่าเป้าหมายไม่ขยับ รถไม่เปลี่ยน แต่ป้ายทะเบียนถูกเปลี่ยนดังนั้นพวกเขาจึงตามผิดเป้าหมายและกินฝุ่นมาตั้งนาน
"แกมีของเหมือนกัน" หัวหน้าโจรสูดหายใจลึกและเล็งปืนไปที่เหลียวหยวนโจวอีกครั้ง
"ก็พอใช้ได้" เหลียวหยวนโจวหยุดหัวเราะไม่ได้ และชี้นิ้วอีกข้างไปที่กระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตของเขา "ฉันเป็นนักรบใช่ไหม ให้ฉันสูบบุหรี่ก่อนที่ฉันจะตายได้รึเปล่า"
หัวหน้าโจรเย้ยหยันและพยักหน้า เหลียวหยวนโจมองเขาอย่างซาบซึ้ง และในขณะที่เขากำลังจะเอามือใส่กระเป๋า หัวหน้าโจรก็เหนี่ยวไกปืน หลิวหยวนโจวเอียงศีรษะหลบได้แบบหวุดหวิดราวกับถูกช่วยเหลือจากพระเจ้า
"เขากำลังถ่วงเวลา" หัวหน้าโจรโบกมือให้คนของเขา "ฆ่าเขาซะ"
เสียงปืนดังกึกก้องไปทั่วถนนรอบวงแหวนตะวันออกที่สาม