ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 23 เข้าร่วมสืบสวน
อาคารที่ตั้งของสหภาพนักสำรวจถูกตั้งขึ้นโดยมีแถวสองสามแถวสำหรับให้คนขายวัถุดิบ, สมุนไพรและสิ่งอื่น ๆ ที่พวกเขาพบในเทือกเขาอัคคีแผดเผา ส่วนที่เหลือของอาคารนั้นส่วนใหญ่ก็เหมือนกับโรงเตี๊ยมทั่วไปที่ผู้คนสามารถดื่มและพักผ่อนหลังจากออกสำรวจมาทั้งวัน
เซวียนห่าวสอดส่องสายตาเข้าไปในสหภาพนักสำรวจ ผู้คนส่วนใหญ่ในที่นี่ล้วนติดเหรียญตราเล็ก ๆ บนอกของพวกเขา
เหรียญตรานั้นเป็นสัญลักษณ์ขคือองพลั่วที่ไขว้กันและเป็นสัญลักษณ์ของสหภาพนักสำรวจ เหรียญตรานั้นแสดงว่าผู้คนที่ครอบครองมันเป็นสมาชิกของสหภาพนักสำรวจ
สหภาพนักสำรวจมีสมาชิกหลายรูปแบบและผู้ที่ครอบครองเหรียญตราก็คือนักสำรวจ
นักสำรวจจะไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ และส่วนใหญ่มาพร้อมกับประโยชน์ในการซื้อและขายวัตถุดิบจากสหภาพนักสำรวจ
ตำแหน่งที่สูงขึ้นในสหภาพนักสำรวจมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์บางอย่าง แต่ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสหภาพเช่นเข้าร่วมภารกิจการสำรวจบางอย่างหรือช่วยปกป้องพื้นที่บางส่วนของสหภาพ
คนส่วนใหญ่ที่เป็นนักสำรวจไม่ค่อยสนใจมันมากนัก
หากเซวียนห่าวจำไม่ผิด เหรียญตรานั้นสร้างโดยช่างตีเหล็กและเป็นสมบัติปฐพีเป็นอย่างต่ำ !
สมบัตินั้นคล้ายคลึงกับสมุนไพร พวกมันใช้ระบบการจัดระดับเดียวกันจากมนุษย์, ปฐพี, วิญญาณและจิตวิญญาณ แต่กับผู้ฝึกตนจะเริ่มจากขอบเขตรวมปราณ, ขอบเขตก่อตั้งรากฐาน, ขอบเขตควบแน่นแก่นแท้และขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด
กระบี่ที่เซวียนห่าวใช้ก็เป็นสมบัติจิตวิญญาณระดับต่ำ
ถึงกระนั้น สมบัติในระดับจิตวิญญาณก็ยังหาได้ยากในอาณาจักรนภาสวรรค์ มีเพียงนิกายใหญ่ทั้งสี่และราชวงศ์ของอาณาจักรนภาสวรรค์เท่านั้นที่มี
เพราะช่างตีเหล็กที่สามารถสร้างสมบัติระดับสูงเช่นนี้ได้นั้นหายากมากและสำหรับผู้ที่จะสามารถสร้างสมบัติจิตวิญญาณได้ ช่างตีเหล็กผู้นั้นจะต้องเป็นช่างฝีมือเป็นอย่างน้อย
ช่างตีเหล็กที่ดีที่สุดของอาณาจักรนภาสวรรค์ในขณะนี้คือช่างตีเหล็กผู้เชี่ยวชาญ ผู้ซึ่งสามารถสร้างสมบัติวิญญาณได้
นอกเหนือจากนี้ ช่างตีเหล็กส่วนใหญ่อยู่ในระดับฝึกหัดและผู้ชำนาญเพียงเท่านั้น
สหภาพนักสำรวจสามารถแจกจ่ายสมบัติปฐพีได้อย่างอิสระ พวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหนกัน…
เซวียนห่าว เดินไปที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ข้างโรงเตี๊ยมของสหภาพนักสำรวจและรอให้ถึงคราวของเขา โชคดีที่มันไม่นานมากนัก ดังนั้นในขณะที่รอเซวียนห่าวจึงตัดสินใจฟังการสนทนาในอาคารและดูว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้หรือไม่
“เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับคนที่หายตัวไปรอบ ๆ ภูเขาหินเพลิงเมื่อเร็ว ๆ นี้หรือไม่” ทันใดนั้นชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ก็ถามเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ
“เรื่องใดกัน ข้าไม่เคยได้ยิน มีอะไรเกิดขึ้นหรือ?” เพื่อนของเขาหันกลับมามองอย่างตกใจและรีบถาม
“เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้คนจำนวนมากเริ่มหายตัวไปรอบ ๆ ภูเขาหินเพลิง มันทำให้สหภาพนักสำรวจต้องเริ่มตรวจสอบ พวกเขากำลังเตรียมส่งคนออกไปเพื่อค้นหาว่ามีเหตุอันใดเกิดขึ้น”
“จริงหรือ นั่นหมายความว่าหากเราเข้าสำรวจครั้งนี้เราจะได้เงินมหาศาลหรือ สหภาพนักสำรวจมักจ่ายอย่างงามเสมอ...”
