ตอนที่ 176: ผู้ลักลอบ
ตอนที่ 176: ผู้ลักลอบ
เนื่องมาจากเขตแดนไร้มนุษย์บริเวณนี้ไม่ได้รับการปกป้องจากกองทัพของพันธมิตร การที่ยานลำหนึ่งตกไปเป็นเป้าหมายของกลุ่มโจรสลัดก็มักที่จะทำให้พวกเขาได้เจอกับจุดจบที่น่าสังเวช
โจรสลัดเป็นอาชีพที่เก่าแก่มากและโจรสลัดที่อาศัยอยู่ในอวกาศก็เลวร้ายมากยิ่งกว่าโจรสลัดในทะเลสมัยโบราณ เพราะท้ายที่สุดทะเลดวงดาวย่อมกว้างกว่ามหาสมุทร มันจึงทำให้มีโจรสลัดหลบซ่อนอยู่ตามซอกมุมต่าง ๆ ของจักรวาลเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน
เซี่ยเฟยรู้สึกลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบรับสัญญาณขอความช่วยเหลือ
ยานที่เขาขับในปัจจุบันเป็นถึงยานแบทเทิลครุยเซอร์ โจรสลัดธรรมดา ๆ จึงไม่มีทางที่จะสร้างอันตรายให้กับเขาได้เว้นแต่ว่าเขาจะได้เจอกับกลุ่มโจรสลัดขนาดใหญ่จริง ๆ ดังนั้นการเดินทางโดยยานแบทเทิลครุยเซอร์จึงแทบที่จะเป็นการเดินทางที่ปลอดภัย
“นี่คือโทมาฮอว์ก ช่วยระบุตัวตนของคุณด้วย” เซี่ยเฟยกล่าว
โทมาฮอว์กเป็นชื่อที่เซี่ยเฟยตั้งให้กับยานลำนี้ เนื่องจากรูปร่างภายนอกของมันทำให้เขานึกถึงขวานสีเงิน
ในเวลาเดียวกันเมื่อปราศจากการสนับสนุนจากสตาร์เน็ตเวิร์ก มันจึงทำให้การสื่อสารภายในจักรวาลถูกรบกวนจากสภาพแวดล้อมอย่างมากมาย โดยเฉพาะการสื่อสารระยะไกลที่เป็นปัญหาสำหรับมนุษยชาติมาช้านาน
แต่โทมาฮอว์กได้ติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารขนาดใหญ่เอาไว้ทำให้การรับส่งสัญญาณของยานลำนี้ค่อนข้างดี แต่มันเห็นได้ชัดเลยว่าผู้ที่ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไม่ได้มีอุปกรณ์สื่อสารระดับสูง มันจึงทำให้เสียงที่เขาส่งออกมาทั้งไม่ต่อเนื่องและฟังได้ไม่ชัดเจน
“ย้ำอีกครั้ง! โปรดระบุตัวตนของคุณและรุ่นของยานอวกาศที่คุณขับ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
สถานการณ์ในปัจจุบันคือผู้ร้องขอความช่วยเหลือได้ยินเสียงของเซี่ยเฟยอย่างชัดเจน แต่ชายหนุ่มไม่สามารถได้ยินข้อความจากอีกฝ่ายหนึ่งได้
หากกลุ่มโจรสลัดที่จู่โจมอีกฝ่ายมียานเพียงแค่ 1-2 ลำเซี่ยเฟยมั่นใจว่าเขาจะสามารถขับไล่ศัตรูพวกนี้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าหากว่ากลุ่มโจรสลัดมีกองยานนับสิบลำ มันก็คงจะทำให้สถานการณ์ตกอยู่ในอันตราย
ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีโจรสลัดเจ้าเล่ห์บางคนจงใจส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือเพื่อรอเหยื่อเข้าไปให้ติดกับ เซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องรักษาความปลอดภัยของตัวเองเอาไว้ก่อน
