ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 22 เบาะแสของหญ้าหัวใจอเวจี
ในไม่ช้ากำแพงเมืองก็ปรากฏต่อหน้าเซวียนห่าวห่าว เขารู้สึกทึ่งเล็กน้อยกับขนาดของมันที่สูงถึงกว่ายี่สิบเมตร
กำแพงดังกล่าวไม่สามารถป้องกันอสูรขอบเขตควบแน่นแก่นแท้หรือแข็งแกร่งกว่านั้นได้ มันสามารถป้องกันขอบเขตควบแน่นแก่นระดับต่ำได้เพียงเท่านั้น แต่ภายในเมืองนั้นก็มียอดฝีมือขอบเขตควบแน่นแก่นแท้อยู่บ้าง
ถึงแม้จะไม่มีพวกเขาก็ตาม เหล่าผู้ฝึกตนขอบเขตก่อตั้งรากฐานก็คงสามารถจัดการกับอสูรขอบเขตก่อตั้งรากฐานระดับต่ำได้หากพวกเขาใช้กำแพงนี้ให้เกิดประโยชน์
เมื่อเขามองไปที่ประตูขนาดใหญ่ เซวียนห่าวก็เดินไปอย่างรวดเร็ว
ประตูขนาดใหญ่นี้มีผู้คุ้มคอยตรวจการผู้คนที่เข้าและออกจากเมืองโดยตลอดเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่เข้ามาได้จ่ายค่าธรรมเนียมแรกเข้าแล้วหรือยัง
เซวียนห่าวยืนอยู่ในแถวอย่างอดทน เขารอจนกว่าจะถึงคราวของเขาอย่างเงียบ ๆ ที่นี่คืออาณาเขตของนิกายเพลิงโหมกระหน่ำ หากเขาทำตัวโดดเด่นมากจนเกินไป เขาอาจหาหญ้าหัวใจอเวจีลำบากมากยิ่งขึ้น เขาจึงไม่ทำตัวให้เป็นที่โดดเด่น
“เจ้ามาเมืองเทือกเขาอัคคีด้วยเหตุอันใด ?”
ในที่สุดก็ถึงคราวของเซวียนห่าว ผู้คุ้มกันเดินมาหาเขาและถามเหตุผลที่เขาเข้ามายังเมืองนี้
“ข้ามาสำรวจเทือกเขาอัคคีแผดเผาจึงมาที่นี่หาที่พักเสียก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังเทือกเขา” เซวียนห่าวยิ้มให้กับผู้คุ้มกันในขณะที่โกหก
“จ่ายค่าธรรมเนียมแรกเข้าที่นั่น ศิลาวิญญาณระดับต่ำห้าก้อน” เขาผายออกมาด้วยใบหน้าที่ไม่เพิกเฉย ผู้คุ้มกันชี้ไปที่ผู้คุ้มกันอีกคนและเดินไปหาคนที่อยู่ข้างหลังของเซวียนห่าวทันที เขาไม่ถามคำถามใด ๆ อีกแม้แต่น้อย
ศิลาวิญญาณเป็นสกุลเงินที่ผู้ฝึกตนใช้ในการแลกเปลี่ยนระหว่างกัน และยังเป็นสาเหตุของความเกลียดชังในปัจจุบันระหว่างนิกายกระบี่ล่องนภาและนิกายเพลิงโหมกระหน่ำ
การใช้ศิลาวิญญาณในรูปแบบอื่น ๆ เช่นการเร่งการบ่มเพาะของผู้ฝึกฝน ผู้ฝึกตนที่ระดับสูงขึ้นก่อย่อมต้องการพลังที่มากขึ้นด้วยเช่นกันและผู้ฝึกตนสามารถเร่งการบ่มเพาะของเขาได้ด้วยศิลาวิญญาณนี้ ศิลาวิญญาณระดับสูงบางก้อนสามารถทำให้ผู้ที่ใช้มันเข้าใจในพลังปราณระหว่าสวรรค์และโลกด้อีกด้วย
ศิลาวิญญาณดังกล่าวอยู่เหนือศิลาวิญญาณระดับต่ำทั่วไป
เหมืองศิลาวิญญาณที่นิกายเพลิงโหมกระหน่ำขโมยมาจากนิกายกระบี่ล่องนภานั้นสามารถผลิตศิลาวิญญาณระดับสูงมากกว่าสิบก้อนทุก ๆ ปี
นี่คือสาเหตุที่นิกายเพลิงโหมกระหน่ำยึดครองเหมืองศิลานั้นแม้ว่าพวกเขาจะต้องเป็นศัตรูกับนิกายกระบี่ล่อวนภาก็ตาม มันคือการเดิมพันที่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง
ว่ากันว่าจ้าวนิกายของนิกายเพลิงโหมกระหน่ำสามารถไปถึงขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 8 ได้เพราะพลังของศิลาวิญญาณระดับสูง
ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 8 อาจฟังดูไม่มากนัก แต่ช่องหว่างของระดับขั้นนั้นกว้างขึ้นตามฐานการบ่มเพาะ การที่ผู้ที่อยู่ขอบเขตรวมปราณจะสามารถต่อกรกับยอดฝีมือขอบเขตก่อตั้งรากฐานนั้นอาจกเป็นไปได้ แต่ยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดจะต่อกรกับยอดฝีมือขอบเขตราชันได้นั้นไม่มีทางเป็นไปได้ เขาที่มีศิลาวิญญาณมากพออาจสามารถก้าวผ่านไปยังขอบเขตราชันได้
ผู้ที่อยู่ในขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 8 สามารถต่อกรกับผู้ฝึกตนขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้นที่ต่ำกว่าได้อย่างง่ายดาย
แต่เหตุผลเดียวที่นิกายเพลิงโหมกระหน่ำไม่กล้าโจมตีนิกายกระบี่ล่องนภาเป็นเพราะพวกเขาเป็นนิกายกระบี่และผู้ฝึกตนกระบี่มักมีชื่อเสียงในด้านการต่อสู้
จ้าวนิกายเฟิงเฉินนั้นก็แข็งแกร่งไม่ต่างกัน แม้เขาจะอยู่ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 7 แต่เขาสามารถต่อกรกับขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 8 ได้อย่างทัดเทียม
เมื่อนึกถึงข่าวลือทั้งหมดของจ้าวนิกายของนิกายเพลิงโหมกระหน่ำ เซวียนห่าวก็หัวเราะเบา ๆ เขาจ่ายศิลาวิญญาณระดับต่ำห้าก้อนและเข้าสู่เมืองเทือกเขาอัคคี
แม้ข่าวลือของยอดฝีมือในนิกายเพลิงโหมกระหน่ำจะมากเพียงใดแต่สิ่งที่เซวียนห่าวรู้กับน้อยนิด
มีข่าวลือว่าจ้าวนิกายเพลิงโหมกระหน่ำผู้นี้ ครั้งหนึ่งเคยหอนางโลมเพื่อทำเรื่องที่เหล่าชายต่าง ๆ เขาทำกัน
ข่าวลือนี้ถูกควบคุมโดยนิกายเพลิงโหมกระหน่ำเพราะนั่นคือจ้าวนิกายของพวกเขา แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องนี้ก็หลุดรอดไปถึงหูของภรรยาของเขา นางไม่พอใจอย่างมากกับข่าวลือนี้
เพราะอย่างใดก็ตาม พ่อของนางก็เป็นถึงรองจ้าวนิกายเพลิงโหมกระหน่ำ
เมื่อมองไปรอบ ๆ ถนนที่พลุกพล่านของเมือง เซวียนห่าวเห็นอาคารขนาดใหญ่ที่มีป้ายรูปพลั่วไขว้กัน นี่คือสัญลักษณ์ของสหภาพนักสำรวจ
สหภาพนักสำรวจเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ที่มีอยู่ทั่วทวีปเอวาเรีย พวกเขาอยู่แทบทุกที่
สหภาพนักสำรวจมีผู้คนมากมายที่อยู่ขอบเขตจักรพรรดิอยู่เบื้องหลัง นั่นคือขอบเขตที่แข็งแกร่งที่สุดของทวีปเอวาเรียแห่งนี้
เป้าหมายหลักของสหภาพนักสำรวจเป็นไปตามชื่อของพวกเขา นั่นคือการสำรวจโลกและสถานที่มหัศจรรย์ทั้งหมดที่มีอยู่ในโลกใบนี้ เมื่อเข้าร่วมสหภาพแล้ว เราสามารถขายวัตถุดิบที่พบในสถานที่ต่าง ๆ เช่นเทือกเขาอัคคีแผดเผาให้กับพวกเขาในราคาที่สมเหตุสมผลได้
แม้แต่ผู้ฝึกตนขอบเขตรวบปราณก็สามารถขายสมุนไพรเร้นลับให้กับสหภาพนักสำรวจและรับศิลาวิญญาณระดับสูงจำนวนมากโดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาตามฆ่าในยามดึก
หากเซวียนห่าวจะหาเบาะแสของหญ้าหัวใจอเวจีก็คงเป็นที่สหภาพนักสำรวจเท่านั้นที่จะช่วยเขาได้
ด้วยเหตุนี้ เซวียนห่าวจึงเดินไปที่อาคารสหภาพนักสำรวจโดยหวังว่าพวกเขาจะมีหญ้าหัวใจอัคคีเหลืออยู่บ้างหรืออย่างน้อยก็รู้ตำแหน่งของมันในเทือกเขาอัคคีแผดเผานี้
หากพวกเขาไม่มีอย่างที่กล่าวมา เซวียนห่าวคงต้องเสียเวลาอย่างน้อยสองถึงสามสัปดาห์เพื่อค้นหามันในเทือกเขาอัคคีแผดเผาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องแน่ใจว่าจะไม่เข้าไปในอาณาเขตของอสูรขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด