ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 18 ผู้ที่ได้เป็นคนรับใช้ของชิงอี้
หลังจากที่เซวียนห่าวออกจากเรือนคนรับใช้ พายุลูกใหญ่ก็พัดผ่านที่นั่น ขณะที่หัวหน้าเรือนคนรับใช้ก็รีบมารวมตัวกันเพื่อตัดสินใจว่าพวกเขาจะเลือกคนรับใช้ที่เซวียนห่าวขอไว้อย่างไรดี
ไม่กี่นาทีต่อมา หัวหน้าเรือนคนรับใช้ก็มารวมตัวกันที่ห้องโถง
“ข้าได้ตรวจดูคนรับใช้ที่มีอายุราวสิบห้าปี ผู้ที่ดีพอที่จะได้รับเลือกให้เป็นคนรับใช้ของศิษย์ผู้อาวุโสเซวียน”
ชายวัยกลางคนกล่าวในขณะที่เขามองไปที่คนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่รอบโต๊ะ
“ตอนนี้ เรามาตัดสินใจกันว่าเราจะเลือกหนึ่งในนั้นอย่างไร” ชายวัยกลางคนส่งกระดาษให้ทุกคนอ่านอย่างรวดเร็ว
“อืม ข้าคิดว่าเราควรปล่อยให้พวกสาว ๆ แข่งขันกันเองเพื่อดูว่าใครเก่งที่สุด ด้วยวิธีนี้จะไม่มีใครบ่นว่าเราไม่ยุติธรรมหรือเข้าข้างใครอีก”
“ข้าคิดว่าสิ่งที่หัวหน้าโฮ่วเสนอมานั้นสมเหตุสมผลมาก ข้าเห็นด้วย”
“ข้าก็เห็นด้วย”
“ข้าด้วย”
“ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มกันเลย ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี !”
เมื่อตกลงให้เหล่าหญิงสาวแข่งขันกันเพื่อหาผู้ที่ดีที่สุด หัวหน้าก็รีบออกไปและจัดการแข่งขันให้เหล่าหญิงสาว เพื่อค้นหาว่าใครจะได้เป็นคนรับใช้ของศิษย์ผู้อาวุโสเซวียน
ข่าวเกี่ยวกับการแข่งขันและเหตุผลของการแข่งขันแพร่กระจายไปทั่วเรือนคนรับใช้ในไม่ช้า
คนรับใช้สาวที่อายุประมาณสิบห้าปีต่างก็ตื่นเต้นเมื่อได้ยินข่าวเกี่ยวกับการแข่งขันที่จัด ในขณะที่เหล่าเด็กสาวคร่ำครวญว่าทำไมพวกนางถึงไม่เกิดเร็วกว่านี้อีกสองสามปี
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พายุก็ได้พัดผ่านที่เรือนคนรับใช้แล้ว ขณะที่สาว ๆ ทุกคนที่สามารถเข้าแข่งขันได้ก็เตรียมพร้อมเช่นกัน
นี่คือศิษย์คนแรกของผู้อาวุโสเซวียนผู้เป็นยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด แม้แต่การเป็นคนรับใช้ของศิษย์ของเขาก็ยังเป็นความพยายามอันทรงเกียรติราวกับอยู่ในสวรรค์
อีกเหตุผลหนึ่งก็เพราะเหล่าคนรับใช้สาวเคยได้ยินเรื่องเล่าของผู้อาวุโสบางคนซึ่งครั้งหนึ่งเคยแต่งงานกับคนรับใช้ของเขาหลังจากรับใช้มาหลายปีและจบลงด้วยการอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม คนรับใช้ทุกคนที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ก็เข้าร่วมการแข่งขันในทันที
จื่อหรัวก็เหมือนกับคนรับใช้ส่วนใหญ่ที่สมัครเข้าร่วมการแข่งขัน เพียงแต่นางมีเหตุผลที่แตกต่างเล็กน้อยในเมื่อเทียบกับคนรับใช้คนอื่น ๆ
เหตุผลนั้นก็เพราะจื่อหรัวเคยพบกับเซวียนห่าวมาก่อน เขาเคยช่วยชีวิตนางไว้เมื่อนางอายุประมาณสิบขวบเท่านั้น
เมื่อก่อนนางเป็นเด็กกำพร้า นางถูกผู้คนทำร้ายตอนที่นางออกไปขอทานข้างถนนเหมือนอย่างเคยและเป็นเซวียนห่าวที่มาช่วยนางในตอนนั้น หลังจากนั้นเขายังช่วยให้นางเข้าไปในเรือนคนใช้ของนิกายกระบี่ล่องนภาอีกด้วย
จื่อหรัวจึงฝึกหนักตั้งแต่นั้นมาด้วยความหวังว่าจะได้ช่วยเหลือผู้ช่วยชีวิตของนางในอนาคต ในที่สุดนางก็มีโอกาสที่จะทำเช่นนั้น
หลังจากที่นางสมัครเข้าร่วมการแข่งขันแล้ว จื่อหรัวจึงรีบกลับไปที่ห้องของนางและเริ่มฝึกซ้อม
การแข่งขันที่เรือนคนรับใช้จัดขึ้นนั้นมันไม่เหมือนกับการคัดเลือกที่จัดขึ้นโดยนิกายกระบี่ล่องนภา นิกายกระบี่ล่องนภาเป็นนิกายสำหรับผู้ฝึกตน ดังนั้นการคัดเลือกของพวกเขาจึงเกี่ยวข้องกับการต่อสู้และสิ่งอื่นที่คล้ายคลึงกัน
ในทางกลับกัน คนรับใช้นั้นมุ่งเน้นไปที่งานของคนรับใช้ซึ่งแน่นอนว่าการแข่งขันนี้ก็เช่นกัน
ตั้งแต่การทำความสะอาด, การทำอาหารและการชงชา ทุกสิ่งเหล่านี้จะต้องแข่งขันกัน
เวลาผ่านไปและเมื่อตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น จื่อหรัวก็เดินทางไปยังสถานที่จัดการแข่งขันทันที
ผู้คนนับร้อยที่อายุใกล้เคียงกับจื่อหรัวได้รวมตัวกันและกำลังรอให้หัวหน้าโฮ่วประกาศเริ่มการแข่งขันอย่างเป็นทางการ
“ข้าคิดว่าพวกเจ้าทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าการทดสอบแรกจะเป็นอย่างไร ดังนั้นข้าจะไม่อธิบายมาก พวกเจ้าทั้งหมดไปที่จุดแข่งขันและเริ่มทำอาหารได้ เวลาจำกัดคือหนึ่งชั่วโมง”
ใช้เวลาไม่นานนัก หัวหน้าห่าวก็ประกาศเริ่มการแข่งขันรอบแรกอย่างเป็นทางการ
จื่อหรัวมองไปรอบ ๆ และเห็นโต๊ะที่มีชื่อของนางอยู่ มันเป็นโต๊ะที่มีอุปกรณ์ทำอาหารอยู่มากมาย สิ่งแรกที่นางทำคือจุดไฟและนำกระทะออกมา
อาหารที่จื่อหรัวตัดสินใจจะทำนั้นค่อนข้างเรียบง่ายเพราะนางมีเวลาไม่มาก น่าเศร้าที่สิ่งหนึ่งที่นางบกพร่องก็คือการทำอาหาร สิ่งที่นางทำได้มากที่สุดก็คือการผัด
เมนูที่นางเลือกคือข้าวผัดไก่ มันค่อนข้างง่ายและรวดเร็ว แต่ก็ยังอร่อย
จื่อหรัวหยิบผักที่นางต้องการออกมาหั่นก่อนที่จะเริ่มทำอาหาร...
“หมดเวลาแล้ว เราจะตัดสินสิ่งที่พวกเจ้าทำ ห้าสิบอันดับอันดับแรกจะได้เข้าสู่รอบต่อไป”
เมื่อได้ยินเสียงของหัวหน้าโฮ่ว จื่อหรัวก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจในสิ่งที่นางทำและรอให้เหล่าผู้ตัดสินมาตัดสินอาหารของนาง
“ผ่านได้ เจ้าได้ไปต่อ”
ในไม่ช้านางก็ผ่านรอบแรกของการแข่งขันได้อย่างง่ายดาย
รอบต่อไปของการแข่งขันคือการทำความสะอาด หนึ่งในสิ่งที่จื่อหรัวถนัด ดังนั้นนางจึงผ่านด่านนี้ไปได้อย่างง่ายดายและเข้าสู่สิบอันดับแรก
“การทดสอบรอบสุดท้ายคือการชงชา มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะชนะ เพื่อให้แน่ใจว่ายุติธรรม พวกเจ้าทั้งหมดจะถูกตัดสินโดยหัวหน้าเรือนคนรับใช้และผู้ชนะจะถูกส่งไปเป็นคนรับใช้ของศิษย์คนแรกของผู้อาวุโสเซวียน !”
จื่อหรัวกลืนน้ำลายเล็กน้อยขณะที่นางมองไปที่ทางเข้าลานแข่งขันอย่างกระวนกระวายและเห็นหัวหน้าทั้งห้าจากเรือนคนรับใช้ที่เข้ามา
ผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ ก็ไม่ต่างกันขณะที่พวกเขามองไปที่หัวหน้าทั้งห้าอย่างประหม่า หัวหน้าเรือนคนรับใช้ทั้งห้าและหัวหน้าโฮ่วต่างก็มารวมกันที่นี่