ตอนที่ 1070 รู้ไหมว่าเมื่อกี้ใครโทรมาหาฉัน..

คืนนี้หลังจากที่สิ้นสุดความวุ่นวายของวัน หลินฟาน ก็ได้กลับมาถึงบ้านแล้ว..

เขาเองได้ถือโทรศัพท์มือถือท่องไปในโลกอินเทอร์เน็ต ดูบทความยาวเหยียดหลายพันคําที่ล่าสุด คุณชื่อ ได้โพสต์ลงไป แล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงหัวเราะออกมา

บทความยาวเหยียดนี้ ..มีความซับซ้อน และมีโครงเรื่องที่กระชับ มันเต็มไปด้วยประเด็นสำคัญที่สามารถจุดระเบิด ผู้คนที่เข้ามาดูได้ในทันที ทั้งบทความนี้ก็ไม่ได้มาจากมือของสุภาพสตรีแซ่ชื่อ แต่ หลินฟาน เป็นคนที่ขอให้ ตู้เถา ไปหานักเขียนฝีมือดีมา, และก็ต้องบอกว่า ..นักเขียนที่ ตู้เถา หามาได้คนนี้ ทำหน้าที่สำเร็จได้อย่าง ..ยอดเยี่ยมมาก

จนถึงเวลานี้ หญิงสาวแซ่ชื่อ ก็ยังไม่รู้เลยว่า หลินฟาน เป็นคนอยู่เบื้องหลังที่ได้เข้าช่วยเธอจัดการกับ หัว อี้อู่, หลินฟาน ซ่อนตัวไว้ลึกเกินไปมาก, อย่าว่าแต่ หลินฟาน เลย หญิงสาวแซ่ชื่อ เองก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ..ถึงการมีอยู่ของ ตู้เถา

เพราะตู้เถา ก็ได้แอบแฝง ตามแผนของ หลินฟาน ตู้เถา เองมีหน้าที่แค่หาคนมาช่วย หญิงสาวแซ่ชื่อ และคนที่หามา ก็ล้วนแล้วแต่เคลื่อนไหวในนามส่วนตัว..

ตัวอย่างเช่น นักเขียนคนนี้ที่ได้ติดต่อกับ คุณชื่อ ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยอ้างว่าหลังจากดูเรื่องราวของ คุณชื่อ และหัว อี้อู่ เขาก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง และต้องการเข้าช่วยเหลือ คุณชื่อ และได้ร่วมมือกันจัดการกับ หัว อี้อู่

ทั้งนักเขียนคนนี้ก็ไม่ได้พูดถึงว่าตัวเองได้รับการว่าจ้างตั้งแต่ต้นจนจบ คุณชื่อ เองก็ได้เชื่อใจเขา คิดว่าเขาเป็นชาวเน็ตที่กระตือรือร้น และข้อเท็จจริงก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ชาวเน็ตที่กระตือรือร้นคนนี้ เขียนบทความออกมาได้ดีมากจริงๆ

ดังนั้น คุณชื่อ และนักเขียนคนนี้จึงได้ทําบทความอันยาวเหยียดหลายพันคํานี้ขึ้นมา โดย คุณชื่อ จะให้รายละเอียด และเขียนด้วยตนเอง จากนั้นก็ได้ให้นักเขียนคนนี้ปรับปรุงบทความให้ชัดเจนขึ้น

และพอเมื่อถูกโพสต์ลงไปในโลกออนไลน์ปั๊บ มันก็ได้สร้างความฮือฮาขึ้นทันที

ในบทความนี้ คุณชื่อ รู้สึกเสียใจมาก กับสิ่งที่ หัว อี้อู่ ได้ก่ออาชญากรรมขึ้น และเธอได้ประกาศไปว่าจะต่อสู้กับ หัว อี้อู่ ให้ถึงที่สุด ทั้งยังได้เรียกร้องให้ หัว อี้อู่ ออกมาขอโทษต่อสาธารณชน และประกาศถอนตัวออกจากวงการบันเทิง

และเนื่องจากบทความนี้เขียนได้ดีมาก ถึงแม้จะเป็นบทความที่ยาวเหยียด แต่คนที่ได้อ่านก็พากันเลือดพลุ่งพล่าน มันน่าตื่นเต้นมาก คนกินแตงโมในโลกออนไลน์ต่างก็ได้พากันอ่านอย่างตื่นเต้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทความนี้ ยังเปิดเผยความเป็นส่วนตัวบางอย่างของ หัว อี้อู่ ซึ่งตอบสนองต่อความอยากรู้อยากเห็นของผู้ที่กำลังนั่งกินแตงโม ..อย่างมาก

