ตอนที่แล้วบทที่ 42 ผลข้างเคียงของนาฬิกาแห่งวันวาน(2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 44-1 กล่องมังสะ

บทที่ 43 ค้นหา กาเบรียล ซอโต้


บทที่ 43 ค้นหา กาเบรียล ซอโต้

เวลา 20:00 น. ท้องฟ้ามืดสนิท

คนกลับจากทำงานด้วยความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน

เหล่าเศรษฐีหรือพวกขุนนางกลับบ้านตั้งแต่หัวค่ำตอนนี้ถึงฤดูหนาวแล้วหลังจากตกเย็นอากาศจะหนาวเป็นพิเศษ

ลมหนาวพัดผ่านเสียดแทงราวกับคมมีดดังนั้นจึงแทบจะไม่มีคนเดินบนถนนเลย

อย่างไรก็ตามมีรถม้าปรากฏขึ้นนอกบ้านที่กาเบรียล ซอโต้เก็บศพไว้

ม้าขาวสองตัวลากรถม้าไม่นานประตูรถม้าก็เปิดออก

คนในรถม้าคือฟลินน์ ลินดี้ จูลี่และไอวี่

“เริ่มกันเลย!” ลินดี้พูดขณะมองไปยังฟลินน์ที่ถือนาฬิกาแห่งวันวานไว้ในมือ

“ตกลง” ฟลินน์ตอบพลางหมุนนาฬิกาแห่งวันวานและวางมันไว้บนตักของเขา

ด้านหลังของนาฬิกาแห่งวันวานมีลูกบิดอยู่สามปุ่ม

ลูกบิดอันแรกมีขนาดใหญ่กว่าอีกสองอันที่เหลืออย่างเห็นได้ชัด มันมีรูปทรงปีกผีเสื้อซึ่งออกแบบไว้ให้จับอย่างง่ายดาย

นี่คือปุ่มหมุนของนาฬิกาซึ่งเชื่อมต่อกับโครงสร้างที่เป็นฟันเฟืองซึ่งจะช่วยให้นาฬิกาทำงานได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า

แน่นอนว่านาฬิกาแห่งวันวานนี้เป็นวัตถุเวทที่มีพลังวิเศษแม้ว่ามันจะไม่มีวันหยุดทำงานแต่มันก็ยังคงต้องเดินต่อไป

ฟลินน์ปุ่มหมุนที่เหลืออีกสองปุ่มซึ่งมีขนาดเล็กกว่าปุ่มแรกที่เยื้องลงไปด้านล่าง

มันคือเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีของนาฬิกาแห่งวันวาน

“เวลา 20.00 น. และเป็นเวลาประมาณ 99 ชั่วโมงแล้วที่ผมพบกาเบรียล ซอโต้ที่นี่” หลังจากคำนวณในใจฟลินน์ก็หมุนลูกบิดทางซ้ายทวนเข็มนาฬิกาและเข็มชั่วโมงข้อมูลทวนเข็มในทันที

เมื่อนาฬิกาแห่งวันวานหมุนไปในทิศทางตรงข้ามการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้น

ทันใดนั้นท้องฟ้าด้านนอกก็ส่องสว่างราวกับรุ่งสาง

แต่นั่นเป็นไปไม่ได้ตอนนี้เป็นเวลา 20.00 น. และมีเวลาอย่างน้อยสิบ ชั่วโมงก่อนรุ่งอรุณจะมาเยือน

เมื่อมองอย่างระมัดระวังบริเวณที่สว่างซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางรถม้าของ ฟลินน์ประมาณสิบเมตร

มันไม่ใช่รุ่งสาง แต่ท้องฟ้าพลันสว่างขึ้นภายในระยะหนึ่งกิโลเมตรรอบๆ ฟลินน์และคนอื่นๆ

หากมองอย่างสังเกตจะเห็นภาพที่แปลกประหลาดบางอย่าง

นกที่บินบนท้องฟ้าค่อยๆ ถอยกลับหลัง

แมวจรจัดที่เดินผ่านเปลี่ยนทิศทางเป็นถอยหลังกลับ

นี่เป็นเพราะฟลินน์เปิดใช้งานนาฬิกาแห่งวันวานเพื่อย้อนเวลาดังนั้นภาพรอบด้านจึงค่อยๆ ย้อนกลับไป

ตึก!