“เจ้าฝันอันใดกัน ฐานการบ่มเพาะขั้นต่ำที่จำเป็นคือจุดสูงสุดของขอบเขตก่อตั้งรากฐาน ข้ายังได้ยินมาว่าแม้แต่ผู้ฝึกตนจะมีขอบเขตควบแน่นแก่นแท้สองถึงสามคนก็จะเข้าร่วมด้วยเช่นกัน !”
“เจ้าช่างเป็นเกียจคร้าน...”
“ภารกิจสืบสวนส่วนใหญ่กลับยังว่างเปล่า…”
สิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันมันทำให้เซวียนห่าวเริ่มสนใจภูเขาหินเพลิงมาในทันที
ไม่ใช่เพราะการหายตัวไปของผู้คน เป็นเรื่องปกติในเทือกเขาอัคคีแผดเผาและจากสิ่งที่เซวียนห่าวรู้ มันน่าจะเป็นเพียงแค่อสูรขอบเขตควบแน่นแก่นแท้ที่ย้ายรังของมันไปยังภูเขาหินเพลิง
เหตุผลที่เขาเริ่มสนใจภูเขาหินเพลิงก็เพราะหญ้าหัวใจอเวจีเคยปรากฏที่นั่นในอดีต และด้วยอสูรขอบเขตควบแน่นแก่นแท้ที่ย้ายรังของมันไปภูเขาหินเพลิง เซวียนห่าวคาดว่ามันเป็นเพราะมันสัมผัสได้ถึงหญ้าหัวใจอเวจีหรือสมุนไพรวิญญาณอื่น ๆ
“ข้าควรเข้าร่วมสืบสวน มาดูกันว่าข้าจะพบหญ้าหัวใจอเวจีได้หรือไม่”
ในที่สุดก็ถึงคราวของเซวียนห่าวที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ เขารีบถามเกี่ยวกับหญ้าหัวใจอเวจี ซึ่งเขาได้ตำแหน่งที่เป็นไปได้ของหญ้าหัวใจอเวจีอยู่สองสามแห่ง แต่พวกมันล้วนอยู่ในอาณาเขตของอสูรขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด
แทนที่จะเอาชีวิตเข้าแลก ต่อสู้กับอสูรขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดเพื่อแย่งชิงหญ้าหัวใจอเวจี เซวียนห่าวตัดสินใจว่าเขาจะเข้าร่วมสืบสวนของสหภาพนักสำรวจและหาว่ามีหญ้าหัวใจอเวจีที่ภูเขาหินเพลิงหรือไม่
ขั้นตอนการเข้าร่วมสืบสวนนั้นค่อนข้างเรียบง่ายและทั้งหมดที่เขาต้องทำคือสมัครเป็นสมาชิกของสหภาพนักสำรวจและหลังจากได้รับตราแล้ว เขาก็แสดงให้เห็นถึงฐานการบ่มเพาะในขอบเขตควบแน่นแก่นแท้ขั้นต้น เขาทำมันอย่างรวดเร็ว
จากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ ทีมสืบสวนจะออกเดินทางในเช้าวันพรุ่งนี้ ดังนั้นตอนนี้เซวียนห่าวจึงตัดสินใจที่จะหาที่พักสำหรับคืนนี้และบ่มเพาะอย่างสงบจนถึงเช้า
ดวงอาทิตย์กำลังค่อย ๆ ลับขอบฟ้าในขณะที่เซวียนห่าวเดินออกจากสหภาพนักสำรวจและไม่นานก็หายเข้าไปในฝูงชนบนถนนในเมือง
สิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้คือรอจนกว่าจะถึงวันรุ่งขึ้น เหตุใดเขาจึงจะต้องเข้าไปในภูเขาเพลิงเพียงคนเดียวด้วย? เขาอาจหลงทางได้ทุกเมื่อ การมีผู้นำทางย่อมดีกว่าเป็นไหน ๆ
เมื่อเทียบกับการตรวจสอบภูเขาทั้งลูกด้วยสัมผัสเทวะของเขา มันอาจบังเอิญทำให้ยอดฝีมือที่ซ่อนเร้นอยู่แถวนั้นขุ่นเคืองได้