ปรากฎว่าทาง หัว อี้อู่ ไม่เพียงแต่ไม่ค่อยเก่งเท่านั้น แต่ขนาดของเขาก็ยังเล็กเป็นพิเศษมาก เล็กได้เท่ากับเข็ม สู้เปลี่ยนชื่อเป็น ‘หัวเข็ม’ จะดีกว่า

เห็นตรงจุดนี้แล้ว ชาวเน็ตที่กินแตงโมก็ถึงกับส่งอิโมจิหัวเราะกันอย่างปลิวว่อน, ชื่อ ‘หัวเข็ม’ มันก็ได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น ชาวเน็ต ก็ต่างเรียก ‘หัวเข็ม’ ว่า ‘หัวเข็ม’ และได้พูดกล่าวล้อเลียนกันอย่างบ้าคลั่ง, ชั่วขณะหนึ่ง อินเทอร์เน็ตทั้งนอก และในประเทศต่างเต็มไปด้วยความสุข

ครั้งนี้ แฟนๆ ของ หัว อี้อู่ ไม่สามารถควบคุมความคิดเห็นได้อีกแล้ว.. เพราะเมื่อเทียบกับชาวเน็ตจํานวนมากแล้ว จํานวนแฟนๆ ของเขาดูน้อยมากจนน่าสงสาร และจะเข้าไปควบคุมได้ที่ไหน..

พื้นที่แสดงความคิดเห็นไม่สามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ และหัว อี้อู่ ก็ได้กลายเป็น ‘หัวเข็ม’ ที่ทุกคนพากันหัวเราะเยาะไป ..ในชั่วข้ามคืน

ในค่ำคืนนี้ ..วงการบันเทิง ดูเหมือนจะไม่มีใครอื่นอีกแล้ว มันเหลือแต่เพียง หัว อี้อู่ เพราะไม่ว่าจะเป็นที่ไหนๆ ก็ต่างได้พากันพูดถึง หัว อี้อู่..

แม้แต่ หนิง เสี่ยวเยว่ ที่ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เพราะปัญหาทางการศึกษา เมื่อวันก่อน ชาวเน็ต ต่างก็ไม่มีเวลาไปดูแลเธอ

และยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากการตอบกลับของ หนิง เสี่ยวเยว่ ที่ดูมี อีคิว (EQ) สูงมาก ชาวเน็ตต่างก็ได้เปลี่ยนความคิดเห็นของสาธารณชนด้วยตัวเอง ทั้งยังกลับทําให้เธอได้รับเสียงปรบมือมากมาย จากในวิกฤตครั้งนี้ และถึงกลับได้เปลี่ยนมุมมองของชาวเน็ตบางคนที่มีต่อเธอ

สิ่งนี่ ..ก็ถือว่า ได้รับพรจากความโชคร้ายแล้ว

เว่ย เจี้ยนเซิง ต้องการสร้างปัญหาเกี่ยวกับการศึกษาของ หนิง เสี่ยวเยว่ และต้องการฆ่า หนิง เสี่ยวเยว่.. เขาไม่เพียงแต่ล้มเหลว แต่เขายังทำให้ หนิง เสี่ยวเยว่ ได้รับพรจากความโชคร้ายด้วย

หลังจาก เว่ย เจี้ยนเซิง รู้เรื่องนี้เข้า ก็กลัวว่าเขาจะโกรธแทบตายขึ้นมาอีกครั้ง

แต่ในเวลานี้ เว่ย เจี้ยนเซิง ไม่มีเวลามาสนใจ หนิง เสี่ยวเยว่ มาในตอนนี้เขาได้ถูกเรื่องของ หัว อี้อู่ ทำให้ปวดหัวขึ้นอีกครั้งแล้ว

สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดคือ เว่ย เจี้ยนเซิง ยังไม่รู้ว่าในเวลานี้ คนที่ขุดหลุมพรางอยู่เบื้องหลังก็คือ หลินฟาน

พวกเขาทั้งหมดได้ตกลงไปในหลุมพรางขนาดใหญ่ที่ หลินฟาน ได้ขุดไว้

เว่ย เจี้ยนเซิง ได้ออกจาก วั่นกู่ กรุ๊ป ทันที แล้วได้รีบไปที่ เชอร์รี่ เอนเตอร์เทนเมนท์ และขอให้คนไปเรียก หัว อี้อู่ และคุณแม่หัว มาที่บริษัท

