บทที่ 43 ค้นหา กาเบรียล ซอโต้
บทที่ 43 ค้นหา กาเบรียล ซอโต้
เวลา 20:00 น. ท้องฟ้ามืดสนิท
คนกลับจากทำงานด้วยความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน
เหล่าเศรษฐีหรือพวกขุนนางกลับบ้านตั้งแต่หัวค่ำตอนนี้ถึงฤดูหนาวแล้วหลังจากตกเย็นอากาศจะหนาวเป็นพิเศษ
ลมหนาวพัดผ่านเสียดแทงราวกับคมมีดดังนั้นจึงแทบจะไม่มีคนเดินบนถนนเลย
อย่างไรก็ตามมีรถม้าปรากฏขึ้นนอกบ้านที่กาเบรียล ซอโต้เก็บศพไว้
ม้าขาวสองตัวลากรถม้าไม่นานประตูรถม้าก็เปิดออก
คนในรถม้าคือฟลินน์ ลินดี้ จูลี่และไอวี่
“เริ่มกันเลย!” ลินดี้พูดขณะมองไปยังฟลินน์ที่ถือนาฬิกาแห่งวันวานไว้ในมือ
“ตกลง” ฟลินน์ตอบพลางหมุนนาฬิกาแห่งวันวานและวางมันไว้บนตักของเขา
ด้านหลังของนาฬิกาแห่งวันวานมีลูกบิดอยู่สามปุ่ม
ลูกบิดอันแรกมีขนาดใหญ่กว่าอีกสองอันที่เหลืออย่างเห็นได้ชัด มันมีรูปทรงปีกผีเสื้อซึ่งออกแบบไว้ให้จับอย่างง่ายดาย
นี่คือปุ่มหมุนของนาฬิกาซึ่งเชื่อมต่อกับโครงสร้างที่เป็นฟันเฟืองซึ่งจะช่วยให้นาฬิกาทำงานได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า
แน่นอนว่านาฬิกาแห่งวันวานนี้เป็นวัตถุเวทที่มีพลังวิเศษแม้ว่ามันจะไม่มีวันหยุดทำงานแต่มันก็ยังคงต้องเดินต่อไป
ฟลินน์ปุ่มหมุนที่เหลืออีกสองปุ่มซึ่งมีขนาดเล็กกว่าปุ่มแรกที่เยื้องลงไปด้านล่าง
มันคือเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีของนาฬิกาแห่งวันวาน
“เวลา 20.00 น. และเป็นเวลาประมาณ 99 ชั่วโมงแล้วที่ผมพบกาเบรียล ซอโต้ที่นี่” หลังจากคำนวณในใจฟลินน์ก็หมุนลูกบิดทางซ้ายทวนเข็มนาฬิกาและเข็มชั่วโมงข้อมูลทวนเข็มในทันที
เมื่อนาฬิกาแห่งวันวานหมุนไปในทิศทางตรงข้ามการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้น
ทันใดนั้นท้องฟ้าด้านนอกก็ส่องสว่างราวกับรุ่งสาง
แต่นั่นเป็นไปไม่ได้ตอนนี้เป็นเวลา 20.00 น. และมีเวลาอย่างน้อยสิบ ชั่วโมงก่อนรุ่งอรุณจะมาเยือน
เมื่อมองอย่างระมัดระวังบริเวณที่สว่างซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางรถม้าของ ฟลินน์ประมาณสิบเมตร
มันไม่ใช่รุ่งสาง แต่ท้องฟ้าพลันสว่างขึ้นภายในระยะหนึ่งกิโลเมตรรอบๆ ฟลินน์และคนอื่นๆ
หากมองอย่างสังเกตจะเห็นภาพที่แปลกประหลาดบางอย่าง
นกที่บินบนท้องฟ้าค่อยๆ ถอยกลับหลัง
แมวจรจัดที่เดินผ่านเปลี่ยนทิศทางเป็นถอยหลังกลับ
นี่เป็นเพราะฟลินน์เปิดใช้งานนาฬิกาแห่งวันวานเพื่อย้อนเวลาดังนั้นภาพรอบด้านจึงค่อยๆ ย้อนกลับไป
ตึก!
สองรอบ
...
เจ็ดรอบ
แปดรอบ
เข็มชั่วโมงหมุนไปแปดรอบภาพรอบๆ ย้อนกลับเป็นเวลาสี่วันแล้ว
ฟลินน์หยุดหมุนเข็มชั่วโมงและหมุนเข็มนาทีไปทางขวาแทนเพราะเกือบจะถึงเวลาที่เขาจะพบกับกาเบรียล ซอโต้แล้ว
หยุด!!
รถม้ามาจากถนนตรงข้ามพวกเขาและคนขับรถม้าเป็นชายในชุดดำอายุประมาณสามสิบหรือสี่สิบปีมีผิวสีคล้ำ
ฟลินน์จำชายคนนี้ได้และชายคนนี้คือคนที่เขาเห็นในวันนั้นซึ่งเป็นคนแบกศพไปกับกาเบรียล ซอโต้
จากนั้นรถม้าคันนี้ก็ชัดเจนขึ้นและเป็นรถม้าที่ฟลินน์เคยได้กลิ่นซากศพ
เมื่อเห็นรถม้าคันนี้ ฟลินน์หยุดหมุนเข็มนาทีทันที
ลินดี้และคนที่เหลือเข้าใจได้ทันทีว่ารถม้าคันนี้น่าจะเป็นรถม้าที่กาเบรียล ซอโต้นั่งอยู่และพวกเขาทั้งหมดก็มองไปยังรถม้าคันนี้ด้วยสายตาที่เข้มขึ้น
รถม้าวิ่งชนกับรถม้าของฟลินน์เพราะว่าไม่มีเสียงดังเกิดขึ้นมันผ่านไปและหยุดอยู่ที่นอกบ้านหลังหนึ่ง
สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเพียงภาพในอดีตซึ่งไม่มีตัวตนจริง
จากในรถม้า กาเบรียล ซอโต้ ปรากฏตัวเขายังมีรูปลักษณ์แบบเดิมใช้วัยกลางคนสวมผ้าปิดตาสีดำคาดที่ตาซ้ายของเขา
เขากระโดดลงจากรถม้ามาเปิดประตูด้วยกุญแจแล้วผลักประตูให้เปิดออก
ชายในชุดดำขับรถม้าเข้าไปในลานบ้านทันที
“ฟลินน์ ตามพวกเขาไป” ลินดี้พูดอย่างกระตือรือร้น
ระยะที่นาฬิกาแห่งวันวานส่งผลกระทบคือสิบเมตรเท่านั้นหากเกินกว่าระยะนี้จะไม่สามารถมองเห็นกาเบรียล ซอโต้ได้
“ผมรู้” ฟลินน์รีบกระโดดลงจากรถม้าและเดินตามกาเบรียล ซอโต้ไปที่ลานบ้าน ลินดี้, จูลี่ และ ไอวี่ตามเขาและเข้าไปในสนามด้วย
“ไม่เพียงแต่พรสวรรค์ของปืนลึกลับที่สูงมากเท่านั้นแต่เขายังมีพรสวรรค์ในศาสตร์ที่สองด้วย!” ไอวี่เดินตามหลังทุกคนไป เธอมองไปยังแผ่นหลังของฟลินน์ด้วยความประหลาดใจ
เพราะเธอเป็นเพื่อนร่วมทีมเพียงคนเดียวของฟลินน์ ดังนั้นไอวี่จึงได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมภารกิจนี้ด้วยเหตุนี้เธอจึงรู้ว่าฟลินน์มีดวงตาประเมินเป็นศาสตร์ลับที่สอง
ฟลินน์สามารถเลื่อนระดับปืนลึกลับเข้าสู่วงแหวนที่สองภายในเวลาสองเดือนก็ทำให้เธอประหลาดใจมากพออยู่แล้วแต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะมีพรสวรรค์ในศาสตร์ที่สองอีกด้วย
การมีพรสวรรค์ลึกลับสองประเภทเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับอาณาจักรเหนือวงแหวนทั้งสิบสองหมายความว่าฟลินน์มีความเป็นไปได้ที่จะไปถึงอาณาจักรเหนือวงแหวนทั้งสิบสองหรือไม่?
