บทที่ 162: เธอกินเต้าหู้ของหลงโม่!
ทันทีที่หูเจียวเจียวตกอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่น เธอก็ตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ
ตอนนี้แก้มของเธอแนบชิดกับหน้าอกกว้าง และกลิ่นที่เปี่ยมไปด้วยความเฉพาะตัวของผู้ชายยังติดอยู่ตรงปลายจมูกของเธอ ทำให้หัวใจเจ้ากรรมเต้นเร็วแรงจนเจ็บหน้าอก
หลงโม่กอดหญิงสาวตัวเล็กไว้ในอ้อมแขนของเขา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นจ้องเสือตัวใหญ่ที่อยู่ข้างหลังจิ้งจอกสาวอย่างรวดเร็ว
สายตาคมกริบดั่งเคียวของยมทูตเปล่งออร่าเย็นเยียบออกมา ภูตเสือขาวรู้สึกเหมือนกับว่ามีมีดจ่ออยู่ที่คอตัวเอง แล้วไม่นานทั้งร่างก็สั่นสะท้านอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่
เขารู้ความหมายของสายตาคู่นั้นดีและรีบถอยห่างออกไปไกลหลายเมตร
เห็นได้ชัดว่าหลงโม่คนนี้ค่อนข้างขี้หวงคู่ของตน
ยามนี้หูเจียวเจียวคิดว่าชายร่างสูงตรงหน้าจะทำอะไรเหมือนในละครที่เคยดูต่อไป แต่หลังจากรออยู่นาน อีกฝ่ายก็ยังกอดเธอนิ่ง
“หลงโม่ เจ้าเป็นอะไรไป เจ้า...”
เมื่อรู้สึกถึงแรงที่กดลงบนไหล่ของตัวเอง ในที่สุดกลองที่รัวอยู่ในใจของจิ้งจอกสาวก็สงบลง และเธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลเล็กน้อย “เจ้าบาดเจ็บหรือเปล่า?”
หลงโม่ที่เพิ่งไล่เสือตัวใหญ่ออกไป พอเขาได้ยินคำถามของหูเจียวเจียว เขาก็กระชับกอดนางแน่นยิ่งขึ้น ก่อนจะพยักหน้าตอบ
“อืม”
คำตอบนั้นยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกกระวนกระวายใจมากขึ้น มือเรียวขาวจึงยกขึ้นมาแตะตัวเขา “เจ้าได้รับบาดเจ็บตรงไหน แล้วยาที่ข้าให้เจ้าไปล่ะ มันไม่มีประโยชน์อะไรกับเจ้าเลยหรือ?”
ทางด้านฝูงชนเมื่อเห็นมังกรหนุ่มเดินออกจากกลุ่มไป ทุกคนก็มองตามเขา แต่เนื่องด้วยบริเวณโดยรอบมีเสียงดัง ภูตเหล่านี้จึงไม่ได้ยินสิ่งที่หูเจียวเจียวพูดเลย พวกเขาเห็นเพียงว่าเธอกำลังจู่โจมผู้เป็นสามีแบบ ‘รีบร้อน’
“...” ปรากฎว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่นั้นดีมาก
แค่ 10 วันที่ 2 คนนี้แยกจากกัน พวกเขาก็รู้สึกทนไม่ไหวแล้ว
นั่นทำให้เหล่าภูตชายต่างก็จ้องมองภาพที่เกิดขึ้นด้วยความอิจฉา คงจะดีไม่น้อยหากพวกเขาเป็นคนที่ถูกหูเจียวเจียวจู่โจม...
ก่อนที่หลงโม่จะทันได้ตอบ หญิงสาวตัวเล็กก็พยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนของเขา จากนั้นเธอคว้าข้อมือหนาเพื่อลากอีกฝ่ายกลับบ้านทันที
เธอรู้ว่าภูตชายต้องรักษาหน้าตัวเอง และมังกรหนุ่มคงไม่อยากให้ทุกคนรู้ว่าตนได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน
“ไปเร็ว เรากลับบ้านกันก่อน”
หลังจากนั้นจิ้งจอกสาวไม่ลืมที่จะหันกลับมาพยักหน้าขอโทษหัวหน้าเผ่าที่ยืนอยู่ไม่ไกล “ท่านผู้เฒ่า ข้ากับหลงโม่มีเรื่องด่วน เรา 2 คนขอตัวกลับก่อน”
เธอแค่ต้องการพาคู่ของตัวเองกลับบ้าน ผู้นำสูงสุดของเผ่าย่อมไม่คัดค้านแน่นอน
ผู้อาวุโสที่ได้ยินเช่นนั้นก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าใจดี และเขาก็ผงกหัวรับพลางใช้มือข้างหนึ่งถูคางพร้อมยิ้มแบบรู้ทัน
ไม่เลว ความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวคู่นี้ดีขึ้นเรื่อย ๆ...