บริษัท เชอรี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ในตอนนี้ ดูมีบรรยากาศ ..น่าหดหู่มาก

เว่ย เจี้ยนเซิง บอสใหญ่ของพวกเขา มีใบหน้าที่มืดมน และแสดงความโกรธที่ไม่เคยมีมาก่อนออกมา ซึ่งทําให้ทุกคนแทบที่จะหยุดกลั้นหายใจ บรรยากาศเองก็เต็มไปด้วยความตึงเครียด

“ประธานเว่ย เราได้ใช้บัญชีของ หัว อี้อู่ สตูดิโอ เพื่อออกแถลงการณ์ล่าสุดไปแล้ว แต่ผลที่ได้ไม่มากนัก ชาวเน็ต ต่างพากันไม่ซื้อเลย” ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ได้รายงานเรื่องนี้อย่างตัวสั่น

สําหรับข้อความยาวเหยียดหลายพันกว่าคําที่ หญิงแซ่ชื่อ ได้โพสต์ลงไป หัว อี้อู่ สตูดิโอ ตอบโต้กลับ โดยอ้างว่าสิ่งที่ ผู้หญิงแซ่ชื่อ ได้พูด เป็นแค่เรื่องที่กุขึ้นมา และฝ่าย หัว อี้อู่ ก็ได้แจ้งความกับทางตํารวจแล้ว!

แต่การเยาะเย้ยของชาวเน็ตที่มีต่อ หัว อี้อู่ ก็ยังไม่ยอมหยุด ทั่วอินเทอร์เน็ตตอนนี้เต็มไปด้วยความคิดเห็นเชิงลบที่มีต่อ หัว อี้อู่

ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้พยายามทำอย่างดีถึงที่สุดแล้ว และฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่ทรงพลังที่สุดของ เชอร์รี่ เอนเตอร์เทนเมนต์.. ในเวลานี้พวกเขาก็ต่างหมดหนทางแล้วจริงๆ ทำได้แต่มองตากันปริบๆ อย่างว่างเปล่า

เว่ย เจี้ยนเซิง ได้ตบโต๊ะด้วยความโกรธ : “มีเหตุผลอะไร ไอ้นังนี่มันต้องการอะไรกันแน่ เงินก็ได้โอนไปแล้ว เธอมันต้องการอะไรอีก!”

“คุณเว่ย, หัว อี้อู่ มาแล้วครับ” เลขาฯ ของเขา ได้เข้ามาในเวลานี้..

เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าวว่า : “ให้พวกเขาเข้ามา พวกคุณทุกคนออกกันไปก่อน”

ทุกคนได้พากันออกไป และก็ได้เห็น หัว อี้อู่ และคุณแม่หัว เดินเข้ามา

สีหน้าของคนทั้งคู่ ..ดูน่าเกลียดมาก โดยเฉพาะ หัว อี้อู่ ทั้งตัวเหมือนสูญเสียจิตวิญญาณไป ทั้งเขายังดูเหมือนคนเสียสติไปเล็กน้อย

เพราะตลอดชีวิตของเขามันก็เปรียบได้ดั่งปลาในน้ำ เขาสามารถเรียกลมเรียกฝนได้บนโลกอินเทอร์เน็ต แล้ว.. เมื่อไหร่กันที่เขาจะถูกเยาะเย้ยอย่างท่วมท้นเหมือนกับ.. ในคืนนี้ เขาเองตอนนี้ดูเหมือนได้พังทลายลงแล้ว และสูญเสียพลังที่มีอยู่ไปทั้งหมด

“ตอนนี้ในที่นี่มันเหลือเพียงพวกเราสามคนแล้ว หัว อี้อู่ คุณมองมาที่ฉัน แล้วบอกกับฉันมาตรงๆ ว่า คุณได้ไปทําอะไรกับผู้หญิงแซ่ชื่อ คนนี้กันแน่?” เว่ย เจี้ยนเซิง ได้จ้องมองไปที่ หัว อี้อู่ และพูดอย่างเย็นชาออกไป

คุณแม่หัว ได้อึ้งไปอยู่พักหนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า : “คุณเว่ย คุณถามแบบนี้หมายความว่ายังไง ลูกชายของฉันไม่ได้บอกคุณหรือ? เขาเองก็ได้บอกฉันว่าเขาไม่เคยทําเรื่องแบบนั้นมาก่อน เขาเองนั้นบริสุทธิ์!”

เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าวว่า : “ใช่ ถ้าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ทําไมนังผู้หญิงแซ่ชื่อ คนนั้น ถึงได้กัดเขาไม่ปล่อยแบบนี้?”

คุณแม่หัว กล่าวว่า : “นังนี่มันก็แค่เรียกร้องขอเงิน แล้วนี่คุณยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ ตัวฉันเองก็โอนเงินไปให้มันหมดแล้ว”

เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าวว่า : “แล้วคุณจะอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่เธอโพสต์ไปในคืนนี้ได้อย่างไร? ถ้าเธอแค่ขอเงิน และเธอก็ได้รับเงินไปแล้ว แต่ทําไมเธอยังลงมือทุบมันต่อไปอีก?”

คุณแม่หัว แผดเสียงออกไปว่า : “นั่นมันก็หมายความว่า อีนังหญิงโสเภณีคนนี้ มันกลับคําพูด เธอรับเงินไปแล้ว แต่กลับยังอยากที่จะฆ่าลูกชายของฉันอีก มาตอนนี้เธอมันก็บรรลุเป้าหมายแล้ว ลูกชายของฉันก็สูญเสียชื่อเสียงไปหมดแล้ว ทั้งเขายังถูกหัวเราะเยาะไปทั่วอินเทอร์เน็ตแล้ว คุณเว่ย คุณเป็นเจ้านายของลูกชายฉัน ในเวลานี้ คุณควรหาวิธีที่จะช่วยลูกชายของฉัน ไม่ใช่มาถามเขาที่นี่!”

เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าวว่า : “ถ้าอยากให้ผมช่วยเขา.. เขาเองก็ต้องสารภาพกับผมก่อน ไม่งั้นจะไม่มีใครช่วยเขาได้ทั้งนั้น! หัว อี้อู่ ฉันจะขอถามคุณอีกครั้งว่า.. คุณทําอะไรกับผู้หญิงคนนี้กันแน่?”

คุณแม่หัว ได้มองไปที่ หัว อี้อู่ แล้วพูดไปว่า : “ลูกรัก ลูกก็บอก คุณเว่ย ตามความจริงไปว่า ลูกไม่ได้ทำอะไรเลย และนั่นก็คือสิ่งที่ลูกบอกแม่ และแม่ก็เชื่อในตัวลูกมาก”

หัว อี้อู่ ได้มองไปที่แม่ของเขา จากนั้นก็ได้มองไปที่ เว่ย เจี้ยนเซิง ด้วยท่าทางแปลกๆ เขาดูลังเลที่จะพูด : “ผม…”

คุณแม่หัว พูดว่า : “ลูกรัก ลูกกำลังคิดอะไรอยู่ พูดออกไปเลยสิ?”

กริ๊งๆ กริ้ง กริ๊งๆ…

ในเวลานี้ โทรศัพท์ของ เว่ย เจี้ยนเซิง ได้ดังขึ้น เว่ย เจี้ยนเซิง ก็ได้เห็นสายโทรเข้ามา เมื่อนั้นเขาก็ได้รับสาย..

ระหว่างที่ฟังเสียงจากในสาย สีหน้าของ เว่ย เจี้ยนเซิง ก็ค่อยๆ มืดมน

“โอเค.. ลําบากคุณแล้ว ได้ๆ ผมรู้..” เว่ย เจี้ยนเซิง ได้กล่าว จากนั้นเขาก็วางสาย

เว่ย เจี้ยนเซิง ได้มองไปที่ หัว อี้อู่ อีกครั้ง : “รู้ไหมว่าเมื่อกี้ใครโทรมาหาฉัน.. พี่เวย หลิว จินเวย คุณรู้ไหมว่าวันนี้ ฉันได้ไปขอร้องอะไรเขา ฉันขอให้เขาตรวจสอบคุณ แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าเขาพบเจออะไร?”

ใบหน้าของ หัว อี้อู่ ได้ดุจเหมือนขี้เถ้าที่มอดดับไป และทันใดนั้นเขาก็ได้คุกเข่าลงไปพร้อมกับร้องไห้อย่างขมขื่น : “คุณเว่ย ครั้งนี้ได้โปรดช่วยผมด้วย..”

คุณแม่หัว ก็ได้ตกใจอยู่ข้างๆ และตระหนักได้ว่าเรื่องนี้มันไม่ดีแล้ว : “ลูกชายที่รัก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ นี่ลูกได้ทําอะไรลงไป?”