สองรอบ

...

เจ็ดรอบ

แปดรอบ

เข็มชั่วโมงหมุนไปแปดรอบภาพรอบๆ ย้อนกลับเป็นเวลาสี่วันแล้ว

ฟลินน์หยุดหมุนเข็มชั่วโมงและหมุนเข็มนาทีไปทางขวาแทนเพราะเกือบจะถึงเวลาที่เขาจะพบกับกาเบรียล ซอโต้แล้ว

หยุด!!

รถม้ามาจากถนนตรงข้ามพวกเขาและคนขับรถม้าเป็นชายในชุดดำอายุประมาณสามสิบหรือสี่สิบปีมีผิวสีคล้ำ

ฟลินน์จำชายคนนี้ได้และชายคนนี้คือคนที่เขาเห็นในวันนั้นซึ่งเป็นคนแบกศพไปกับกาเบรียล ซอโต้

จากนั้นรถม้าคันนี้ก็ชัดเจนขึ้นและเป็นรถม้าที่ฟลินน์เคยได้กลิ่นซากศพ

เมื่อเห็นรถม้าคันนี้ ฟลินน์หยุดหมุนเข็มนาทีทันที

ลินดี้และคนที่เหลือเข้าใจได้ทันทีว่ารถม้าคันนี้น่าจะเป็นรถม้าที่กาเบรียล ซอโต้นั่งอยู่และพวกเขาทั้งหมดก็มองไปยังรถม้าคันนี้ด้วยสายตาที่เข้มขึ้น

รถม้าวิ่งชนกับรถม้าของฟลินน์เพราะว่าไม่มีเสียงดังเกิดขึ้นมันผ่านไปและหยุดอยู่ที่นอกบ้านหลังหนึ่ง

สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเพียงภาพในอดีตซึ่งไม่มีตัวตนจริง

จากในรถม้า กาเบรียล ซอโต้ ปรากฏตัวเขายังมีรูปลักษณ์แบบเดิมใช้วัยกลางคนสวมผ้าปิดตาสีดำคาดที่ตาซ้ายของเขา

เขากระโดดลงจากรถม้ามาเปิดประตูด้วยกุญแจแล้วผลักประตูให้เปิดออก

ชายในชุดดำขับรถม้าเข้าไปในลานบ้านทันที

“ฟลินน์ ตามพวกเขาไป” ลินดี้พูดอย่างกระตือรือร้น

ระยะที่นาฬิกาแห่งวันวานส่งผลกระทบคือสิบเมตรเท่านั้นหากเกินกว่าระยะนี้จะไม่สามารถมองเห็นกาเบรียล ซอโต้ได้

“ผมรู้” ฟลินน์รีบกระโดดลงจากรถม้าและเดินตามกาเบรียล ซอโต้ไปที่ลานบ้าน ลินดี้, จูลี่ และ ไอวี่ตามเขาและเข้าไปในสนามด้วย

“ไม่เพียงแต่พรสวรรค์ของปืนลึกลับที่สูงมากเท่านั้นแต่เขายังมีพรสวรรค์ในศาสตร์ที่สองด้วย!” ไอวี่เดินตามหลังทุกคนไป เธอมองไปยังแผ่นหลังของฟลินน์ด้วยความประหลาดใจ

เพราะเธอเป็นเพื่อนร่วมทีมเพียงคนเดียวของฟลินน์ ดังนั้นไอวี่จึงได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมภารกิจนี้ด้วยเหตุนี้เธอจึงรู้ว่าฟลินน์มีดวงตาประเมินเป็นศาสตร์ลับที่สอง

ฟลินน์สามารถเลื่อนระดับปืนลึกลับเข้าสู่วงแหวนที่สองภายในเวลาสองเดือนก็ทำให้เธอประหลาดใจมากพออยู่แล้วแต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะมีพรสวรรค์ในศาสตร์ที่สองอีกด้วย

การมีพรสวรรค์ลึกลับสองประเภทเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับอาณาจักรเหนือวงแหวนทั้งสิบสองหมายความว่าฟลินน์มีความเป็นไปได้ที่จะไปถึงอาณาจักรเหนือวงแหวนทั้งสิบสองหรือไม่?

เพื่อนร่วมทีมคนนี้ของเธอช่างมีพรสวรรค์ชวนตะลึงจริงๆ

เมื่อเข้าไปในลานและล็อคประตูลานบ้านแล้ว กาเบรียล ซอโต้และชายในชุดดำก็เริ่มเคลื่อนย้ายศพจากรถม้าไปยังห้องใต้ดินที่มียันต์หกแฉกซึ่งถูกวาดด้วยเลือดขนาดใหญ่

ในระหว่างเคลื่อนย้ายศพกาเบรียล ซอโต้และชายในชุดดำกำลังคุยกัน

แม้ว่าพวกเขาจะสามารถมองเห็นภาพได้แต่ไม่สามารถได้ยินเสียง ดังนั้นจึงไม่ได้ยินว่าทั้งสองคนกำลังพูดอะไร

“จูลี่ พวกเขาพูดว่าอย่างไร” ลินดี้เตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้แล้ว เธอมองไปที่จูลี่แล้วถาม

เนื่องจากเธอมีความสามารถผ่านตาไม่ลืม จูลี่จึงมีความสามารถในการเรียนรู้ที่แข็งแกร่งและรวมถึงภาษาปากด้วย

แม้ว่าจะไม่ได้ไปถึงระดับปรมาจารย์แต่นั่นเป็นเพราะศาสตร์ลับนี้ไม่มีระดับปรมาจารย์ที่สอดคล้องกันแต่ก็เพียงพอแล้วที่จะใช้งาน

“กาเบรียล ซอโต้ บอกว่าศพเหล่านี้สำคัญมาก...ลอร์ดมิเนอร์วัลต้องการมัน และพวกเขาจะต้องจัดการอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดความเสียหายใดๆ” จูลี่มองไปยังปากของทั้งคู่และพยายามอย่างดีที่สุดที่จะอ่านคำพูดผ่านริมฝีปากที่กำลังขยับนั้น

“ลอร์ดมิเนอร์วัล? เขาอาจเป็นสมาชิกเช่นเดียวกับกาเบรียล ซอโต้ และน่าจะมีสถานะที่สูงกว่า…” ดวงตาของลินดี้เป็นประกายด้วยความคิด

หลังจากสืบค้นคดีของกาเบรียล ซอโต้ เธอสงสัยมานานแล้วว่าชายคนนี้จะเป็นเพียงสมาชิกระดับล่างของลัทธิเฟืองสังหารและแน่นอนว่าสมาชิกผู้มีฐานะสูงสุดของเมืองคอนสตันได้รับการยืนยันแล้ว

คนผู้นี้มีฐานะสูงกว่ากาเบรียล ซอโต้ และคาดว่าจะเป็นหนึ่งในสมาชิกระดับสูงของลัทธิเฟืองสังหาร และคนผู้นั้นคือลอร์ดมิเนอร์วัล

นี่คือข้อมูลที่สำคัญอย่างยิ่ง

ฟลินน์เดินตามกาเบรียล ซอโต้มาจนถึงห้องใต้ดินแต่ไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากขึ้น

ศพถูกเคลื่อนย้ายลงมาแล้วและภาพของกาเบรียล ซอโต้และชายในชุดดำกำลังขึ้นรถม้าเตรียมออกเดินทาง

