ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 21 ลักรอบเข้าเมือง
เทือกเขาอัคคีแผดเผาไม่ใช่เทือกเขาที่แต่มีไฟลุกไหม้เหมือนชื่อของมัน แต่เป็นเทือกเขายาวที่มีภูเขาไฟอยู่เป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นที่รู้จักในฐานะเทือกเขาอัคคีแผดเผา สภาพแวดล้อมเทือกเขานี้ร้อนระอุราวกับอยู่ในนรก
นอกเหนือจากนั้น สมุนไพรเธตุไฟจำนวนมากก็เติบโตในนั้น หญ้าหัวใจอเวจีก็เป็นหนึ่งในนั้น
ตั้งแต่สมุนไพรมนุษย์ไปจนถึงสมุนไพรเร้นลับที่มีแต่ผู้ฝึกตนขอบเขตราชันเท่านั้นที่สามารถใช้มันได้ พวกมันทั้งหมดสามารถพบได้ในเทือกเขาอัคคีแผดเผา ถึงกระนั้นเซวียนห่าวก็ไม่คาดคิดว่าจะพบสมุนไพรเร้นลับ
สมุนไพรส่วนใหญ่มักจะถูกอสูรขอบที่เทียบเท่ากับมันคอยปกป้อง ซึ่งหมายความว่าสมุนไพรเร้นลับอาจมีอสูรขอบเขตราชันคอยปกป้อง นั่นไม่ใช่สิ่งที่เซวียนห่าวสามารถรับมือได้ในขณะนี้
เซวียนห่าวมาถึงทางเข้าของเทือกเขาอัคคีแผดเผาที่มีนิกายเพลิงโหมกระหน่ำตั้งด่านพรมแดน จากสิ่งที่เขารู้จะมียอดฝีมือขอบวิญญาณก่อกำเนิดคอยอยู่ที่จุดนั้นเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครเข้าไปในเทือกเขาอัคคีแผดเผาโดยที่พวกเขาไม่รู้
สิ่งที่เซวียนห่าวกังวลก็คือวิธีการหลบเลี่ยงสัมผัสเทวะจากยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดของนิกายเพลิงโหมกระหน่ำ
หากจะถามว่าทำไมจึงไม่เข้าเทือกเขาอัคคีแผดเผาในอาณาจักรข้างเคียง
นั่นยิ่งจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากราชวงศ์ของแต่ละอาณาจักรมักจะส่งยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดไปทั่วทั้งพรมแดนของพวกเขา เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครแอบเข้ามาโดยที่พวกเขาไม่รู้
หากเขาอยู่ขอบเขตควบแน่นแก่นแท้นั่นอาจจะได้ผล เนื่องจากยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดมังจะไม่สนใจผู้ที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด
สำหรับยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด ยอดฝีมือขอบเขตควบแน่นแก่นแท้ก็ไม่ต่างกับมดปลวก มดปลวกเหล่านั้นจะสร้างปัญหาให้กับอาณาจักรที่เต็มไปด้วยยอดฝีมือวิญญาณก่อกำเนิดได้อย่างไร
เซวียนห่าวหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะได้เรียนรู้เคล็ดวิชาพรางตัวในขณะนี้ แต่เขาก็ไม่มีเคล็ดวิชาเช่นนั้น
เขาจึงตัดสินใจที่จะลองเสี่ยงโชคและแอบเข้าไป
เซวียนห่าวบินไปในอากาศข้ามพรมแดนระหว่างนิกายและมุ่งหน้าไปยังเทือกเขาอัคคีแผดเผาโดยหวังว่าผู้อาวุโสขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดจากนิกายเพลิงโหมกระหน่ำจะไม่ให้ความสนใจกับเขา
น่าเศร้าที่สิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามที่เขาต้องการ สัมผัสเทวะกวาดออกมาจากด่านพรมแดนที่ของนิกายเพลิงโหมกระหน่ำมุ่งตรงไปยังทิศทางที่เซวียนห่าวกำลังบินอยู่
เซวียนห่าวตระหนักได้และมองไปที่ด่านพรมแดน เขาเริ่มสบถอย่างเงียบ ๆ กับโชคอันน่าเศร้าของเขา หากผู้อาวุโสจากนิกายเพลิงโหมกระหน่ำพบเขา การต่อสู้จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนและสิ่งนี้จะดึงดูดยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดคนอื่น ๆ จากนิกายเพลิงโหมกระหน่ำ
การต่อสู้แบบแปดรุมหนึ่งไม่ใช่สิ่งที่เซวียนห่าวสามารถต่อกรได้...
“อ้าก !”