จากเสียงที่ได้ยินเป็นระยะ ๆ เขาก็พอจับใจความได้ว่ายานของผู้ร้องขอความช่วยเหลือคือยานอวกาศพลเรือนที่กำลังถูกจู่โจมโดยยานฟริเกตของโจรสลัด
เซี่ยเฟยใช้นิ้วจิ้มหน้าจอ 2-3 ครั้งก่อนที่จะขับโทมาฮอว์กไปตามตำแหน่งของสัญญาณขอความช่วยเหลือ
“นายจะไปจริง ๆ หรอ ถ้ามันเป็นกับดักของศัตรูล่ะ” อันธถามอย่างเป็นห่วง
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันแค่รู้สึกว่าฉันควรจะต้องไป” เซี่ยเฟยกล่าว
คำตอบนี้ถึงกับทำให้อันธพูดไม่ออกไปชั่วขณะ เพราะโดยปกติเซี่ยเฟยเป็นคนที่มีเหตุผลและรอบคอบมาก แต่ชายหนุ่มก็มักที่จะทำตามสัญชาตญาณของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง มันจึงทำให้ในบางครั้งเขาก็กลายเป็นคนที่ไม่มีเหตุผล
โชคดีที่สัญชาตญาณของเซี่ยเฟยเป็นสิ่งที่แตกต่างจากคนทั่วไป เพราะมันเป็นสัญชาตญาณที่มีความแม่นยำสูงมาก เขาจึงยังไม่เคยได้รับบทเรียนสำคัญจากการเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณเหล่านี้
ด้วยบุคลิกอันแปลกประหลาดที่ค่อนข้างจะขัดแย้งกันในตัวเองของเซี่ยเฟย มันจึงทำให้คนอื่นอ่านการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มคนนี้ได้ยากมาก ซึ่งแม้แต่อันธที่อยู่กับเขามามากกว่า 2 ปีก็ยังได้ข้อสรุปว่าเซี่ยเฟยเป็นมนุษย์ที่มีความคิดอันซับซ้อนและชอบเคลื่อนไหวอย่างแปลกประหลาด
โทมาฮอว์กเดินทางข้ามระยะ 35,000 ปีแสงได้ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที ก่อนที่มันจะออกมาจากรูหนอนสู่จักรวาลอันมืดมิด
ภาพด้านหน้าคือยานอุตสาหกรรมขนาดเล็กถูกห้อมล้อมด้วยยานฟริเกตที่กำลังจู่โจมด้วยขีปนาวุธ ทำให้ตัวยานอุตสาหกรรมเกิดไฟไหม้ขึ้นมาอย่างมากมายและใกล้ที่จะถูกทำลายลงเต็มที
หากเซี่ยเฟยมาสายกว่านี้อีกสัก 1 นาที ยานลำนั้นคงจะกลายเป็นขยะอวกาศจำนวนนับไม่ถ้วนที่ล่องลอยอยู่ในจักรวาล
“ปล่อยโดรนต่อสู้เบา เร่งการจู่โจมไปที่ยานฟริเกต”
“เปิดใช้งานเครื่องวาร์ปดิสรับเตอร์ อย่าให้พวกมันวาร์ปหนีพวกเราไปได้”
เซี่ยเฟยสั่งการอยู่ในห้องบัญชาการอย่างสงบและด้วยความช่วยเหลือจากระบบ AI อัจฉริยะ มันจึงทำให้ชายหนุ่มสามารถควบคุมยานแบทเทิลครุยเซอร์ลำใหญ่ลำนี้ได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่จำเป็นจะต้องมีผู้ช่วยคนอื่นใด
หากยานลำนี้ไม่ได้มีความช่วยเหลือจากระบบ AI มันก็คงจำเป็นจะต้องใช้คนหลายพันคนในการควบคุม
ยานโจรสลัดไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโทมาฮอว์กเลย เพราะท้ายที่สุดเพียงแค่ขนาดของตัวยานก็มีความแตกต่างกันหลายสิบเท่าแล้ว