เพื่อนร่วมทีมคนนี้ของเธอช่างมีพรสวรรค์ชวนตะลึงจริงๆ
เมื่อเข้าไปในลานและล็อคประตูลานบ้านแล้ว กาเบรียล ซอโต้และชายในชุดดำก็เริ่มเคลื่อนย้ายศพจากรถม้าไปยังห้องใต้ดินที่มียันต์หกแฉกซึ่งถูกวาดด้วยเลือดขนาดใหญ่
ในระหว่างเคลื่อนย้ายศพกาเบรียล ซอโต้และชายในชุดดำกำลังคุยกัน
แม้ว่าพวกเขาจะสามารถมองเห็นภาพได้แต่ไม่สามารถได้ยินเสียง ดังนั้นจึงไม่ได้ยินว่าทั้งสองคนกำลังพูดอะไร
“จูลี่ พวกเขาพูดว่าอย่างไร” ลินดี้เตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้แล้ว เธอมองไปที่จูลี่แล้วถาม
เนื่องจากเธอมีความสามารถผ่านตาไม่ลืม จูลี่จึงมีความสามารถในการเรียนรู้ที่แข็งแกร่งและรวมถึงภาษาปากด้วย
แม้ว่าจะไม่ได้ไปถึงระดับปรมาจารย์แต่นั่นเป็นเพราะศาสตร์ลับนี้ไม่มีระดับปรมาจารย์ที่สอดคล้องกันแต่ก็เพียงพอแล้วที่จะใช้งาน
“กาเบรียล ซอโต้ บอกว่าศพเหล่านี้สำคัญมาก...ลอร์ดมิเนอร์วัลต้องการมัน และพวกเขาจะต้องจัดการอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดความเสียหายใดๆ” จูลี่มองไปยังปากของทั้งคู่และพยายามอย่างดีที่สุดที่จะอ่านคำพูดผ่านริมฝีปากที่กำลังขยับนั้น
“ลอร์ดมิเนอร์วัล? เขาอาจเป็นสมาชิกเช่นเดียวกับกาเบรียล ซอโต้ และน่าจะมีสถานะที่สูงกว่า…” ดวงตาของลินดี้เป็นประกายด้วยความคิด
หลังจากสืบค้นคดีของกาเบรียล ซอโต้ เธอสงสัยมานานแล้วว่าชายคนนี้จะเป็นเพียงสมาชิกระดับล่างของลัทธิเฟืองสังหารและแน่นอนว่าสมาชิกผู้มีฐานะสูงสุดของเมืองคอนสตันได้รับการยืนยันแล้ว
คนผู้นี้มีฐานะสูงกว่ากาเบรียล ซอโต้ และคาดว่าจะเป็นหนึ่งในสมาชิกระดับสูงของลัทธิเฟืองสังหาร และคนผู้นั้นคือลอร์ดมิเนอร์วัล
นี่คือข้อมูลที่สำคัญอย่างยิ่ง
ฟลินน์เดินตามกาเบรียล ซอโต้มาจนถึงห้องใต้ดินแต่ไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากขึ้น
ศพถูกเคลื่อนย้ายลงมาแล้วและภาพของกาเบรียล ซอโต้และชายในชุดดำกำลังขึ้นรถม้าเตรียมออกเดินทาง
ฟลินน์ทั้งสี่ขึ้นรถม้าอย่างรวดเร็วและตามรถม้าของกาเบรียล ซอโต้ไป
“ขับตามพวกเขาไป”
ลินดี้สั่งคนขับมาของเธอให้เร่งความรถเร็วเล็กน้อยเพื่อให้ติดตามรถม้าของกาเบรียล ซอโต้ได้ทัน
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงสามารถเห็น กาเบรียล ซอโต้ในรถม้าได้อีกครั้ง