ขณะที่เซวียนห่าวเตรียมพร้อมที่จะละทิ้งการพรางตัวและมุ่งหน้าสู่เทือกเขาอัคคีแผดเผาด้วยความเร็วสูง เสียงกรีดร้องก็ได้ดังก้องไปทั่วบริเวณโดยรอบ ชายที่ได้รับบาดเจ็บวิ่งด้วยความเร็วเต็มพิกัดไปยังทิศทางของพรมแดน
สัมผัสเทวะจากด่านพรมแดนของนิกายเพลิงแผดเผามุ่งเน้นไปที่ชายคนนั้นโดยตรง และในไม่ช้าชายชราก็ได้ปรากฏตัวต่อหน้าเขา
“เจ้าคิดว่าจะหนีไปได้หลังจากบุกรุกนิกายเพลิงโหมกระหน่ำได้หรือ?” ชายชราที่หยิ่งยโสเย้ยหยันในขณะที่ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยาม
“ได้โปรดปล่อยข้าไปเถิด ข้าไม่รู้อันใด-”
ก่อนที่ชายคนนั้นจะทันได้พูดจบประโยค จู่ ๆ ก็มีแสงสว่างวาบปรากฏขึ้นขณะที่หัวของชายคนนั้นกลิ้งไปกับพื้น ตาของเขายังคงเปิดอยู่ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาได้ตายไปเสียแล้ว
“ทำไมข้าต้องเสียเวลาพูดกับขยะอย่างเจ้าด้วย”
ชายชราหยิ่งผยองหยิบกระเป๋าของชายผู้นั้นและก็หายลับไปทางด่านพรมแดน
เขาจากไปราวกับไม่มีอันใดเกิดขึ้น เซวียนห่าวพนันได้เลยว่าหากไม่ใช่เพราะตอนนี้มีศพอยู่บนพื้นคงไม่มีใครรู้ว่ามีคนเพิ่งตายที่นี่
“นิกายเพลิงโหมกระหน่ำนั้นโหดเหี้ยมสมกับคำล่ำลือจริง ๆ โชคดีที่ชายชราไม่ตระหนักถึงตัวข้า...”
เซวียนห่าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขามองอย่างระมัดระวังไปยังทิศทางที่ชายชราหายตัวไป
ชายชราคนนั้นอันตรายยิ่งนัก จากสิ่งที่เซวียนห่าวสัมผัสได้ชายชราผู้นั้นอยู่ในขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 5 แม้เซวียนห่าวจะมีเจตจำนงกระบี่แท้จริง เขาก็ทำได้มากสุดแค่ทัดเทียมกับชายชราผู้นั้น
หากการต่อสู้กินเวลาไปเนิ่นนานแม้เขาจะชนะ แต่เมื่อถึงเวลานั้นยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดคนอื่น ๆ จากนิกายเพลิงโหมกระหน่ำก็คงมาถึงแล้ว
“ข้าควรไปก่อนที่จะถูกพบ...” เมื่อมองไปที่ศพเป็นครั้งสุดท้าย เซวียนห่าวก็เริ่มพุ่งตัวไปยังเทือกเขาอัคคีแผดเผาด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น
เซวียนห่าวใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในในการไปยังเทือกเขาอัคคีแผดเผาอย่างระมัดระวัง หลังจากที่เขาเห็นภูเขาสูงตระหง่านต่อหน้าเขา ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ที่เชิงเขาแห่งหนึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ เมืองนี้ส่วนใหญ่ถูกใช้โดยนักสำรวจที่มาที่เทือกเขาอัคคีแผดเผาเพื่อลองเสี่ยงดวงหรือธุรกิจของพวกเขาเพื่อซื้อวัสดุและสมุนไพรหายากที่นักสำรวจนำกลับมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจากนิกายกระบี่ล่องนภา
คนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาก็อยู่เพียงขอบเขตควบแน่นแก่นแท้เท่านั้น พวกเขาไม่ใช่สิ่งที่เซวียนห่าวต้องหวาดระแวง ยอดฝีมือขอบเขตควบแน่นแก่นแท้ไม่สามารถสัมผัสถึงยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดได้หากพวกเขาไม่ต้องการ
“ข้าควรจะลองหาข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของหญ้าหัวใจอเวจีหรือไม่”
เขาหยุดอยู่ห่างจากตัวเมืองเล็กน้อย เซวียนห่าวหยิบกระเป๋าใบเล็กพร้อมเสื้อผ้าและเปลี่ยนเพื่อไม่ให้เด่นสะดุดตา เสื้อคลุมที่เขาสวมก่อนหน้านี้คือเสื้อคลุมผู้อาวุโสหลักของนิกายกระบี่ล่องนภา
เขาไม่ควรเดินเข้าไปในถิ่นของศัตรูด้วยเสื้อคลุมของผู้อาวุโสหลักจากนิกายกระบี่ล่องนภา
ซวนห่าวจับหน้าตัวเองด้วยความเขินอาย ซวนห่าวรีบถอดเสื้อคลุมผู้อาวุโสหลักออกและเดินทางไปยังตัวเมือง