ฟลินน์ทั้งสี่ขึ้นรถม้าอย่างรวดเร็วและตามรถม้าของกาเบรียล ซอโต้ไป

“ขับตามพวกเขาไป”

ลินดี้สั่งคนขับมาของเธอให้เร่งความรถเร็วเล็กน้อยเพื่อให้ติดตามรถม้าของกาเบรียล ซอโต้ได้ทัน

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงสามารถเห็น กาเบรียล ซอโต้ในรถม้าได้อีกครั้ง

ภายในรถม้ามีเพียงกาเบรียล ซอโต้นั่งอยู่คนเดียวดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรตลอดการเดินทาง

ถึงกระนั้นฟลินน์ทั้งสี่ก็ยังคงจับต้องไปที่เขายังไม่ละสายตาเพราะกลัวว่าจะพลาดข้อมูลสำคัญไป

หลังจากนั้นประมาณสิบนาที

ทันใดนั้นใบหน้าของกาเบรียล ซอโต้ในรถม้าก็เปลี่ยนไปทันทีราวกับว่าเขาได้สัมผัสได้ถึงลางร้ายบางอย่าง

“ตอนนี้เป็นเวลาใกล้เคียงกับตอนที่ผมพบกับสัตว์ประหลาดไร้ตา เขาอาจสัมผัสได้ถึงพวกมัน” ฟลินน์อธิบายให้ลินดี้ทั้งสามฟัง

ลินดี้ทั้งสามคนพยักหน้าเข้าใจเหตุผลและยังคงจ้องไปที่กาเบรียล ซอโต้

เขาเห็นสีหน้าของกาเบรียล ซอโต้ที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวราวกับดิ้นรนทำอะไรบางอย่าง

แต่หลังจากดิ้นรนอยู่เพียงครู่เดียวกาเบรียล ซอโต้ก็เปิดม่านและพูดกับชายในชุดดำ

“เขาพูดอะไร” ลินดี้ถามอย่างเร่งรีบ

“เขาบอกให้ชายในชุดดำเปลี่ยนเส้นทาง แทนที่จะกลับไปที่พัก เขาต้องไปทางอื่น…” จูลี่ตอบ

หลังจากพูดจบกาเบรียล ซอโต้ก็กลับเข้าไปนั่งที่รถม้าตามเดิมและใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล

กว่าสิบนาทีต่อมารถม้าของกาเบรียล ซอโต้ได้หยุดลงที่ถนนร้างไร้ผู้คนสัญจร

กาเบรียล ซอโต้เปิดม่านและพูดบางอย่างกับชายในชุดดำที่โค้งตัวลงเพื่อเข้าไปในห้องโดยสาร

ฉึก!!

ทันทีที่ชายในชุดดำเข้าไปในรถม้า กาเบรียล ซอโต้ก็ปิดปากชายคนนั้นด้วยมือข้างหนึ่งและแทงกริชที่หน้าอกของชายในชุดดำด้วยมืออีกข้างหนึ่ง

ฟั่บ!

ม่านโลหิตสาดกระเซ็น

แม้ว่าจะไม่ได้ยินเสียงแต่ก็ยังสามารถจินตนาการได้ถึงเสียงของหัวใจที่ถูกแทงและเลือดที่สาดกระเซ็นได้

ชายในชุดดำพยายามดิ้นรนสองสามครั้งและค่อยๆ อ่อนแรงลงจนไม่สามารถขยับได้อีก

กาเบรียล ซอโต้วางร่างของชายในชุดดำลง เช็ดกริชและเลือดบนมือรวมถึงร่างของชายชุดดำก่อนจะพึมพำบางอย่างแล้วเดินออกจากรถม้าไป

“อย่าโทษฉันเลย ต้องโทษที่นายและฉันโชคร้ายเกินไป” จูลีรีบแปลสิ่งที่กาเบรียล ซอโต้พูดผ่านริมฝีปาก