“แม่จ้าว! นั่นมันยานแบทเทิลครุยเซอร์! และยังเป็นยานแบทเทิลครุยเซอร์ของสมาพันธ์จัสทิสด้วย”
“รีบหนีเร็วเข้า! เปิดใช้ระบบวาร์ปฉุกเฉิน”
ทันทีที่พวกโจรสลัดเห็นโทมาฮอว์กพวกมันก็รีบสั่งถอยอย่างตื่นตระหนก ทำให้เครื่องวาร์ปทำงานอย่างเต็มที่และหายไปในทะเลดวงดาวทันที ก่อนที่เครื่องวาร์ปดิสรับเตอร์ของเซี่ยเฟยจะทำงาน
จากนี้ไปพวกเขาก็คงจะเก็บตัวอยู่ในเงามืดเป็นเวลานาน เพราะเพียงแค่ยานแบทเทิลครุยเซอร์ธรรมดาก็สามารถทำลายพวกเขาได้อย่างง่ายดาย มันจึงไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงยานแบทเทิลครุยเซอร์ของสมาพันธ์จัสทิสที่โด่งดังไปทั่วทั้งจักรวาลเลย
อันที่จริงพวกเขาก็คิดถูกเพียงแค่ครึ่งเดียวว่าบนยานรบมีจัสทิสเดินทางมาด้วยจริง ๆ แต่จัสทิสบนโทมาฮอว์กกลับเป็นจัสทิสฝึกหัดเพียงแค่คนเดียว
“พวกมันหนีไปแล้ว” เซี่ยเฟยเม้มริมฝีปากอย่างไม่พอใจ
ถึงแม้ว่ายานแบทเทิลครุยเซอร์จะค่อนข้างทรงพลังแต่มันก็เชื่องช้า เพราะท้ายที่สุดยิ่งยานอวกาศมีขนาดใหญ่มากเท่าไหร่พวกมันก็จำเป็นต้องใช้เวลาตอบสนองที่มากขึ้นเท่านั้น
“ถ้าตอนนี้ฉันขับแวมไพร์ พวกมันไม่มีทางหนีไปได้แน่ ๆ” เซี่ยเฟยบ่นพึมพำกับตัวเอง
“ไม่เป็นไรน่า พวกเราไปดูยานลำนั้นกันก่อนดีกว่า” อันธกล่าวพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะติดต่อเข้าไปยังยานอุตสาหกรรมตรงหน้า
“ช่วยรายงานตัวตนกับภารกิจของคุณด้วย”
“ฉันชื่อแฮร์ริส รหัสประจำตัว 4126938706 ฉันเป็นนักธุรกิจกำลังจะไปขายอาหารที่ภูมิภาคดาวมฤตยู แต่ฉันถูกพวกโจรสลัดปล้นเสียก่อน” ชายชราอายุประมาณ 50 ปีกล่าวขึ้นบนหน้าจอสื่อสาร
เซี่ยเฟยส่งเสียงหัวเราะให้กับชายชราตรงหน้าเบา ๆ เพราะมันมีนักธุรกิจประเภทไหนที่เสี่ยงขับยานลำเล็กผ่านเขตแดนไร้มนุษย์ หรือมันอาจจะตีความได้ว่าคนคนนี้คือผู้ลักลอบค้าของเถื่อนอย่างไม่ต้องสงสัย
ความเป็นจริงแล้วชายหนุ่มไม่ได้รังเกียจพวกลักลอบขายของเถื่อนเลย เพราะตัวตนของพวกเขาได้นำสิ่งของต่าง ๆ ไปสู่เขตทุ่งดาวแห่งความตาย และทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเขตทุรกันดารเหล่านั้นใช้ชีวิตได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
นี่คือเหตุผลที่ทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตทุ่งดาวแห่งความตายชื่นชอบผู้ลักลอบค้าของเถื่อน พวกเขาจึงมักจะจัดหาเสบียงอาหารมาต้อนรับ หรือแม้กระทั่งจัดหาที่พักให้ผู้ลักลอบเมื่อถูกตามล่าจากทางการ
เรื่องราวทั้งหมดนี้เซี่ยเฟยได้หาข้อมูลมาจากสตาร์เน็ตเวิร์ก แต่ท้ายที่สุดข้อมูลในเขตทุ่งดาวแห่งความตายก็มีอยู่อย่างจำกัด ชายหนุ่มจึงมีข้อมูลของเขตทุ่งดาวแห่งความตายอยู่เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