บางทีฤดูใบไม้ผลิหน้า เผ่าอาจจะมีประชากรเพิ่มขึ้นก็ได้
ตอนนี้พวกผู้ชายต่างก็พากันอิจฉาตาร้อน สายตาหลายคู่กำลังจ้องมองไปที่ด้านหลังของหลงโม่ โดยที่ทุกคนหวังว่าตนเองจะสามารถไปแทนอีกฝ่ายได้
ใคร ๆ ต่างก็อยากมี ‘เรื่องด่วน’ กันทั้งนั้น...
จนกระทั่งทั้ง 2 คนลับหายไปจากสายตา ฝูงชนจึงเสมองไปทางอื่น
ตอนนี้หัวหน้าเผ่ารู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก หลังจากที่ทุกคนแสดงความยินดีจนพอใจแล้ว เขาก็ขอให้หูชิงซานและภูตชายอีกจำนวนหนึ่งช่วยขนดอกเกลือไปที่บ้านของตน
คราวนี้ชายสูงวัยได้รับบทเรียนมาแล้ว เขาจึงสร้างโกดังใกล้บ้านไว้สำหรับเก็บของสำคัญ พอเก็บดอกเกลือไว้ข้างในเรียบร้อย เขาก็ส่งภูตไปเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง
แต่ถึงกระนั้น ผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าก็ยังไม่วางใจ!
เขาไปตรวจสอบมันเอง 4-5 ครั้งต่อวัน ทั้งตอนตื่นนอน ก่อนนอน หรือแม้กระทั่งหลังกินข้าว ในเมื่อเขาทำถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะมีภูตมากล้าสร้างปัญหาอยู่ใต้จมูกของเขาอยู่อีกไหม!
ภูตกลุ่มหนึ่งขนส่งดอกเกลือไปยังโกดังข้างบ้านท่านผู้เฒ่า แต่ภูตทุกคนที่ไปเก็บดอกเกลือจะได้รับเกลือที่เพียงพอสำหรับใช้ 1 ปีเป็นการตอบแทน นั่นยิ่งทำให้ภูตคนอื่นอิจฉา
ในเผ่า เสบียงที่สามารถเก็บไว้ได้นานอย่างเกลือเป็นของสาธารณะและมักจะให้ความสำคัญกับภูตหญิงเป็นอันดับแรก หากภูตชายต้องการเกลือ พวกเขาสามารถนำเสบียงอื่น ๆ จำนวนมากมาแลกเปลี่ยนได้
ด้วยเหตุนี้ ภูตชายคนอื่นในเผ่าจึงได้แต่อิจฉาตาร้อน
ไม่สิ!
ข้าต้องพยายามให้หนักขึ้น! ถ้าภูตคนอื่นทำได้ ข้าก็ทำได้เช่นกัน
ตอนนี้พวกเขามีเพียงความคิดที่จะกักตุนเสบียง หาคู่ และมีลูก!
จู่ ๆ ก็มีเปลวไฟลุกโชนขึ้นในใจของเหล่าภูตชายทั้งหลายและเลือดในกายของแต่ละคนก็เดือดพล่าน
โดยธรรมชาติแล้ว ภูตมีการแข่งขันกันเองสูงมาก ในอดีตหลงโม่อยู่ที่จุดต่ำสุดของเผ่า แต่ตอนนี้ชายหนุ่มได้ผงาดขึ้นมายืนอยู่บนจุดสูงสุดแล้ว หากผู้ชายในเผ่าไม่ต่อสู้ดิ้นรน พวกเขาจะพ่ายแพ้ให้กับหลงโม่!
หลังจากที่ทุกคนออกจากบ้านของหัวหน้าเผ่า พวกภูตก็ออกไปล่าสัตว์ราวกับว่าพวกเขาถูกฉีดสารกระตุ้น
...
อีกด้านหนึ่ง
หูเจียวเจียวลากหลงโม่กลับมาถึงบ้านแล้ว
เธอปิดประตูกระท่อมเสียงดัง จากนั้นเธอก็กดคนตัวสูงให้นั่งลงบนเบาะ ก่อนจะหันหลังไปค้นหายาในกล่องไม้
มังกรหนุ่มเองก็ทำตัวว่าง่ายตามที่หญิงสาวบอกไม่ต่างจากหุ่นเชิด
ถัดมา เขาก้มศีรษะลงมองดูมือที่จิ้งจอกสาวคลายออก และดวงตาที่ลึกล้ำของเขาก็ฉายแววผิดหวัง
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอาศัยอยู่ในที่ห่างไกลที่สุดของเผ่า แต่ทำไมวันนี้ชายหนุ่มกลับรู้สึกว่าถึงบ้านเร็วขนาดนี้
ในไม่ช้า หูเจียวเจียวก็หายาห้ามเลือดกับยาจินฉวง*พบจึงลุกขึ้นและเดินไปที่ด้านข้างหลงโม่
*ยาจินฉวง (金疮药) เป็นยาโบราณที่มีลักษณะเป็นผง ช่วยในการรักษาบาดแผลและห้ามเลือด
“แผลอยู่ตรงไหน? ขอข้าดูหน่อย”
ขณะที่จิ้งจอกสาวพูด เธอก็เอื้อมมือไปช่วยอีกฝ่ายถอดเสื้อผ้าของเขาออก
ตอนนี้เธอไม่เห็นบาดแผลจากภายนอกจึงสันนิษฐานว่าบาดแผลน่าจะถูกเสื้อผ้าปกปิดไว้
ปัจจุบันความสนใจของหูเจียวเจียวอยู่ที่ ‘บาดแผล’ จนเธอไม่ได้รู้ตัวว่าการกระทำของเธอมีอะไรผิดปกติ
เมื่อมังกรหนุ่มสัมผัสได้ถึงนิ้วอ่อนนุ่มที่แตะลงบนผิวของเขา ร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อก็แข็งค้าง และไฟที่มอดดับมานานก็ปะทุขึ้นมาในตัวอย่างอธิบายไม่ได้ ซึ่งมันร้อนวูบลามมาถึงใบหู
พอเขาเห็นใบหน้าที่บอบบางน่าทะนุถนอมของหญิงสาวอย่างใกล้ชิด ลมหายใจของเขาก็ติดขัด
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ามีผิวที่เต่งตึง ดวงตาแวววาวเหมือนมีน้ำคอยหล่อเลี้ยงอยู่ภายใน ใบหน้าอ่อนเยาว์ของนางเผยให้เห็นเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครของภูตจิ้งจอก นัยน์ตาเรียวยาวคู่นั้นสดใสชัดเจน ประกอบกับความกังวลที่ฉายชัดในดวงตาของเธอก็น่ามองเกินคำบรรยาย
บัดนี้หลงโม่รู้ตัวดีว่าตนไม่ได้รับบาดเจ็บเลย
แต่เขาก็ยังให้ปล่อยเธอถอดเสื้ออย่างเชื่อฟัง
“ไม่เห็นมีบาดแผลเลย หลงโม่ อาการบาดเจ็บของเจ้าอยู่ที่ไหน?” หูเจียวเจียวตรวจดูรอบ ๆ ตัวเขา แต่เธอก็ไม่พบบาดแผลแม้แต่นิดเดียว
มีเพียงรอยแผลเป็นน่ากลัวที่ทิ้งไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เท่านั้น
“อะแฮ่ม”
ชายหนุ่มกระแอมเบา ๆ ก่อนจะสบสายตาที่ตั้งคำถามของจิ้งจอกสาว แล้วเธอก็เหลือบมองลงไปยังร่างกายท่อนล่างของอีกคนที่ยังคงสวมกางเกงหนังสัตว์
ดูเหมือนว่าตรงนั้น...ยังไม่ได้ตรวจสอบ
ในเวลานี้หูเจียวเจียวไม่รู้ว่าหลงโม่กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
เธอทำหน้าสับสนอยู่ 2 วินาทีก่อนที่จะขมวดคิ้วมุ่น
“เจ้าบาดเจ็บจากภายในงั้นหรือ...กระดูกหักหรือเปล่า? หลงโม่ เจ้าเป็นอะไรกันแน่?”
ทางด้านมังกรหนุ่มจับจ้องดวงตาแวววาวของเธออย่างร้อนแรงจนในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว จึงยื่นมือออกไปเพื่อบีบข้อมือเรียวเล็ก และกดมืออ่อนนุ่มนั้นลงบนอกซ้ายของตนโดยตรง
จิ้งจอกสาวเห็นเพียงมือของตัวเองซึ่งถูกดึงให้กดบนกล้ามเนื้อหน้าอก...ของเจ้าจอมวายร้าย
“...!”
จังหวะนั้นรูม่านตาสีดำของเธอกลายเป็นสัตว์ร้ายในทันที และรูม่านตาแนวตั้งก็เผยให้เห็นถึงความตกใจ
นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่ร่างกายบางส่วนของหูเจียวเจียวเปลี่ยนเป็นสัตว์ร้าย เห็นได้ชัดว่าเธอไม่รู้ว่านัยน์ตาของตนเปลี่ยนไป เธอเพียงแค่จ้องมองมือตัวเองอย่างว่างเปล่า...
ฉัน… ฉันกินเต้าหู้*ของหลงโม่!
*กินเต้าหู้ หมายถึง ลวนลาม แต๊ะอั๋งหรือเต๊าะ
ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ! ฉันโดนบังคับ!
บัดนี้จิตใจของหญิงสาวขาวโพลนไปหมด สมองเธอบอกให้ดึงมือกลับ แต่ร่างกายเธอกลับไม่ขยับ ขณะที่เธอเปิดปากพูดตะกุกตะกักว่า
“เจ้า…เจ้ารู้สึกเจ็บตรงนี้หรือ?”
“อืม”
รูม่านตาสีทองล้ำลึกของหลงโม่ดูเหมือนจะมีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ข้างใน และสายตาที่ร้อนแรงก็จับจ้องไปที่ใบหน้าของหูเจียวเจียวนิ่ง
ตามด้วยเสียงแหบแห้งทุ้มต่ำดังเข้ามาในหูของจิ้งจอกสาวทีละคำ
“หัวใจข้าเต้นแรงมากเลย”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: เอาแล้วไง พ่อมังกรเริ่มใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ แล้วจ้าาาา