ฟลินน์ทั้งสี่ลงจากรถม้าและไล่ตามภาพของกาเบรียล ซอโต้

เขาเห็นกาเบรียล ซอโต้ที่ก้าวลงมาและออกจากถนนร้างอย่างรวดเร็ว เขาก้มศีรษะต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงคนในถนนและเช่าห้องราคาถูกในอพาร์ทเม้นท์ซอมซ่อแห่งหนึ่ง

นี่ควรเป็นที่ซ่อนตัวของเขาและที่ครั้งก่อนยังค้นหาไม่พบ

“ประตูล็อกแล้ว อีกฝ่ายไม่ควรอยู่ที่นี่แล้ว!”

ฟลินน์และคนอื่นๆ อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาอย่างตื่นเต้นเพราะคิดว่าพวกเขาพบที่ซ่อนของกาเบรียล ซอโต้แล้ว

แต่ไม่นานพวกเขาก็พบว่าประตูนั้นล็อกอยู่และถูกล็อกจากภายนอกซึ่งแน่นอนว่าไม่มีคนอยู่ในบ้าน

“ไอวี่ ทำลายแม่กุญแจ!” ลินดี้สั่งไอวี่ เธอพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่แหวนรูปกางเขนบนนิ้วของเธอจะสว่างขึ้นด้วยแสงสีทอง

ดาบกางเขนไขว้สีทองปรากฏขึ้นด้วยแสงแพรวพราว

คลิก!

เสียงที่คมชัดดังขึ้น แม่กุญแจเหล็กถูกตัดออกและร่วงลงกับพื้น

ทั้งสี่เข้าไปในห้องและเห็นภาพของกาเบรียล ซอโต้ที่กำลังเดินไปมาด้วยท่าทางกระวนกระวาย

ทั้ง 4 คนห้องอย่างรวดเร็วเพื่อหาเบาะแสของลัทธิเฟืองสังหาร

อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากเสื้อผ้าและของใช้ประจำวันภายในห้องไม่หลงเหลือร่องรอยที่เกี่ยวข้องกับลัทธิเฟืองสังหาร

กาเบรียล ซอโต้เดินกลับไปกลับมาอย่างใจจดใจจ่อเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง และข้างนอกในเวลากลางคืน

กาเบรียล ซอโต้หยุดเดินไปมาก่อนจะพึมพำบางอย่างกับตัวเอง

“จูลี่ เขาพูดว่าอะไร” ลินดี้ถามอย่างร้อนใจด้วยสัญชาตญาณของเธอกำลังบอกเธอว่าคำพูดของกาเบรียล ซอโต้นั้นสำคัญมาก

“เขาบอกว่าวิธีเดียวที่จะหลบหนีการตรวจค้นของสำนักงานความมั่นคงฯ คือการขอให้นายท่านช่วย!” จูลี่ตอบอย่างรวดเร็ว

“นายท่าน ที่เขาพูดถึงคือลอร์ดมิเนอร์วัลก่อนหน้านี้หรือเปล่า?” ไอวี่ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ฉันไม่แน่ใจ เขาแค่พูดว่าท่านลอร์ดแต่ไม่ได้บอกว่าเขาเป็นใคร” จูลี่ส่ายหน้า

ภาพของกาเบรียล ซอโต้ เปลี่ยนไปสวมเสื้อผ้าของคนธรรมดาเขาสวมหมวกปีกกว้างปกใบใหญ่ปกปิดใบหน้าก่อนจะออกจากห้องในยามกลางคืน

ฟลินน์ทั้งสี่รีบตามไป

กาเบรียล ซอโต้เดินไปบนทางที่แทบไร้ผู้คนสัญจร

ผ่านบ้านเรือนต่างๆ ก่อนจะเข้าสู่ถนนในหมู่บ้านที่เริ่มมีการตกแต่งงดงามประณีตขึ้นเรื่อยๆ

“นี่กำลังเข้าสู่เขตตะวันออก คนที่เขาต้องการพบอาศัยอยู่ในเขตตะวันออก!”