“ยานของคุณเป็นยังไงบ้าง?” เซี่ยเฟยถาม
“โครงสร้างได้รับความเสียหายมากกว่า 89% ฉันเกรงว่าตัวยานน่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน ไม่ทราบว่าคุณกำลังจะไปที่ไหน คุณพาฉันติดไปด้วยจะได้ไหม?” ชายชรากล่าวขึ้นมาอย่างน่าสมเพช
ยานอวกาศทุกลำต่างก็ประกอบไปด้วยเกราะพลังงาน, เกราะภายนอกและโครงสร้างที่คอยป้องกัน หากยานลำใดมีความเสียหายในระดับโครงสร้างยานลำนั้นก็เข้าใกล้คำว่าพังทลายไปเต็มที
ด้วยสถานะที่โครงสร้างได้รับความเสียหายแบบนี้มันก็เป็นไปไม่ได้ที่ตัวยานจะเดินทางในระยะไกล เพราะเพียงแค่การเดินทางผ่านรูหนอนก็เพียงพอที่จะฉีกกระชากตัวยานจนขาดเป็นชิ้น ๆ และการเดินทางในดินแดนไร้มนุษย์โดยที่ไม่สามารถทำการวาร์ปผ่านรูหนอนได้ มันก็ไม่ต่างไปจากการเดินทางที่รอวันตาย
“คุณอยู่บนยานคนเดียวหรือเปล่า?” เซี่ยเฟยถาม
“ใช่ฉันอยู่คนเดียว คุณช่วยพาฉันไปด้วยนะ” แฮร์ริสพูดขึ้นอย่างกังวล การจู่โจมจากโจรสลัดในก่อนหน้านี้ยังทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว
‘พวกลักลอบค้าของเถื่อนน่าจะคุ้นเคยเส้นทางไปยังเขตทุ่งดาวแห่งความตายเป็นอย่างดี การพาคนคนนี้ไปด้วยอาจจะเป็นประโยชน์กับเราก็ได้’ เซี่ยเฟยคิดกับตัวเอง
ปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้คือเขาไม่คุ้นเคยกับเส้นทางและการเดินทางในจักรวาลก็ไม่ง่ายเหมือนการเดินทางบนท้องถนน เพราะมันจำเป็นจะต้องคอยหลีกเลี่ยงหลุมดำ, พายุแม่เหล็กไฟฟ้าและพายุรังสีที่มีอันตรายแก่ชีวิต
ด้วยการไม่คุ้นเคยเส้นทางนี่เองมันจึงทำให้เซี่ยเฟยต้องใช้เวลาในการเดินทางถึง 13 วันจากปกติที่ควรจะต้องใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 9 วันเท่านั้น โชคดีที่โทมาฮอว์กเป็นยานรบขนาดใหญ่ที่มีเกราะแข็งมาก มันจึงทำให้เขาเดินทางได้อย่างราบรื่น เพราะถ้าหากว่าเขาได้เดินทางโดยใช้แวมไพร์เขาก็อาจจะประสบกับปัญหาใหญ่ไปแล้วก็ได้
ที่นี่คือเขตแดนไร้มนุษย์ซึ่งอยู่ห่างจากเขตแดนของพันธมิตร มันจึงทำให้แผนที่ดาวในบริเวณนี้ไม่สมบูรณ์และยังขาดการระบุตำแหน่งสถานที่อันตรายอย่างมากมาย มันจึงเป็นเรื่องที่ดีกว่าหากจะมีคนที่คุ้นเคยเส้นทางเดินทางไปพร้อมกับเขาด้วย เพราะมันจะช่วยให้เขาประหยัดเวลาเดินทางได้เยอะมาก
“เปิดช่องเทียบยานแล้วเอาแผนที่เส้นทางกับระบบนำทางของคุณมาด้วย” เซี่ยเฟยกล่าว
ในเมื่อแฮร์ริสเป็นผู้ลักลอบค้าของเถื่อน มันก็หมายความว่าชายชราจะต้องเดินทางบนเส้นทางสายมรณะแห่งนี้ตลอดทั้งปี ดังนั้นระบบนำทางของเขาย่อมสะสมข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมากมาย เซี่ยเฟยจึงสั่งให้เขานำระบบนำทางของยานมาด้วย