ภายในรถม้ามีเพียงกาเบรียล ซอโต้นั่งอยู่คนเดียวดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรตลอดการเดินทาง
ถึงกระนั้นฟลินน์ทั้งสี่ก็ยังคงจับต้องไปที่เขายังไม่ละสายตาเพราะกลัวว่าจะพลาดข้อมูลสำคัญไป
หลังจากนั้นประมาณสิบนาที
ทันใดนั้นใบหน้าของกาเบรียล ซอโต้ในรถม้าก็เปลี่ยนไปทันทีราวกับว่าเขาได้สัมผัสได้ถึงลางร้ายบางอย่าง
“ตอนนี้เป็นเวลาใกล้เคียงกับตอนที่ผมพบกับสัตว์ประหลาดไร้ตา เขาอาจสัมผัสได้ถึงพวกมัน” ฟลินน์อธิบายให้ลินดี้ทั้งสามฟัง
ลินดี้ทั้งสามคนพยักหน้าเข้าใจเหตุผลและยังคงจ้องไปที่กาเบรียล ซอโต้
เขาเห็นสีหน้าของกาเบรียล ซอโต้ที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวราวกับดิ้นรนทำอะไรบางอย่าง
แต่หลังจากดิ้นรนอยู่เพียงครู่เดียวกาเบรียล ซอโต้ก็เปิดม่านและพูดกับชายในชุดดำ
“เขาพูดอะไร” ลินดี้ถามอย่างเร่งรีบ
“เขาบอกให้ชายในชุดดำเปลี่ยนเส้นทาง แทนที่จะกลับไปที่พัก เขาต้องไปทางอื่น…” จูลี่ตอบ
หลังจากพูดจบกาเบรียล ซอโต้ก็กลับเข้าไปนั่งที่รถม้าตามเดิมและใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล
กว่าสิบนาทีต่อมารถม้าของกาเบรียล ซอโต้ได้หยุดลงที่ถนนร้างไร้ผู้คนสัญจร
กาเบรียล ซอโต้เปิดม่านและพูดบางอย่างกับชายในชุดดำที่โค้งตัวลงเพื่อเข้าไปในห้องโดยสาร
ฉึก!!
ทันทีที่ชายในชุดดำเข้าไปในรถม้า กาเบรียล ซอโต้ก็ปิดปากชายคนนั้นด้วยมือข้างหนึ่งและแทงกริชที่หน้าอกของชายในชุดดำด้วยมืออีกข้างหนึ่ง
ฟั่บ!
ม่านโลหิตสาดกระเซ็น
แม้ว่าจะไม่ได้ยินเสียงแต่ก็ยังสามารถจินตนาการได้ถึงเสียงของหัวใจที่ถูกแทงและเลือดที่สาดกระเซ็นได้
ชายในชุดดำพยายามดิ้นรนสองสามครั้งและค่อยๆ อ่อนแรงลงจนไม่สามารถขยับได้อีก
กาเบรียล ซอโต้วางร่างของชายในชุดดำลง เช็ดกริชและเลือดบนมือรวมถึงร่างของชายชุดดำก่อนจะพึมพำบางอย่างแล้วเดินออกจากรถม้าไป
“อย่าโทษฉันเลย ต้องโทษที่นายและฉันโชคร้ายเกินไป” จูลีรีบแปลสิ่งที่กาเบรียล ซอโต้พูดผ่านริมฝีปาก
ฟลินน์ทั้งสี่ลงจากรถม้าและไล่ตามภาพของกาเบรียล ซอโต้
เขาเห็นกาเบรียล ซอโต้ที่ก้าวลงมาและออกจากถนนร้างอย่างรวดเร็ว เขาก้มศีรษะต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงคนในถนนและเช่าห้องราคาถูกในอพาร์ทเม้นท์ซอมซ่อแห่งหนึ่ง
นี่ควรเป็นที่ซ่อนตัวของเขาและที่ครั้งก่อนยังค้นหาไม่พบ
“ประตูล็อกแล้ว อีกฝ่ายไม่ควรอยู่ที่นี่แล้ว!”
ฟลินน์และคนอื่นๆ อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาอย่างตื่นเต้นเพราะคิดว่าพวกเขาพบที่ซ่อนของกาเบรียล ซอโต้แล้ว
แต่ไม่นานพวกเขาก็พบว่าประตูนั้นล็อกอยู่และถูกล็อกจากภายนอกซึ่งแน่นอนว่าไม่มีคนอยู่ในบ้าน
“ไอวี่ ทำลายแม่กุญแจ!” ลินดี้สั่งไอวี่ เธอพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่แหวนรูปกางเขนบนนิ้วของเธอจะสว่างขึ้นด้วยแสงสีทอง
ดาบกางเขนไขว้สีทองปรากฏขึ้นด้วยแสงแพรวพราว
คลิก!
เสียงที่คมชัดดังขึ้น แม่กุญแจเหล็กถูกตัดออกและร่วงลงกับพื้น
ทั้งสี่เข้าไปในห้องและเห็นภาพของกาเบรียล ซอโต้ที่กำลังเดินไปมาด้วยท่าทางกระวนกระวาย
ทั้ง 4 คนห้องอย่างรวดเร็วเพื่อหาเบาะแสของลัทธิเฟืองสังหาร
อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากเสื้อผ้าและของใช้ประจำวันภายในห้องไม่หลงเหลือร่องรอยที่เกี่ยวข้องกับลัทธิเฟืองสังหาร
กาเบรียล ซอโต้เดินกลับไปกลับมาอย่างใจจดใจจ่อเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง และข้างนอกในเวลากลางคืน
กาเบรียล ซอโต้หยุดเดินไปมาก่อนจะพึมพำบางอย่างกับตัวเอง
“จูลี่ เขาพูดว่าอะไร” ลินดี้ถามอย่างร้อนใจด้วยสัญชาตญาณของเธอกำลังบอกเธอว่าคำพูดของกาเบรียล ซอโต้นั้นสำคัญมาก
“เขาบอกว่าวิธีเดียวที่จะหลบหนีการตรวจค้นของสำนักงานความมั่นคงฯ คือการขอให้นายท่านช่วย!” จูลี่ตอบอย่างรวดเร็ว
“นายท่าน ที่เขาพูดถึงคือลอร์ดมิเนอร์วัลก่อนหน้านี้หรือเปล่า?” ไอวี่ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ฉันไม่แน่ใจ เขาแค่พูดว่าท่านลอร์ดแต่ไม่ได้บอกว่าเขาเป็นใคร” จูลี่ส่ายหน้า
ภาพของกาเบรียล ซอโต้ เปลี่ยนไปสวมเสื้อผ้าของคนธรรมดาเขาสวมหมวกปีกกว้างปกใบใหญ่ปกปิดใบหน้าก่อนจะออกจากห้องในยามกลางคืน
ฟลินน์ทั้งสี่รีบตามไป
กาเบรียล ซอโต้เดินไปบนทางที่แทบไร้ผู้คนสัญจร
ผ่านบ้านเรือนต่างๆ ก่อนจะเข้าสู่ถนนในหมู่บ้านที่เริ่มมีการตกแต่งงดงามประณีตขึ้นเรื่อยๆ
“นี่กำลังเข้าสู่เขตตะวันออก คนที่เขาต้องการพบอาศัยอยู่ในเขตตะวันออก!”