ฟลินน์พูดเมื่อเห็นว่าบ้านรอบๆ ดีกว่าถนนอื่นๆ

“เขตตะวันออก” ประกายเย็นเยียบฉายชัดในดวงตาของลินดี้

ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตตะวันออกล้วนมีแต่ผู้ร่ำรวยหรือขุนนางรวมทั้งนักการเมือง กล่าวคือ ‘ท่านลอร์ด’ ที่กาเบรียล ซอโต้กล่าวถึงนั้นเป็นทั้งขุนนาง เศรษฐี หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน

...

มีคนสองคนอยู่ในห้องที่ตกแต่งอย่างหรูหราประดับด้วยไฟระย้าขนาดใหญ่

หนึ่งในนั้นคือชายหน้าตาดี คนที่ฆ่ากาเบรียล ซอโต้

อีกคนเป็นสาวสวยที่มีรูปร่างเย้ายวนในชุดเดรสยาวทีดำ

ชุดเดรสสีดำยาวคอวีเผยให้เห็นเนินอกที่ขาวราวหิมะของเธอ เป็นภาพที่ดึงดูดใจจนไม่อาจละสายตา

ในอ้อมแขนของเธอยังคงอุ้มแมวสีขาวบริสุทธิ์ เธอคือคนที่กาเบรียล ซอโต้ เรียกว่า ‘ลอร์ดมิเนอร์วัล’

ทั้งสองนั่งอยู่บนโซฟาแต่ละคนถือแก้วไวน์แดงไว้ในมือ

บนโต๊ะน้ำชาระหว่างทั้งสองคน มีขวดไวน์แดงที่เปิดอยู่

นี่คือขวดไวน์แดงระดับไฮเอนด์ที่ผลิตโดย รอสเซลล์ไวน์ ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องการบ่มไวน์ยาวนานกว่า 70 ปี

มิเนอร์วัลยกแก้วไวน์จ่อกับริมฝีปากสีแดงสดของเธออย่างสง่างาม หญิงสาวจิบไวน์ช้าๆ ทิ้งรอยลิปสติกสีแดงไว้บนขอบแก้วไวน์

ชายหล่อเหลามองไปยังมิเนอร์วัลซึ่งกำลังดื่มไวน์อย่างสง่างามด้วยดวงตาลุกโชน ลำคอของเขาขยับกลืนน้ำลายอย่างเห็นได้ชัด

เขาได้พบกับสตรีผู้สูงศักดิ์มากมายและได้ลิ้มลองรสชาติผ่านค่ำคืนอันหอมหวานมาไม่น้อย

แต่ทว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนดึงดูดใจเท่ากับลอร์ดมิเนอร์วัลที่อยู่ตรงหน้าเขา

แต่หญิงสาวแตกต่างจากสตรีสูงศักดิ์ทั่วไปที่พยายามปีนขึ้นเตียงของเขาอย่างไม่ลดละ เธอคนนี้มีฐานะในองค์กรไม่ต่ำไปกว่าเขาและไม่ใช่สิ่งที่เขาจะได้รับ

มิเนอร์วัลวางแก้วลงบนโต๊ะน้ำชาราวกับจะหยอกล้อเมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาร้อนแรงของชายรูปงาม

“หากแผนขององค์กรสำเร็จลุล่วงได้อย่างสมบูรณ์ การค้างคืนกับท่านย่อมไม่เป็นปัญหา”

“จริงหรือ?” ใบหน้าของชายหนุ่มแสดงอาการตื่นเต้นดวงตาลุกโชนด้วยไฟราคะคล้ายต้องการให้หญิงสาวตรงหน้าละลายเป็นน้ำ

“ฉันไม่เคยเสียใจในสิ่งที่ฉันพูด แต่” มิเนอร์วัลยิ้มและมองไปยังชายผู้มั่งคั่ง

“ฉันเกรงว่าคุณจะไม่มีโอกาส!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด