บทที่ 1 การพบกันอย่างไม่คาดฝัน
"โอเคค่ะ ขอจบรายการในวันนี้กันตรงนี้นะคะ อย่างไรก็ตามช่วงนี้เป็นฤดูกาลระบาดของไข้หวัด เพื่อนๆผู้ฟังทุกท่าน โปรดให้ความสนใจกับการระบายอากาศ เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อกันด้วยนะคะ~"
เสียงขี้เล่นของพิธีกรที่กำลังออกอากาศค่อยๆ เบาลง จากนั้นเสียงที่ดุร้ายและรุนแรงของเพลงเมทัลก็ดังขึ้นอย่างหนักหน่วง ขนาดที่ความดังของเสียงอาจจะเป็นอันตรายต่อแก้วหูของคนได้
“ฉันอยู่ที่ไหนเนี้ย...” ชายตัวใหญ่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ ค่อยๆ ตื่นขึ้นช้าๆ และมองไปรอบๆ ด้วยความสับสน
เสียงตบดังสนั่น ชายที่เพิ่งตื่นถูกตบเข้าที่ใบหน้าและกลับไปมึนงงอีกครั้ง
"ผู้ดูแลหวางคุณกำลังอยู่ในอพาร์ทเมนต์เช่าของฉัน" ผู้ที่คนลงมือหัวเราะ
"ฮะ?" หวางฮั่นผู้หน้าสงสารเบิกตากว้างมองไปที่คนตรงหน้าเขา
ชายคนนั้นยิ้มขณะถูมือขวาและพุ่งเข้ามาตบหน้าเขาอีกครั้ง
"นายลักพาตัวฉัน?" หวางฮั่นพยายามที่จะลุกขึ้นนั่ง แต่พบว่ามือและเท้าของเขาถูกมัดไว้ด้วยเชือกเข้ากับเก้าอี้อย่างแน่นหนา
"หยางเสียวเฉินคุณกำลังล้อเล่นอยู่ใช่รึเปล่า ใช่ไหม คุณเป็นคนคิดหรอ ฉันชอบนะมันตลกดี พวกนายเล่นตลกกับฉันกันใช่ไหม แอบตั้งกล้องไว้ตรงไหนเนี้ย”
หยางเซี่ยวเฉินส่ายหัวด้วยรอยยิ้มและไม่ได้พูดอะไรออกมา
“นี่มันไม่สนุกแล้วนะ ฉันรู้ว่านายชอบทำอะไรขำๆ แต่คราวนี้นายเล่นมากเกินไปแล้ว นายโตจนเข้ามหาลัยได้แล้วนะ จะเล่นอะไรแบบนี้ไม่ได้ เพราะงั้นนายช่วยแก้มันให้ฉันทีได้ไหม” “ฉันเจ็บไปหมดแล้ว”
หวางฮั่นแสดงออกว่า "ฉันเข้าใจ" เขาพยายามที่จะจับข้อมือของเขา แต่เหงื่อเย็น ๆ บนหน้าผากของเขาก็เผยให้เห็นถึงความตื่นตระหนกที่อยู่ภายในของเขา
“ป๊าบ” เสียงตบดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มีรอยมือห้านิ้วบนใบหน้าของหวางฮั่น ทำให้ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัว
“เฮ้ คุณโกรธจนตัวสั่นเลยหรอ” หยางเซี่ยวเฉินจุดบุหรี่บนริมฝีปากของเขา ในขณะที่พูดไฟริบหรี่สะท้อนโครงหน้าด้านข้างที่ปราศจากรอยยิ้มของเขา
“ใช่ ฉันลักพาตัวคุณมา และนี้ไม่ใช่การเรียกค่าไถ่” หยางเซี่ยวเฉินสูดควัน "มันเป็นเรื่องของหยูเชียน"
ไม่ถึงวินาทีหลังจากได้ยินชื่อใบหน้าของหวางฮั่นก็ซีดลง แตกต่างจากตอนที่คุยเรื่องตลกของหยาง เซี่ยวเฉินอย่างสิ้นเชิงเวลานี้ตัวเขาสั่นขึ้นมาจริงๆแล้ว “ฉัน...ไม่ใช่ฉัน!”
"คุณอาจไม่รู้ว่าฉันกับหยูเชียนเราสนิทกันมานานแค่ไหน" หยางเซี่ยวเฉินโบกมือเป็นสัญญาณให้ หวางฮั่นหุบปาก และพูดกับตัวเองว่า "นายรู้ด้วยหรอว่าฉันเป็นคนตลก แต่ไม่มีใครเข้าใจที่ฉันทำตัวแบบนั้นสักคน มันน่าเศร้าอะไรอย่างนี้ โชคยังดีที่ที่ผ่านมาฉันมีหยูเชียน"
“ฉันรู้จักกับเขาตั้งแต่ประถม มัธยมต้น จนถึงมัธยมปลาย ถ้าฉันไม่ขอให้เขามาใช้ชีวิตสนุกๆในมหาลัยด้วยกัน ด้วยผลการเรียนของเขา เขาก็คงไม่ต้องพักในหอพักนักศึกษานี้เพื่อเรียนหนังสือ”
ขณะที่พูดน้ำตาก็ไหลลงมาจากดวงตาทั้งสองของเขา
หยางเซี่ยวเฉินยื่นมือทั้งสองข้างออกไปเช็ดบนใบหน้าของเขา และจ้องมองที่หวางฮั่นด้วยดวงตาสีแดง จากนั้นพูดว่า "ถ้าฉันรู้ว่ามันจะเกิดขึ้น ฉันน่าจะฆ่านายให้เร็วกว่านี้ แต่โชคดีที่มันยังไม่สายเกิน ไปใช่ไหม? "
"ไม่ไม่ไม่!" ในที่สุดหวางฮั่นก็ตระหนักได้ว่าคนบ้าที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นของจริงและตะโกนออกมา
"ฉันไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้! หลังหยูเชียนเกิดอุบัติเหตุ ฉันก็กลัวมาก! กลัวมาก! ตอนกลางคืนฉันนอนไม่หลับ ตอนกลางวันก็เรียนหนังสือแทบไม่ได้ มันเป็นเพราะฉันสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ไม่ดี ฉันเลยดื่มมากเกินไป ไม่ใช่ความผิดของฉันที่ทำให้เขาต้องตาย!ฉันไม่รู้ว่าอุบัติเหตุแบบนั้นจะเกิดขึ้น!”
“ถ้าเป็นอุบัติเหตุ ฉันก็โทษพวกนายไม่ได้จริงๆ แต่ฉันรู้ดีว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุ”
หยางเซี่ยวเฉินโยนก้นบุหรี่ที่เหลือทิ้ง หยิบกระเป๋าเครื่องมือขึ้นมาแล้วเริ่มหยิบหลอดเข็มฉีดยาขึ้นมาวาง
“นายฆ่าฉันไม่ได้นะ มันผิดกฎหมาย!” หวางฮั่นตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
"หยางเซี่ยวเฉินอย่าทำลายชีวิตของนาย! เราสามารถคุยกันดีๆได้! ได้โปรดบอกฉันมาว่านายต้องการอะไร ฉันยอมทำทุกอย่าง"
“เอาล่ะ งั้นมาคุยกันเถอะ ฉันต้องการชีวิตนาย” หยางเซี่ยวเฉินเล่นกับเข็มฉีดยาและเริ่มจัดระเบียบยาอันตรายหลายชนิด"
"อย่ากังวล ฉันเอาชีวิตของตัวเองมาเสี่ยงไม่คิดหน้าคิดหลังแน่นอน ดูสิขวดที่อยู่ตรงมุมตรงนั้น มีโซดาไฟเจ็ดหรือแปดขวด มันสามารถทำความร้อนได้เกิน 150 องศา แล้วจากนั้นร่างของนายก็จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย ด้วยตัวนายเองที่มักจะไม่ได้กลับบ้าน 2-3 วันเป็นประจำ แน่นอนว่า 2-3 วันนี้ก็พอที่จะทำให้ไม่มีหลักฐานหรือเงื่อนงำใดๆเหลืออยู่อีกต่อไป”
“เอาล่ะนายพร้อมแล้วหรือยัง อย่าได้คิดที่จะร้องเรียกคนให้มาช่วย ผู้เช่าทั้งหมดเป็นนักศึกษา และตอนนี้การสอบก็จบลงแล้ว พวกเขาส่วนใหญ่กำลังฉลองกันอยู่ และเสียงของนายจะถูกกลบด้วยเสียงเพลงอย่าเปลืองแรงเลย สนุกกับชีวิตเป็นครั้งสุดท้ายเถอะ ลิ้มรสความเจ็บปวดของการรอคอยความตายที่กำลังจะมาถึง”
หวางฮั่นมองไปที่อดีตเพื่อนร่วมชั้นที่กำลังยิ้มแย้มด้วยความสิ้นหวัง และความเครียดก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุน
หลังหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งครั้งหยางเซี่ยวเฉินวางเข็มลงและเปิดกล่องบุหรี่ของเขาซึ่งมันว่างเปล่า
เขาไม่ได้เฉยชาอย่างที่แสดงออก
การพูดคุยจบลงผลคือยิ่งทำให้หวางฮั่นรู้สึกกลัวมากกว่าเดิมยิ่งหวางฮั่นหวาดกลัวและเจ็บปวดมากเท่าไหร่ การแก้แค้นครั้งนี้ก็จะยิ่งมีความหมายมากขึ้นเท่านั้น
แต่ไม่ว่ายังไงการฆาตกรรมก็หนักเกินไปสำหรับเขา แม้ว่าเขาจะเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่แค่ไหน ความกังวลใจและความกดดันก็ยังทำให้เขาแทบจะหายใจไม่ออก
ขอสูบบุหรี่อีกสักหน่อย
“ฉันจะลงไปซื้อบุหรี่ หัวหน้าหวางรอฉันก่อนนะ” หยางเซี่ยวเฉินแสยะรอยยิ้มแข็ง ๆ แล้วหยิบที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะฟาดลงบนหัวของหวางฮัน ทำให้ศีรษะของเขาเอียงไปด้านข้างและหมดสติไป
"ชิ มันใช้เวลาประมาณสิบนาทีในการเดินไปกลับ แต่ถ้าเจ้าของบ้านชั้นล่างกลับมาและคิดว่าเพลงของฉันดังเกินไป เขาอาจจะมาเรียกที่ประตูแล้วถ้าไม่มีใครเปิดประตู เขาต้องเปิดประตูด้วยกุญแจของหอแน่ ถึงตอนนั้นฉันก็จบเห่แล้วจริงๆ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ต้องปิดเพลงซะ"
หลังจากตรวจสอบเชือกอย่างระมัดระวังแล้วหยางเซี่ยวเฉินก็ปิดเพลงและปิดปากของหวางฮัน ด้วยเทปและเศษผ้า จากนั้นจึงรีบลงไปยังชั้นล่าง
หลังจากนั้นไม่นานแสงสีขาวสว่างวาบผ่านมา แล้วจู่ๆร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
"ฮะ!" หวางฮั่นที่ฟื้นขึ้นมาได้สักพักได้เห็นรูปลักษณ์ของคนผู้นี้อย่างเต็มตา เขาร้องอุทานอย่างสุดเสียง “เป็นไปไม่ได้!”
…………
สิบห้านาทีก่อนหน้านี้
หยางเซี่ยวเฉินวิ่งเหยาะๆ ไปจนถึงร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ที่สุด เขาไม่ได้รีบร้อนแค่ต้องการใช้การวิ่งเพื่อคลายความตึงเครียดและความกดดันที่อยู่ในใจ
หลังจากวิ่งเข้าไปในร้านสะดวกซื้อหยางเซี่ยวเฉินพบว่ามีผู้คนจำนวนมากเกินกว่าที่เขาคาดไว้ คนหลายสิบคนมารวมตัวกันที่หน้าชั้นวางสินค้าและไม่รู้ว่าทำอะไรกันอยู่
“เอาหงเจียงมาให้ฉันซองหนึ่ง” หยางเซี่ยวเฉินพยักหน้าให้แคชเชียร์ของร้านสะดวกซื้อแล้วถามว่า "เกิดอะไรขึ้นที่นั่น"
“ไม่รู้สิ ดูเหมือนว่าจะมีคนอาเจียนเป็นเลือดและหมดสติไป ผู้จัดการของเรากำลังดูแลเขา คนอื่นๆ ก็แค่กำลังดูเรื่องสนุกอยู่” ใบหน้าของแคชเชียร์ซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด “ยังดีที่มีการตรวจสอบด้วยกล้องวงจรปิดในร้าน ไม่อย่างนั้นเวลาเกิดเรื่องก็บอกได้ยากแล้ว ครั้งล่าสุดมีคนเข้ามาในร้านแล้ว...”
หยางเซี่ยวเฉินไม่ฟังสิ่งที่เขาพูดต่อ หลังจากได้รับบุหรี่เขาก็ยิ้มอย่างขออภัย รีบจ่ายเงินและเดินออกไปจุดบุหรี่ ไม่ว่าคุณจะเดินช้าแค่ไหน ฉันก็แค่อยากเดินบนเส้นทางชีวิตที่ใสสะอาดนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยที่มือของฉันยังไม่เปื้อนเลือด แม้ว่าสิ่งที่ทำเหล่านี้นี่จะไม่มีความหมายอะไรก็ตาม
หยางเซี่ยวเฉินเดินไปตามทางและตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ ตลอดเวลาการเดินเพียงสิบนาที เขาเห็นรถพยาบาลถึงสี่ครั้งและไม่ได้มาจากที่เดียวกัน!
"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ" หยางเซี่ยวเฉินนึกถึงเรื่องไข้หวัดที่ได้ฟังทางวิทยุ คนที่อาเจียนเป็นเลือดและหมดสติในร้านสะดวกซื้อ ราวกับจะบอกว่ามีอะไรบ้างอย่างผิดปกติเกิดขึ้น
ช่างหัวมันสิ กลับไปสะสางปัญหาของตัวเองเถอะ
เดินกลับเข้าไปที่หอพักหยิบกุญแจออกมาแล้วเปิดประตูหยางเซี่ยวเฉินมองเห็นแสงสีขาวพร่างพราวมาจากรอยแยกของประตูออกมา
แสง..แสงมาจากที่ไหน? !
หยางเซี่ยวเฉินรีบกระแทกประตูให้เปิดออกและมองเข้าไปในห้อง
"ปัญหา" ที่ต้องสะสาง “หวางฮั่น” ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างอยู่เหมือนเดิม แต่ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติในห้อง มีอีกคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อีกทั้งยังเป็นคนที่ไม่ควรจะมานั่งอยู่ตรงนั้นอีกด้วย
กุญแจที่ถือไว้ในมือหล่นลงสู่พื้น หยางเซี่ยวเฉินทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะก่อนจะถามด้วยเสียงที่สั่นเครือ: "หยูเชียน?"