ฟลินน์พูดเมื่อเห็นว่าบ้านรอบๆ ดีกว่าถนนอื่นๆ
“เขตตะวันออก” ประกายเย็นเยียบฉายชัดในดวงตาของลินดี้
ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตตะวันออกล้วนมีแต่ผู้ร่ำรวยหรือขุนนางรวมทั้งนักการเมือง กล่าวคือ ‘ท่านลอร์ด’ ที่กาเบรียล ซอโต้กล่าวถึงนั้นเป็นทั้งขุนนาง เศรษฐี หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน
...
มีคนสองคนอยู่ในห้องที่ตกแต่งอย่างหรูหราประดับด้วยไฟระย้าขนาดใหญ่
หนึ่งในนั้นคือชายหน้าตาดี คนที่ฆ่ากาเบรียล ซอโต้
อีกคนเป็นสาวสวยที่มีรูปร่างเย้ายวนในชุดเดรสยาวทีดำ
ชุดเดรสสีดำยาวคอวีเผยให้เห็นเนินอกที่ขาวราวหิมะของเธอ เป็นภาพที่ดึงดูดใจจนไม่อาจละสายตา
ในอ้อมแขนของเธอยังคงอุ้มแมวสีขาวบริสุทธิ์ เธอคือคนที่กาเบรียล ซอโต้ เรียกว่า ‘ลอร์ดมิเนอร์วัล’
ทั้งสองนั่งอยู่บนโซฟาแต่ละคนถือแก้วไวน์แดงไว้ในมือ
บนโต๊ะน้ำชาระหว่างทั้งสองคน มีขวดไวน์แดงที่เปิดอยู่
นี่คือขวดไวน์แดงระดับไฮเอนด์ที่ผลิตโดย รอสเซลล์ไวน์ ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องการบ่มไวน์ยาวนานกว่า 70 ปี
มิเนอร์วัลยกแก้วไวน์จ่อกับริมฝีปากสีแดงสดของเธออย่างสง่างาม หญิงสาวจิบไวน์ช้าๆ ทิ้งรอยลิปสติกสีแดงไว้บนขอบแก้วไวน์
ชายหล่อเหลามองไปยังมิเนอร์วัลซึ่งกำลังดื่มไวน์อย่างสง่างามด้วยดวงตาลุกโชน ลำคอของเขาขยับกลืนน้ำลายอย่างเห็นได้ชัด
เขาได้พบกับสตรีผู้สูงศักดิ์มากมายและได้ลิ้มลองรสชาติผ่านค่ำคืนอันหอมหวานมาไม่น้อย
แต่ทว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนดึงดูดใจเท่ากับลอร์ดมิเนอร์วัลที่อยู่ตรงหน้าเขา
แต่หญิงสาวแตกต่างจากสตรีสูงศักดิ์ทั่วไปที่พยายามปีนขึ้นเตียงของเขาอย่างไม่ลดละ เธอคนนี้มีฐานะในองค์กรไม่ต่ำไปกว่าเขาและไม่ใช่สิ่งที่เขาจะได้รับ
มิเนอร์วัลวางแก้วลงบนโต๊ะน้ำชาราวกับจะหยอกล้อเมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาร้อนแรงของชายรูปงาม
“หากแผนขององค์กรสำเร็จลุล่วงได้อย่างสมบูรณ์ การค้างคืนกับท่านย่อมไม่เป็นปัญหา”
“จริงหรือ?” ใบหน้าของชายหนุ่มแสดงอาการตื่นเต้นดวงตาลุกโชนด้วยไฟราคะคล้ายต้องการให้หญิงสาวตรงหน้าละลายเป็นน้ำ
“ฉันไม่เคยเสียใจในสิ่งที่ฉันพูด แต่” มิเนอร์วัลยิ้มและมองไปยังชายผู้มั่งคั่ง
“ฉันเกรงว่าคุณจะไม่มีโอกาส!”