แฮร์ริสตอบรับอย่างรวดเร็วและพยายามขอบคุณชายหนุ่มอย่างบ้าคลั่ง
ต่อมาเซี่ยเฟยก็เดินไปรอตรงบริเวณช่องเทียบยานอย่างระมัดระวัง เพราะท้ายที่สุดมันก็กำลังมีคนแปลกหน้าขึ้นมาบนยานของเขา
แฮร์ริสลากกระเป๋าใบใหญ่ 2 ใบเข้ามาภายในยานด้วยอาการเหนื่อยหอบ ซึ่งเมื่อดูจากภายนอกเขาก็เป็นชายชราผิวขาวนิ้วเรียวที่สวมแว่นตากรอบสีทองที่ดูดีพอใช้ได้ อย่างไรก็ตามแว่นตาของเขากลับมีร่องรอยของการหักและเขาก็ติดแว่นเข้าด้วยกันด้วยเทปใส แต่เมื่อเวลาได้ล่วงเลยไปเทปใสก็เริ่มจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและมีร่องรอยแห่งความสกปรกที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
เซี่ยเฟยทำการตรวจสอบสิ่งของของแฮร์ริสอย่างละเอียด ก่อนที่จะยืนยันได้ว่ามันไม่มีสิ่งของใดที่ผิดปกติ
“คุณมีแหวนมิติไหม?” เซี่ยเฟยถาม
“คุณจัสทิส…”
เซี่ยเฟยรีบยื่นมือออกไปขัดจังหวะและพูดว่า
“เรียกผมว่าจัสทิสมันออกจะดูน่าอึดอัดเกินไปหน่อย เรียกผมว่าเซี่ยเฟยเฉย ๆ ก็ได้”
“คุณเซี่ยเฟยฉันเป็นแค่นักธุรกิจที่ยากจน แล้วฉันจะเอาแหวนมิติมาจากไหน” แฮร์ริสพูดอย่างถ่อมตัว
เซี่ยเฟยพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรแต่แฮร์ริสก็ทิ้งกระเป๋าเอาไว้และเดินกลับไปที่ยานของเขา
“นั่นคุณจะทำอะไร?” เซี่ยเฟยกล่าว
“คุณเซี่ยเฟยสินค้าบนยานคือทุกอย่างที่ฉันมี ถ้าหากฉันเสียสินค้าพวกนั้นไปมันก็ไม่ต่างไปจากการที่ฉันล้มละลาย”
เซี่ยเฟยส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ กับความงกของชายชราตรงหน้า เพราะท้ายที่สุดยานของเขาก็พร้อมที่จะระเบิดขึ้นมาได้ทุกเวลา แต่ชายชราก็ยังเป็นห่วงสินค้ามากกว่าชีวิตของตัวเอง
ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็ปิดช่องเทียบยานก่อนที่จะบังคับโทมาฮอว์กให้เคลื่อนที่หนีออกมา ซึ่งการกระทำของเขาทำให้ใบหน้าของแฮร์ริสเปลี่ยนไปอย่างน่าเกลียดและเขาก็รู้สึกสูญเสียจนแทบจะหายใจไม่ออก
ตูม!
หลังจากโทมาฮอว์กเคลื่อนที่หนีออกมาเพียงแค่ไม่นาน ยานอุตสาหกรรมของแฮร์ริสก็ระเบิดขึ้นมาอย่างรุนแรง
ชายชราใช้มือข้างหนึ่งจับหน้าอกตรงบริเวณหัวใจของตัวเองเอาไว้ราวกับว่าเขาได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างของเขาไปแล้ว
แต่ในความเป็นจริงมันกลับไม่มีใครสังเกตว่าในซากยานอุตสาหกรรมไม่มีสินค้าใด ๆ เลย หรือว่านักธุรกิจชราคนนี้กำลังขนอากาศไปขายในเขตทุ่งดาวแห่งความตาย?
***************
เมื่อคนงกมาเจอกันสินะ 555